Group Blog
 
 
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
18 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 

ความรักริมดาว 02

ความรักริมดาว 02
ผู้แต่ง ploy666 (สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย)


สาวมาดห้าวที่ประกาศตัวเป็นทอมบอยเต็มพิกัดยิ้มกว้างเดินลิ่วๆมาแต่ไกล ปวริศเงยมองอย่างยินดี แม้จะเป็นงานศพวุ้นเส้นก็ยังคงเอกลักษณ์ตนเองเอาไว้เต็มเหยียดโดยไม่สนใจสายตาใคร นับจากผมซอยสั้นและเสื้อเชิ้ตสีดำกับกางเกงยีนดูทะมัดทะแมง

“นึกว่าจะมาไม่ทัน” ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก

“ไม่มาได้ไง ยิ่งได้ยินว่าเสร็จงานแล้วจะเปิดพินัยกรรมยิ่งต้องมา”
วุ้นเส้นประกาศจุดยืนว่าจะไม่ปล่อยให้ปวริศโดดเดี่ยวเดียวดายกลางฝูงแร้งที่รุมทึ้งสมบัติผู้ตาย และโดยความสัมพันธ์ส่วนตัวที่เป็นเพื่อนกันมานานก็ทำให้ยากจะปฏิเสธคำขอร้องกลายๆ

“ผมก็ไม่รู้ว่าทำไมคุณเพชรต้องระบุชื่อผมในพินัยกรรมด้วย จริงๆคิดว่าเผาแล้วก็คงพ้นหน้าที่ไป” เขาชวนคุยขณะที่ออกเดินจากลานจอดรถไปยังเมรุที่แขกเหรื่อจำนวนบางตา

“ดูจากนิสัยคุณเพชรคิดว่าคงจะแบ่งโบนัสให้นายไปตั้งตัว ถึงยังไงเธอก็น่าจะรู้ว่านายทำงานหนัก”
มีคนน้อยมากที่อดทนกับเพชรกะรัตได้ยาวนานเท่าปวริศ...

“พี่วุ้นเส้น ลองคิดดูนะต่อให้ผมได้เงินไปสักก้อนหนึ่งสงสัยคงต้องโอนคืนให้ญาติๆเธอ ไม่งั้นมีการทวงกันจนบ้านแตกแน่นอน...ว่าแต่ที่ดินที่คุณเพชรให้พี่วุ้นเส้นไปดูให้ที่ปราณบุรีว่ายังไงบ้างครับ”

“ที่ติดริมทะเลสวยมากเลย” คนเล่าออกอาการเสียดายแทน “คุณเพชรไม่อยู่แบบนี้พี่ก็ต้องโอนขายให้คนอื่นไปน่ะนะ ริศอยากได้ไหมล่ะพี่ไม่คิดค่านายหน้าเลยเอ้า แต่ที่สวยมันก็แพงเว้นแต่ว่าจะพอมีเงินเก็บก้อนใหญ่ ที่พี่มานี่ก็เพราะว่าถ้าคุณเพชรเธออารมณ์ดีพอจะเจียดเงินให้ริศตั้งตัวสักก้อนพี่จะยุให้ซื้อไว้ปลูกบ้านพักริมหาดให้เช่า เผื่อแก่จะได้มีที่พักผ่อน”

“ไม่ไหวมั้งครับ รุ้งก็ยังเรียนไม่จบ...”
ภาระยังรออีกมากมาย

แม้จะรู้ว่าวุ้นเส้นเป็นนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์มือฉมังที่เพชรกะรัตมักสั่งให้หาที่สวยๆตามที่หล่อนต้องการมาให้ แต่สำหรับปวริศทุกอย่างที่ได้รับการเสนอมามันก็ยังฟังดูเกินตัวไม่ใช่น้อย

เขารู้ว่าที่ดินสวยๆที่วุ้นเส้นได้มานั้นเจ้าของมักร้อนเงิน

การได้มาขายไปกระทำกันอย่างรวดเร็ว เหมาะสำหรับคนที่มีเงินก้อนพอเพียงอยู่ก่อนแล้วโดยไม่คิดว่าต้องนำไปใช้อะไรอีกในภายหน้า
ยิ่งเพชรกะรัตมาด่วนจากไปแบบนี้ชีวิตเขาก็พบกับความสับสนอีกครั้งแน่นอน

“แล้วรถที่เอาไปเข้าศูนย์เมื่อไหร่เสร็จ” คู่สนทนาเปลี่ยนเรื่องเมื่อมาหยุดยืนในร่ม

เป็นบ่ายที่แดดแรงกล้าจนทุกคนบ่นพึมพำ

ปวริศเงยมองไปทางเมรุพร้อมขมวดคิ้วคล้ายไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง ปากก็บอกว่า “ช่างบอกให้ไปรับได้เลยครับแต่ผมยังไม่ว่างไปเอามาสักที ไม่รู้มันเป็นอะไรอยู่ดีๆก็สตาร์ทไม่ติดขึ้นมาเฉยๆ ช่างยืนยันว่าไม่ได้เสีย ที่ศูนย์ลองเครื่องเขาก็ว่ารถยังดีอยู่เลย”

“ดันมาเป็นช่วงงานศพเสียด้วยสิ...นั่นมองหาใคร” ประโยคท้ายเริ่มเอะใจว่าผิดสังเกต

คนถูกถามทำหน้ายุ่งเบือนหน้ากลับมาถอนใจ
“ไม่รู้เหมือนกันครับ เห็นเงาแวบๆคงจะเป็นคนแถวนี้เดินอยู่หลังเมรุ ผมแค่กลัวว่าจะแอบปีนไปเล่นตรงที่มันอันตราย”

“คงเด็กวัดนั่นแหละ” วุ้นเส้นเลิกใส่ใจ

ทว่าปวริศยังไม่อาจสลัดความกังวลพ้นไป ครู่หนึ่งที่เขารู้สึกคล้ายถูกคนมองตามเมื่อหันหน้าไปดูก็พบเพียงเงาสีจางๆที่ทอดยาวกับพื้นเป็นโครงร่างโปร่งระหง...เงายาวที่ทอดออกมาจากหลังเมรุตอนที่ตะวันคล้อยต่ำจากกึ่งกลางฟ้าเพียงนิดเดียว ซ้ำฟ้ายังโปร่งพอให้แดดสาดแสงจ้ากระจายเต็มฟ้านี่น่ะนะ
...มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน!




รถยนต์คันแล้วคันเล่าแล่นเข้ามาในอาณาบริเวณคฤหาสน์หลังมโหฬารที่ตกแต่งเป็นสวนสวยรอบบ้าน มีสระว่ายน้ำส่วนตัวและทางเดินเล่นชื่นชมบรรยากาศที่จำลองเอาอุทยานดอกไม้นานาชาติมาไว้ที่นี่ ปวริศยืนทอดสายตามองใครหลายคนที่เพิ่งลงจากรถและเดินตรงมาด้วยสีหน้ากระหยิ่มยิ้มย่อง
กระแสข่าวลือที่ว่าเพชรกะรัตจะแบ่งทรัพย์สินมูลค่ามหาศาลของตนเองให้ทั่วถึง โดยระบุรายชื่อผู้มีส่วนในพินัยกรรมฉบับนี้เอาไว้มากมายเหมือนกวาดรายชื่อคนทั้งตระกูลมาใส่ไว้ทำให้ทุกคนลำพองใจ
จะมากน้อยอย่างไรก็ต้องได้แน่นอน...

เมื่อคิดเสียแบบนี้เรี่ยวแรงที่เคยมีก็ยิ่งเพิ่มทวีขณะเดินตัดสนามหญ้าและแปลงไม้ดอกมาโดยไม่สนใจทางโรยกรวดที่อ้อมวกเวียน
ปวริศทอดตามองดอกกุหลาบสายพันธุ์ฮอลแลนด์ที่เพิ่งเอาลงดินไม่กี่วันก่อนโดนแหวกย่ำเหยียบมาเป็นทางอย่างเสียดายสุดฤทธิ์ ใครจะรู้บ้างว่าเขาอุตส่าห์ไปเสาะหามาจากตัวแทนจำหน่ายเกือบสิบเจ้า กว่าจะได้ขนาดดอกโตเต็มที่และสีสันที่เพชรกะรัตสั่งการ แม้วาระการบานของมันจะอิงอาศัยอากาศหนาวเย็นและที่กรุงเทพฯไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่นัก แถมเพชรกะรัตยังคร้านจะเอาใจใส่ขนาดสร้างโรงเรือนติดเครื่องปรับอากาศให้
ที่ตายก็ตายไปที่เหลือรอดก็ปลูกไว้ หล่อนก็พอได้เอาไว้คุยข่มใครๆว่าที่บ้านมีดอกไม้สายพันธุ์สวยงามปลูกไว้เช่นกัน

ชายหนุ่มไม่อาจทำสิ่งใดได้นอกจากยิ้มสู้และยกมือไหว้เพราะอ่อนอาวุโสกว่าบางคนที่มาเยือน
“สวัสดีครับ”

กันตาปรายหางตาชำเลืองมองเล็กน้อยก่อนเชิดหน้าแทบเป็นสะบัดหนี อีกแขนยื่นไป ‘จิก’ เพทายผู้เป็นสามีเอาไว้แน่น กิริยาอาการเหมือนจะข่มกันในทีนั้นเป็นที่ชินตาสำหรับญาติๆคนอื่น

“ทนายมาหรือยัง” คำถามจากเจ้าของเสียงแหลมเล็กที่แล่นนำมาก่อนตัว เรียกความสนใจจากหลายคนได้พอสมควร

“ไปถึงก็เห็นเองนั่นแหละ จะถามทำไมกัน” อดไม่ได้กันตาจึงหันมาบอกอย่างขวางๆ

ผู้มีศักดิ์เป็นหลานสาวอีกคนที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมานานพอสมควรทำอาการเบ้หน้า

“ดาด้าแค่อยากรู้” ดุจรดาเถียงฉะฉานอย่างคนที่เชื่อมั่นในตัวเองสูงลิบ หล่อนอยู่ในวัยยี่สิบต้นๆเพิ่งเรียนจบปริญญาและเข้าทำงานในบริษัทเล็กๆแห่งหนึ่งตำแหน่งพนักงานโฆษณาประชาสัมพันธ์
โดยศักดิ์แล้วดุจรดาเป็นญาติผู้น้องของเพชรกะรัต

ปวริศมองตามการแต่งเนื้อแต่งตัวที่ค่อนข้างหวือหวาด้วยสูทเข้ารูปสีดำแต่กระโปรงสั้นอันเป็นชุดฟอร์มนั้นที่เจ้าตัวสวมใส่อย่างทึ่งจัด
นี่ขนาดญาติผู้ใหญ่มากันคลาคล่ำดุจรดายังไม่สนใจสายตาตำหนิติเตียนเหล่านั้น เนื้อตัวอวบอัดที่เบียดแน่นในชุดรัดติ้วนั้นทำให้เขาต้องรีบเบือนหลบไปยังใบหน้าที่แต้มเครื่องสำอางอย่างสวยงามดูดี หากนับไปแล้วดุจรดาเป็นญาติที่เพชรกะรัตเคยเรียงลำดับว่าอยู่ปลายแถว แต่เวลานี้ชายหนุ่มก็คิดหาข้อสนับสนุนไม่ออกว่าทำไมเพชรกะรัตจึงระบุให้ญาติผู้น้องที่ตนเองแสนจะไม่ชอบหน้ารายนี้มีส่วนรับทรัพย์สินจากกองมรดกไปเสียได้
หากจะพูดว่าทุกคนที่ยืนอยู่ต่อหน้าเขาตอนนี้เป็นผู้ที่เคยมีปัญหากับเพชรกะรัต บ้างก็ถึงขั้นประกาศปาวๆตัดขาดกันมาแล้วก็ไม่ผิดนัก
ใครกันจะเข้าใจผู้หญิงคนนั้น...

ขนาดเขารู้จักหล่อนมาห้าปียังไม่อาจบอกได้ว่าเข้าอกเข้าใจสิ่งที่อีกฝ่ายทำ

...เป็นห้าปีที่แหว่งวิ่นเมื่อนึกว่าเพชรกะรัตใช้ชีวิตในช่วงหลังที่เมืองนอกมากกว่าจะกลับมาแผ่นเกิด สาเหตุก็เพราะความขัดเคืองกับญาติๆเป็นสำคัญ

วุ้นเส้นเดินกลับออกมาสมทบปวริศพลางเอ่ยเชื้อเชิญราวกับเป็นเจ้าของบ้านเสียเองว่า
“คุณทนายรอทุกท่านที่ห้องรับแขก เชิญได้เลยฮะ ทุกอย่างเตรียมไว้พร้อมแล้วยกเว้น...อาวุธ” ประโยคท้ายไม่วายทำหน้าทะเล้น

กันตามองเหมือนอยากจะค้อนวงโตแต่ก็ไม่ได้ทำ

ทุกคนพากันเดินไปยังทิศทางที่จัดไว้สำหรับการประชุมด้วยความรู้สึกคาดหวังล้นปรี่ มีแต่ปวริศคนเดียวที่ถอนหายใจอย่างปลงๆกับเรื่องราวตรงหน้า

“อ้าว! มายืนนี่ทำไม เข้าไปเร็วๆสิริศ มีชื่อนายอยู่ในพินัยกรรมคุณเพชรด้วยนี่นา”

“ผมกลัวใจญาติๆเขาน่ะสิครับพี่วุ้นเส้น แห่กันมาเยอะขนาดนี้ขืนลูกจ้างอย่างผมได้อะไรไปสักชิ้นมีหวังถูกฉีกอกเป็นริ้วๆแน่”

“ทำใจเถอะ ใครจะไปรู้ใจคุณเพชร บางทีนี่อาจเป็นสำนึกที่ดีสุดท้ายที่เธอจะมีแล้วล่ะ”

ปวริศย้อนถามอย่างงงๆ “สำนึกอะไรครับ”

“ก็สำนึกว่านายลำบากมามากแค่ไหนไง พี่ไม่อยากจะนินทาคนตายแต่เราก็รู้กันดีว่าคุณเพชรเธอร้ายเอาการขนาดไหนน่ะ” วุ้นเส้นสรุปด้วยความมั่นอกมั่นใจ

คนฟังผ่อนลมหายใจอย่างตั้งสติมั่น ก้าวนำไปด้วยความเป็นตัวของตัวเองที่กลับคืนมา
แต่แปลกที่เขากลับสังหรณ์ใจว่าพินัยกรรมฉบับนี้จะทำให้ชีวิตเขาเปลี่ยนไป!




ห้องรับแขกโอ่อ่าตกแต่งสวยงามในเครื่องเรือนย้อนยุคสร้างความขรึมขลังอลังการที่ทำให้ผู้มาเยือนรู้สึกราวกับว่าตนเองตัวเล็กกระจ้อยร่อยลงเพราะโดนข่มด้วยตู้ไม้สักและชุดโซฟาแบบหลุยส์แท้ของเก่าแก่โบราณล้ำค่า

ทนายความสูงวัยนั่งเด่นเป็นประธานที่หัวโต๊ะ
กันตาเดินรี่ไปแย่งเก้าอี้ทางขวามือปักหลักคู่กับเพทายด้วยความกระหายใคร่รู้ข้อความในแฟ้มที่วางปิดสนิทนิ่งบนโต๊ะ ดุจรดาแอบเบ้หน้าก่อนขยับมานั่งอีกฝั่งให้ไกลกันตา...ญาติคนอื่นๆแม้จะขวางตากับการวางตัวของหญิงสาวแต่ดุจรดาก็เข้าใจว่าคงรักษามารยาทไม่ติโจ่งแจ้งแบบกันตาแน่นอน
คนอื่นๆแยกย้ายทรุดการลงนั่งล้อมรอคอยอย่างกระตือรือร้น ส่วนที่มาช้าก็ยินยอมยืนฟังอย่างสงบเสงี่ยมรวมทั้งตัวปวริศและวุ้นเส้นที่เดินไปหยุดฟังห่างๆเพราะคิดว่าคงไม่มีความสำคัญในส่วนแบ่งใดๆมากนัก

“มาครบกันหรือยังคะ คุณทนายนัดมากี่คน” กันตาเป็นคนออกหน้าถามไถ่

ผู้ถูกถามทวนรายชื่อตามเอกสารในมือหับจำนวนคนที่ยืนอยู่ภายในห้องนั้นครู่ใหญ่จนแน่ใจและพยักหน้ารับ

“ทุกคนก็คงทราบดีแล้วว่าผมเป็นทนายความของคุณเพชรกะรัต วันนี้ผมนัดทุกท่านที่มีรายชื่อในพินัยกรรมฉบับล่าสุดตามที่คุณเพชรกะรัตระบุเอาไว้เพื่อแจ้งให้ทราบถึงรายละเอียดทั่วกัน” เขาหันไปชูมือโบกเรียกคนที่ลับล่อๆอยู่หน้าประตูให้เข้ามาพลางแจ้งว่า

“ก่อนหน้านี้ผมสอบถามทุกท่านแล้วว่ายินดีและเต็มใจมาไหม เพราะคุณเพชรกะรัตระบุไว้เพียงว่าใครมาก็ได้สิทธิ์ตามที่เธอแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรไว้ ส่วนใครที่ไม่มาก็ถือว่าสละสิทธิ์ให้ผมเอามรดกส่วนนั้นไปบริจาคเป็นสาธารณกุศลตามเห็นสมควร แต่เท่าที่เห็นทุกท่านก็เต็มใจมากันทั้งสิ้นแม้จะยังไม่ทราบเงื่อนไขในพินัยกรรม”

ดุจรดาแย้มยิ้มอ่อนน้อมขณะเอ่ยขึ้นว่า
“คุณทนายขา...คนทั้งตระกูลเขาก็รู้ทั้งนั้นแหละค่ะว่าพี่เพชรรวยขนาดไหน สมบัติคุณทวดทางฝั่งคุณแม่พี่เพชรมากมายก่ายกองใช้ไปชั่วลูกชั่วหลานก็คงไม่หมดถ้าไม่เจตนาผลาญเอาจริงเอาจัง เราแค่ไม่คิดว่าพี่เพชรจะใจดีขนาดอยากแจกญาติๆเพราะเพิ่งรู้ว่าตัวเองตายไปก็เอาไปด้วยไม่ได้”

“เรื่องอื่นผมไม่ทราบเหมือนกันครับ ผมแค่ทำตามข้อกฎหมายที่ยังต้องปฏิบัติตามเอกสารสัญญาว่าจ้างเท่านั้นเอง ก่อนอื่นผมคงต้องให้ทุกท่านรับเงินที่ลูกน้องผมจะเดินแจกให้จนทั่วก่อนนะครับแล้วเราจะพูดถึงข้อความในพินัยกรรมกันต่อเลย”

“เงินอะไรคะ” ดุจรดาทำสีหน้าแปลกใจ หากก็ยื่นมือออกรับธนบัตรเป็นคนแรกอย่างว่องไวราวกับเป็นปฏิกิริยาที่ตั้งระบบอัตโนมัติ

ทนายความไม่ได้ตอบคำถามนั้นหากแต่หยิบเอาแฟ้มเอกสารพินัยกรรมขึ้นมาถือไว้และอ่านทวนขณะรอคอย

ปวริศเองก็เป็นหนึ่งในผู้ถูกแจก เขาทำหน้างงเมื่อก้มลงมองแบงค์ร้อยสีแดงในมือก่อนจะหันไปยื่นให้วุ้นเส้นซึ่งไม่ได้รับไว้เพราะอธิบายว่ามาเป็นเพื่อนปวริศเท่านั้น

“คุณเพชรทำอะไรอีกล่ะ” วุ้นเส้นทำหน้างงๆ
พยายามพลิกหาอะไรบางอย่างที่น่าจะซ่อนเอาไว้แต่ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ

ผู้เป็นเจ้าของธนบัตรส่ายหน้าปฏิเสธการรู้เห็นด้วย เอียงมากระซิบพอได้ยินกันสองคน “ไม่รู้เหมือนกันนะพี่วุ้นเส้น แต่ที่แน่ๆห้องนี้มีแต่คู่กรณีคุณเพชรทั้งนั้น ผมสังหรณ์ใจว่าพินัยกรรมคงไม่มาดี”

“ไม่มั้ง...”

“จริงๆนะพี่ ผมไม่คิดว่าคุณเพชรจะปลงตกแล้วกลับลำมารักญาติพี่น้องได้หรอก ก็ปีที่แล้วเธอยังอาละวาดกลางร้านอาหารเพราะปะทะคารมกับคุณกันตาอยู่เลย อย่างคุณดาด้านั่นก็เคยวีนแตกเพราะคุณเพชรโฉบเอาคู่ควงเธอไป”

ไม่อยากจะบอกเลยว่าแต่ละคดีนั้นตกเป็นข่าวดังแค่ไหนตามหน้าสื่อประเภทต่างๆ

เพชรกะรัตกลายเป็นดาวจรัสแสงของสังคมไฮโซโก้หรูและก็เป็นเหมือนสัญลักษณ์ของคนรวยที่ทำอะไรไม่ไว้หน้าใครเช่นกัน

ปวริศยอมรับว่าเขาเองก็ไม่ใช่คนดีเท่าไหร่
ทุกวันที่ผ่านมาเขายอมทำตามคำสั่งเพชรกะรัตเพียงเพราะมองว่ามันเป็นหน้าที่และนำมาซึ่งรายได้เลี้ยงครอบครัว...

“เฮ้ย!” ชายหนุ่มสะดุ้งเฮือกเหลียวขวับไปข้างหลัง

“มีอะไรริศ” วุ้นเส้นหันตาม

คนอุทานอ้อมมือไปลูบแผ่นหลังพลางทำหน้าพิกล บ่นเบาๆว่า “เหมือนโดนมดกัดน่ะพี่”

“มดอะไร ไม่ได้ยืนชิดอะไรสักหน่อย”

“นั่นสิครับ...”
เขายังไม่วายมองเลยออกไปยังห้องข้างเคียงแต่ก็พบเพียงประตูห้องทำงานส่วนตัวที่ปิดตายเพราะไร้ผู้อยู่อาศัยมาหลายวัน เด็กรับใช้ที่ทำความสะอาดบ้านไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ามาจนกว่าจะแน่ใจว่าสมบัติทุกชิ้นถูกส่งมอบให้เจ้าของใหม่เรียบร้อยแล้ว ปวริศเป็นคนถือกุญแจบ้านหลังนี้ไว้ และเขาแน่ใจว่าหนสุดท้ายที่เปิดบ้านให้เจ้าหน้าที่จากสำนักทนายความตรวจสอบทรัพย์สินเขาก็ปิดประตูหน้าต่างทุกบานสนิท แขกที่มาเยือนวันนี้ต่างก็อยู่รวมกันในห้องโดยเบื้องหลังเขาว่างเปล่า
แต่ความเจ็บแปลบเหมือนโดนคีมแหลมเล็กหนีบเอากะทันหันก็ทำให้เขางุนงงสงสัย

กระทั่งเสียงของทนายความดึงความสนใจเขากลับไปที่เดิมอีกครั้ง

“พินัยกรรมของคุณเพชรกะรัตฉบับนี้ทำขึ้นในขณะที่เธอมีสติสัมปชัญญะครบถ้วนและถูกต้องตามกฎหมายทุกประการโดยมีพยานลงชื่อยืนยัน หากใครมีข้อขัดแย้งในภายหลังสามารถยื่นขอตรวจสอบได้ ดังที่ได้ทราบว่าทรัพย์สินของคุณเพชรกะรัตมีมูลค่ามากมายทั้งในส่วนเงินสด เครื่องเพชร กิจการต่างๆ อสังหาริมทรัพย์ และทรัพย์สินอื่นๆที่ผมได้จำแนกไว้เป็นหมวดหมู่ตามบัญชีรายการในแฟ้มนี้...”

“บอกมาเลยดีกว่าค่ะคุณทนายว่าดิฉันกับครอบครัวได้เท่าไหร่ จะยังไงเพชรก็ต้องเห็นว่าเลือดข้นกว่าน้ำแน่นอน ในสายญาติๆนี่ดิฉันถือว่าใกล้ชิดแกที่สุดเพราะนับตามศักดิ์ทางแม่” กันตาประกาศฉะฉาน

“คุณป้าขา...แต่ถ้านับตามอายุนี่คุณป้าไกลห่างจากพี่เพชรที่สุดเลยนะคะ”
ดุจรดาแสร้งฉอเลาะคะขาหักหน้าจนเรียกเสียงหัวเราะครืนจากใครๆ

ขนาดปวริศที่คิดจะวางตัวเป็นกลางยังอดยิ้มนิดๆไม่ได้

วุ้นเส้นหัวเราะอย่างสะใจ “นานๆจะอยากเข้าข้างคุณดาด้าสักทีนะนี่”

สายตาวาววามนั้นทำให้ปวริศรู้ว่าวุ้นเส้นคงไม่ได้อยากเข้าข้างหากแต่สนใจในแง่อื่นด้วยนั่นแหละ ถึงยังไงนั่นก็เป็นเรื่องส่วนตัวเกินกว่าที่เขาจะเข้าไปก้าวก่ายหากไม่จำเป็นจริงๆ

ทนายความกระแอมไอเรียกร้องความสนใจกลับคืนมา
“ขอประทานโทษครับ เราจะเข้าเรื่องกันต่อเลยดีไหมครับ ทราบว่าหลายท่านเสียเวลามาเพราะเห็นแก่คนตายจริงๆเพราะบางท่านก็ลางานมา”

ดุจรดารับคำอย่างอ่อนหวาน “พูดต่อก็ได้ค่ะคุณทนาย ดาด้าก็อยากรู้เหมือนกันว่าพี่เพชรจะให้อะไรบ้าง คงไม่ใช่ว่าเรียกเรามาแล้วแจกเงินคนละร้อยเป็นค่ารถแล้วให้กลับไปมือเปล่านะคะ”

“บังเอิญ...ใช่...น่ะครับ”

หากความเงียบจะมีเสียง ปวริศก็คงได้ยินมันดังกึกก้องเต็มสองหู...

ทุกคนนิ่งสนิทและเข้าใจว่าเกือบจะไร้กระทั่งเสียงหายใจเพราะความสับสนกับถ้อยคำเมื่อครู่นั้น

ความเงียบขนาดที่เข็มตกสักเล่มน่าจะได้ยินถูกแทรกด้วยเสียงตบฉาดลงบนกระเป๋าถือที่วางอยู่หน้าตัก กันตาผุดลุกด้วยใบหน้าแดงก่ำ

“นี่มันอะไรกันคะคุณทนาย จะล้อเล่นก็น่าจะให้เพลาๆหน่อยหัวหงอกหัวดำนั่งกันหน้าสลอนน่าจะเกรงใจกันบ้าง!”

“คุณ...ใจเย็นๆ” เพทายหน้าเสียขณะพยายามจะฉุดดึงภรรยานั่งลงแต่ไม่สำเร็จ

ปวริศมองไปทางดุจรดา ปฏิกิริยาของสาวสวยร่างเล็กอวบอัดคืออาการนิ่ง ใบหน้าซีดเผือดบัดเดี๋ยวก็กลับแดงก่ำและซีดลงอีกครั้งเหมือนระงับอารมณ์ที่จวนเจียนจะระเบิดตามมา

“บอกมาให้ชัดๆสิคะว่าเพชรให้เอาเงินร้อยเดียวนี่มาแจกเป็นมรดก นี่มันยิ่งกว่าตบหน้ากันชัดๆ!” กันตาสะบัดมือสามีจนกระเด็นหลุดออกไป เนื้อตัวสั่นเทิ้มอย่างโกรธเกรี้ยว

เพชรกะรัตทำเอาคนทั้งห้องเหมือนโดนหยามหมิ่นครั้งยิ่งใหญ่

แต่หล่อนผิดหรือ...ปวริศถามตัวเองและหาคำตอบไม่เจอ เมื่อนึกว่าคนเหล่านี้มารวมตัวกันอยู่นี่เพราะความละโมบทั้งสิ้น ไม่มีใครยินดีกับการมีตัวตนของเพชรกะรัต เมื่อหล่อนจากไปกลับคาดหวังผลพลอยได้ของสิ่งที่หล่อนมีไว้ในครอบครอง

เพชรกะรัตฉีกหน้ากากคนเหล่านี้พร้อมกับสั่งสอนอย่างเจ็บแสบ!

ทว่าทนายความสูงวัยยังคงสงบนิ่งสีหน้าสำรวมระวัง
“ผมแค่ทำตามเนื้อหาที่พินัยกรรมระบุเท่านั้นครับ และอย่างที่บอก...ทุกท่านมาที่นี่ด้วยความเต็มใจของตัวเอง” เขาเน้นย้ำ

“แล้วสมบัติที่เหลือของพี่เพชรล่ะคะ...” ดุจรดาดูจะคุมสติได้ดีขึ้นเมื่อหลุดประโยคนั้นออกมาได้

“เธอยกให้คุณปวริศครับ แต่มีเงื่อนไขว่าเขาต้องย้ายครอบครัวมาอยู่ที่นี่จนครบหนึ่งปีเต็ม ในระหว่างนั้นทั้งครอบครัวจะมีรายได้ต่อเดือนในจำนวนสองเท่าของเงินเดือนปัจจุบันที่คุณปวริศได้รับ และเธอจะมอบเงินทุนก้อนใหญ่ให้อีกสองล้านเพื่อใช้จ่ายทั่วไปรวมทั้งดูแลซ่อมแซมบ้านหลังนี้ เมื่อครบหนึ่งปีจึงจะมีสิทธิ์เต็มที่ในกองมรดกทั้งหมดของเธอ”

วุ้นเส้นหันไปเขย่าแขนอย่างดีอกดีใจ “บุญหล่นทับแล้วริศ เยี่ยมไปเลย!”

“ไม่น่าจะ...” ปวริศไหวตัวทันขยับปากถามทันทีเมื่อนึกได้ “ถ้าผมไม่รับล่ะครับคุณทนาย คุณเพชรระบุเงื่อนไขไว้หรือเปล่า”

“ครับ คุณเพชรกะรัตชี้แจงไว้ชัดเจนว่าคุณปวริศจะต้องจ่ายชำระหนี้เงินกู้คืนเธอเป็นจำนวนเงินเจ็ดแสนสี่หมื่นบาทถ้วน ทั้งนี้เป็นเงินต้นจำนวนสี่แสนบาทส่วนที่เหลือเป็นดอกเบี้ย นี่เป็นยอดรวมจากสามรายการ แม้เธอจะเสียชีวิตไปแล้วแต่เธอโอนสิทธิ์ในการเป็นเจ้าหนี้ให้กับผม พูดตรงๆก็คือเป็นคำขอร้องที่รับปากเธอไว้น่ะครับ ผมมีหน้าที่เป็นตัวแทนเธอทวงถามเกี่ยวกับเงินจำนวนนี้เพื่อนำไปดำเนินการตามเจตนารมณ์ของเธอต่อไป...นี่คือข้อความที่คุณเพชรกะรัตระบุเอาไว้ครับ”

“เฮ้ย! ซวยแล้วไง” วุ้นเส้นอ้าปากค้าง

ปวริศตกตะลึง
พอตั้งหลักไปเขาก็ก้าวยาวๆไปหาทนายความอย่างรวดเร็วด้วยสีหน้าตกอกตกใจ

“ผมไปเป็นหนี้คุณเพชรตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”

“คุณเพชรกะรัตบอกแล้วว่าคุณอาจจำไม่ได้ เธอเลยทำเป็นเอกสารกำกับไว้ว่าเป็นค่าเสียโอกาสในการช็อปปิ้งอะไรบ้างและทำให้เธอเกิดความเสียหายทางความรู้สึกโดยขอเรียกร้องเป็นค่าตอบแทน วันที่ระบุไว้เมื่อสี่ปีก่อนครับ มีลายเซ็นของคุณปวริศชัดเจนสามารถบังคับใช้ได้ตามกฎหมาย”

เขายื่นมือไปรับมาอ่านโดยไม่ให้ตกหล่นสักบรรทัด
จากแรกคือความสับสนจับต้นชนปลายไม่ถูก สักพักก็กลายเป็นความทึ่ง...พิศวง...และโกรธจนหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสีเข้มจัดไม่แพ้กันตาที่ออกงิ้วเต้นโลดตามอารมณ์เมื่อครู่นี้

“คุณเพชรโมเมเอาทั้งนั้น มันมีด้วยเหรอไอ้ค่าเสียหายทางความรู้สึกนี่น่ะ แถมตอนทำเอกสารพวกนี้เธอก็บังคับผมลงชื่อเพราะเธอกำลังหงุดหงิดอาละวาดลั่นไปหมด” ปวริศโวยลั่น

“แต่คุณลงชื่อแล้วนะครับ คุณเพชรกะรัตเพิ่มพยานไปอีกสองท่านด้วย มันมีผลตามกฎหมายตรงที่ระบุว่าคุณยอมรับการเป็นลูกหนี้เธอและยินยอมชดใช้เป็นจำนวนเงินต้นรวมดอกเบี้ยเมื่อเธอเรียกร้อง”

เพชรกะรัตต้องมีวิธีการที่แน่ใจได้ว่าทนายความจะยืนยันสิทธิ์ความเป็นเจ้าหนี้ของปวริศแทนหล่อนหากเขายังดึงดันไม่รับเงื่อนไขพินัยกรรม

เจ็ดแสนสี่หมื่น...จำนวนเงินที่ปวริศท่องทวนไปมาในใจอย่างมองไม่เห็นทางแก้ไขปัญหาเงื่อนปมที่ถูกต้องตามกฎหมายนี้...

“ตอนที่ลงชื่อนั่นผมเมา คุณเพชรมอมเหล้าผม!”

เขากัดฟันพูดทั้งที่รู้ดีว่ามันไม่อาจแก้ไขอะไรในตอนนี้ได้อีกแล้ว


...แต่ความจริงที่น่าเจ็บใจคือเพชรกะรัตยังเป็น ‘ตัวแสบ’ นับจากแรกที่เขาเจอหล่อนจนกระทั่งวันนี้!




 

Create Date : 18 สิงหาคม 2551
8 comments
Last Update : 21 สิงหาคม 2551 9:19:27 น.
Counter : 501 Pageviews.

 

รออ่านต่ออยู่ค่า.... ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมบล๊อคนะจ๊ะ....

 

โดย: igreenbody IP: 58.137.22.2 18 สิงหาคม 2551 10:11:41 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณ igreenbody ^--^
มาทักทายอีกคนนะคะ
พอดีบล็อกนี้ลงนิยายแบบบัดดี้น่ะค่ะ

ส่วนตอนนี้คุณบัดดี้ "รักดี" ไม่ทราบหายไปซ่อมรั้วบ้านที่พังอยู่หรือยังไง เลยมารับแขกไม่ทัน
พลอยมาแจมซะเลย หุหุ
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ

 

โดย: ploy666 IP: 58.147.45.68 18 สิงหาคม 2551 12:39:02 น.  

 

กร๊าก ปวริศผู้น่าสงสาร ต้องเลือกระหว่างเป็นหนี้ กับเป็นเศรษฐี โอ้ ทำไมน่ารักอย่างนี้ พระเอกเรา

 

โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) 18 สิงหาคม 2551 18:55:46 น.  

 

ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมที่blogนะคะ

 

โดย: ว่างเปล่า (น้ำเต็มแก้ว ) 19 สิงหาคม 2551 2:26:43 น.  

 

สวัสดีพี่พลอยกับคุณรักดีค่ะ เเวะมาอ่านงานน้า อย่าเขียนหน้ากลัวนักละ น้องเป็นคนที่กลัวผีอยู่ด้วย อิ อิ

 

โดย: รัตจันทน์ 19 สิงหาคม 2551 10:35:19 น.  

 

คุณพี่พีทคะ
ควรให้ปวริศเลือกแบบไหนดีคะ เปิดโหวตดีไหมหนอ หุหุ

*****
คุณ ว่างเปล่า ^--^
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมเช่นกันค่ะ
ถ้าว่างๆก็จะแวะไปเดินเล่นอีกนะคะ ยินดีที่ได้รู้จักค่ะ

****
สวัสดีน้องรัตจันทน์(ฟ้า)
ชื่อนามแฝงเพราะมากเลยค่ะ
นิยายไม่น่ากลัวนะ อยากแต่ให้น่ารักมากกว่า
แต่ไม่รู้จะไหวไหม...สู้ๆ !!! ^o^

------------------------------
วันนี้แดดร้อนจังค่ะ

 

โดย: ploy666 IP: 58.147.44.94 19 สิงหาคม 2551 13:27:48 น.  

 

ให้เป็นเศรษฐีดีกว่านะตัวเอง ญาติๆ คงน้ำตาตกกันเป็นแถบ โฮ่ๆๆ

 

โดย: คุณพีทคุง ณ (ลายปากกา ) 20 สิงหาคม 2551 20:05:13 น.  

 

ทีแรกพอบอกใครๆว่าพระเอกดี ..และจน
คนทำหน้าเหมือนกับว่าพลอยกลั่นแกล้งปวริศยังไงก็ไม่รู้แฮะ

งั้นทำพระเอกรวยดีกว่าเนาะ

แต่นิสัยเนี่ยท่าทางจะเปลี่ยนยาก 55+

 

โดย: ploy666 (ploy666 ) 24 สิงหาคม 2551 21:19:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.