อัพเดตชีวิตครึ่งปีแล้วในดูไบ.....เวลาผ่านไปไวจริงๆ เลยเน้อ
ฮัลโหล จากเมืองดูไบ ดินแดนแห่งทะเลทราย แต่ตอนนี้ ทรายถูกปกปิดด้วย คอนกรีต ซะเกือบหมดแล้ว.. ดูไบ ก่อสร้างอะไรต่อมิอะไร เยอะแยะไปหมด อย่างรวดเร็ว และมโหฬาร บานตะไท
นับจนถึงวันนี้ 6 เดือน กับ 13 วันเข้าไปแล้ว เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็วจริงๆ เผลอแว้บเดียว เราอยู่เมืองแขกมาเกิน ครึ่งปีแล้วเหรอนี่
1. เรื่องทั่วๆ ไป โดยรวมเราก็ใช้ชีวิตอยู่ที่ดูไบ อย่างสะดวกสะบาย เรื่องการเดินทางไปทำงาน ก็เดินวันละเกือบ 1 กม.(ใช้เวลา 10 นาที) ในช่วงเช้าเพื่อไปขึ้นรถไฟฟ้า เพราะถ้ารอรถเมล์ ป้ายรถเมล์ก็อยู่หน้าบ้านเลยล่ะ.... แต่รถมันติดชะมัด เลยเดินไปดีกว่า
ตอนแรกๆ ก็รับไม่ค่อยได้เหมือนกัน อยู่ไทยมีรถหรู ขับไปทำงานทุกๆ เช้า พอมาอยู่ดูไบ ขึ้นรถเมล์ ต่อด้วยรถไฟฟ้าไปทำงานทุกวัน
เวลาทำงาน 08.30 - 17.30 น. วันหยุด ศุกร์ - เสาร์ วันทำงาน อาทิตย์ - พฤหัสบดี
แต่ว่าไป การใช้ชีวิตดูไบ ค่อนข้างสบาย และคล่องตัว เพราะว่าเรื่องการคมนาคม และ ข้าวปลาอาหาร มีให้ซื้อหาโดยง่ายดาย และมีตัวเลือกเยอะมากๆ สินค้าบริโภค และ อุปโภค เกือบร้อย % จะนำเข้าทั้งนั้น... เดินซุปเปอร์ แล้วเจอ มังคุด เงาะ ทุเรียน พริก ขิง ข่า ตะไคร้ จากเมืองไทยแล้วภูมิใจชะมัด ของไทยเรามีคุณภาพทีพี่แขกเค้ายอมรับ เห็นแล้วมันชื่นใจเสียจริง
2. เรื่องการคมนาคม เรื่องรถขนส่งมวลชน ที่ดูไบเค้าเรียกว่า RTA = Roads and Transport Authorization ข้อมูลที่ www.rta.ae ควบคุมและดูแลโดย Government of Dubai
ส่วนรถไฟฟ้า Dubai Metro ช่วงนี้เค้าเฉลิมฉลองครบรอบการเปิดให้บริการรถไฟฟ้า (สายสีแดง) ครบ 3 ปี "Dubai Metro 3rd Anniversary 09.09.2012
*สายสีแดงเปิดให้บริการวันแรก 09.09.1999 เอาฤกษ์ เอาชัยเหมือนเมืองไทยเลยรึเปล่าไม่รู้เนอะ
นอกจากการเดินทางทางบก ที่ดูไบ ก็ยังมี บริการเรือโดยสารข้ามฟาก ด้วยนะ เหมือนคลองสาน - สี่พระยา ของบ้านเรานั่นล่ะ แต่เรือเค้าจะลำเล็กกว่าบ้านเรามาก
ขอโอกาสเหมาะๆ จะไปลองนั่งดูบ้าง ช่วงนี้ยังร้อนๆ แล้วจะมาเล่าแบบเต็มให้ฟังกันนะคะ
3. เรื่องอากาศ ที่ใครๆ หลายคนอยากรู้ว่า ดูไบ ที่ว่าร้อน เธอร้อนแค่ไหนเชียว เดือนเมษายน - กันยายนจะเป็นเดือนที่ร้อนที่สุด ดูสถิติ อุณหภูมิจาก Gulf News (www.gulfnews.com) ร้อนสุดแตะที่ 48 องศาเซลเซียส ในช่วงเที่ยงวัน จนถึงเย็นๆ ความร้อนระอุก็ยังเก็บไปถึงค่ำๆ กันเชียว ดังนั้นตอนกลางวันไม่ค่อยมีใคร จะเดินออกนอกบ้าน หรือนอกอาคารกันเลย ช่วงนั้นภายในสถานีรถไฟฟ้า และ ป้ายรถเมล์ติดแอร์ จะเย็นฉ่ำเป็นพิเศษเชียวล่ะ
เราเองเคยลองของ ไปนอกบ้านตอนบ่ายๆ แทบเอาชีวิตไม่รอด เกือบเป็นลมแดดตาย เพราะมันร้อนแบบวูบวาบ ชวนให้หน้ามืด ตลอดเวลา.. มันร้อนไม่เหมือนบ้านเรานะ มันร้อนแบบไม่มีเหงื่อ เพราะความชื้นในอากาศมันน้อยมั้ง
ยิ่งเดือนที่ชาวมุสลิมเค้าถือศีลอดกัน ปีนี้ 20 กค. - 20 สค. ด้วยแล้ว ถ้าออกไปนอกบ้าน เกิดกระหายน้ำขึ้นมา แทบจะลากสังขารกลับมาบ้านแทบไม่ทัน เพราะนอกจากจะร้อนตับแล่บ แล้วยังห้ามดื่มน้ำในที่สาธารณะชนอีก อันนี้เป็นบทเรียนกับเรามากๆ เพราะเคยผ่านเหตุการณ์นี้มาแล้ว มันทรมานมากๆ ทางที่ดีไม่ควรออกจากบ้านตอนกลางวันช่วงที่ถือศีลอด เพราะร้านอาหารจะไม่เปิดให้บริการทานที่ร้าน ต้องซื้อกลับบ้านเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ที่เค้าห้ามอาจเป็นเพราะที่ดูไบเป็นเมืองมุสลิม จึงต้องให้เกียรติเค้า เพราะเค้าต้องอดอาหารระหว่างวัน การดื่มน้ำ หรือ รับประทานอาหาร เหมือนเป็นการกระตุ้นให้เกิดความอยากทานอาหารขึ้นมาได้
... เกิดคำถามว่า "ดื่มน้ำนอกบ้านไม่ได้เชียวเหรอ"? ... คำตอบคือ ก็ได้อยู่บ้าง ต้องไปดื่มในห้องน้ำงัย อันนี้ไม่ได้ล้อเล่น แต่มันคือเรื่องจริง
.... คำถามต่อมา ถ้าเผลอดื่มน้ำในที่สาธารณะล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง? ..... คำตอบ พี่โปลิศ เมืองแขกก็จะปรี่เข้ามาหาทันที พร้อมทั้งปรับเงินในจำนวน 100 ดีแร่ม หรือประมาณ 850 บาท พร้อมทั้งโดนตักเตือนด้วย
ดังนั้นเข้าเมืองตาหลิ่ว ก็ต้องหลิ่วตาตามเค้าไป แล้วเราเป็นผู้มาอาศัย จะอยู่อย่างมีความสุขกับบ้านเมืองนี้ ที่เรียกว่า The City of Gold เมืองแห่งทอง ดูไบ
วันนี้ขอจบแค่นี้ค่ะ แล้วจะเข้ามาเล่าเรื่องอื่นๆ กันอีก นะคะ
แล้วเจอกันใหม่ที่บล๊อคตอนหน้า ค่ะ
เรื่องเล่า ของยัยพรลี่ ณ ดูไบ
Create Date : 13 กันยายน 2555 |
Last Update : 13 กันยายน 2555 14:52:16 น. |
|
53 comments
|
Counter : 27011 Pageviews. |
|
|