Group Blog
 
 
สิงหาคม 2551
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
13 สิงหาคม 2551
 
All Blogs
 
ดวงใจในเงาจันทร์ 01


ดวงใจในเงาจันทร์
1.ว่าด้วยเรื่องของความรักและความตาย


“ฉันล่ะเบื่อจริงๆเลย ถามตรงๆนะ ทำไมแกชอบดูหนังพวกนี้ซ้ำๆอยู่ได้วะ?”

วริสาเดินเท้าสะเอวตามหลังภาพิมลที่กำลังด้อมๆมองๆตามชั้นวางแผ่นซีดีสำหรับเช่า

“เอ๊า... ก็มันสนุกนี่ โรแมนติกออก”

วริสาทำหน้าเซ็งให้กับคำตอบ แล้วกวาดสายตาไปยังผู้อื่นที่อยู่ในร้านเช่าวิดีโอแห่งนี้

ภายในร้านที่ค่อนข้างกว้างคับคั่งไปด้วยกลุ่มเด็กวัยรุ่นหนุ่มสาว มีผู้ใหญ่แทรกตัวประปราย แต่ละคนผลุบๆโผล่ๆอยู่ตามช่องทางเดินระหว่างชั้นวางซีดีในหมวดต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหมวดหนังตลก, หนังสยองขวัญ, หนังบู๊ – แอคชั่น และหนังรักโรแมนติก

ชั้นวางแผ่นหนังทอดตัวไปตามแนวลึกของคูหา ด้านหน้าสุดของร้าน เป็นเคาน์เตอร์ซึ่งมีผู้ชายเพียงคนเดียวนั่งอยู่ หน้าตาของเขาเรียบๆ ไม่มีความโดดเด่นปรากฏ ยกเว้นขอบแว่นตาที่สะท้อนแสงแดดซึ่งสาดผ่านประตูกระจกเข้ามาภายในร้าน

“อ๊าย! เจอแล้ว” เสียงร้องเบาๆของภาพิมลทำให้วริสาหันกลับไปหา

“เจอขุมทรัพย์เหรอไงยะ?”

“ยิ่งกว่าขุมทรัพย์อีก ขอบอก” ภาพิมลยืดตัวขึ้นหลังจากก้มโก่งอยู่นาน ก่อนจะยื่นปกแผ่นหนังมาให้เธอดู “เคยดูป่ะ สุดยอดมากๆเรื่องนี้... เราช๊อบ ชอบ”

วริสาขมวดคิ้วน้อยๆ ภาพผู้ชายกับผู้หญิงซบกัน และตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวเป้งที่แปะติดว่า GHOST ไม่ได้รื้อฟื้นความทรงจำส่วนใดในสมองขึ้นมาเลย

หญิงสาวส่ายหน้าเบาๆ เส้นผมตรงๆยาวๆไหวกระเพื่อมเป็นลอนคลื่น

“ริสนี่หลังเขาจริงๆเลย” ภาพิมลบ่น “ผีปั้นหม้อน่ะ รู้จักไหม?”

“ไม่รู้เว้ย! ฉันไม่ใช่ กบว. นะ ถึงจะได้รู้หมดทุกเรื่องที่เอามาฉายน่ะ” พอเริ่มตอบไม่ได้ วริสาก็ออกอาการโวยเพื่อแก้หน้าตัวเอง แต่ดูเหมือนเพื่อนสนิทจะรู้ทันเลยยิ้มเยาะ แล้วยกมือข้างหนึ่งขึ้นกอดอก ขณะที่มืออีกข้างยังโบกตลับซีดีแผ่นนั้นไปมา

“โถ... น่าสงสาร” ภาพิมลแสร้งทำน้ำเสียงระทดระท้อ หากแต่แววตาเจ้าเล่ห์ส่อแววระริก “งั้นไปดูด้วยกันเลยดีกว่า จะได้รู้ว่าเราพูดถึงอะไร”

วริสาเริ่มหน้าหงิก เพราะขืนต้องไปดูหนังเรื่องที่ภาพิมลเลือกล่ะก็ เป็นไปได้ว่าเธอจะหลับตั้งแต่ห้านาทีแรกที่หนังฉาย ภาพิมลชอบเรื่องรักโรแมนติก ประเภทพระเอกนางเอกพลอดรักกันตลอดเรื่อง ในขณะที่เธอชอบเรื่องตื่นเต้น ระทึกใจมากกว่า

ภาพิมลเองก็รู้เรื่องนี้ดี ยังแกล้งชวนอีก ฮึ่ม! น่านักนะยัยมล

“ไม่เอา ฉันไม่ชอบเรื่องรักๆใคร่ๆ” วริสาตอบ แล้วหันหลังกลับ สายตาซอกซอนไปตามแผ่นหนังเรื่องต่างๆ แต่ก็ยังเป็นเรื่องในแบบของภาพิมลทั้งสิ้น

“นี่ ผีปั้นหม้อไม่ใช่แค่เรื่องรักธรรมดาๆนะ แต่เป็นความรักระหว่างคนกับผี ความรักระหว่างภพ”

วริสาเหลียวมองเพื่อนสนิทที่เขยิบเข้ามาใกล้ รอยยิ้มของภาพิมลนั้นกว้างขวางแต่ปนไปด้วยความเจ้าเล่ห์ทำให้วริสาต้องกลั้นหัวเราะ

“ความรักระหว่างคนกับผี... น่าเชื่อตายเลย”

“อ้าว! พูดอย่างนี้ก็ไม่ถูก รู้ไหมว่าความรักระหว่างคนกับผีเป็นความรักทิ่ยิ่งใหญ่มาก เหมือนที่เขาบอกไงว่า แม้ความตายก็ไม่อาจพราก ความรักแบบนี้เป็นรักนิรันดร์ มั่นคงเสมอ คิดดูก็แล้วกัน ขนาดอีกฝ่ายไม่มีชีวิต มีแต่วิญญาณ ก็ยังรักกันได้”

วริสาพยักหน้าหงึกๆ ถ้อยคำของภาพิมลเข้าหูแต่ไม่ทะลุถึงใจ เพราะหัวใจของเธอปิดกั้นคำๆนี้ไว้นานแล้ว

“ก็นั่นน่ะสิ อีกฝ่ายหนึ่งไม่มีชีวิต เป็นแค่ผี แล้วใคร๊จะมารัก” วริสาเน้นเสียงสูง แล้วแวบหนึ่ง หางตาก็เหลือบไปเห็นเจ้าของร้านที่ชำเลืองมาทางเธอ หากแต่วริสาไม่ได้ใส่ใจเท่าที่ควร เธอยังคงกล่าวกับเพื่อนสนิทต่อไปว่า “นี่ ฉันจะบอกให้นะ โลกนี้ไม่มีความรักที่แท้จริงหรอก อย่าว่าแต่คนกับผีเลย ขนาดคนกับคนยังไม่มี”

“ไม่จริงหรอก ริสก็พูดเกินไป ความรักมีจริงนะ ระหว่างคนกับคนก็มี อย่างพระเจ้าชาห์ ชหาน ที่สร้างสุสานหินอ่อนให้กับพระนางมุมตัซ มาฮาล นั่นก็ทำด้วยความรัก หรืออย่างที่ภูเก็ต โกไข่กับครูอิ๋วรักกันมาก พอไม่สมหวังก็เลยไปกระโดดน้ำตายที่สะพานสารสิน แล้วไหนจะหม่าเมี๊ยะกับเจ้าน้อยศุขวงค์ แล้ว...”

“พอเลยๆ” วริสาขัด แต่ดูท่าอีกฝ่ายติดลมแล้ว ยากเกินยับยั้ง

“คนกับผีก็มี นี่...” ภาพิมลยื่นซีดีหนังจีนเรื่องนางพญางูขาวมาจนแทบจะชนหน้าวริสา “ไป๋ซู่เจินกับสี่เซียน แล้วก็นี่ แม่นาคกับพ่อมาก”

“เอ๊ะ... คู่หลังไม่เกี่ยวนิ” วริสาแย้ง พอเห็นภาพิมลเต๊ะท่าหาเรื่องเธอเลยอธิบาย “ก็ตาพ่อมากน่ะรักแม่นาคไม่จริง พอรู้ว่าเมียตัวเองเป็นผีก็วิ่งหนีเข้าวัดเฉย รักแท้บ้านไหนยะ”

ภาพิมลนิ่งไปชั่วขณะ คงเพราะจนกับคำโต้แย้งที่วริสายกขึ้นมา หากแต่ก็สามารถหาข้ออ้างแทน “พ่อมาก” ได้ในที่สุด

“ก็...ถอยไปตั้งหลักไง แม่นาคแขนยาวซะขนาดนั้น...”

“ไม่เกี่ยวล่ะ ถ้ารักจริงก็ต้องอยู่ด้วยกันได้สิ” พอได้ที วริสาก็เริ่มรุกใหญ่

“แต่ไง แม่นาคก็มีรักแท้...”

“รักข้างเดียวย่ะ ไม่ใช่รักแท้”

“แล้วริสรู้จักรักแท้เหรอ ว่ามันคืออะไร”

เป็นอีกครั้งที่วริสาต้องอึ้งไป...

คำถามธรรมดาๆของเพื่อนสาว เป็นคำถามที่เธอไม่อาจตอบได้
รักแท้คืออะไรนะ... นิยามของใครหลายคนสำหรับคำๆนี้ รักแท้อาจหมายถึงคู่รักที่ครองรักกันยาวนาน อยู่ร่วมกันด้วยความรู้ใจและเข้าใจ ไร้ซึ่งการทะเลาะเบาะแว้ง ในยามที่มีปัญหาอุปสรรคขัดขวาง คนทั้งคู่ก็จะร่วมฝ่าฟันปัญหาเหล่านั้นไปด้วยกัน หัวใจของคนทั้งสองจะมีความสุขอยู่ตลอดเวลา นั่นล่ะ รักแท้...

...เป็นภาพความรักสมบูรณ์แบบที่ถูกยัดเยียดจนกลายเป็นอุดมคติไปแล้วไม่ใช่หรือ

แต่สำหรับเธอแล้ว รักแท้นั้นไม่มีนิยาม ทั้งนี้ไม่ใช่เพราะว่าเธอยึดเอาความรักเป็นปรัชญาอย่างหนึ่ง เพียงแต่ เธอไม่เคยรู้สึกถึงมัน ไม่เคยเชื่อว่าความรักแท้มีจริง

...ยิ่งไปกว่านั้น เธอไม่เคยเชื่อว่าโลกนี้มีความรัก

คู่ชีวิตกี่คู่ต่อกี่คู่ล่ะ ที่ต้องแยกทางกัน ความรักสิบปียี่สิบปีมีจริงหรือ แน่ใจได้อย่างไรว่ามันไม่ใช่ความลุ่มหลงในตอนแรกและต้องอดทนอยู่ด้วยกันเพื่อเหตุผลทางสังคมบางอย่าง หรือกระทั่งการครองคู่กันเนื่องจากไม่มีทางเลือก เพราะหากมองในแง่ร้าย สำหรับบางคน เธออดอคติไม่ได้ว่าเป็นเช่นนั้น...

ดังนั้น นิยามความรักสำหรับเธอจึงไม่มี

...คนอย่างวริสาไม่เคยรักใคร

“ว่าไงล่ะ ยอมแพ้รึยังริส” ภาพิมลเลิกคิ้วถามอย่างยียวน

“ยอมแพ้...” วริสาตอบ ทำเอาภาพิมลอมยิ้มแก้มตุ่ย “แต่ฉันไม่ยอมรับนะ”

อมยิ้มของภาพิมลระเหยหายไปทันตา

“ริสนี่หัวดื้อชะมัดเลย”

วริสาหัวเราะร่า “ก็ฉันไม่เชื่อจริงๆนี่ จะให้โกหกว่าเชื่อเหรอไง”

“เอ่อ... ตามใจ แล้วสักวันหนึ่ง ริสจะหัวปั่นเพราะความรัก”

ภาพิมลทำนายเสร็จสรรพแล้วก็สะบัดหน้าพรืด ตรงดิ่งไปยังเคาน์เตอร์ ไม่ใส่ใจเธออีก

วริสาได้แต่ส่ายหน้า ระอากับความลุ่มหลงในความรักของเพื่อนสาว ตลกดีที่โลกนี้มีคนอย่างภาพิมลด้วย คนที่เชื่อมั่นในความรักสุดชีวิต

แต่ถ้าลองมองในมุมของภาพิมลดูบ้าง คนอย่างเธออาจกลายเป็นคนแปลกประหลาดไปก็ได้

เฮอะ... ความรัก ต่อให้ต้องตาย เธอก็จะไม่เรียกร้องหามันเลย

*********


ออกจากร้านเช่าหนังมาได้ วริสาก็ผันตัวเองกลายเป็นสารถีให้ภาพิมลนั่งอย่างสบายใจเฉิบ

“เอ้า! เร็วๆหน่อยย่ะ นังคุณนาย”

“แหม... ริสนี่ก็ ของมันเยอะนี่ จะให้ไวได้ไงเล่า แถม...” ภาพิมลที่ยืนด้านนอกรถยื่นมือเข้ามาภายในรถแล้วโบกๆ “ยังร้อนอยู่เลย ริสเปิดแอร์ก่อนสิ จะได้เย็นๆ”

วริสาทั้งฉิวทั้งขำ “ขึ้นมาเถอะน่า หัดประหยัดพลังงานบ้าง... เร็ว”

ภาพิมลเบ้หน้า แต่ก็ยอมขึ้นมานั่งคู่กับวริสาแต่โดยดี พอภาพิมลปิดประตูตึง วริสาก็เหยียบเร่ง รถเก๋งสีบรอนซ์ทะยานออกสู่ถนนสายหลักทันที

ภาพิมลเอื้อมเปิดวิทยุในรถ เสียงดังซู่ซ่าอยู่ช่วงหนึ่งเพราะหาคลื่นไม่เจอ ก่อนจะมีเสียงของดีเจสาวแทรกมากับบทเพลง

“เอ้อ... แล้วริสจะแวะหาพ่อรึเปล่า” ภาพิมลถาม

เป็นคำถามที่ทำให้วริสาไม่พอใจ

“จะไปทำไม มีคนดูแลอยู่แล้วนี่”

‘คนดูแล’ ที่วริสาหมายถึงก็ไม่พ้นแม่เลี้ยงที่วัยไล่เลี่ยกับเธอ

หลังจากที่แม่เธอตายไปตอนที่เธออายุหกขวบ พ่อไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเลย สามารถครองตัวเป็นพ่อม่ายดีเด่นมาได้ตลอด แต่ทำไม ในวันที่เธอรับปริญญาพ่อกลับพาผู้หญิงที่อายุมากกว่าเธอเพียงสามปีมาแนะนำและบอกว่า นี่คือแม่เลี้ยงของเธอ

ไม่พอใจ และไม่พอใจเอามากๆ จนไม่ต้องเก็บงำ เธออาละวาดใส่พ่อและผู้หญิงคนนั้นจนบ้านแทบแตก แต่สุดท้ายเธอก็แพ้ พ่อเลือกให้ผู้หญิงคนนั้นมาอยู่ที่บ้านในฐานะคุณผู้หญิง ส่วนเธอ เมื่อไม่ยอมก็ขอเลือกที่จะอัปเปหิตัวเองออกมาจากบ้านตัวเอง มาอยู่บ้านเช่ากับภาพิมลแทน

แรกๆที่พ่อรู้ว่าเธอย้ายมาอยู่กับเพื่อน พ่อเคยมาตามให้เธอกลับบ้าน แต่คำตอบเดียวที่พ่อได้รับคือคำปฏิเสธ

“ถ้าพ่ออยากให้หนูกลับ พ่อต้องไล่ผู้หญิงคนนั้นออกไป”

แต่เมื่อคนเป็นพ่อไม่อาจทำตาม เธอจึงรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับตัวเอง ว่าจะไม่สนใจคนในบ้านหลังนั้นอีก

...สามปีมาแล้วสินะ

“ยังไม่หายโกรธพ่ออีกเหรอริส” ภาพิมลถาม

“ไม่ได้โกรธ” วริสาตอบ แต่ภาพิมลยิ้มล้อ

“ถ้าไม่ได้โกรธ... ก็... กลัวเสียหน้าล่ะสิ”

“บ้า!” ภาพิมลว่าไม่ได้จริงจังนัก “แล้วนี่แกจะไปไหนต่อรึเปล่าเนี่ยะ ฉันจะได้ไปส่ง”

ภาพิมลทำหน้าครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบ

“ไม่ไปหรอก เราจะรีบกลับไปดูเสี่ยวเชี่ยนกะหนิงไฉ่เฉินน่ะ ไปเร็วๆ”

วริสาส่ายหน้าให้กับคำตอบของเพื่อนสาว ภาพิมลเป็นคนที่คลั่งหนังคลั่งละครมาก ชนิดที่อินจัดกับทุกบททุกตอน บางทีตอนดึกๆ เธอจะได้ยินเสียงภาพิมลร้องไห้ เมื่อถามว่าเป็นอะไร จะได้ยินคำตอบทำนองว่า “นางเอกตายแล้ว...” หรือไม่ก็ “พระเอกทิ้งนางเอกไปแล้ว” เช่นนี้ทุกครั้ง

หวังว่าชีวิตจริงของภาพิมลจะไม่ได้อินเว่อร์ขนาดนี้นะ ไม่งั้นมีหวังต้องลำบากแน่ๆ

“ถ้างั้นฉันแวะตลาดก่อนแล้วกัน... จะได้หาอะไรกินด้วย...”

“ริสเงียบๆก่อน” ภาพิมลร้องบอกเสียงดัง วริสาสะดุ้งและหันไปมอง

แต่คำต่อมาของภาพิมลเล่นเอาวริสาแทบกรี๊ดใส่

“เราจะฟังดวงพยากรณ์ เขาบอกว่าการทำนายดวงของรายการนี้แม่นมาก...” ภาพิมลทำหน้าขึงขังประกอบ

“โอ๊ย! ฉันมีเพื่อนอย่างแกได้ไงวะเนี่ยะ บ้าทั้งหนังบ้าทั้งดวง”

“แหม... ริสก็พูดเกินไป ว่าแต่... ริสเกิดวันศุกร์ใช่มะ เดี๋ยวลองฟังนะ”

เสียงออกจากลำโพงว่าอะไรไม่อยากฟัง แต่เห็นท่าทางของภาพิมลที่คอยลุ้นทำให้เคืองไม่ลง เธอเลยหันหน้าไปทางอื่นขณะที่ภาพิมลก็คอยพูดตามดีเจสาวในวิทยุมาให้ได้ยิน

“อ๊าย! ริส... เขาบอกว่าเราจะเลือดออกตามไรฟันอ่ะ แต่จะโชคดี ได้มีกิ๊ก อู๊ย... เดี๋ยวแวะตลาดแล้วอย่าลืมซื้อวิตามินด้วยนะ ต้องป้องกันไว้ก่อน... น่ะๆๆ... แล้วเห็นไหม เราถึงว่าทำไมมีแต่ใบแจ้งหนี้ เพราะดวงเรามันตกนี่เอง”

“มันสิ้นเดือนไม่ใช่เหรอแก ใบแจ้งหนี้ก็เลยมา ไม่เกี่ยวกะดวงซักนิด”

วริสาขัดคอ แต่ภาพิมลไม่ยอมรับรู้ กลับร้องด้วยเสียงตื่นเต้นกว่าเมื่อครู่อีกเท่าตัว ทำเอาเธอแสบแก้วหู

“เฮ้ยแก... เบาๆก็ได้ เดี๋ยวคนอื่นเขาก็คิดว่าฉันจะฆาตกรรมแกในรถหรอก” วริสาเอ็ด แต่อีกฝ่ายยิ้มแหย

“เอาน่าๆ...ก็มันตื่นเต้นนี่ ถึงดวงของริสแล้ว ฟังนะๆ”

วริสาอือออไปกับเพื่อนสาวอย่างเสียไม่ได้ เสียงหวานๆของดีเจสาวดังออกมาจากลำโพงโดยมีเพลงบรรเลงประกอบเบาๆชวนเคลิ้ม

“สำหรับคนที่เกิดวันศุกร์นะคะ คุณกำลังโชคดีอย่างมากทั้งหน้าที่การงานที่จะเลื่อนตำแหน่งขึ้นอย่างร้ายกาจ ทั้งนี้ทั้งนั้นเพราะความขยันหมั่นเพียรที่คุณทำๆๆมาตลอด...”

“แต่ฉันเป็นคนขี้เกียจนี่” วริสาแย้งได้หน้าตาย ภาพิมลเลยทำตาดุ บังคับกลายๆให้เธอฟังต่อ

เสียงดีเจสาวยังคงดังออกมาเนื่องๆ

“ในขณะที่ด้านการเงินของคุณก็จัดเข้าเกณฑ์ดี มีลาภลอย สัญญงสัญญาที่ทำเอาไว้จะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ผลกำไรงามมั่กๆค่ะ แถมยังโชคดีเรื่องความรักอีกนะคะ สำหรับคนที่มีครอบครัวแล้วอาจไม่มีอะไรหวือหวา แต่สำหรับคนโสด กรุณาเตรียมตัวเตรียมใจไว้เลยค่ะ เพราะกามเทพกำลังคิดแผลงศรใส่คุณแล้ว โอ้ววว... แถมความรักครั้งนี้ มีโอกาสเป็นรักแท้ถึงเจ็ดสิบห้าเปอร์เซ็นต์เชียวนะคะ...”

“ว๊าย!” ภาพิมลร้องลั่น “ริสจะมีแฟนแล้ว เย้ๆๆ”

วริสาทำหน้าเบ้ตาขวาง

“บ้า! ไม่เอาไม่มีไม่รักเว้ย หมอดูมั่วแล้วแก ทำนายได้ไงว่าฉันจะมีความรัก ร้อยทั้งร้อยหมอดูมั่ว ฉันมั่นใจมาก”

“เหรอ....” ภาพิมลทำหน้าทะเล้น วริสาเลยสะบัดหน้าพรืดหนีไปอีกทาง แต่คำทำนายยังไม่จบลงแค่นั้น

“สำหรับคนเกิดวันศุกร์ ถือว่าลักกี้อินเกม ลักกี้อินเลิฟนะคะ แต่ก็ยังมีข้อเสียตรงที่อิทธิพลจากดาวเสาร์จะทำให้คุณผู้เกิดวันศุกร์ได้รับบาดเจ็บ หรือ มีญาณพิเศษ ทำให้พบเจอกับสิ่งลี้ลับในช่วงนี้ อ้อยว่าควรจะระวังไว้สักนิดนึงนะคะ เพื่อความไม่ประมาทค่ะ”

ภาพิมลพยักหน้าหงึกๆ เห็นด้วยอย่างง่ายๆ ไร้ความลังเลกับคำทำนายของ‘แม่หมออ้อย’

“นี่แหละนะ คนเราจะดีไปเสียทั้งหมดมันไม่ได้ ริสต้องระวังตัวเอาไว้ วิตามินคงใช้ไม่ได้ผลหรอกงานนี้ เซฟตี้เบลท์ต่างหาก ที่น่าจะช่วยได้”

“ย่ะ... ฉันคาดอยู่แล้วเป็นประจำ” วริสาหันมาโต้ตอบ พร้อมกับดึงสายคาดนิรภัยให้เพื่อนสาวดู “คนอย่างวริสาไม่ตายง่ายๆหรอก ไม่เชื่อคอยดู”

ภาพิมลไม่ทันได้ตอบโต้อะไร จู่ๆก็มีเสียงแตรลากยาวมาทางด้านหลัง วริสาหันหลังขวับตามสัญชาตญาณ

...รถสิบล้อกำลังพุ่งตรงมายังรถของเธอ!!!

*********



Create Date : 13 สิงหาคม 2551
Last Update : 21 สิงหาคม 2551 9:16:27 น. 4 comments
Counter : 536 Pageviews.

 
หนุกดี รออ่านต่อจ้า


โดย: Genéve วันที่: 14 สิงหาคม 2551 เวลา:21:22:37 น.  

 
กรี๊ด!!!!!!
คุณแนนเจ้าขา หักหลังเพื่อนเลิฟมาชูธงเชียร์รักดีไหวๆ
หนหน้าไม่พาเที่ยวเระ..เคืองๆ
เชอะ
(แผนสกัดดาวรุ่ง หุหุ)


โดย: ploy666 IP: 58.147.45.162 วันที่: 15 สิงหาคม 2551 เวลา:21:44:24 น.  

 
คุณ Genéve ... ขอบคุณที่ชมคร้าบบบ.... วันนี้เอาตอนใหม่มาลงแล้วครับ...

ป้าพลอย... แผนการร้ายกาจมั่กๆ...ใจร้ายยยยยยยยย... เดี๋ยวเล่นของไม่ให้เขียนจบซะเลย ฮ่า ฮ่า

.........................


โดย: รักดี (ploy666 ) วันที่: 17 สิงหาคม 2551 เวลา:10:43:52 น.  

 
เมื่อกี้อ่านตอนที่29 มาเลยอยากอ่านตอนที่1
ขอย้ำพี่พลอย ว่าเรื่องนี้เจ๋ง!


โดย: โต๊ะอู้ IP: 115.67.127.101 วันที่: 28 ตุลาคม 2551 เวลา:9:58:53 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ploy666
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [?]




หนังสือที่มีวางจำหน่ายเฉพาะในบล็อก
https://ploy666.bloggang.com




ชื่อเรื่อง : เศวตธามัน (บัลลังก์ศศิธรา)
นามปากกา : สิตาปางค์
ประเภท : จินตนิยาย , โรแมนติก
รูปเล่ม : ขนาด 700 หน้า A5
ออกแบบปก : Little thing

ราคา : 850.- บาท
สินค้าหมด

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=ploy666&group=28

สั่งซื้อที่ : .........

หมายเหตุ : งดใส่ลายเซ็นนักเขียนทุกกรณีค่ะ

** ***********************************



ชื่อเรื่อง : เงาบรรณ
นามปากกา : ลายน้ำ
ราคา : 259.- บาท
สั่งซื้อที่ (ยุติการสั่งซื้อ)

สินค้าหมดค่ะ



****************

นิยายที่อัพล่าสุดคือเรื่อง

รอยทรายบนลายรัก
...และ...
กระต่ายในใจจันทร์



***********

เมื่อไหร่ที่รู้สึกว่า
ทนไม่ไหวแล้ว...
จงเรียนรู้ ที่จะขอความช่วยเหลือ

โลกไม่ได้โหดร้ายเกินไปนัก
ผู้คน ก็ไม่ได้ใจร้ายไปซะทั้งหมด

เป็นกำลังใจให้ค่ะ...


Ploy666.



************

หมายเหตุสักนิดค่ะ...

ถ้าเป็นไปได้ งดการแปะรูปใส่คอมเม้นท์นะคะ
เจ้าของบล็อกเข้าหน้าจอไม่ได้จ้า เน็ตห่วยมากมาย

ขอบคุณคนใจดีทั้งหลายล่วงหน้าค่ะ


**************

เนื้อหาต่างๆที่อัพในบล็อก
สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย


Friends' blogs
[Add ploy666's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.