ความทรงจำเก่า ๆ ก่อนจะลืมเลือนหายไปกับกาลเวลา
Group Blog
 
 
มิถุนายน 2552
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
11 มิถุนายน 2552
 
All Blogs
 

ชีวิตชายแดนปาดังเบซาร์ - หาหมามาฆ่า

หาหมามาฆ่า

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้ ขอให้เป็นวิจารณญาณของผู้อ่าน
แต่ขอบันทึกไว้ก่อนลืมเลือนเพื่อเป็นการศึกษาเชิงวัฒนธรรม
และชีวิตความเป็นอยู่ของท้องถิ่นและชุมชนแห่งหนึ่ง
เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและหลายปีแล้ว
และพึงให้อภัยให้กับความถูกผิดของผู้คนและวัฒนธรรม
ซึ่งมีความเชื่อและความประพฤติผิดแผกจากที่
บุคคลมีเบ้าหลอมและความรู้สึกนึกคิดหรือเชื่อมั่นยึดมั่น

เหล้าขาวเล่าว่า
การหาหมามาฆ่าเพื่อทำเป็นอาหาร

อันดับแรก คือ หาหมาในสวนยางพารา
เอาตัวที่ไม่ได้เรื่องได้ราว หรือไม่อยากเลี้ยงแล้ว
เช่น ชอบไล่กัดไก่เลี้ยง แอบกินไข่ไก่ หรือไล่เห่าไล่กัดมั่วไปหมด
หรือ เที่ยวไปไล่กัดหมาของชาวสวนยางข้างเคียง กัดเด็กเล็ก
สอนไม่จำ เลี้ยงไม่เชื่อง หรือกัดคนไม่เลือก

อันดับสอง หาหมาพเนจร ที่หลงทางมา
และไม่มีใครรู้จักว่าใครเป็นเจ้าของหมา

อันดับสาม คือ ขอจากชาวบ้าน หรือ วัดปาดังเบซาร์
บอกว่าจะพาไปเลี้ยง
แต่ไม่บอกให้หมดว่า พาไปเลี้ยงชาวบ้าน
(ไว้มีโอกาสจะเขียนถึง หลวงวัลลภ เจ้าอาวาสวัดปาดังเบซาร์)
ส่วนหมาที่ไม่กินเลยคือ
หมาอ่อนเกินไป หมาแก่เกินไป หมาขี้เรื้อน
หมาที่ตายเพราะถูกรถชน บางคนว่าเหม็นคาวมาก

อันดับสี่ ไล่ยิงกับปืนใส่หมา หรือร่วมกันไล่ล่าฆ่าหมา
กับอาวุธต่าง ๆ นานา ปืนผาหน้าไม้ หนังสติ๊กเป็นต้น
แต่นาน ๆ จะทำกันสักครั้งหนึ่ง
เพื่อความตื่นเต้นสนุกเร้าใจ หรือกำจัดหมาที่มีปัญหา
สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้กับชาวบ้าน จนทนไม่ไหว

หมาที่นิยมอันดับหนึ่งและหายากมากคือ
หมาที่มีขนสีดำทั้งตัว ขนาดวัยรุ่น หรือ หมาแม้วสีดำ
ถัดมาก็ขอให้เป็นหมาพันธ์ทาง
ส่วนหมาฝรั่ง หรือลูกผสมหมาฝรั่ง
เช่น อัลเซเชี่ยน โกลเด้นรีทิฟเวอร์ ร็อคไวเลอร์ โดเบอร์แมน
ไม่นิยมกินกัน เพราะใหญ่เกินไป
บางคนบอกว่าเนื้อหยาบไม่น่ากิน

ก่อนฆ่าหมาบางคนจะมีกรรมวิธีให้มันถ่ายท้องออกให้หมด
บางคนใช้วิธีบังคับให้หมากินยาถ่ายท้อง
บางคนให้หมาอดข้าว แต่ไม่อดน้ำประมาณสามวัน
หมาก็จะถ่ายอาหารออกหมดลำไส้

การฆ่าหมาจะมีสี่วิธีหลัก

หนึ่ง จับยัดใส่กระสอบแล้วพาไปกดน้ำให้มันจมน้ำตาย

สอง ทุบด้วยไม้ท่อนเข้าที่หัวหมาให้มันตาย

สาม หมาที่ตายจากการไล่ล่าให้มันตาย
แล้วนำมาทำเป็นอาหารกินกัน
เพื่อความมันสนุกตื่นเต้นส่วนหนึ่ง
บางคนบอกกินเพื่อแก้แค้นมันส่วนหนึ่งแล้วแต่การบอกเล่า

สี่ โหดสุด ๆ คือ กรอกน้ำร้อนต้มเดือดจัด ๆ
ใส่กาน้ำร้อนแล้วกรอกใส่ปากหมา
ช่วงแรกมันจะดิ้นรนขัดขืน
แต่พอสักพักมันก็จะเริ่มนิ่งเพราะชาไปหมดแล้ว
กลืนเข้าไปเรื่อย ๆ แล้วจะขี้แตกขี้แตนจนหมดท้อง
แล้วค่อย ๆ สำลักตายไปในที่สุด

หลังจากหมาตายแล้ว
ก็จะมีสองแบบก่อนมาทำอาหาร
แบบแรกคือ การย่างแล้วขูดขนหมาออกให้มากที่สุด
เหมือนที่เวียตนามตามใน Internet ที่ย่างทั้งตัวพร้อมหัวก่อนขาย

แบบที่สองลอกหนังออกแล้วตัดหัวหมาออกทิ้งไปเลย

โดยมากแล้วเครื่องในหมากับเลือดไม่นิยมกินมักจะทิ้ง
หรือฝังในสวนยางพาราเป็นปุ๋ยต่อไป
แต่บางรายจะผสมกับเศษอาหารที่เก็บตามบ้านเรือน
ต้มให้สุกคลุกเป็นอาหารหมูบ้านต่อไป
หรือสับให้ละเอียดโยนให้ไก่บ้านกิน
หรือ ปลาน้ำจืด(ดุก ช่อน สวาย) ที่กินเนื้อกินเป็นอาหารปลาต่อไป

การทำเนื้อหมาที่ปาดังเบซาร์
ส่วนมากจะผัดกับเครื่องยาจีน
ใส่ซีอิ้วดำพร้อมกับขิงจำนวนมาก
แล้วเสริฟให้รับประทานกับพวกสุรายาเมา
เป็นการกินช่วงปลายฝนต้นหนาว
มักจะไม่กินกันพร่ำเพรื่อ
เพราะเชื่อกันว่า กินมากจะร้อนใน
และมักจะมีกลิ่นเหงื่อเหม็นเหมือนกลิ่นสาปหมา

เหล้าขาวเล่าว่า ที่หาดใหญ่ก็มีร้านขายเนื้อหมา
ส่วนมากคนจีนมาเลย์จะมากินกัน
โดยไม่สนใจหน้าร้อนหน้าหนาว
ถือว่ามาหาดใหญ่แล้ว นาน ๆ ได้กินสักครั้งหนึ่ง
เป็นอาหารแปลกพิศดาร หรือกินแล้วตื่นเต้นเร้าใจ
เพราะในมาเลย์จะหาหมาได้ยากมาก
คนเลี้ยงน้อยมากส่วนหนึ่ง กับหมาต้องมีเจ้าของทุกตัว
ถ้าไม่มีเจ้าของจะถูกกำจัดไปโดยเร็ว
ร้านค้าในหาดใหญ่ (ตอนนี้ร้านที่เหล้าขาวพูดถึงปิดไปแล้ว)
เวลาสั่งจะใช้รหัสว่า เกาหยก หรือ เก้าหยก หรือ อาหารจานพิเศษ
ชื่อคล้าย ๆ กับอาหารจีนที่เรียกว่า เคาหยก
(หมูสามชั้นปรุงเครื่องยาจีนพร้อมผัก)




 

Create Date : 11 มิถุนายน 2552
2 comments
Last Update : 15 มิถุนายน 2563 18:50:21 น.
Counter : 846 Pageviews.

 

น่ากลัวนะ

เป็นเรื่องที่อ่านแล้ว
ไม่สบายใจ
ถึงแม้จะรู้ว่านี่คือความเป็นจริง




 

โดย: หมุยจุ๋ย 12 มิถุนายน 2552 6:14:48 น.  

 



 

โดย: tuk-tuk@korat 18 สิงหาคม 2552 15:35:20 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


ravio
Location :
สงขลา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




เกิดหาดใหญ่ วัยเด็กเรียนหนังสือโรงเรียน Catholic คณะ Salesian มีนักบุญประจำโรงเรียน Saint Bosco, Saint Savio ชอบอ่านหนังสือ godfather เกี่ยวกับ Mafio ของพวกซิซีเลียน เคยเล่นเกมส์ Mario แล้วได้คะแนนนำเลยนำสระโอมาต่อท้ายชื่อเป็น Ravio ได้กลิ่นอายแบบ Italino เคยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ เพื่อเรียนวิชาชีพทำมาหากิน แต่ไม่ใช่วิชาที่ชื่นชอบมากนัก เรียนอยู่กว่าเจ็ดปี ต้องกลับมาทำงานเป็นกรรมกรที่บ้านเกิด จนเริ่มเกิดความหลงรักชีวิตบ้านนอก และวิถีชิวิตชุมชนท้องถิ่นที่ตนอยู่และไปร่วมวงเสวนา

เกิดเดือนมีนาคม แต่ลัคนาราศรีตุลย์ ชอบไปทุกเรื่อง สุดท้ายทำอะไรที่ได้เรื่องไม่กี่เรื่อง แต่ส่วนมากมักไม่ได้เรื่อง

ชอบขับรถยนต์ท่องเที่ยวชมภูเขา ป่าไม้ น้ำตก แต่ไม่ชอบทะเลหรือชายหาด เพราะรู้สึกอ้างว้าง โดดเดี่ยว เมื่อคิดถึงชีวิตตนเองที่มาเปรียบเทียบกับสองสิ่งสองอย่างนี้ รู้สึกว่ามนุษย์เป็นเพียงชีวิตที่เล็กน้อยมากที่มาอยู่อาศัยในโลกใบนี้

ชอบอ่านหนังสือ ท่องเที่ยวใน Internet ชอบเดินทางท่องเที่ยวแถว ในละแวกท้องถิ่นบ้านเกิด นาน ๆ ครั้งจะขึ้นไปเยี่ยมเพื่อนที่กรุงเทพฯ หรือไปหาซื้อหนังสือแถวสยามสแควร์ ถิ่นเก่าที่อยู่และที่เรียน






Friends' blogs
[Add ravio's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.