|
ความรักริมดาว 01
ความรักริมดาว 01 ผู้แต่ง ploy666 (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)
ปวริศรู้สึกแปลกๆเมื่อคิดว่าตัวเองกำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของภาพขาวดำอันไร้สีสันเมื่อรอบกายมีแต่คนสวมใส่ชุดไว้ทุกข์ ทว่าโลงศพสีขาวสะอาดตาเบื้องหน้าประดับด้วยดอกลิลลี่กลีบขาวช่อโตที่ตัดอย่างรุนแรงกับใบไม้สีเขียวแซมแทรกกลับตอกย้ำว่าทั้งหมดนี้คือความเป็นจริง...
เสียใจด้วยนะคุณริศ
แขกเหรื่อที่ทยอยมาคนแล้วคนเล่าบอกกับเขาด้วยประโยคเดิมๆที่ชืดชาไร้อารมณ์ร่วมราวกับว่ามันเป็นมารยาทที่จะกล่าวถ้อยคำนี้ออกมา
ชายหนุ่มแทบจะแน่ใจได้เลยว่าไม่มีใครเสียใจกับเขาอย่างแท้จริงสำหรับงานสวดพระอภิธรรมศพคืนสุดท้ายนี้
แต่เขาก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายมาตั้งแต่แรกแล้ว
กระทั่งพระสงฆ์ที่นิมนต์ไว้เริ่มทยอยมานั่งยังสถานที่ซึ่งถูกจัดเตรียมรอรับ พิธีการทั้งหมดก็เริ่มขึ้นตามขั้นตอน ปวริศไม่แน่ใจว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้างเพราะหลายวันมานี่เขามั่วพะวงกับเรื่องต่างๆที่ประดังประเดเข้ามาอย่างกะทันหันมากมายจนอ่อนเพลีย
เสียงสวดมนต์จากพระสงฆ์และเสียงกระซิบกระซาบที่เขาแน่ใจว่าใครบางคนกำลังนินทาผู้ตายไม่ได้ทำให้ปวริศแปลกใจนัก
...เพชรกะรัตในยามมีชีวิตอยู่ไม่เคยเป็นที่รักของใคร
หากจะคาดหวังให้ผู้คนต้องร้องห่มร้องไห้พร่ำรำพันแก่การจากไปคงยากเต็มที...
แขกกลุ่มสุดท้ายที่ยังรั้งรอหลังงานเลิกทำให้ปวริศไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเป็นฝ่ายเดินไปหา
ขอบคุณที่มางานครับ เขาเอ่ยและฝืนยิ้มให้
สิ่งที่ได้รับกลับมากลับเป็นการมองด้วยหางตาอย่างดูแคลนจากใครหลายคนในกลุ่มนั้น
พูดแปลกนะคุณริศ...ยังไงเพชรก็หลานสาวฉัน กันตาค้อนวงโต ร่างอวบท้วมดูเปล่งปลั่งในชุดผ้าไหมสีดำและไข่มุกเส้นสวยสมวัยที่ล่วงเข้ากลางคน ปวริศไม่ได้ท้วงถึงสภาพความเป็นจริงที่ว่ากันตาไม่ทำแม้แต่จะอาสาเป็นเจ้าภาพงานศพหลานสาวคนนี้ด้วยซ้ำไป ที่มาฟังสวดนี่ก็เพียงเพราะมาตามมารยาทสังคมและคาดหวังบางอย่างเอาไว้ต่างหาก
พรุ่งนี้เผาตอนบ่ายโมงนะครับ หลังจากนั้นทนายความเชิญทุกคนที่บ้านใหญ่
หญิงสาวอีกคนที่ยืนใกล้ๆกันตารีบแทรกว่า เปิดพินัยกรรมเสียทีก็ดีค่ะ ไม่งั้นเดี๋ยวเกิดมีใครแอบเม้มเอาของมีค่าในบ้านไปก็ยุ่งกันหมด สมบัติพี่เพชรก็ต้องให้คนในครอบครัวดูแลถึงจะถูกนะคะ
ปวริศสะท้อนใจจนพูดไม่ออกไปชั่วขณะ ศพยังไม่ทันเผาไม่เคยมีใครดูดำดูดี ครั้นพอยกเอาเรื่องผลประโยชน์ขึ้นมาใครต่อใครก็ตาลุกวาวกันถ้วนหน้า
คนที่ถูกกล่าวหาว่าจะแอบหยิบข้าวของไปก็ไม่มีใครอื่นนอกจากเขาที่เดินเข้าออกบ้านใหญ่ได้เพียงผู้เดียวหลังจากเจ้าของที่แท้จริงประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิตลงระหว่างนำส่งโรงพยาบาล
กันตาพาญาติๆกลุ่มโตผละจากไปเมื่อได้ยินเรื่องนัดหมายเปิดพินัยกรรมที่ตนเองอยากรู้สมใจแล้ว
ชายหนุ่มยืนเคว้งอีกครั้งอย่างคนที่ทำอะไรไม่ถูกเมื่อทั้งศาลากลับคืนมาสู่ความว่างเปล่าอีกหน
...เหมือนตลอดหลายวันที่ผ่านมา
แม้ใครจะอ้างว่าคนตายโหงควรเผาโดยไวแต่ชายหนุ่มก็ยืนยันว่าจะจัดงานสวดให้ครบเจ็ดวันแม้ว่างานเหล่านั้นจะต้องควักกระเป๋าตัวเองก็ตามที เขาหมุนกายเดินกลับไปยืนที่เบื้องหน้าโลงศพและลดสายตาลงจับแค่รูปภาพใกล้ตัวก่อนยิ้มกร่อยๆ
ถ้าไม่ชอบให้ตั้งรูปนี้ก็ขอโทษทีนะครับคุณเพชร มันฉุกละหุกไปหมด...คุณเพชรเสียกะทันหันเหลือเกินนี่นา เขาพึมพำเหมือนคนบ้าที่เพ้อเจ้อไปเรื่อยเปื่อย
จะต่างกันก็แต่ว่าปวริศรู้ดีว่าเขากำลังสร้างร่างสมมุติของใครอีกคนที่คุ้นเคยขึ้นมาในจิตใจ
ภาพถ่ายในกรอบขาตั้งสูงมองมาเหมือนจะจ้องด้วยสายตากล่าวหาในที...หญิงสาววัยยี่สิบเจ็ดผิวนวลเนียนในชุดราตรีสีม่วงประดับดิ้นพราวพรายโดดเด่น เส้นผมเกล้าสูงเผยวงหน้ารูปไข่แต่งแต้มคมคาย มองผาดๆราวกับว่าภาพนี้เจตนาเอานางแบบที่ไหนสักคนมายืนจัดท่า ทว่าปวริศเท่านั้นที่รู้ดีว่าต่อให้ถ่ายออกมาจากมุมไหนๆเพชรกะรัตก็จะยังคงความสง่าสะดุดตาอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของหล่อนเอาไว้
ผิวสีแทนสวยดูผุดผาดเมื่อมองไล่เลยไปยังลาดไหล่ได้สัดส่วน ใบหน้าที่เชิดน้อยๆนั่นเสมือนทำให้อดคิดไม่ได้ว่าคนในรูปดูเย่อหยิ่งไว้ตัวไม่มากก็น้อย...หากก็ยังกลายเป็นความงามสะดุดตาประการหนึ่งที่ใครๆอดมองซ้ำไม่ได้อยู่ดี
นักข่าวคนไหนเคยบอกเขาไว้กันนะ ว่าเพชรกะรัตเป็นสาวสังคมคนเดียวที่ไม่พิสมัยเครื่องประดับใดๆและหล่อนก็ยังคงดึงดูดสายตาได้เสมอเมื่อย่างกรายเข้ามาท่ามกลางแสงไฟที่สาดส่องจนทุกคนเผลอไผลเหลียวมองอย่างประทับใจไม่วางตา
ชายหนุ่มกล่าวสืบต่อไปอย่างแช่มช้าคล้ายรำพึงกับตัวเอง ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่อยากเชื่ออยู่ดีว่าคุณเพชรตายแล้ว เมื่ออาทิตย์ก่อนคุณเพชรยังโทรหาผมตอนตีสองอยู่เลยจำได้ไหมครับ...คุณเพชรรับปากไปเดินแฟชั่นโชว์งานของคุณหญิงกมลแล้วก็ไปฉลองต่อกับเพื่อนๆที่ผับ แล้วโทรมาให้ผมไปรับตอนตีสองน่ะ
เป็นเรื่องปกติสำหรับเขามานานหลายปีที่จะถูกปลุกกลางดึกให้ลุกจากนิทรารมย์อันแสนสุขเพื่อเรียกหา ปวริศอยากจะโกรธแต่ก็ทำไม่เคยสำเร็จเพราะนิสัยส่วนตัวเขานั้นไม่ใช่คนคิดมากอะไรนักตราบเท่าที่เพชรกะรัตยังคงจ่ายค่าจ้างอย่างงามเพื่อให้เขาเป็นคนที่หล่อนใช้สอยไหว้วานได้ทุกเรื่อง
พอผมไม่ไปคุณเพชรก็โกรธใหญ่แล้วบอกว่าจะขับรถไปทะเล เขาทอดถอนใจอย่างสลดกับสิ่งที่เกิดขึ้น ผมเตือนแล้วเตือนอีกว่ามันอันตรายแต่คุณเพชรก็ไม่เคยฟัง...บางทีถ้าวันนั้นคุณเพชรไม่รั้น... ถ้อยคำที่จะพูดพล่ามต่อขาดหายไปเมื่อความรู้สึกบางอย่างจุกแน่นในอก จิตใจยิ่งตื้อตันเมื่อยิ่งพิศวงหน้าสวยงดงามของคนในภาพที่ไร้ปฏิกิริยาโต้ตอบ
ปวริศยกมือคลึงศีรษะตนเองเพื่อหวังคลายอาการปวดตุบๆที่กำลังรุมเร้าจากการพักผ่อนไม่เพียงพอ เสียงฝีเท้าเบื้องหลังทำให้เขาลดมือลงและหันไปมอง
อ้าว! คุณยังไม่กลับหรือครับ ลุงว่าจะมานอนเฝ้าศพให้เหมือนทุกคืน ชายชราที่เดินกระเย้อกระแย่งมานั้นเป็นคนของทางวัด
กำลังจะกลับครับลุง
ชายหนุ่มหยิบกระเป๋าเปิดเลือกเอาธนบัตรขึ้นมาหลายใบส่งให้พลางว่า ผมให้พิเศษ...ฝากดูธูปเทียนจุดต่อเนื่องอย่าให้ขาดนะครับ
ครับคุณ คนรับเงินยกมือไหว้ท่วมหัวรีบรับหนักแน่น
มือนับเงินที่ได้มา ปากก็ยังอดไม่ได้ขณะเล่าเรื่อยเปื่อย
เมื่อวานนี้ผมก็จุดธูปดอกต่อดอกเหมือนกันนะ แต่พอดึกมานี่แป๊บเดียวธูปก็หมด ผมแปลกใจเลยลุกมานั่งเฝ้าดูจริงๆจังๆ แหม...คุณผู้หญิงเธอคงมาล้อผมเล่น เทียวเป่าธูปสว่างวาบๆอยู่ตลอดทั้งที่ลมก็ไม่มีพัดเข้ามาในศาลาสักนิด เล่นเอาผมขนลุกไปหมดเลยเชียว ถ้าไม่เพราะว่าเคยเจอแบบนี้มาหลายศพนะคงเผ่นป่าราบเหมือนกัน ชายชราหัวเราะหึหึในลำคอ
ปวริศหันไปมองรูปถ่ายแล้วสองจิตใจไม่รู้ว่าควรจะเชื่อดีหรือไม่ สุดท้ายเขาจึงปัดเป่าเรื่องเล่าไร้สาระนั่นออกจากสมองแล้วบอกตนเองว่าคนเฝ้าศพคงหวังเรียกร้องความสนใจขอเพิ่มรางวัลอีก ชายหนุ่มจึงตัดบทด้วยการกล่าวลาและเดินจากมา
ยังแว่วเสียงพึมพำของชายชราลอยลมตามมาเชิงย้ำว่าทั้งหมดนั้นคือเรื่องจริง...
ล้างเท้าก่อนเข้าบ้านนะพี่ริศ เสียงกำชับงัวเงียดังจากคนที่เปิดประตูรั้วออกรับ หากยังไม่วายปิดท้ายว่า แม่สั่งมา...ไปงานศพนี่เขาถือ
ใครถือ ร่างสูงที่หมุนกายกลับไปล็อกกุญแจและตรวจดูให้แน่ใจว่าแน่นหนาถามเชิงแหย่
ทาวเฮ้าส์สองชั้นหลังเล็กนี้มีพื้นที่ไม่กี่สิบตาราวาแต่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงผู้เป็นบิดาที่จากไปเมื่อหลายปีก่อน แม้จะเพิ่งมาผ่อนหมดตอนที่ปวริศได้มาทำงานกับเพชรกะรัตแล้วก็ตามที
พ่อถูกยิงตาย...อาชีพตำรวจที่ถูกโอนย้ายไปยังพื้นที่อันตราย
ปวริศรับรู้อย่างเข้าใจว่านับแต่นั้นมาเขาจำเป็นต้องกลายเป็นหลักยึดแก่ครอบครัว มันไม่ได้กดดันให้เขาเปลี่ยนแปลงไป เพราะครอบครัวเขาเองก่อนหน้านี้ก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไรนักหนา ภาระอาจเพิ่มขึ้นแต่ทุกคนก็กัดฟันสู้ทนจนผ่านพ้นมาได้ด้วยดี อีกแค่ปีเดียวน้องสาวของเขาก็จะเรียนจบรับปริญญาให้มารดาได้ชื่นใจ
รุ้งพรายปิดปากหาวอีกรอบก่อนคล้องแขนพี่ชายกึ่งเอาใจ
รู้น่าว่าพี่ริศไม่เชื่อเรื่องแบบนี้ แต่แม่เขากลัวนี่นาจะทำยังไงได้
คนตายนี่คุณเพชรนะ เขาย้ำ
อีกฝ่ายทำหน้าชอบกล จำได้...จำได้ดีด้วยว่าตอนยังไม่ตายเธอร้ายขนาดไหน แบบนี้สงสัยถ้าไม่ไปเกิดไวจะเฮี้ยนน่าดู
ปวริศได้แต่เพียงส่ายหน้าอย่างอ่อนใจในอคติที่สาวน้อยข้างตัวมีมาช้านาน
ชายหนุ่มปลดแขนออกเดินเลยไปเปิดก๊อกน้ำริมสนามหญ้าขนาดเล็กเท่าแมวดิ้นตาย ถอดรองเท้าออกล้างเท้าพอให้พ้นๆไป ปากก็อดถามไม่ได้ว่า พรุ่งนี้เขาจะเผา ตอนเช้าก่อนไปเรียนเราถามแม่ให้หน่อยได้ไหมว่าจะไปวัดกับพี่หรือเปล่า
คงยากค่ะ วันก่อนที่ไปนั่งฟังสวดแม่ยังบ่นว่าขนลุกวาบๆเหมือนมีคนมาเดินเฉียดผ่านเป็นระยะ พี่ริศก็รู้ว่าแม่เขาขวัญอ่อนกับเรื่องพวกนี้นะ อีกอย่าง...รุ้งเห็นแม่เป็นไข้ตัวรุ่มๆด้วยล่ะ เป็นห่วงไม่อยากให้ไปเท่าไหร่เหมือนกัน
อ้าว! เป็นอะไรไปล่ะ
ความกังวลจุดขึ้นในสายตา... ไม่บ่อยนักที่มารดาจะล้มป่วยลง ก่อนนี้ปวริศเคยชินกับการเห็นแม่ทำงานหนักมาตลอดชีวิต แต่เมื่อเขาพอจะช่วยแบ่งเบาภาระทางบ้านไปได้มากเขาก็ขอร้องแกมบังคับให้ท่านหยุดพักผ่อน ในระยะหลังนี้คุณทิพย์จึงไม่ค่อยได้ทำอะไรมากไปกว่าดูแลงานบ้านและคอยจัดหาของกินเอาไว้รอท่าลูกๆกลับมา
เพราะสภาพแวดล้อมที่เติบโตมาแม้จะขาดบิดาทว่าคนที่เหลือก็ผูกพันกันมากมายจนยากจะเกิดช่องว่าง ปวริศไม่เคยเกิดอาการของเด็กบ้านแตกเหมือนใครอีกหลายคนที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน
ไม่มีคำตอบจากน้องสาวนอกจากท่าทีแบ่งรับแบ่งสู้
คงเครียดมั้ง เรื่องพี่ริศตกงาน
ความตายของเพชรกะรัตทำให้ทุกอย่างรอบกายปวริศกำลังจะเปลี่ยนแปลงไป...
...ไม่มีเจ้านายก็ย่อมต้องไร้การจ้างงาน
ถึงอย่างนั้นก็ทราบโดยทั่วกันว่าสถานการณ์ว่าจ้างของเขาจะสิ้นสุดลงต่อเมื่อศพถูกเผาเสร็จสิ้น ขนาดมีคนค่อนแคะนินทาว่าที่ปวริศยังยื้อไม่เผาทันทีเพราะเสียดายรายได้ หากยื้อเอาไว้สักร้อยวันสงสัยตอนนั้นเขาคงโดนประณามอีกยาวจากคนที่ไม่เคยรู้อะไรเลย
แต่รุ้งพรายก็ยุติการเอ่ยถึงอนาคตเพียงเท่านั้น หล่อนรู้ดีว่าการทำให้พี่ชายกังวลไม่ส่งผลดีต่อใคร อีกไม่ช้าปวริศคงหาทางขยับขยายต่อไปได้เองเพราะเขาค่อนข้างกว้างขวางรู้จักคนมากมาย
เผาเสียทีก็ดีนะพี่ริศ คุณเพชรจะได้ไปที่ชอบๆ รุ้งพรายตัดบทโดยไว แวบหนึ่งที่ใจปวริศต่อคำถามกึ่งเล่นกึ่งจริงขึ้นมาในใจว่า
แล้ว ที่ชอบ ของเพชรกะรัตจะเป็นที่ไหนกัน...
Create Date : 11 สิงหาคม 2551 |
|
6 comments |
Last Update : 18 สิงหาคม 2551 20:41:56 น. |
Counter : 475 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) 11 สิงหาคม 2551 19:38:31 น. |
|
|
|
| |
โดย: รักดี IP: 118.172.70.185 12 สิงหาคม 2551 11:19:19 น. |
|
|
|
| |
โดย: รักดี (อีกรอบ) IP: 118.172.70.185 12 สิงหาคม 2551 11:21:54 น. |
|
|
|
| |
โดย: วิช IP: 61.91.9.174 12 สิงหาคม 2551 12:56:55 น. |
|
|
|
| |
โดย: พิญาดา IP: 125.25.189.168 12 สิงหาคม 2551 19:01:01 น. |
|
|
|
| |
โดย: ploy666 IP: 58.147.42.58 13 สิงหาคม 2551 15:09:16 น. |
|
|
|
|
|
|
|
Location :
กรุงเทพฯ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
|
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]
|
หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก https://ploy666.bloggang.com
ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา) นามปากกา : สิตาปางค์ ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5 ออกแบบปก : Little thing
ราคา : 850.- บาท สินค้าหมด
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28
สั่งซื้อที่ : .........
หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ
** ***********************************
ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ นามปากกา : ลายน้ำ ราคา : 259.- บาท สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)
สินค้าหมดค่ะ
****************
นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง
รอยทรายบนลายรัก ...และ... กระต่ายในใจจันทร์
***********
เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า ทนไม่ไหวแล้ว... จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ
โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด
เป็นกำลังใจให้ค่ะ...
Ploy666.
************
หมายเหตุสักนิดค่ะ...
ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย
ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ
**************
เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย
|
|
|
|
|
|
|
ปวริศท่าทางน่ารัก อิๆ