Group Blog
 
 
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
29 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 

ดวงใจในเงาจันทร์ 05

ดวงใจในเงาจันทร์
5 - ลางสังหรณ์เป็นจริง


“ที่จริง พ่อไม่น่าคะยั้นคะยอให้นาถเขามาเลยนะคะ เพราะเขาคงไม่อยากมาเท่าไหร่”

วริสาพูดกับพ่อผู้มีอายุห้าสิบกว่าๆที่นั่งอยู่ข้างเตียง ทว่าสายตาของเธอกลับกรีดผ่านไปยังหญิงสาววัยยี่สิบปลายๆที่กำลังส่งยิ้มแห้งแล้งมาให้

นาถยา... แม้จะจดทะเบียนอย่างถูกกฎหมายกับพ่อเธอ แต่... ไม่มีวันเสียหรอกที่เธอจะยอมรับเรื่องนี้

“ทำไมพูดอย่างนั้นล่ะริส คุณนาถเขาอยากมาเยี่ยมลูกเพราะเป็นห่วง ลูกไม่น่าพูดอย่างนี้”

น้ำเสียงดุๆของพ่อทำให้วริสาหน้างอ แล้วเชิดไปทางอื่น

ยิ่งพ่อปกป้องนาถยามาเท่าไหร่ เธอก็ยิ่งเกลียด... เกลียดจนไม่อยากจะเห็นหน้า

“ทำไมริสไม่ยอมเข้าใจอะไรเลย คุณนาถเขาก็เป็นคนดี ทำไมต้องไปตั้งแง่ ไม่พอใจอย่างนั้น” พ่อยังพยายามจะโน้มน้าวให้เธอเห็นดีเห็นงามกับความคิดของพ่อ

...ยากหน่อยนะ...

“รู้ว่าเป็นคนดี... แต่ดีแล้วไง ในเมื่อริสไม่ชอบ พ่อจะบังคับให้ริสชอบเหรอ” วริสาหันกลับมาสวนกลับอย่างเผ็ดร้อน

คำโต้ตอบของเธอไร้เหตุผลสิ้นดี เธอรู้ว่าพ่อคงจะคิดอย่างนี้ แต่ว่า นี่แหละคือเหตุผล เหตุผลจำเป็นด้วยหรือที่ต้องเป็นไปตามตรรกะ เหตุผลจำเป็นด้วยหรือที่จะต้องอ้างอิงจากสิ่งที่เป็นหลักเป็นฐาน มีรูปธรรม

“พ่อไม่รู้จะพูดยังไงแล้วนะ”

“ก็ไม่ต้องพูดค่ะ ริสเองก็เบื่อเหมือนกันที่เราจะต้องมาเถียงกันเรื่องผู้หญิงคนนี้”

“ริส!”

“คุณวันชนะคะ” นาถยาเอ่ยแทรก ห้ามทัพ “นาถว่า อย่าเพิ่งทำให้น้องริสไม่สบายใจเลยค่ะ เพิ่งฟื้นมาเดี๋ยวอาการจะทรุดลงไปอีก”

แม้น้ำเสียงของนาถยาจะแสดงถึงความจริงใจสักเพียงไร แต่สำหรับวริสา ก็ยังเป็นอะไรที่ชวนให้ขัดหู ขัดใจอยู่นั่นเอง

“ไม่ต้องห่วงว่าฉันจะเป็นอะไรรึเปล่าหรอกค่ะคุณนาถยา เพราะไม่ว่ายังไง ฉันก็คงไม่ไปขัดขวางความรักของคุณหรอก แม้คนที่คุณคบจะเป็นพ่อฉันก็ตาม”

“ริส... ลามปามมากเกินไปแล้วนะ ยังไงคุณนาถเขาก็มีศักดิ์เป็นแม่เลี้ยงของลูก”

“ริสมีแม่คนเดียว... ผู้หญิงคนนี้เป็นเมียพ่อได้ แต่เป็นแม่ของริสไม่ได้”

วริสาเห็นพ่อโกรธจนขบฟันแน่น เห็นกรามขึ้นเป็นสัน แม้จะรู้สึกสะเทือนใจเล็กๆที่ทำให้พ่อที่แสนดีของเธอเสียใจ แต่ก็ช่วยไม่ได้ อยากมาบีบบังคับจิตใจเธอก่อนนี่

“เราให้น้องริสนอนพักก่อนเถอะค่ะ” นาถยาแทรกเข้ามาอีกครั้ง และวริสาก็คงจะสวนกลับไปอย่างที่เคย หากผู้เป็นพ่อไม่รีบตัดบท

“งั้นก็ตามใจ... พ่อเหนื่อยใจกับริสจริงๆ ริสไม่เคยเป็นอย่างนี้มาก่อน พ่อเสียใจมากที่เลี้ยงให้ลูกเป็นคนไม่มีเหตุผลอย่างนี้”

คำพูดของพ่อคล้ายหนามแหลมๆที่ยอกแทงจิตใจให้เจ็บปวด วริสาไม่เคยคิดเลยว่าพ่อจะพูดถึงขนาดนี้ เสียใจมากที่เลี้ยงเธอมาให้กลายเป็นคนไม่มีเหตุผลงั้นหรือ พ่อพูดกับเธอขนาดนี้เลยหรือ

...ถ้าแม่อยู่ เอคงไม่ต้องได้ยินคำพูดนี้จากปากของพ่อ

วริสาเงียบลง ไม่ยอมโต้ตอบเพราะจิตใจคุกรุ่นจนไม่อาจจะกลั่นกรองคำพูดใดๆ ให้หลุดออกมาจากปากได้ พ่อเองก็คงเห็น นาถยาเองก็คงเห็น ทั้งคู่จึงนิ่งราวกับถูกแช่แข็ง

พอมีเมียใหม่ก็ลืมแม่ ลืมเธอ พ่อเป็นผู้ชายแบบนี้เอง นี่แหละความรัก ความรักชนิดที่แท้จริงที่มีอยู่บนโลกใบนี้ มันก็แค่ตัณหาธรรมดาไม่รู้จบสิ้น จะยิ่งใหญ่อะไรนักเชียว

สายสัมพันธ์ดีงาม เส้นใยที่โยงยึดผูกพันก็แค่ตัวหนังสือที่กวีทั้งหลาย บรรยายให้คนอารมณ์อ่อนไหวเคลิบเคลิ้ม

หรือเขาจะมองความยิ่งใหญ่ตรงที่ความรู้นั้น แม้มีให้คนๆหนึ่งแล้ว ก็ยังไม่หมด ยังมีเหลือเฟือพอเผื่อแผ่แบ่งปันให้กับคนอื่นได้อีก

อย่างนี้ล่ะมั้ง รักยิ่งใหญ่ต้องมีหลายคน... น่าตลกเสียจริง

“ริส... พ่อ...” พ่อเอ่ยขึ้น เหมือนพยบายามจะแก้ตัวจะคำพูดที่หลุดปากออกมา

แล้วจะแก้ตัวไปทำไม ในเมื่อคำพูดหลุดปากนั้นมาจากความคิดจิตใจจริงๆ ไม่ใช่การกลั่นกรองให้สวยหรู

เมื่อในใจพ่อคิดอย่างนั้น พูดมาอย่างนี้ก็ดีแล้ว...

“ริสจะนอน”

“ริส... พ่อขอโทษ”

“ริสจะนอน!”

วริสาขึ้นเสียง แล้วหลับตาลง ข่มใจตัวเองไว้ให้หนัก หากแต่สองหูยังได้ยินชัด ถึงเสียงถอนใจระบายยาว

“ไม่ว่าพ่อจะเป็นคนยังไง และลูกจะมองพ่อแบบไหน แต่พ่ออยากให้ริสรู้ไว้... ไม่มีพ่อคนไหนที่ไม่รักลูกตัวเอง”

สิ้นคำพูด วริสาก็ได้ยินเสียงคนทั้งสองเดินออกจากห้องไป ประตูปิดงับเบาๆ

แอบลืมตาขึ้นมามอง... ภายในห้องว่างเปล่า มีแต่ความเงียบชวนให้เหงา ความว่างเปล่าชวนให้อ้างว้างให้หัวใจ

แล้วจู่ๆ ในมโนภาพ เอเห็นตัวเองกลายเป็นศพ!

*********


ราเชนทร์ตื่นขึ้นตอนที่รามินทร์มาเรียก

“มานอนอะไรตรงนี้วะ เป็นอะไรรึเปล่า”

ราเชนทร์มองหน้าพี่ชายแล้วกวาดตาไปรอบๆตัว ภายในห้องนั่งเล่นสว่างด้วยแสงไฟ ไม่เห็นอะไรที่ผิดปกติแล้ว แต่หัวใจเขายังเต้นตึกๆเมื่อระลึกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น

“เอาจริงๆนะ” ราเชนทร์พูดหลังจากลุกยืน “ผมเจอผี”

“เฮ้ย!...” รามินทร์ร้อง ท่าทางไม่เชื่อแต่ก็ดูแหยงๆเต็มทน

“ไม่เฮ้ยล่ะครับ ผมว่าเราต้องรีบไปหาคุณวริสาแล้วล่ะ”

รามินทร์ขมวดคิ้วมุ่น

“ไปทำไม มีเรื่องอะไร”

“เธอกำลังจะตาย ผมเห็นวิญญาณของเธอ ถ้าเราไม่รีบไปช่วย เธอตายแน่”

*********


วริสารู้สึกปวดหัวอย่างหนักราวกับว่ามีความดันอยู่ภายในจนแทบจะระเบิดออกมา

ทั้งพ่อและนาถยาที่เฝ้าไข้อยู่ต่างตกอกตกใจ พอตั้งสติได้ พ่อก็สั่งให้นาถยากดกริ่งเรียกพยาบาล ส่วนพ่อเองก็เข้ามาโอบกอดเธอไว้ น้ำตาจากความเจ็บปวดไหลพรากพร้อมๆกับเสียงกรีดร้องที่ต้องระบายออกเพื่อมา

ในความรู้สึก นานเหลือเกินกว่าหมอและพยาบาลจะมา ศัพท์แพทย์ดังลั่นไปทั้งห้อง หมอบอกให้พ่อถอยออกไปจากเธอ และเข้ามาตรวจดูอาการแทน หากแต่ก็เป็นการยากในการทำงาน เพราะเวลานี้เธอกำลังเหวี่ยงแขนเหวี่ยงขาอย่างหนัก

และอีกครู่หนึ่ง เธอก็ถูกอุ้มลงเตียงเข็น ฟังคร่าวๆราวกับว่าจะต้องผ่าตัดอีกรอบเพราะมีเรื่องอาการผิดปกติเกี่ยวกับสมอง

ขณะที่เตียงถูกเข็นไปตามโถงทางเดิน วริสาก็เห็นไฟสว่างแวบๆผ่านสายตา คนหลายคนห้อมล้อมรอบเตียงของเธอ พ่อกับนาถยาพยายามเรียกชื่อเธอตลอด

ห้องพักที่วริสาพักอยู่ชั้นบนของตึกผู้ป่วย ในขณะที่ห้องผ่าตัดอยู่อีกตึกหนึ่ง ซึ่งนับว่าไกลเอาการ พยาบาลคนหนึ่งวิ่งไปกดเรียกลิฟต์ และประตูลิฟต์เปิด เธอก็ถูกเข็นเข้าไป

“ไหนคุณว่าลูกของผมปลอดภัย แล้วทำไมเป็นอย่างนี้”

พ่อเถียงกับหมออยู่นอกลิฟต์โดยมีนาถยาอยู่ข้างๆ หมอพยายามอธิบายอะไรสักอย่างให้พ่อฟัง หากแต่พ่อก็ยังตวาดลั่น

วริสาเริ่มได้ยินเสียงวิ้งๆก้องอยู่ในหูขณะที่หัวก็เริ่มเจ็บ ในกะโหลกเหมือนเป็นรังของแมลงนับร้อยนับพันตัว วริสาเริ่มดิ้นทุรนทุรายอีกรอบ

นางพยาบาลเห็นท่าจะไม่ดี ทั้งสถานการณ์ทางพ่อกับหมอก็เต็มเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ คนขอโรงพยาบาลจึงออกไปช่วยกันห้ามทัพเพื่อจะดึงหมอให้มาดูเธอ

เคยมีคำโบราณ ที่มักจะกล่าวกันทำนองว่า เมื่อถึงเวลาจะตาย คนเราก็ต้องตาย ไม่มีใครหลบหนีพ้น ต่อให้หนีไปอยู่บนยอดตึกที่สูง หรือหลบเร้นในดินแดนที่แสนไกล แต่ความตายก็จะตามจนเจอ ปราการที่กั้นขวางแม้จะสมบูรณ์สักเพียงใดก็จะพังทลาย หรือจะมีสติอันมั่นคงสักเท่าไหร่ สตินั้นก็จะเหือดหายไปราวกับถูกมนต์สะกด

ในที่สุด วิญญาณจะถูกคร่า...

ประตูลิฟต์เลื่อนปิด... เวลานี้ วริสาอยู่ในลิฟต์เพียงคนเดียว

เสียงเอะอะโวยวายดังมาจากด้านนอก เหมือนทุกคนพยายามจะเปิดประตูลิฟต ์เพื่อเข้ามาช่วยเธอ แต่ประตูเจ้ากรรมกลับปิดแน่นสนิท เป็นเรื่องเหลือเชื่อที่ไม่น่าจะเป็นจริง แต่ขณะนี้เธอกำลังประสบมันอยู่

... อะไรคือจริง อะไรคือไม่จริง

สิ่งที่มนุษย์คิดว่าเป็นไปไม่ได้ มันต้องเป็นไปไม่ได้งั้นหรือ

ฉับพลัน ไฟในลิฟต์ก็กระพริบถี่ ประกายไฟแตกปะทุพร้อมๆกับเสียงเปรี๊ยะปร๊ะ รอบด้านมีแต่เสียงตึงตัง พื้นสั่นไหวรุนแรงจนวริสากลิ้งตกเตียง วินาทีนั้น ไฟก็ดับพรึ่บ

ลิฟต์ดิ่งร่วงกระแทกพื้นในเวลาต่อมา...

*********







 

Create Date : 29 สิงหาคม 2551
4 comments
Last Update : 29 สิงหาคม 2551 14:00:52 น.
Counter : 536 Pageviews.

 

หวัดดีคับ

รบกวนขอความช่วยเหลือสุนัขถูกรถชนและอดอยาก

 

โดย: พลังชีวิต 29 สิงหาคม 2551 14:31:59 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณรักดีเเละพี่พลอย เเวะมาอ่านนะคะ

 

โดย: รัตจันทน์ 29 สิงหาคม 2551 15:15:52 น.  

 

แวะมาทักทายและเชิญชวนไปเยี่ยมชมเวปของ สนพ.ค่ะ
//www.sipprapa.net/
เชิญชชวนส่งต้นฉบับเข้าพิจาณาที่ sarinpub@yahoo.com ค่ะ

 

โดย: บ.ก.จิ๊บ IP: 222.123.82.166 30 สิงหาคม 2551 13:10:31 น.  

 

สวัสดีค่ะคุณ พลังชีวิต
เห็นภาพสุนัขแล้วนึกถึงตอนไปทำกิจกรรมอาสาแฮะ
อยากให้คนมีสัตว์เลี้ยงอย่าเอาไปปล่อยทิ้งอีกเลย
ลำพังหมาจรจัดก็ยังเอาตัวรอดยาก
ยิ่งพวกสุนัขบ้านซึ่งเลี้ยงมาแต่เล็ก คงเอาตัวรอดไม่ค่อยเป็นแน่..เฮ้อ

*****
ขอบคุณจ้า น้องฟ้า
ช่วงนี้พี่พลอยวุ่นวายมากทีเดียว แต่ว่าตัดเสื้อสวยๆได้เยอะแล้วค่ะ..สู้ๆ ^ ^

***
สวัสดีค่ะ บก. จิ๊บ
จะลองแวะเวียนไปเยี่ยมชมเว็บ สนพ.นะคะ
ขอบคุณค่ะ

^--^

 

โดย: ploy666 IP: 124.157.237.124 31 สิงหาคม 2551 18:36:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.