|
ความรักริมดาว 04
ความรักริมดาว 04 ผู้แต่ง ploy666 (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)
ทำไมต้อง คาร์เทียร์...
ปวริศมีคำถามอึงอลในสมอง เมื่อกะพริบตามองไปยังความมืดรอบตัวในห้องนอนที่เขาไม่คุ้นเคยนัก
มันคือห้องนอนของเพชรกะรัตที่มีเตียงขนาดมหึมาและเครื่องนอนสีสันโทนเรียบขรึมแบบยุคเก่าดูเข้ากับเครื่องเรือนไม้ที่ยังได้รับการบูรณะไว้ในสภาพดี
บรรดาเครื่องสำอางชั้นเลิศยังคงวางเกลื่อนที่โต๊ะเครื่องแป้งและในชั้นวางของภายในห้องน้ำ แต่ชายหนุ่มก็ยังรู้สึกว่าการไปแตะต้องเคลื่อนย้ายในเวลานี้นั้นเป็นการล่วงเกินมุมส่วนตัวของเจ้าของเดิม
...บรรยากาศที่เคยไหลเวียนรอบตัวเพชรกะรัตยังเป็นอะไรบางอย่างที่ปวริศไม่อาจก้าวผ่านเข้าไปทำลายได้โดยง่าย
เขาไม่ได้คิดว่าจะนอนค้างที่นี่จนกระทั่งเรื่องราวหลายอย่างประดังเข้ามาจนชายหนุ่มสับสนและต้องการเวลาใคร่ครวญ
ปวริศไม่ได้เอากุญแจห้องพักแขกมาด้วย โชคดีที่พวงกุญแจรั้วและประตูเข้าบ้านมีกุญแจห้องนอนใหญ่นี้รวมอยู่ด้วย แต่ตอนนี้เขาแน่ใจว่าเขานอนหลับสนิท และหลับลึกมากพอที่จะฝัน
ใช่...เขาต้องกำลังฝันอยู่แน่นอนเมื่อรับรู้ถึงตัวที่เบาหวิวลอยละล่องอย่างแปลกๆ ยามเมื่อก้มลงมองก็มองเห็นร่างของตนที่นอนเหยียดยาวใต้ผ้าห่มซ้อนอยู่อย่างพร่ามัวกับร่างที่นั่งทำตาปริบๆมองฝ่าความมืดออกไปยังทิศที่จำได้ว่าเป็นระเบียงกว้างขวางสะดวกสบายมีโต๊ะนั่งเล่นชุดสวยตั้งเอาไว้ทอดสายตาชมสวนเบื้องล่าง
ขาสั่งการให้เขาลุกเดินไปทางนั้น
แต่การเคลื่อนตัวที่เหมือนเหยียบไปบนปุยเมฆนุ่มควะคว้างอย่างบอกไม่ถูกก็ทำให้สติของเขาเลื่อนลอยแบบแปลกๆ
ปวริศเน้นย้ำกับตนเองว่านี่คือความฝัน
อย่างน้อยเขาก็สามารถรับมือกับมันได้ดีกว่าการคิดเพ้อเจ้อไปว่าวิญญาณของเขากำลังถูกชักจูงออกจากร่างในยามวิกาลอันเงียบสงัด
มือที่ผลักประตูระเบียงเปิดออกนั้นเหมือนไม่รู้สึกถึงกลอนที่เคยลงไว้ก่อนเข้านอน ราวกับว่ามันไม่เคยปิดล็อกใดๆมาก่อนหน้านี้ ร่างสูงเพรียวก้าวเท้าออกไปยืนใต้แสงจันทร์ที่สาดส่องอย่างเต็มตา ก่อนจะสูดเอาไอเย็นของน้ำค้างกลางดึกเข้าไปเต็มปอดและเรียกสติสัมปชัญญะกลับคืนมา
หากก็ไม่ไวไปกว่าที่หางตาจะมองเห็นความเคลื่อนไหวบางอย่างอีกมุมระเบียงห่างออกไปเล็กน้อย
เงาร่างของสตรีโปร่งระหงคุ้นตาในพัตราภรณ์สีดำอยู่ในเงามืดของกิ่งไม้ใหญ่ที่ทอดบดบังดวงหน้า กระนั้นเรือนร่างที่โค้งคอดซึ่งยืนในอิริยาบถผ่อนคลายแต่ดูสง่างามก็ให้ความรู้สึกที่ปวริศหนาวยะเยือกขึ้นมาในอกกะทันหัน
คุณเพชร... เขาครางอย่างแผ่วเบา
ดวงตาเบิกตระหนกอย่างสุดระงับ
หากเขาไม่ได้คิดหรือคอยบอกตัวเองว่ากำลังหลับฝันอยู่ ชายหนุ่มคงขนลุกเกรียวด้วยความแตกตื่นหวาดกลัว
แต่สิ่งที่เขาทำกลับมีเพียงอาการกลืนน้ำลายอย่างฝืดคอ ขาแข็งค้างจะก้าวหนีก็ไปไม่ได้ราวกับถูกสะกดตรึงให้นิ่งมองร่างบางที่เคลื่อนออกมาจากเงื้อมเงาแห่งรัตติกาลทีละนิด
ริมฝีปากบางสวยในลิปสติกเนื้อมุกไร้อาการแย้มยิ้ม แต่แค่เพียงเหยียดมุมปากออกน้อยๆดูไว้ตัว ผมที่เกล้าสวยยังคงเดิมแม้จะมีปอยผมบางส่วนร่วงระลงมาบ้าง หากใบหน้าที่แต่งไว้อย่างงดงามชวนตะลึงลานยังคงโดดเด่น โดยเฉพาะนัยน์ตาที่แต้มคมเข้มราวเย็นชาที่มองจับจ้องมาเหมือนไม่ยอมให้คลาดคลา ทำให้คนถูกมองรู้สึกสะบัดร้อนสะบัดหนาวได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจทุกครั้งไป ความแตกต่างระหว่างกันกลับถูกตอกย้ำด้วยแสงเรืองๆที่อาบร่างอันงดงามเอาไว้ราวกับมิใช่กายเนื้อของมนุษย์
และในยามนี้ภาพที่ผุดแวบขึ้นมาในความทรงจำของปวริศคือภาพศพสยดสยองที่เขาไปยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตำรวจหลังญาติหลายรายปฏิเสธหน้าที่อันชวนพรั่นนี้โดยสิ้นเชิง
เขาจำได้ถึงใบหน้าที่บิดเบี้ยวเพราะโครงกะโหลกอันแตกร้าวจากการไถลปะทะกระแทกต้นไม้ริมทาง และเสื้อผ้าที่ยับเยินเต็มไปด้วยเลือดชุ่มโชกจนชุดสีดำอาบกลืนไปกับคราบเลือดแดงฉาน
แต่บัดนี้ความทรงจำของเขากลับย้อนทวนไปยังเรื่องราวก่อนหน้านั้นไม่กี่ชั่วโมง ขณะที่ตนเองและครอบครัวกำลังนั่งมองภาพในโทรทัศน์ที่กำลังถ่ายทอดสดงานเลี้ยงเพื่อการกุศลครั้งยิ่งใหญ่แห่งปี
ชุดนี้...ใบหน้านี้เอง ที่เดือนอย่างเชื่อมั่นโดยมีกล้องเลื่อนจับตามไปสู่เวทีในฐานะพิธีกรกิตติมศักดิ์แสนสวยสะดุดตา
ก่อนที่ความงามนั้นจะดับวับหายลงเพราะความตายที่พรากเอาหล่อนจากไปโดยไม่ทันตั้งตัว
ผมฝันไปใช่ไหมครับ... ชายหนุ่มหลุดเสียงแทบเป็นกระซิบออกมาได้ในที่สุด
ร่างโปร่งบางของใครอีกคนก้าวมาหยุดในระยะมือเอื้อมถึง แต่ปวริศก็ไม่กล้าพอจะพิสูจน์ว่านั่นคือร่างที่มีเลือดเนื้อหรือเป็นเพียงสภาวะที่ปรากฏให้เห็นแค่ชั่วครั้งชั่วคราว
ความกลัวของเขายังฝังตรึงอยู่กับร่างที่โชกเลือดในห้องเก็บศพอยู่ดีนั่นแหละ...
ชายหนุ่มได้กลิ่นน้ำหอมกรุ่นจางเย้ายวนเข้ามาแทนที่กลิ่นน้ำยารักษาสภาพศพที่หลงเหลือในความคิดคำนึง
ไม่มีคำพูดใดหลุดมาจากคนตรงหน้า แค่เพียงหล่อนยังคงยืนอยู่ที่นั่นก็ดูเหมือนจะมากเกินพอสำหรับเขาแล้ว
ปวริศอยากจะถอยหลังเพิ่มระยะห่างแต่ขาของเขากลับทำอะไรไม่ถูกอีกต่อไปเมื่อสำนึกเตือนให้เขาจำได้แจ่มชัดขึ้นเรื่อยๆว่าคนที่ยืนตรงหน้านั้นไร้ลมหายใจไปแล้วโดยสิ้นเชิง
ความฝันกับความเป็นจริงทำไมมันถึงได้เหมือนคาบเกี่ยวกันชัดเจนขนาดนี้นะ...
ชายหนุ่มอยากจะร้องตะโกนออกมาด้วยความอัดอั้นแต่ก็ทำอะไรไม่ได้มากไปกว่ายิ้มกร่อยๆออกมา
ผมต้องฝันไปแน่ๆ ก็คุณเพชรตายไปแล้วนี่ครับ
คำว่า ตาย ที่หลุดออกจากปากเขาดูเหมือนไปจี้ใจดำทำให้ดวงตาอีกฝ่ายวะวับวาวขึ้นมาแวบหนึ่งและถูกเกลื่อนกลืนไปอย่างรวดเร็วพอกัน
เพชรกะรัตเคลื่อนกายใกล้เข้ามาอีกจนมองเห็นแพขนตาปลอมที่กระพือไหวยามมองลงไปจากมุมมองของเขา ปวริศขยับถอยโดยอัตโนมัติราวกับว่าไม่ทันตั้งตัวนั้น
ฉันยังอยู่...
ประโยคนั้นฟังแผ่วละม้ายแทรกมาในสายลมมากกว่าจะเปล่งออกจากปากสวยโดยตรง เปลือกตาที่หลุบลงเล็กน้อยสะกิดให้ส่วนเสี้ยวความทรงจำยามมีชีวิตอยู่ที่ตกค้างกลับคืนมาในความทรงจำปวริศอย่างเลี่ยงไม่พ้น
แต่ให้ตายเถอะ...
ปวริศแน่ใจว่านี่มันแค่ความฝันเองนะ อีกเดี๋ยวเขาก็จะตื่นขึ้นแล้วหล่อนก็จะจากไปตลอดกาลอยู่ดีแหละน่า!
ถึงอย่างนั้นมือของเขาที่กำข้างตัวก็เย็นเฉียบ
คุณเพชรทำแบบนี้กับผมทำไมกัน พินัยกรรมนั่นมันทำให้ผมลำบากใจ แล้ววันนี้ก็มีคนของคุณเพชรมาที่นี่ตั้งหลายคน พวกเขาบอกว่าคุณเพชรสัญญาอะไรบางอย่างเอาไว้ ทำไมคุณเพชรไม่ไปที่ชอบๆอย่างที่วิญญาณอื่นเขาทำกัน
ถ้อยคำพรั่งพรูออกมาราวกับทำนบน้ำที่พังทลายลง
ปวริศเพิ่งรู้ตัวว่าตลอดมาความอดทนของเขาก็มีขีดจำกัด แม้เส้นบางๆที่จำกัดกั้นนั้นเป็นใจเขาที่ตั้งขึ้นเองโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้รู้เห็นด้วยก็ตามที
ไม่มีคำตอบจากเพชรกะรัต สายตาที่มองมาเหมือนจะตำหนิในทีกับวาจาอันอุกอาจ
หล่อนเพียงยกมือมาเบื้องหน้าเขาพลางบ่นเบาๆเหมือนเจตนาจะเบี่ยงเบนประเด็นไปอีกทาง เสียงผะแผ่วแว่วมาราวกับกระซิบว่า
ช่วงนี้เจ็บมือบ่อยจัง ดูนี่สิ...
เขาคงจะรู้สึกดีกว่านี้หากสิ่งที่หล่อนให้ดูคือมือสีน้ำผึ้งเรียบเนียนที่คุ้นชินมาแต่ไหนแต่ไร
เปล่าเลย...
ภาพตรงหน้าคือผิวหนังชั้นนอกที่ค่อยๆเปื่อยยุ่ยหลุดล่อนออกไปเป็นก้อนจนเห็นเนื้อแดงและเลือดที่ไหลเละคละก้อนเนื้อที่เริ่มหลุดลงมาเป็นชิ้นๆ กลิ่นเนื้อเน่าค่อยๆลอยเข้ามาแทนที่น้ำหอมทำให้เขาเกิดอาการผะอืดผะอมท้องไส้ปั่นป่วน
หากแต่บางสิ่งที่ยังแวววาวติดตา
แหวนวงน้อยทำจากทองคำขาวที่นิ้วนางค่อยๆยุบยวบลงในในกองเนื้อสีแดงคล้ำเละๆซึ่งเหลือแขวนติดกับกระดูกขาวโพลนนั่น
มันเป็นการย้ำความทรงจำที่น่าสะอิดสะเอียนและปวริศรู้ดีแก่ใจว่าเขาจะจำติดตาไปอีกนานแสนนานเมื่อร่างบางตรงหน้าเริ่มโอนเอนส่ายไหวและหายวับไปทันใด!
เขาควรจะตื่นแล้ว...
ชายหนุ่มบอกตนเองเมื่อเหลียวมองนาฬิกาเห็นเข็มหยุดที่เวลาเก้าโมงเช้า สายพอที่แดดอุ่นๆจะทอผ่านทะลุกระจกประตูระเบียงสู่ม่านบางๆสีขาวทาบลงยังพื้นห้องนอน
แต่สาบานได้ว่าร่างที่เห็นหลังเดินไวๆผ่านเตียงไปยังห้องน้ำเมื่อครู่นี้เป็นเงาคน
คนที่เขาจดจำได้ดี!
ปวริศขยี้ตาอีกหนก่อนจะสลัดผ้าห่มพ้นตัว ลุกถลันเข้าไปในห้องน้ำอย่างตกใจ
มีเพียงความว่างเปล่าที่ก้าวเข้ามาทักทายจนเขาระบายลมหายใจอย่างโล่งอก...
...ไม่มีเพชรกะรัต...
เขาส่ายหน้าอย่างอ่อนใจกับตัวเอง
หล่อนตายแล้วแน่นอน เขาแค่หลับไม่สนิทนักเมื่อนอนแปลกที่จึงฝันฟุ้งซ่านไปเรื่อยเปื่อย
ปวริศเดินกลับไปเปิดตู้เสื้อผ้าและถือวิสาสะหยิบเอาผ้าขนหนูผืนหนึ่งจากลิ้นชักด้านล่างที่ค้นเจอออกมา เครื่องแต่งกายของอดีตเจ้าของห้องยังเต็มแน่นแทบไร้ช่องว่าง แบรนด์ดังเนื้อผ้าดีตัดเย็บประณีตสวยงามฟ้องรูปแบบการใช้ชีวิตที่ราวกับภาพฝันซึ่งปวริศไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งมันจะเป็นของเขา
เพชรกะรัตเหมือนเจ้าหญิงในหอคอยสูงส่งสุดเอื้อมคว้า
ชีวิตของหล่อนยิ่งกว่าดวงดาวที่เปล่งประกายเจิดจ้า เพียงแต่รัศมีดาวดวงน้อยนั้นกลับโหมไปด้วยการเผาไหม้ที่ร้อนแรงและวูบดับลับโรยไปรวดเร็วจนไม่เหลือทิ้งสิ่งใดค้างบนท้องฟ้า
เป็นการตายที่ไม่ควรอิจฉาเมื่อนึกว่าเจ้าตัวรั้นเพียงใดที่จะขับรถไปทะเลไกลๆทั้งที่อยู่ในขณะมึนเมาเต็มพิกัด...
เขาปล่อยเรื่องราวเหล่านั้นผ่านเลยไปพร้อมสายน้ำเย็นสดชื่นที่ไหลผ่านร่างกาย
ใช้เวลาไม่นานนักปวริศก็พร้อมจะเริ่มต้นวันใหม่
รุ้ง...บอกแม่ย้ายของมาที่บ้านนี้ได้เลยนะ พี่รออยู่นี่แล้ว ปวริศสั่งการไปทางโทรศัพท์
รุ้งพรายรับคำตามที่นัดหมายกันไว้ล่วงหน้า
เท่านั้นชายหนุ่มก็ดูเหมือนว่าจะไม่มีสิ่งใดดีไปกว่าเดินสำรวจบ้านอีกสักรอบ
เขาไม่คุ้นกับการกินอาหารเช้าก็จริง แต่อย่างน้อยก็น่าจะมีน้ำดื่มแก้กระหายสักแก้วอยู่ในตู้เย็นที่ไหนสักแห่ง
ปวริศจำได้ว่าก่อนปิดตายบ้านนี้ไว้เมื่อหลายวันก่อน เขาเป็นคนออกคำสั่งให้เด็กรับใช้นำของในตู้เย็นไปแจกจ่ายจนหมดและพวกนั้นก็นำไปหมดจริงๆจนทุกอย่างเกลี้ยงโล่ง ก่อนแยกย้ายกันไปเริ่มต้นชีวิตใหม่คนละทิศละทาง
ใครจะคิดว่าเขากลับเป็นคนเดียวที่มาที่นี่อีกหนในฐานะเจ้าของบ้านรายใหม่
ชายหนุ่มไม่ได้หวังพึ่งตู้เย็นในครัวอีกต่อไป เขามีเป้าหมายใหม่ที่ห้องทำงานของเพชรกะรัตที่ตนเองเคยเหยียบย่างเข้าไปแทบนับครั้งได้
เพชรกะรัตไม่ชอบทำงาน หล่อนสนใจแค่เม็ดเงินที่ไหลเข้ามาในบัญชีว่าพอต่อการช็อปปิ้งหรือไม่...
คิดไปคิดมาเขาก็ไม่แน่ใจว่าเพชรกะรัตที่เขารู้จักนั้นมีชีวิตแบบไหนกันแน่ บางหนเขาก็รู้สึกว่าหล่อนไม่แตกต่างจากลูกคนรวยทั่วไปที่ได้แค่ใช้ชีวิตไปวันๆ แต่บางครั้งคราวเขาก็เห็นท่าทีสนใจบางอย่างในถ้อยคำของเขา แน่ล่ะว่าแบบหลังนั้นจะคงอยู่ไม่นาน...สุดท้ายเพชรกะรัตก็มักเข้าสู่วงจรชีวิตเดิมๆซ้ำซากอยู่ดี
แต่อีกฝ่ายก็ไม่ได้ใช้ชีวิตที่เมืองไทยมากพอที่เขาจะใส่ใจ
ไม่มีผี...ไม่มีเพชรกะรัต
คำที่ท่องทวนซ้ำไปมาทำให้เขากล้าพอสำหรับการไขเปิดล็อกไปยังห้องทำงานส่วนตัว โต๊ะไม้ขัดขึ้นเงาแกะลายเนียนละเอียดบอกฝีมือช่างได้ดีแม้จะไม่ใช่คนที่ใส่ใจกับสิ่งเหล่านี้มากนัก อย่างน้อยปวริศก็พอรู้ว่าทำไมเพชรกะรัตอยากให้คงสภาพบ้านหลังนี้เอาไว้
หนึ่งปีอาจมากพอที่จะให้คนมาอยู่ใหม่เคยชินและรู้คุณค่าจนไม่คิดจะเปลี่ยนแปลง
...น่าเสียดายที่คงไม่ใช่เขา
ปวริศเดินไปเปิดหน้าต่างออกกว้างให้ทั้งห้องสว่างขึ้นทันตา บรรยากาศสงบเงียบทำให้ดูน่าสบายจนเขาอดยิ้มออกมาไม่ได้
หากไม่เพราะเสียงเครื่องแฟกซ์ที่โต๊ะมุมห้องจะส่งสัญญาณดังขึ้นหนหนึ่งและเริ่มทำงาน
กระดาษที่เลื่อนไหลออกมานั้นเป็นไปตามจังหวะเวลาที่ตั้งไว้ ปวริศหันกลับไปทั้งตัวพลางทำหน้างงๆ เขาไม่คิดว่าจะมีใครติดต่อมาที่นี่ แต่สัญญาณแฟกซ์ก็ตั้งไว้แบบอัตโนมัติมาแต่ไหนแต่ไรจนชายหนุ่มไม่แปลกใจมากนักที่มันทำงานเอง
กระทั่งกระดาษแผ่นสุดท้ายไหลลื่นลงสู่กองนั้น
เขาก้าวยาวๆตรงไปหยิบดูก่อนจะชะงักค้าง ดวงตาเบิกกว้างตัวชาตั้งแต่ศีรษะจดปลายเท้า
กระดาษทุกแผ่นมีข้อความตัวโตๆมหึมา หมึกที่ย้อยเลอะลงมาเหมือนถูกเขียนจากสีที่ยังไม่แห้งสนิทดีมองผาดๆไม่ผิดจากอักษรเลือดให้ความรู้สึกถึงพลังบางอย่างที่แฝงเร้น
ลายมือหวัดๆที่คุ้นเคยดีระบุถ้อยคำสั้นไว้เพียงว่า
ฉันยังอยู่!
ประสาทสั่งงานในสมองของปวริศเสมือนยุติการทำงานลงไปชั่วขณะหนึ่งเมื่อจำได้ทันทีว่าที่เขากำลังเพ่งมองเหมือนจะให้ทะลุลงไปอีกฟากกระดาษนั้นจะเป็นลายมือของใครอื่นไปไม่ได้
นอกเสียจากเพชรกะรัต!
Create Date : 31 สิงหาคม 2551 |
|
4 comments |
Last Update : 31 สิงหาคม 2551 18:49:48 น. |
Counter : 611 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: รักดี (ploy666 ) 7 กันยายน 2551 11:47:56 น. |
|
|
|
| |
โดย: Tukta21 15 กันยายน 2551 2:17:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: Tukta21 15 กันยายน 2551 2:20:06 น. |
|
|
|
| |
โดย: ploy666 IP: 124.157.236.104 26 กันยายน 2551 4:28:27 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก https://ploy666.bloggang.com
ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา) นามปากกา : สิตาปางค์ ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5 ออกแบบปก : Little thing
ราคา : 850.- บาท สินค้าหมด
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28
สั่งซื้อที่ : .........
หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ
** ***********************************
ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ นามปากกา : ลายน้ำ ราคา : 259.- บาท สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)
สินค้าหมดค่ะ
****************
นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง
รอยทรายบนลายรัก ...และ... กระต่ายในใจจันทร์
***********
เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า ทนไม่ไหวแล้ว... จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ
โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด
เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
Ploy666.
************
หมายเหตุสักนิดค่ะ...
ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย
ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ
**************
เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
|
|
|
|
|
|
|
ใส่ขนตาปลอมด้วย หวายๆๆ กริ๊ววววว
(55+ เพี้ยนไปละผม ว่าแล้วก็ไปลงหลุมมั่งดีกว่า เผื่อจะหายบ้าได้มั่ง)
++++++++++++