Group Blog
 
 
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
21 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 

ดวงใจในเงาจันทร์ 03

ดวงใจในเงาจันทร์
3. ปาฏิหาริย์


ราเชนทร์พลิกตัวไปมาหลายรอบ รู้สึกปวดหน่วงไปทั่วจนนอนไม่หลับ ได้แต่คิดในใจว่า เมื่อไหร่พยาบาลจะเอายามาให้เสียที

พอลุกตื่น มองนาฬิกาแขวนที่มีพรายน้ำเรืองแสงเขียวๆสะท้อนจางๆ เวลานี้ตีสองกว่าแล้ว บรรยากาศภายในห้องทั้งมืดและเงียบ มีเพียงลำแสงสว่างจากโถงทางเดินลอดผ่านช่องกระจกสี่เหลี่ยมที่ติดประตูเข้ามาจนเห็นเป็นลำยาว ผสานไปกับแสงไฟจากห้องน้ำที่เปิดทิ้งไว้

และก่อนที่ราเชนทร์จะทันตั้งตัว ก็เกิดเงาดำวูบผ่านที่ประตูห้อง ความเยียบเย็นแทรกลึกเข้ามาขับไล่ความงัวเงียเมื่อครู่ให้หมดสิ้น เสียงครางเบาๆแว่วตามมา ละม้ายร้องเรียกให้ใครไปช่วยเหลือ

ความอยากรู้อยากเห็นทำให้เขาต้องลงจากเตียง เดินไปถึงประตู ขณะที่มือกำลังสัมผัสกับลูกบิดก็กลับชะงัก

...ถ้าออกไปดูจะถูกหาว่ายุ่งรึเปล่า

ราเชนทร์โคลงศีรษะให้กับความคิดแผลงๆของตัวเองแล้วกลับไปนั่งบนเตียงใหม่ แต่ยิ่งเขาหยุดนิ่งนานเท่าใด เสียงครวญครางนั้นก็ยิ่งดังขึ้นเรื่อยๆ... เรื่อยๆ... เหมือนจะเร่งเร้าให้เขาไปค้นหา จนในที่สุดเขาก็ไม่อาจต้านทานความอยากรู้อยากเห็นของตัวเองได้

เอาวะ... ลองออกไปดูหน่อยคงไม่เป็นไรมั้ง

ราเชนทร์ย่องออกจากห้องพัก ซึ่งห้องของเขาอยู่ด้านในสุดของทางเดินที่ทอดยาว ตรงกึ่งกลางทางเดินนี้มีทางแยก เสียงแว่วนั้นก็ลอยออกมาจากทางแยกนั้นเอง

ตามเสียงไป แต่ยิ่งเข้าใกล้เท่าไหร่ เสียงนั้นก็ยิ่งถอยห่าง ประตูทางหนีไฟที่อยู่ด้านในสุดของทางแยกดันปิดเบาๆ ราเชนทร์ขมวดคิ้วมุ่น นึกสงสัยเล็กๆว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่

ผ่านประตูนั้นมาและก้าวลงบันไดอย่างเชื่องช้า ครางเสียงโอดๆยังแว่วอยู่ไม่หาย เขาผ่านลงมากี่ชั้นแล้วก็ไม่รู้ และตอนนี้ เมื่อมองย้อนกลับไปด้านบน บันไดนั้นก็ยาวไกลจนยากจะบอกถึงจุดสิ้นสุด

ลงมาถึงชั้นล่าง อากาศเย็นจนต้องกอดอก เสียงฝีเท้าของเขาสะท้อนไปมาดังต๊อกๆ... เงาหนึ่งวูบผ่านไปตรงปลายทาง

“คุณครับ... คุณ...”

ราเชนทร์ตะโกนเรียก ทว่าไม่มีการตอบรับใดๆ เขารีบวิ่งไปหาใครคนนั้น ผ่านความมืดมิดและแสงสว่างที่สาดสลับกันตามช่วงของแสงไฟ

“คุณ รอผมก่อน... คุณ”

ราเชนทร์เรียกอีกครั้งเมื่อเห็นตัว มองจากทางด้านหลัง ผมยาวและร่างอ้อนแอ้นทำให้รู้ว่าคนๆนี้เป็นผู้หญิง ชุดผู้ป่วยที่เธอสวมดูใหญ่โคร่งกว่าตัวของเธอ ชายแขนและกางเกงจึงรุ่มร่ามหญิงสาวก้าวไปหยุดอยู่หน้าห้องๆหนึ่ง หันหน้าประจันกับประตูบานใหญ่ อากาศเย็นลงอีก และกลิ่นน้ำยาเหม็นๆก็ลอยแตะจมูก

“คุณ... คุณครับ... มาทำอะไรที่นี่คนเดียว”

หญิงสาวคนนั้นไม่ตอบ เธอเพียงแต่หันหน้ากลับมามอง เป็นใบหน้าที่เขาจำได้ดี

ผู้หญิงคนนี้ที่ประสบอุบัติเหตุรถสิบล้อพุ่งชน...

“คุณนั่นเอง!”

หญิงสาวผลักบานประตูออก ความมืด ความเย็น และกลิ่นของน้ำยาพากันพุ่งออกมาพร้อมๆกันราวกับว่ามันอัดอั้นมานานเต็มที ราเชนทร์ก้าวเข้าหาหญิงสาวด้วยความฉงน เท่าที่เห็น ห้องนี้ไม่น่าจะใช่ห้องพักฟื้นผู้ป่วย

และเมื่อแหงนมองดูป้ายที่ติดอยู่เหนื่อยวงกบประตู เขาก็ต้องขนลุกซู่

ห้องดับจิต!

“คุณ จะทำอะไรน่ะ”

ราเชนทร์ตกใจร้อง แต่หญิงสาวเพียงทำหน้าเฉยๆแล้วเดินเข้าไปในห้องนั้น พอเขาปราดเข้าหาเพื่อจะดึงเธอกลับมา ประตูห้องก็ปิดปังใส่หน้าเขาจนเขากระเด็นล้ม

...อะไรกัน ...นี่มันเกิดอะไรขึ้น

ประตูที่แน่นสั่นเขย่า หนักหน่วง รุนแรง เขาตะกายเกาะผนังเพื่อพยุงตัวลุก หัวใจเต้นส่ำไม่เป็นจังหวะ

...ไม่อยู่แล้วเว้ย!

ยังไม่ทันได้ก้าวขาต่อไปสักนิด มือช้ำๆซีดๆเหมือนโดนทุบบวมก็โผล่ออกมาจากผนังที่เขาเกาะยันค้ำแล้วคว้าหมับแน่นเข้าที่ข้อมือ ราเชนทร์ตาเหลือก สะบัดแขนสุดกำลัง พอหลุดจากการเกาะกุมมาได้ ก็พลันเสียหลัก ถอยหลังชนเข้ากับประตูห้องดับจิตที่พร้อมเปิดออกอย่างเต็มใจจนล้มเข้าไปในนั้น

เสียงกรีดร้องบาดหู และความมืดโถมทับเมื่อประตูปิดสนิทในเวลาต่อมา…

*********


ราเชนทร์นอนดิ้นอึกอักๆราวกับว่ามีบางอย่างทับอยู่บนร่างกายเขา ลมหายใจกระชั้นถี่ พร้อมๆกับหัวใจที่เต้นรัว แต่พอเขาลุกพรวดขึ้นนั่ง ก็ไม่ปรากฏว่ามีสิ่งใดครอบงำเขาอยู่

เขายังคงอยู่บนเตียงนอนของห้องพักในโรงพยาบาล เวลานี้ก็เป็นเวลาเช้าแล้ว แสงอาทิตย์เริ่มสาดเข้ามาทางช่องหน้าต่าง แต่กระนั้น ด้วยผ้าม่านผืนหนาที่ทิ้งตัวนิ่งยังปิดบังมิดชิด ภายในห้องจึงยังมัวๆ และตามซอกมุมต่างๆที่สาดแสงนั้นเข้าไปไม่ถึง ก็จะเห็นเป็นเพียงกรอบโครงกระด้างสีดำๆเทาเพียงเท่านั้น

เมื่อครู่ เขาคงฝันไปสินะ... ราเชนทร์ถอนหายใจแรงๆ เหงื่อโทรมกาย แม้แต่เส้นผมก็เปียกราวกับเพิ่งอาบน้ำมาหมาดๆ

...ให้มันได้อย่างนี้สิน่า

เมื่อวาน หลังจากที่รามินทร์ไปถามบรรดาญาติผู้ประสบอุบัติเหตุและกลับมาเล่าให้เขาฟัง เขาก็ทราบชื่อของแต่ละคน มีนายเกรียงศักดิ์ เป็นผู้ขับรถบรรทุก ส่วนผู้หญิงคนที่ขับรถชื่อวริสา ในขณะที่ผู้หญิงอีกคนที่นั่งข้างๆชื่อภาพิมล

“คุณวริสาน่าเป็นห่วง เห็นบอกว่าเลือดตกใน และศีรษะได้รับการกระทบกระเทือนมาก ตอนนี้ยังไม่ได้สติเลย”

คำบอกเล่าของรามินทร์ย้อนกลับเข้ามาในความทรงจำ

“หมอบอกว่าถ้าผ่านคืนนี้ไปได้ โอกาสรอดก็จะมีห้าสิบเปอร์เซ็นต์”

ถ้าผ่านคืนนี้ไปได้... ตอนนี้เช้าแล้ว ไม่รู้ว่าเธอคนนั้นจะเอาชนะวิกฤตความตายไปได้หรือไม่

และที่เขาฝันเล่า เหมือนเป็นลางสังหรณ์บางอย่างที่มาเตือนให้ระวังตัวเอาไว้ ความรู้สึกหวาดหวั่นและสะพรึงกลัวยังคงแทรกตัวลึกอยู่ในรูขุมขนทั่วร่างกาย สอดลึกอยู่ในซอกมุมของตัวตน

อะไรบางอย่างสะกิดใจเขาให้ยกมือขึ้นพนม รวมรวบสมาธิและอ้อนวอนต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย... ขอให้อย่าได้มีเหตุการณ์ร้ายๆเกิดขึ้นอย่างที่เขาสังหรณ์ใจเลย ขอให้ผู้หญิงคนนั้นรอดพ้นตายด้วยเถิด…

*********


“เอ็งเป็นอะไรวะไอ้เชนทร์ หมอเขายังไม่ให้กลับแล้วจะดื้อกลับไปทำไม”

รามินทร์ที่นั่งอยู่ตรงโซฟาใกล้ๆเตียงผู้ป่วยถามแกมบ่น ขณะที่คนถูกถามทำหน้าซีดอยู่บนเตียง

“เอาน่า... อย่าอยู่นานเลยครับ เปลือง...”

“เออ คิดได้เนาะ ดีๆ” รามินทร์แซวยิ้มๆ “แต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ พักให้หายแล้วออกไปช่วยกันทำงานนะ อย่าดื้อออกไปแล้วต้องกลับมาใหม่... มันเปลืองกว่าเดิม”

ราเชนทร์ยิ้มแห้งๆให้กับพี่ชาย แต่ไม่ว่าพี่ชายเขาจะเกลี้ยกล่อมเพียงใด เขาก็ไม่อาจอยู่ที่นี่อีกต่อไปได้ ขืนอยู่ต่อมีหวัง... ช็อกตายคาที่

งานนี้คนกลัวผีอาจต้องกลายเป็นผีเสียเอง... สนุกพิลึกล่ะ

และสีหน้าท่าทางของเขาคงบอกความในใจชัดเจน หรือไม่รามินทร์ก็เป็นคนที่รู้จักเขาดีมากๆ คำถามของรามินทร์จึงเป็นทำนองว่า

“ตกลงยังไงก็จะกลับใช่ไหม”

เขาส่งยิ้มให้กับพี่ชายโดยไม่พูดไม่จา การดื้อเงียบแบบหัวชนฝา ทำให้เขาถูกรามินทร์บ่นบ่อยๆว่าเป็นคนประเภทที่อยู่ใกล้ๆแล้วต่อมโมโหถูกกระตุ้นให้ทำงานบ่อยๆ เพราะเขาเป็นคนที่เปลี่ยนความคิดตัวเองยากมาก ไม่ยอมรับฟังเหตุผลของคนอื่นเลยแม้แต่น้อย

...ไม่จริงเสียหน่อย เขาจะเป็นคนอย่างนั้นได้อย่างไรกัน พี่มินทร์ก็พูดเกินไป เอ... หรือจะจริงหว่า... ช่างมันก่อนเถอะ ตอนนี้เขาอยากออกจากโรงพยาบาลจะแย่อยู่แล้ว

“นะครับ... ให้ผมกลับไปนั่งๆนอนๆที่ร้านก็ได้ จะได้ช่วยทำงานด้วย”

รามินทร์หรี่ตามองมาทางเขา ก่อนจะทำท่าทางที่แปลได้ว่า “ยอมๆไปเถอะ” แล้วพูดกับเขาว่า

“ถ้าหมอไม่ว่าอะไร ก็กลับก็ได้ แต่ถ้ามันมีอะไรหนักจริงๆต้องอยู่ต่อ”

คำพูดของรามินทร์กึ่งๆกับคำสั่ง หากแต่คนรับฟัง รับเอาเฉพาะประโยคแรกที่บอกว่ากลับได้ ส่วนประโยคหลังที่บอกว่า มีอะไรหนักจริงๆต้องอยู่ต่อ เรื่องนี้เขาเลือกที่จะฟังหูไว้หู

ถึงหนักก็จะกลับ... ใครอย่ามาห้ามเสียให้ยาก...

ราเชนทร์นึกกระหยิ่มอยู่ในใจ... เขาจะไม่ต้องอยู่เผชิญหน้ากับสิ่งลึกลับนั่นอีกแล้ว

แต่พอนึกถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ก็อดวูบๆไหวๆในหัวใจไม่ได้ ความฝันที่ว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังเดินเข้าไปในห้องดับจิตยังคงวนเวียน เป็นภาพที่ติดตา ยากจะลบลืม...

“เอ่อ... พี่รู้ข่าวของสามคนนั้นบ้างรึเปล่า” ราเชนทร์เสี่ยงถาม ในใจก็หวั่นกลัวคำตอบว่า วริสาตายแล้ว... “เขาเป็นไงกันบ้าง”

“ถามทำไม...” รามินทร์ถามพร้อมกับพิงหลังกับเบาะโซฟาพลางกอดอก

“ก็มันอยากรู้นี่ พี่รู้ไหมล่ะ ถ้ารู้ก็บอกผมหน่อยดิ”

รามินทร์เอียงคอไปมาจนน่าหมั่นไส้ ยิ่งเห็นแว่นตากรอบกลมนั่นแล้ว ความหมั่นไว้ยิ่งเพิ่มขึ้น

“โฮ๊ย... พี่มินทร์ จะนึกอีกนานไหมครับ” เขาโวย

“บอกก็ได้ ใจร้อนจริงๆน้องคนนี้” รามินทร์แหย่ “เมื่อเช้าไปถามมาเหมือนกัน เห็นว่าคนขับรถสิบล้อนั่นน่ะตายแล้ว แต่ผู้หญิงอีกสองคนรอดตายเฉยเลย ปาฏิหาริย์มาก เพราะไม่มีใครคิดเลยนะ ว่าคนที่เจ็บน้อยกลับมาตาย ขณะที่คนเจ็บหนักกว่ากลับรอดชีวิตมาได้”

ปาฏิหาริย์... ผู้หญิงสองคนนั้นไม่ตายงั้นเหรอ
ถ้างั้น สิ่งที่เขาฝันก็เป็นเรื่องที่เขาคิดเองเออเองสิ

ไม่หรอก ความรู้สึกชัดเจนเสียขนาดนั้น จนเหมือนกับจะตอกย้ำถึงความเป็นจริงเป็นจังของเรื่องที่เกิดขึ้น

ผี... คนไม่ตายจะเป็นผีได้ไหม...

ราเชนทร์ปวดหัวพอๆกับหนักอึ้งในใจ ยากที่จะบอกให้ใครรู้ถึงสิ่งที่ได้ประสบมา ดีไม่ดีก็อาจถูกหาว่าบ้า หรือไม่ก็หลอกลวง

มันเป็นลางสังหรณ์แน่ๆ เขาเชื่ออย่างนั้น
แต่ไม่รู้ว่าลางสังหรณ์ที่ว่าต้องการสื่อถึงอะไรกันแน่...

*********


ในที่สุด ราเชนทร์ก็ได้กลับมานั่งพักนอนพักที่บ้านสมใจอยาก

ในวันที่เขาออกจากโรงพยาบาลนั้น ผู้หญิงที่ชื่อวริสายังไม่ฟื้น แต่เขาก็มีโอกาสได้เข้าไปเยี่ยมเธอถึงในห้อง พ่อกับแม่เลี้ยงของหญิงสาวให้การต้อนรับเป็นอย่างดี แม้จะเสียใจต่อเหตุการณ์ทั้งหลายก็สามารถคุมสติได้ ไม่โวยวายหรือระทมทุกข์เป็นบ้าเป็นหลัง

วริสานอนนิ่งเป็นผัก และไม่ใช่ผักธรรมดา แต่เป็นผักตากแดด เหี่ยวๆ เฉาๆ เพราะสภาพร่างของเธอตอนนี้ซีดเซียวและบอบช้ำ ราวกับว่าหากมีใครไปสัมผัสโดนแม้เพียงเล็กน้อย ร่างของเธอจะสลายไปในพริบตา

อาจเป็นเพราะวันนั้นเขาคิดมากไปเองหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่เขารู้สึกเหมือนว่า ดวงหน้าที่หลับใหล ยังเหมือนมีความทุกข์บางอย่างที่ยังไม่ถูกปลดเปลื้อง

...คุณกำลังเจอกับอะไรนะ คุณวริสา...

ส่วนทางด้านหญิงสาวอีกคน ภาพิมลมีอาการที่ดีขึ้น แต่แขนหักต้องเข้าเฝือกไว้ และขณะที่เขาเข้าเยี่ยม หญิงสาวก็หลับอยู่เช่นกัน พ่อแม่ของภาพิมลบอกกับเขาและพี่ชายว่าไม่มีอาการหนักมากกว่านี้แล้ว พวกเขาจึงค่อยคลายใจ

“เชื่อเรื่องลางไหม”

อยู่ดีๆ รามินทร์ก็ถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย ทำเอาคนถูกถามงงที่จะตอบ

“ก็... ไม่รู้สิครับ ผมไม่เคยเจอนี่... ทำไม พี่มินทร์มีลางถูกหวยเหรอ” เขาแซวขณะที่นั่งเอนๆกับพนักพิงข้างๆโต๊ะทำงานที่รามินทร์ครอบครองอยู่

“ไอ้นี่! กวนจริง... บางทีมันก็น่าเหลือเชื่อนะ แต่พี่จำได้ว่า คุณวริสากับคุณภาพิมล เคยมาเช่าหนังที่ร้าน...”

“ก็ปกตินี่ครับ เขาก็คงอยากดูหนังบ้างล่ะมั้ง”

“ยังไม่จบ ฟังก่อนสิ” รามินทร์ทำหน้าดุ “ทีแรก วันนั้นพี่ก็มองสองคนนั่นแบบผ่านๆนะ เพราะก็เหมือนลูกค้าคนอื่นๆ ก็เลยก้มหน้าทำบัญชีต่อไป แต่แล้วก็เหมือนกับมีอะไรสักอย่างมาสะกิด แล้วก็ขนลุกขึ้นมาเฉยๆ เลยเงยเหน้าขึ้นมาดู เท่านั้นแหละ... รู้ไหมว่าพี่เห็นอะไร”

ราเชนทร์ส่ายหน้าดิ๊ก

“พี่เห็นผู้หญิงที่ชื่อวริสาไม่มีหัว!”

“เฮ้ย… มั่วเอาเองรึเปล่าพี่” ตอนนี้สีหน้าของเขาคงแหยงเต็มที

“ไม่มั่วหรอก เห็นจริงๆ หัวน่ะหายไปเลย ทีแรกก็นึกว่าตาฝาด หรือเพราะแสงอะไรอย่างนั้น แต่ยิ่งมองก็ยิ่งไม่เห็น คนไม่มีเงาหัวน่ะ ตายชัวร์”

“แต่เขาก็ไม่ตายนี่ครับ”

“นั่นสิ โดนรถชนอาการหนักแต่ไม่ตาย ปาฏิหาริย์จริงๆ”

รามินทร์ยังคงพึมพำอยู่คนเดียว เขาเลยเลิกใส่ใจพี่ชายแล้วกระย่องกระแย่งกลับเข้าห้องนอนของตัวเอง ขณะที่ในหัวก็ครุ่นคิดถึงเรื่องราวที่พี่ชายเล่าให้ฟัง...

...สิ่งที่เกิดขึ้นเป็นปาฏิหาริย์งั้นหรือ...

*********




 

Create Date : 21 สิงหาคม 2551
8 comments
Last Update : 21 สิงหาคม 2551 9:13:49 น.
Counter : 500 Pageviews.

 

น้องพลอยจ๋า

แวะมาทักทายจ๊ะ น้องพลอยสบายดีนะจ๊ะ วันก่อนไม่รู้น้องพลอยหรือเปล่าที่แวะไปบล้อกของพี่ แต่พี่คิดว่าน่าจะเป็นนอ้งพลอย ขอบใจมาก ๆ ที่แวะไปเยี่ยมกันนะจ๊ะ

พี่ก็มามอบกำลังใจให้น้องพลอยเช่นกันจ้า ขอให้เขียนนิยายจบไว ๆ ตีพิมพ์เยอะ ๆ นะจ๊ะ คิดถึงเสมอนะ คิดถึงพี่มะยม คิดถึงทุก ๆ คนด้วยจ้า

 

โดย: roslita 21 สิงหาคม 2551 10:25:15 น.  

 

สวัสดีค่ะพี่ยีนส์ ขอบคุณที่แวะมาเช่นกันค่ะ
พลอยกับรักดี อยู่ว่างๆเลยชวนกันมาเขียนนิยายแปะเล่นที่นี่น่ะค่ะ

นิยายพี่ยีนส์วางขายหลายเรื่องแล้วนะคะนี่ ดีใจด้วยจริงๆ
ขอให้ขายได้เยอะๆนะคะ

วันหลังจะแวบเข้าไปที่บล็อกพี่ยีนส์อีกค่า ^o^

 

โดย: ploy666 IP: 58.147.42.167 21 สิงหาคม 2551 13:51:40 น.  

 

อ๊าก หนูริส ไม่มีเงาหัว แต่เป็นผัก แล้วยังมาพานายเชนไปเดินเล่นห้องดับจิตอีก จะรอดมั้ยล่ะเนี่ย งือ...

 

โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) 22 สิงหาคม 2551 18:09:08 น.  

 

แม่ข้าวปั้นแวะมาเยี่ยมค่ะพลอยคนสวย

 

โดย: fuku 23 สิงหาคม 2551 4:23:52 น.  

 

หุ หุ หุ อ่านด้วยคนค่ะ

 

โดย: TOE IP: 202.91.19.205 24 สิงหาคม 2551 20:15:46 น.  

 

รอดหรือไม่คงต้องรอถามคุณน้องรักดีคนเขียนล่ะค่ะพี่พีท

***
แม่ข้าวปั้นจ๋า นู๋พลอยว่าจะตามไปหาอยู่พอดี
บ้านใหม่งามไหมหนอ ^o^

***
คุณ TOE แต้งกิ้วที่แวะเวียนเข้ามาค่ะ
ยินดีต้องรับนะคะ
พอดีพลอยกับรักดีจองเขียนคนละเรื่อง
เลยอัพบ่อยหน่อย ว่างเมื่อไหร่ก็แว่บมาอ่านได้เลยจ้า

 

โดย: ploy666 (ploy666 ) 24 สิงหาคม 2551 21:13:54 น.  

 

หวัดดีคร้าบบบ

........
คุณยีนส์ แหะๆ...พอดีมาร่วมแจมกะเจ๊พลอยน่ะครับ แบ่งๆกันเขียน จะได้จบไวเพราะกดดัน เฮือก!

ขอบคุณที่แวะมาครับ

........

คุณพีทคุง

55+ สปอยเลยก็ได้

นางเอกโชคร้ายสุดล่ะมั้งครับ หรือโชคดีที่สุดก็ไม่รู้นะครับ อืม... บอกไม่ได้ เดี๋ยวจะหาว่าสปอย ฮ่า ฮ่า

........

คุณ fuku

แหะๆ... เจ๊พลอยรับแขกโลด...

ยินดีที่ได้รู้จักครับ

........

คุณ TOE

ขอบคุณที่มาอ่านคร้าบบบ

........

ปล. ลงตอนใหม่แล้วนะ งุงิๆ

........

 

โดย: รักดี (ploy666 ) 26 สิงหาคม 2551 0:06:16 น.  

 

ทีแรกเรื่องคุณเพชรก็น่ากลัวแล้วนะ มาเรื่องนี้สยองกว่าอีก

 

โดย: Tukta21 15 กันยายน 2551 4:23:36 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.