|
ความรักริมดาว 03
ความรักริมดาว 03 ผู้แต่ง ploy666 (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)
เจ็ดแสนสี่หมื่นบาท! คุณทิพย์ยกมือทาบอกเหมือนจะกันไม่ให้หัวใจเต้นกระโดดออกมานอกกายกับจำนวนเงินมากมายเหล่านั้น
พี่ริศจะไปเอาจากไหนมาใช้คุณเพชร ถ้าฟ้องร้องว่าสัญญามีที่มาไม่สมเหตุสมผลหรืออะไรแบบนั้นมันก็ต้องใช้เงินจ้างทนาย อีกอย่างเราจะเอาปัญญาที่ไหนไปจัดการ คุณเพชรตั้งใจแกล้งกันชัดๆนี่นา
รุ้งพรายบ่นขณะยกน้ำเย็นในแก้วใสเลื่อนส่งให้วุ้นเส้นที่มาเป็นแขก
สีหน้าท่าทางของหญิงสาวบอกชัดว่าไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่เพชรกะรัตใช้บีบบังคับปวริศ
เจ้าของเรื่องถอนหายใจยาว คิ้วยังขมวดมุ่น
พี่ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ตอนนี้เจ้าหนี้คือทนายความของคุณเพชรที่เขาไม่ยอมอะลุ่มอล่วยแน่ พี่รู้จักเขามานานแล้วตอนวิ่งไปประสานงานเรื่องอื่นๆให้ แล้วก็รู้ด้วยว่าครอบครัวคุณเพชรมีบุญคุณกับทนายคนนี้มาก่อนเขาเลยถือว่าต้องจงรักภักดี ลองคุณเพชรออกปากขอร้องมีหรือจะกล้าขัด ยิ่งเธอตายแบบนี้เขายิ่งต้องทำตามคำพูดเธอเข้าไปใหญ่
คุณเพชรนี่ขนาดตายไปยังไม่วายสร้างปัญหา รุ้งพรายอดตำหนิไม่ได้
ทว่าผู้เป็นมารดากลับนิ่วหน้าแสดงความไม่ชอบใจนัก รุ้งนี่ยังไงนะ คนตายไปแล้วแม่ไม่อยากให้เราไปว่าเขา เดี๋ยววิญญาณไปไม่สงบสุข
ก็ที่คุณเพชรทำอยู่นี่ไม่ใช่เจตนาจะให้บ้านเราร้อนเป็นไฟเหรอคะแม่
คุณทิพย์ไตร่ตรองก่อนหันไปกล่าวช้าๆกับบุตรชายคล้ายปรึกษา
ริศว่ายังไงล่ะลูก ถ้ามันไม่เหลือบ่ากว่าแรงนักแม่กับน้องก็จะยอมย้ายไปอยู่บ้านคุณเพชร
แม่คะ!
เงียบก่อนเถอะรุ้งคุณทิพย์หันไปปรามอย่างหนักแน่นจนอีกฝ่ายฮึดฮัดแต่ไม่กล้าขัดอีก ท่าทางครุ่นคิดของท่านทำให้ทุกคนจำเป็นต้องรับฟัง
ปวริศเองก็จนแต้มเพราะรู้ว่าสิ่งเหล่านี้ผูกรวมถึงชีวิตของคนอื่นในบ้านด้วยไม่ใช่ตัวเขาเพียงลำพัง
ริศ...คุณเพชรเธออาจจะหวังดีอยากให้ริศกับครอบครัวสบาย คิดดูสิว่าใครที่ไหนจะยอมยกมรดกมากมายก่ายกองขนาดนี้ให้กันได้ง่ายๆ คุณเพชรเธอก็ไม่มีใคร...ญาติก็มีแต่ปัญหากวนใจ เพื่อนที่ไหนก็ไม่มีสักคน มองไปมองมาก็คงเห็นแต่ริศเลยตั้งเงื่อนไขไว้แบบนี้ เพราะถึงยังไงก็พอรู้นิสัยริศดีว่าไม่ทิ้งขว้างสมบัติของเธอหรือเอาไปผลาญเล่น
เขายิ้มเจื่อนๆกับข้อสันนิษฐานของมารดา
แม่มองคุณเพชรในแง่ดีเกินไปแล้วล่ะครับ แม่รู้ไหมว่าพินัยกรรมฉบับนี้เป็นฉบับล่าสุดที่คุณเพชรเปลี่ยนตอนทะเลาะหนใหญ่กับญาติๆก่อนไปเมืองนอกครั้งสุดท้าย เธอทำประชดครับ...ผมยืนยันได้ในข้อนี้...เธออยากแกล้งให้สะใจที่สุดและกันท่าไม่ให้คนอื่นมาเสวยสุขบนสมบัติเธอก็แค่นั้นเอง เห็นนิ่งๆแบบนั้นคุณเพชระรรมดาแบบคนอื่นเสียที่ไหนกัน ลูกชายแม่เป็นแค่ไม้กันหมาในสายตาเธอมากกว่า
พูดเกินไปหรือเปล่าริศ
ผมพูดความจริง เขาย้ำถ้อยคำ คุณเพชรไม่ใช่คนใจดีขนาดที่จะทำอะไรโดยคิดถึงคนอื่นหรอกครับแม่ นี่ถ้าเธอไม่ตายกะทันหันผมว่าพินัยกรรมคงเปลี่ยนอีกไม่รู้กี่สิบฉบับ
เพชรกะรัตเป็นผู้หญิงที่เขาไม่อยากเข้าใกล้แต่ก็เลี่ยงไม่พ้น...
ถึงอย่างนั้นริศก็ลองคิดดูดีๆ แม่กับน้องแค่เปลี่ยนที่อยู่ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ถ้าริศยืนยันว่าจะปลดภาระจากมรดกคุณเพชรแม่อาจต้องขายบ้านนี้เพื่อให้ริศเอาเงินมาใช้หนี้แล้วเราก็จะไม่มีที่ไป แม่ทนเห็นริศทุกข์ไม่ได้หรอกลูก...ริศทำเพื่อแม่กับน้องมาตั้งเท่าไหร่แล้ว
ชายหนุ่มอึ้งกับประโยคนั้น
บ้านทั้งหลังไม่ได้ขายกันง่ายๆนะคะ แถมทนายความยังเร่งรัดให้พี่ริศสะสางเงินต้นรวมดอกเบี้ยภายในสามวันด้วยน่ะ รถพี่ริศก็ตกรุ่นไปแล้วขายคงได้ราคาไม่เท่าไหร่วุ่นวายพอกันแหละค่ะ รุ้งพรายกระแทกเสียงอย่างจนปัญญา
พี่กลัวแต่เราจะอยู่กันไม่สงบสุขในบ้านหลังนั้นน่ะสิ เพราะญาติๆคุณเพชรคงมาราวีไม่หยุดหย่อน
มรดกมากมายของเพชรกะรัตไม่ต่างจากถ่านร้อนๆที่ลุกแดงและบัดนี้ถูกโยนใส่มือเขา ปวริศกลัดกลุ้มจนพูดไม่ออก มองไปทางไหนเขาก็เห็นเพียงทางเส้นเดียวที่ถูกขีดเอาไว้ให้
วุ้นเส้นเอื้อมมือมาตบไหล่เบาๆพลางยิ้มแต้ รับมรดกคุณเพชรเถอะริศ พี่ว่าคงไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้แล้วล่ะ
อย่างน้อยการย้ายบ้านก็ไม่ได้ง่ายดายดังใจคิด เมื่อปวริศตอบรับข้อตกลงและขอทราบเงื่อนไขจุกจิกเพิ่มเติม
คุณเพชรกะรัตอยากให้คงความสมบูรณ์ของบ้านหลังนี้เอาไว้อย่างเดิม ห้ามเคลื่อนย้ายข้าวของที่เธอมีอยู่ แต่ยอมให้คุณหามาเพิ่มได้โดยไม่ทำลายความงดงามของบ้านไป...ประเด็นหลังนี่เอาเป็นว่าผมไม่ไปตัดสินอะไรมากก็แล้วกัน ถือว่าเราเจอกันครึ่งทาง เพราะเรื่องความสวยงามนี่ผมเองก็ไม่สันทัดเท่าไหร่หรอก ทนายความแจกแจงแคล่วคล่องพลางยื่นเอกสารชุดหนึ่งมาให้ดู
ผมทนอยู่กับเครื่องเรือนชุดหลุยส์ไม่ได้แน่ๆ ชายหนุ่มยืนยัน
อีกฝ่ายไม่มีท่าทีจะอ่อนข้อให้เช่นกัน คงไม่มีทางเลือกอื่นครับเว้นแต่ว่าคุณจะชำระหนี้แล้วเราก็ยุติเรื่องนี้ลง
ไม่อยากเชื่อเลยว่าผมจะเป็นคนกลางติดต่อให้คุณมาทำงานกับคุณเพชร
ขอบคุณครับ ชายสูงวัยหัวเราะคล้ายไม่รับรู้ถึงกระแสประชดประชันนั้น แต่จากวันที่คุณเซ็นรับเงื่อนไขตามพินัยกรรมผมก็คงไม่มีอะไรมากวนใจคุณอีกแล้วล่ะ โชคดีครับคุณปวริศ
นั่นเป็นหนสุดท้ายที่เขาพาความผิดหวังกลับมาจากการเจรจาต่อรอง
ปวริศหยุดยืนกลางห้องรับแขกที่กว้างขวางโออ่าพลางกวาดสายตาไปรอบๆด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูกนัก...วันนี้เขาตัดสินใจว่าจะมาสำรวจเป็นหนสุดท้ายก่อนย้ายของเข้ามาในเช้าพรุ่งนี้ บ้านทั้งหลังสงบเงียบและชวนวังเวงเมื่อนึกว่าผู้เป็นเจ้าของรายล่าสุดเสียชีวิตไปด้วยอาการไม่เตรียมใจ สิ่งแรกที่เขาต้องทำคือการทำบุญใหญ่อุทิศส่วนกุศลไปให้เพชรกะรัตแต่นั่นคงต้องรออีกสักระยะเมื่อทุกสิ่งเข้าที่เข้าทาง
น่าแปลกที่บ้านหลังนี้ไม่มีรูปผู้เป็นเจ้าของบ้านติดประดับไว้อย่างที่ควรเมื่อคำนึงถึงลักษณะนิสัยอดีตเจ้านายสาวผู้วายชนม์ที่มักยึดถือเอาตนเองเป็นศูนย์กลางทางความคิด...
แต่อาจเป็นเพราะภาพลักษณ์สาวสมัยใหม่หรูหราที่ไม่อาจหลอมกลืนเข้ากับบรรยากาศโบราณมีมนต์ขลังของเครื่องเรือนและของตกแต่งต่างๆที่รายล้อมก็เป็นได้
ความคิดของเขาสะดุดหยุดลงจากเสียงแตรรถยนต์ที่ดังแสบแก้วหูจากประตูรั้ว
...เห็นทีจะต้องประกาศจ้างคนรับใช้ใหม่ แม่คงดูแลคนเดียวไม่ไหว...
ปวริศส่ายศีรษะช้าๆเมื่อนึกว่าอันที่จริงเงินก้อนใหญ่ที่เพชรกะรัตจะมอบให้มางวดแรกพร้อมบ้านนี้คงหมดไปเพราะเรื่องจุกจิกที่เขาเองไม่เคยคาดฝัน
ใช้เวลานานพอสมควรกว่าที่เขาจะเดินกลับมาที่ประตูรั้ว แท็กซี่สีสันสดใสไม่เท่าร่างสูงของชายหนุ่มผิวคล้ำเค้าหน้าคมคายโดดเด่น คิ้วเข้ม โหนกแก้มสูง สันคางเป็นเหลี่ยมเล็กน้อย สวมเครื่องแต่งกายสุภาพพร้อมกระเป๋าเดินทางใบโตอีกใบที่ลงมาหยุดยืนรอด้วยสีหน้ากลัดกลุ้มเป็นกังวล
ปวริศยืนงงไปพักหนึ่งเมื่ออีกฝ่ายถามไถ่ด้วยน้ำเสียงเหนื่อยล้า
ผมทราบข่าวคุณเพชร... ประโยคท้ายถูกกลืนหายไปกับเปลวแดดที่แผดจ้า ผู้มาเยือนดูลังเลเล็กน้อยก่อนกล่าวต่อว่า เถ้ากระดูกคุณเพชรอยู่ในบ้านหรือเปล่าครับ ผมอยากไปไหว้สักหน่อย ผมจองเที่ยวบินจากญี่ปุ่นมาไม่ทันงานศพเธอ
คุณเป็นเพื่อนคุณเพชรหรือครับ
ปวริศผ่อนคลายความระมัดระวังตัวลงเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายพยักหน้าอย่างหงอยๆ เขาคะเนว่าอย่างน้อยผู้มาเยือนรายนี้น่าจะทำความรู้จักมักคุ้นกับเพชรกะรัตมาพอสมควรจึงบอกว่า
เชิญในบ้านก่อนครับ
คุณคงเป็นคุณปวริศ คุณเพชรบอกว่าคุณไว้ใจได้...ผมชื่อแทนไท คู่สนทนายื่นมือมาเบื้องหน้าทักทายตามธรรมเนียมสากล ก่อนจะทำอาการฉุกใจคิดและถอนมือกลับไปพลางว่า ขอโทษทีครับ ผมลืมว่าที่นี่เมืองไทย พอดีผมทำงานสายการบินต่างชาติจนชิน
คนฟังยิ้มตามมารยาทไม่ได้ติดใจเอาความอะไรมากนัก แค่อยากต้อนรับขับสู้ให้จบเรื่องไปมากกว่า
แทนไทกำลังหันไปจะจ่ายค่ารถแท็กซี่ พอดีกับที่รถยนต์อีกคันแล่นเข้ามาต่อท้ายขวางทางถอยออกของผู้มาก่อน
ปวริศไม่ได้เปิดรั้วกว้างไว้เพียงแต่เปิดประตูเล็กออกมารับหน้าแขกเห็นแบบนั้นจึงอดขมวดคิ้วมองด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อยไม่ได้ กระทั่งคนในรถยนต์คันหลังลดกระจกชะโงกหน้าออกมาถามไถ่ยิ้มๆว่า
ขอโทษ ผมมาพบคุณปวริศ...พวกคุณพอทราบไหมว่าเขาอยู่หรือเปล่า
ผมชื่อปวริศครับ ชายหนุ่มก้าวออกไปแสดงตัว
กิริยาผิวปากอย่างถูกใจเมื่อทราบว่าโชคดีได้เจอตัวผู้ที่ต้องการ ทำให้ปวริศนึกขวาง แต่เมื่อมองเห็นท่าทางเริงรื่นของคนมาใหม่ก็รู้ดีว่าจำเป็นต้องใส่หน้ากากเอาไว้รับรองตามความเหมาะสม เพราะคนที่มาที่นี่นั้นสามารถเข้าใจได้ในทันทีว่ามาด้วยจุดประสงค์อันหนึ่งอันเดียวกัน
...มาเพราะเพชรกะรัต
คุณเพชรนะคุณเพชร...ตอนอยู่ก็เสน่ห์แรง ตายไปแล้วก็ยังไม่วาย...คนคิดยังไม่ทันจบประโยคดีต้องสะดุ้งโหยงเมื่อรับรู้ถึงอาการเจ็บแปลบที่ด้านหลัง
อีกครั้งที่ปวริศมองหาต้นสายปลายเหตุของอาการไม่เจอได้แต่เพียงยกมือลูบคลำจุดที่เป็นปัญหาอย่างงงๆ ก่อนจะถูกดึงกลับสู่ประโยคบอกเล่าที่เหมือนจะทวนบทสนทนาเมื่อครู่ของเขากลับแทนไท เพียงแต่ผู้พูดไม่ได้มีความเศร้าซึมนอบน้อม หากแต่เป็นแววตาเปิดเผยที่จ้องมองมาของชายหนุ่มซึ่งดูคล้ายกับว่าจะมีเชื้อสายต่างแดนปนอยู่ไม่มากก็น้อย
ผมเพิ่งหายป่วยออกจากโรงพยาบาลได้เลยมาไม่ทันงานศพคุณเพชร ขอเข้าไปไหว้เธอในบ้านหน่อยได้ไหมคุณ
ปวริศครับ...ผมชื่อปวริศ สุ้มเสียงเหมือนเหนื่อยใจนิดๆ
ทว่าแขกของเพชรกะรัตรายนี้ไม่ได้สนใจจะบอกชื่อตัวเองกลับ เขาเพียงบุ้ยใบ้ไปยังรถคันหน้าที่หาทิศทางไปต่อไม่ถูกพลางว่า
คุณช่วยเปิดประตูรั้วให้แท็กซี่เข้าไปกลับรถด้านในก่อนได้ไหม ผมจะได้ขับรถเลยเข้าไปฝากจอดที่โรงจอดรถโน่นด้วย แดดเมืองไทยนี่แรงชะมัดเลยแฮะ
ปวริศหันมองประตูอัลลอยด์ขนาดใหญ่แต่นึกถึงรีโมทที่ไม่ได้รอบคอบพอจะหยิบฉวยติดตัวมาด้วย แล้วละสายตากลับไปมองทางแทนไทแกมขอร้องในที
อีกฝ่ายเข้าอกเข้าใจพอจะรับอาสาอย่างมีน้ำใจว่า ผมช่วยเปิดประตูฝั่งนี้ก็แล้วกันครับ จะได้ไวหน่อย
ขอบคุณครับ ปวริศบอกอย่างซึ้งใจ
แทนไทเอากระเป๋าเดินทางวางไว้บนสนามหญ้าก่อนกลับมาช่วยปวริศเปิดประตูตามสัญญา หากแต่ในจังหวะที่รถของอาคันตุกะรายหลังสุดผ่านหน้าพลางโบกมือแทนคำขอบคุณให้แก่แทนไทนั้น แสงแดดที่จัดจ้าสะท้อนกับบางอย่างเป็นประกายวูบวาบก่อนวับหายไปพร้อมกับมือที่ลดกลับลงไปยังพวงมาลัยรถ
ปวริศก็ทันเห็นกิริยาเบิกตากว้างอ้ำอึ้งของแทนไทที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน
แต่ยังไม่ทันได้ทักถามถึงสาเหตุก็พอดีกับที่รถอีกสองคันแล่นตรงเข้ามาจอดที่หน้ารั้วซึ่งเปิดกว้าง
คราวนี้ปวริศไม่สนใจมารยาทอีกแล้วเมื่อเห็นว่าคนขับรถต่างพากันเปิดประตูก้าวลงมา รายหนึ่งผิวขาวจัดท่าทางสำอางสวมเชิ้ตแขนยาวเรียบเนี้ยบ ส่วนอีกคนยังเป็นเพียงหนุ่มน้อยวัยยี่สิบต้นๆในเสื้อยืดกางเกงยีนแต่ดูดี ชายหนุ่มจึงตะโกนถามรวดเดียวว่า
พวกคุณมางานศพคุณเพชรไม่ทันเลยจะมาไหว้เธอใช่ไหมครับ เชิญที่ห้องพระด้านในบ้านพร้อมกันเลยก็ได้ ผมชื่อปวริศ...ยินดีที่ได้ต้อนรับทุกคนครับ!
สังหรณ์ของเขาของเริ่มทำงานขึ้นเมื่อชายหนุ่มทั้งสามคนในที่นั้นทำในสิ่งเดียวกัน...
สายตาทุกคนลดต่ำลงสำรวจที่มือของกันไปมาอย่างรวดเร็วด้วยความพิศวงสนเท่ ทึ่ง แกมกระอักกระอ่วนใจ
ในขณะที่เจ้าบ้านอย่างปวริศไม่รู้อะไรเลยนอกจากเริ่มเอะใจถึงบางอย่าง
...ดูเหมือนการตายของเพชรกะรัตกำลังจะนำพาเรื่องปวดหัวบางประการมาสู่เขา ไม่ว่าหล่อนจะตั้งใจหรือไม่ก็ตามที!
ควันธูปที่ลอยสูงก่อนวนเวียนอยู่ในห้องนั้นก่อเกิดเส้นสายชวนมองอย่างประหลาด ปวริศยืนอยู่ชิดประตูห้องด้านนอกขณะที่ทอดสายตาตามร่างชายหนุ่มสี่คนซึ่งก้มกราบลงหน้าโต๊ะหมู่บูชาซึ่งมีโกศใส่เถ้ากระดูกเล็กๆวางไว้ต่ำลงมาจากชั้นที่วางพระพุทธรูปบูชา
แทนไทเป็นคนแรกที่เงยหน้าขึ้นและเหม่อมองรูปของเพชรกะรัตที่ถูกนำกลับมาจากวัด ตั้งไว้เยื้องข้างโต๊ะหมู่บูชา
แม้ในมุมนี้ปวริศไม่รู้ว่าอีกฝ่ายแสดงท่าทีอย่างไรแต่ความโศกเศร้าของแทนไทก็ดูจะกลายเป็นรอยเงาที่ครอบงำเขาเอาไว้อย่างแจ่มชัดด้วยช่วงไหล่ที่ลู่ลงเล็กน้อยอย่างท้อแท้และหมดแรงใจ
อีกสองคนถัดมานั้นหลังจากทำความเคารพเสร็จเรียบร้อยแล้วก็ดูเหมือนนิ่งคิดบางสิ่งเงียบๆจนลืมเลือนคนอื่นๆในที่เดียวกันนั้นไปสนิท ส่วนรายสุดท้ายที่ดูอ่อนเยาว์สุดเพียงกราบลวกๆแล้วยกมือไหว้ค้างก่อนเอ่ยเสียงดังฉะฉานว่า
พี่เพชรฮะ น้องรินเสียใจที่มาไม่ทันเผาศพพี่เพชร แต่พี่เพชรคงทราบดีกว่าใครว่าน้องรินไม่สะดวกมาจริงๆ...ไม่ว่าพี่เพชรจะไปอยู่ที่ไหนน้องรินหวังว่าพี่เพชรคงจะทราบดีว่าน้องรินไม่เคยเปลี่ยนไป น้องรินมาที่นี่แล้วตามคำบอกครั้งสุดท้ายที่เราเจอกันแต่น่าเสียดายที่มาไม่ทัน...พี่เพชรเป็นที่พึ่งสุดท้ายของน้องริน... ประโยคท้ายสั่นเครือลงทีละน้อยก่อนที่เขาจะท่อนแขนปาดซับน้ำตาที่เริ่มซึมออกมาและเงียบไป
แทนไทถอนใจเฮือกราวกับพอจะเดาอะไรบางอย่างออกได้ ค่อยๆถอนกายออกมาจากห้องนั้น
ผมมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณปวริศน่ะครับ ถ้าคุณพอจะสะดวก
ประโยคที่แฝงความนัยระคนเกรงอกเกรงใจนั้นเหมือนฉุดรั้งเอาคนที่เหลือภายในห้องหันขวับเป็นตาเดียว
ใครคนหนึ่งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบเย็นทว่าแฝงความเย่อหยิ่งนิดๆเมื่อขยับแว่นสายตาให้เข้าที่ก่อนพูดขึ้นว่า คงไม่ต้องเป็นการส่วนตัวมั้งครับ ถ้าเรื่องเกี่ยวกับของที่คุณเพชรทิ้งเอาไว้ให้
ผมเองก็เห็นด้วยนะฮะ...คุณปวริศ ชายหนุ่มอายุน้อยสุดแปรเปลี่ยนท่าทีเป็นความกระตือรือร้นสนับสนุนขึ้นมาอีกเสียงเหมือนคาดหวังบางสิ่ง ผมชื่อพีริน ผมมาที่นี่ก็เพราะสัญญาของคุณเพชรแล้วถ้าจะให้เดาทุกคนที่มาวันนี้ก็คงมาด้วยเหตุผลเดียวกัน
คราวนี้ปวริศเป็นฝ่ายยกมือโบกสั่งทุกคนยุติลงอย่างเฉียบขาด
ชายหนุ่มออกอาการงุนงงเมื่อกวาดมองสายตาสี่คู่ที่จ้องกันไปมาอย่างประเมินท่าทีซึ่งกันและกัน เขามองออกว่ามันไม่ค่อยเป็นมิตรเท่าไรนักแต่ก็ยังรวบรวมข้อมูลได้ไม่มากพอจะคลี่คลายปริศนาที่เพชรกะรัตทิ้งเอาไว้ก่อนตาย
ปวริศกลับมาเป็นคนควบคุมสถานการณ์อีกครั้งเมื่อถามว่า
ก่อนอื่นผมคงต้องบอกก่อนว่าผมไม่รู้จักใครเป็นการส่วนตัว แล้วเท่าที่จำได้ผมก็รู้จักญาติทุกคนของคุณเพชรดีพอที่จะแน่ใจได้ว่าพวกคุณทั้งสี่ไม่มีความผูกพันทางสายเลือดกับตระกูลนี้ ดังนั้นคงไม่ละลาบละล้วงเกินไปนักถ้าผมจะขอให้พวกคุณแนะนำตัวกันก่อนที่จะพูดอะไรออกมาซึ่งเกี่ยวพันถึงคุณเพชรต่อไป
ผมชื่อมิกซ์ ชายหนุ่มร่างสูงที่ปวริศคาดเดาแต่ต้นแล้วว่าไม่น่าจะเป็นคนไทยแท้เพิ่งเอ่ยขึ้นเป็นหนแรกนับจากเข้ามาภายในคฤหาสน์หลังนี้ เขาไหวไหล่ก่อนอธิบายต่อว่า บางคนอาจคุ้นหน้าเพราะผมเป็นนายแบบเพิ่งบินกลับมาจากอเมริกา
ผมไม่คุ้น...ผมไม่ชอบพวกเต้นกินรำกิน ชายหนุ่มที่สวมแว่นสายตากรอบทองท่าทางภูมิฐานเอ่ยชัดถ้อยชัดคำ คุณปวริศจะเรียกผมว่าเจ้าน้อยก็ได้นะครับ แต่ชื่อเต็มผมคือเจ้าเลอสรวง ถึงเราจะไม่ค่อยคุ้นเคยกันนักเพราะอยู่คนละสังคมแต่ระหว่างผมกับคุณเพชรเราสนิทสนมกันดีตั้งแต่เมื่อคราวที่ผมไปทัวร์แสวงบุญที่ธิเบตแล้วพบเธอ
คุณเพชรเนี่ยนะครับไปทัวร์แสวงบุญ... ปวริศอ้าปากค้าง ก่อนจะหุบฉับลงเมื่อถูกสายตาคมกริบของเจ้าเลอสรวงปลายมองคล้ายจะตำหนิ
ผู้อ้างว่าตนเองสืบเชื้อสายสูงส่งจากทางเหนือปกป้องเพชรกะรัตทันควัน คุณเพชรเธอมีจิตใจที่ดีงามครับ
ครับ... ปวริศทบทวนในใจอย่างรวดเร็วว่าเพชรกะรัตมีหรือจะยอมไปทัวร์แสวงบุญ
แต่เมื่อคิดได้ว่าสำหรับสังคมบางกลุ่มการทำบุญในลักษณะของการเปิดหูเปิดตาท่องเที่ยวก็จัดอยู่ในกระแสนิยม เป็นไปได้สูงที่เพชรกะรัตอาจถูกกล่อมให้คิดว่าน่าสนใจ เขาจึงค่อยคลายความสงสัยลงอีกนิด
เอาเถอะ...ไว้ไปลองตรวจสอบระยะเวลาดูทีหลังว่าจริงหรือเปล่า...
ตอนนี้มีเรื่องสำคัญกว่านั้นให้ปวริศซักถาม
ส่วนอีกคนก็คุณพีรินกับคุณแทนไท ทีนี้เราก็รู้จักกันทั้งหมดแล้ว ถือโอกาสคุยกันแบบไม่เป็นทางการตรงนี้ต่อหน้าคุณเพชรในห้องพระเลยก็แล้วกันนะครับว่าพวกคุณมีจุดประสงค์อะไรนอกเหนือจากการมาเคารพเถ้ากระดูกของเธอ
ทุกคนมองหน้ากันเหมือนต่างฝ่ายต่างลังเลชอบกลที่จะเอ่ยขึ้นก่อน ทั้งที่ตอนแรกทำท่าจะกีดกันไม่ให้แทนไทปลีกตัวไปเจรจากับปวริศตามลำพัง
ผมคิดว่า-เรา-เป็นคนรักของคุณเพชรครับ แทนไททำหน้าเหมือนกลั้นหายใจขณะค่อยๆแย้มพรายความลับบางส่วนเสี้ยวของเพชรกะรัตให้เผยออกมา
เรา... ปวริศทวนคำ
ครับ มิกซ์กลับเป็นฝ่ายยอมรับหนักแน่น ยิ้มเหมือนจะท้าทายให้ใครสักคนปฏิเสธแต่ก็ไม่มีใครค้านขึ้นเลยแม้แต่เสียงเดียว
คุณเพชรให้แหวนเราไว้ เจ้าเลอสรวงเสริมขึ้นอีกเสียง ก่อนยื่นมือออกมาเบื้องหน้าให้เห็นแหวนทองคำขาวแบบเรียบหรูที่ดูคุ้นตา
พีรินเป็นคนชูมือขึ้นอวดแหวนแบบเดียวกันในนิ้วนางข้างซ้ายของตน ก่อนที่คนอื่นๆจะทยอยยกให้ปวริศดูอย่างอิดออดเล็กน้อย
สายตาของคนกลางอย่างปวริศพร่าเลือนไปด้วยประกายสดใสสวยงามยามแสงไฟส่องกระทบ อัญมณีเม็ดเดี่ยวขนาดเล็กวาวใสเจียระไนเหลี่ยมมุมแพรวพราวที่ฝังนิ่งสงบเฉิดฉายสุกใส ถัดมาเป็นลวดลายสัญลักษณ์ที่เรียบหรูทรงคุณค่า
แต่เหนืออื่นใดนั้นคนที่จับจ้องมองเพียงด้านหน้าก็แทบจะแลทะลุไปยังคำสลักอ่อนช้อยด้านหลังวงแหวนที่เขียนไว้อย่างประณีตว่า...Cartier...
Create Date : 26 สิงหาคม 2551 |
|
3 comments |
Last Update : 26 สิงหาคม 2551 8:12:32 น. |
Counter : 644 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: fuku 26 สิงหาคม 2551 13:16:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: รักดี IP: 118.172.70.190 27 สิงหาคม 2551 12:49:57 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก https://ploy666.bloggang.com
ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา) นามปากกา : สิตาปางค์ ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5 ออกแบบปก : Little thing
ราคา : 850.- บาท สินค้าหมด
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28
สั่งซื้อที่ : .........
หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ
** ***********************************
ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ นามปากกา : ลายน้ำ ราคา : 259.- บาท สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)
สินค้าหมดค่ะ
****************
นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง
รอยทรายบนลายรัก ...และ... กระต่ายในใจจันทร์
***********
เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า ทนไม่ไหวแล้ว... จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ
โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด
เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
Ploy666.
************
หมายเหตุสักนิดค่ะ...
ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย
ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ
**************
เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
|
|
|
|
|
|
|
มาช่วยกันอธิษฐานจิตกันเถอะ
คลิป สามัคคี