บ่วงรักพันธะหัวใจ พริ้มเพรา
ถ้าพริ้มเพราจะดูน่ารังเกียจขนาดนี้ในสายตาของบุรางั้นเธอก็จะทำให้เขาเข้าใจเสียนับตั้งแต่บัดนี้เลยว่าเขาต้องระวังตัวและหัวใจให้ดีๆเพราะบุราคือว่าที่สามีในอนาคตของเธอแม้ว่าเวลาที่พริ้มเพราได้ประกาศก้องมาจะล่วงเลยมาจนถึงหกปีแล้วก็ตามที ใช่ว่าเธอจะล้มเลิกเรื่องที่เคยพูดไปหากแต่เพียงแค่เธอรอเวลาที่เหมาะสมต่างหาก
ไม่ใช่ว่าบุราจะไม่รอคอยแต่ก็เหมือนเขาเกือบจะคอยเก้อหรือเปล่าถ้าไม่เพราะขนมจีบที่ถูกส่งมาต่อเวลาให้บุรารู้ตัวว่าอีกไม่นานว่าที่เจ้าสาวที่ป่าวประกาศกำลังจะเอาจริง หากบุราพูดคำไหนก็เป็นคำนั้นคิดจะจีบผู้ชายอย่างเขาไม่ใช่ของง่าย ถ้าคิดจะทีเล่นทีจริงไม่มีวันสำเร็จ
จะจีบยากแค่ไหนพริ้มเพราไม่สนใจเพราะทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นจากอารมณ์เพียงชั่ววูบหรือแค่อยากเอาชนะผู้ชายเช่นบุราแต่สำหรับเธอแล้วบุราอยู่ในหัวใจของพริ้มเพรามากกว่าที่ใครจะรู้ คงมีแค่เพียงเธอเท่านั้นที่เข้าใจเหตุผลของการกระทำที่บ้าบิ่นนี้แล้วบุรากันเล่า เธอมีความหมายแค่ไหนในหัวใจของเขาเมื่อข้างกายยังมีผู้หญิงอีกคนที่แม้จะเหมือนไม่ได้รักแต่กลับครองตำแหน่งที่พริ้มเพราปรารถนามาถึงหกปี
แม้จะรู้แก่ใจว่าสิ่งที่ปิดบังไว้มันไม่ยุติธรรมเลยกับพริ้มเพราแต่บุราก็เห็นแก่ตัวเกินกว่าจะผลักภาระทุกอย่างไปให้พ้นจากตัวและเขาภาวนาแค่ว่าพริ้มเพราจะเข้าใจว่าทำไมคนที่ไม่เคยรักกลับอยู่ตรงนี้แต่คนที่รักจนไม่เหลือใจให้ใครกลับต้องอยู่ไกลตาทว่าความจำเป็นที่บุราไม่อยากแบกรับกำลังทำให้ความรักที่ก่อเกิดอาจจะพังทลายภายในพริบตา
จริงหรือที่พริ้มเพราทนได้หรือมันเป็นแค่เรื่องโกหกที่เธอสร้างไว้หลอกตัวเองไปวันๆมันอาจถึงเวลาที่เธอต้องปล่อยบุราไปจริงๆแต่วันที่เธอคิดว่าร้าวรานใจเป็นที่สุดกลับไม่ใช่วันนี้เพราะตอนนี้เธอกำลังเผชิญกับบุรา ผู้ชายที่อาจจะหันหลังให้กับเธอตลอดไปซึ่งพริ้มเพราไม่มีวันให้เขาทำเช่นนั้นเมื่อเธอกล้าจะประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่าเขาคือผู้ชายที่เธอจะจีบให้ได้การที่งอนง้อขอคืนดีก็ไม่ยากเกินกว่าที่เธอจะกล้าทำ
สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดแม้ว่าเขาและพริ้มเพราจะไม่ได้เป็นคนก่อมันขึ้นมาเลยหากแต่กลายเป็นว่าทั้งสองกลับต้องผจญกับมันแต่อย่างน้อยมันก็เป็นเครื่องพิสูจน์ในความรักครั้งนี้แท้จริงทุกอย่างไม่ได้เกิดขึ้นเพียงแค่ชั่วเวลาแห่งความเข้าใจนั้นเลยเพราะมันกลับมีสายสัมพันธ์ที่แน่นเหนียวซึ่งแม้แต่บุราหรือพริ้มเพราก็ไม่เคยรู้ว่ามันอยู่สิ่งที่ควรเรียกว่าพรหมลิขิตแห่งรักที่แม้เพียงแค่แรกพบก็ผูกพันจนไม่มีวันเปลี่ยนไปนับจากวันที่ได้เจอกัน
อยู่ในโหมดของลองกันต่อไปนะคะ ทดสอบสำนวนการเขียนจากตัวอย่างในเวบกันก่อน อันนี้พูดเลยว่ามันจำเป็นนะคะ เพราะถ้าเป็นนิยายของนักเขียนหน้าใหม่ๆ ถ้ามีตัวอย่างให้อ่านสักสี่ห้าตอนมันจะช่วยมากขึ้นสำหรับการซื้อมาทดสอบ ที่พูดไม่ใช่อะไรค่ะ บางเล่มไม่มีอะไร ตัวอย่างเรื่องก็ลบเกลี้ยงหรือหาตัวอย่างอ่านไม่ได้ แบบนี้เราก็ไม่กล้าลองนะคะ อย่างเล่มนี้ พอจะมีให้ดูสำนวนก่อนว่าคนเรื่องมากแบบฟีน่าน่าจะผ่านหรือเปล่า คิดว่าน่าจะได้ก็เลยเอามาค่ะ คิดว่าจะดองแต่ไม่เอาดีกว่า เผื่อว่าใครรอจะซื้อจะได้ช่วยในการตัดสินใจอีกทางหนึ่งค่ะ
เรื่องทั้งหมดจะเริ่มต้นจากความเข้าใจผิดในการสื่อสารก็เกือบจะเป็นเช่นนั้น เพราะนางเอกคิดไปเองว่าพระเอกคงจะไม่ชอบจนถึงขั้นรังเกียจ งานนี้เพื่อเอาคืนเธอจึงประกาศว่าเรียนจบเมื่อไร ระวังใจไว้ให้ดีๆ เพราะเธอจะกลับมาจีบเขาให้ได้ แต่ที่เธอไม่เคยรู้เลยว่า พระเอกนั่งรอ นอนรอว่าเมื่อไรแม่สาวคนนี้จะมาจีบจริงๆ สักทีหว่า ก็ไหนบอกว่าแค่สี่ปี แต่นี้เข้าไปหกปีแล้ว เธอก็จีบเล่นๆ อยู่ได้ รู้ไหมเนี่ยว่ามันเสียเวลารอ ให้เก๊กท่ารอเก้อแบบนี้เลยต้องมีลีลา เล่นตัวกันบ้างจะได้รู้ว่าเขาน่ะไม่ง่ายเลยนะ และที่สำคัญกว่าชนิดที่นางเอกคงไม่คาดคิดก็คือ ถ้าเธอไม่ประกาศว่าจะจีบเขาเพื่อเอาชนะ ป่านนี้เธอก็คงไม่ต้องลงทุนลงแรงมากมาย เพราะเขาอยากจะเป็นแฟนเธอมาตั้งนานแล้ว อาจจะมีอุปสรรคที่ทำให้เขาน้ำท่วมปากไปบ้าง แต่ที่สุดแล้วทุกอย่างมันเรียกได้ว่าบุพเพสันนิวาสชัดๆ
แม้ว่าการดำเนินเรื่องของนิยายเล่มนี้อาจจะยังมีข้อที่ไม่ถูกใจไปเสียหมด (หายากที่นิยายจะถูกใจคนเรื่องมากแบบฟีน่าทุกประการ) แต่ในระดับที่เรียกว่าไม่ได้คาดหวังอะไร ไม่รู้จักงานเขียนกันมาก่อน ไม่เคยอ่านออนไลน์ด้วย ทำให้บอกได้ว่าน่าพอใจเลยนะคะ จากที่อ่านคำโปรย คงจะนึกภาพนางเอกออกว่าเธอไม่ใช่สาวเรียบร้อยสักเท่าไร ติดที่ว่าหน้าที่การงานของเธอคืออาจารย์ ทำให้นางเอกเฮี้ยวไม่ได้เต็มพิกัด แต่เธอไม่ใช่คนขี้อาย เก็บความรู้สึกไว้ลึกสุดใจ ประเภทว่าเราเป็นผู้หญิงไม่ควรออกตัวว่ารักใครชอบใคร เพราะเธอบอกแล้วว่าจะจีบพระเอก แต่ไม่ได้ทำให้นางเอกกลายเป็นผู้หญิงที่เรียกว่าหน้าด้านหรือน่ารำคาญที่แสดงอาการว่าฉันต้องได้ผู้ชายคนนี้เท่านั้น ประเภทจอมมารยา วางแผนจับ นางเอกมีลีลาและลูกเล่นมากกว่า ที่เรียกว่าโดนใจที่สุดคงเป็นมุก ส่งขนมจีบมาขอต่อเวลาไว้ก่อนว่า รอหน่อยนะเดี๋ยวจะมาจีบจริงๆ
และถ้านางเอกเล่นมุกส่งขนมจีบได้ ก็แสดงว่าเธอต้องเป็นสาวที่เก่งการบ้าน การเรือนในระดับหนึ่ง ถูกต้องแล้วนะคะ นางเอกเป็นสาวทำงานคนหนึ่ง อย่างที่บอกว่าเธอเป็นอาจารย์ เป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่ดูแลตัวเองได้ ภาคภูมิใจในการงานของตัวเอง มีความน่ารักแบบผู้หญิงร่วมสมัย ไม่แข็งไป หรืออ่อนปวกเปียกจนน่ารำคาญ และที่สำคัญเธอฉลาดพอที่จะเข้าใจว่าพระเอกมีเหตุผลอะไรบ้างอย่างที่บอกให้เธอรอ ขี้เล่นและเปี่ยมไปด้วยอารมณ์ขัน แต่ไม่ใช่ว่าเธอจะไม่มีข้อบกพร่อง ในความฉลาดที่บอกว่าเธอเข้าใจพระเอกก็มีความงี่เง่าแฝงอยู่ ซึ่งเราเองก็ไม่โทษนางเอก เพราะในช่วงเวลาตอนนั้น ต่อให้เป็นเราเองก็ยังอดคิดไม่ได้ว่า นางเอกไม่ได้โง่หรือไม่หนักแน่นพอ หากแต่มันประจวบเหมาะไปหมดทุกอย่าง เราอาจจะรู้สึกว่านางเอกทำร้ายจิตใจพระเอกไปนิดหนึ่ง ตามประสาคนอ่านที่เข้าข้างพระเอกถูกสเปค และรู้ความจริงทั้งหมดว่าเกิดอะไรขึ้น แต่นางเอกไม่รู้ด้วยนี้ ซึ่งที่สุดแล้ว นางเอกก็มาแก้ตัวได้อย่างดี เมื่อรู้ว่าเธอเข้าใจผิด เธอไม่รอให้พระเอกมาย้ำว่าเธอคิดผิด เพราะกล้างอนก็ต้องรู้จักง้อเอง ให้มันรู้ไปว่าเขาจะไม่หายโกรธจริงๆหรือ
สำหรับพระเอก ต้องเรียกว่าค่อนข้างสเปคเลยนะคะ ตามประสาคนที่ชอบพระเอกนิ่งๆ ติดจะดุด้วยซ้ำไป พระเอกสมกับเป็นพี่ชายแถมยังเป็นผู้บริหารอีกต่างหาก เขาไม่เคยหลุดมาดความขรึมเลย เรียกได้ว่าเป็นขั้วตรงข้ามกับนางเอก ไม่ค่อยพูดกับใคร เป็นผู้ใหญ่ที่ต้องคอยห้ามปรามเด็กดื้อ(ที่ดันเป็นอาจารย์)อย่างนางเอก แต่ภายใต้สิ่งที่เหมือนกับจะเย็นชาเขาก็มีมุมเจ้าเล่ห์แสนกลไว้หลอกให้นางเอกตกหลุมพราง หรือเวลาจะน่ารัก คนที่ขี้เก๊กแบบพระเอกก็ทำได้น่ากรี๊ดเลยทีเดียว ก็ใช่ว่านางเอกจะมีมุกมาหยอดพระเอกคนเดียว พระเอกก็ไม่น้อยหน้าเหมือนกัน แต่อาจจะไม่ชัดเจนเท่าอาการขี้หึง ข้อนี้จะมีชัดเจนมาก ความร้ายกาจของพระเอกแรกๆ จะไม่ค่อยเห็นหรอกนะคะ เพราะพี่ท่านนิ่งจนเป็นคนดุเสียขนาดนั้น นางเอกที่ว่าโก๊ะๆยังต้องหงอยเลย แต่คบกับนางเอกไปนาน ไม่รู้ว่าตัวตนเผยออกมาหรือติดเชื้อกันไป โดยเฉพาะตอนที่ตอนให้นางเอกเป็นคนประกาศเองว่าเป็นแฟนเขา โดยที่พระเอกไม่ต้องพูดอะไรสักคำ นางเอกจัดการป่าวประกาศเอง แล้วเขาก็รอเก็บเกี่ยวผลจากคำพูดนี้ กีดกันพวกมดแดงแฝงพวงมะม่วงไปหมด
แต่ที่ว่าดีๆ ถูกใจก็ใช่จะไม่มีอะไรให้อยากจะบีบคอพระเอก เพราะสิ่งที่เขาบอกให้นางเอกรอคอยนี้ละ ทำให้เราแอบหงุดหงิดเล็กๆ แบบว่าทำไมไม่บอกกับนางเอกไปว่าทำไมต้องทำแบบนั้นด้วย คนเป็นแฟนกันเจอสถานการณ์แบบนั้นใครจะไปคิดเป็นอื่นได้ พระเอกก็เลยโดนปรับหักคะแนนไปในฐานะปากหนักเกินไป ไอ้เราก็เลยโทษนางเอกไม่ได้เต็มปากว่าหูเบา ต้องรับโทษให้เท่าๆกันไป
ส่วนสิ่งที่น่ารักและรู้สึกว่าถูกใจอย่างหนึ่งก็คือความลับที่อยู่ในความสัมพันธ์ของทั้งคู่ การพบเจอกันของสองคนนี้ไม่ใช่ในวันที่นางเอกประกาศจะจีบเขา แต่มันนานกว่านั้น มากกว่านั้นและลึกซึ้งเกินกว่าที่ทั้งคู่จะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เรียกว่าน่ารักเลยทีเดียวค่ะ สองคนนี้แอบรักกันมานานชนิดที่ต่างคนต่างไม่รู้เลย พระเอกที่แอบชอบเพื่อนของน้องสาวมานานก็ได้แต่บอกตัวเองว่าต้องรอให้ถึงเวลาที่เหมาะสม นานแค่ไหนเขาก็จะรอ เพื่อให้คนที่เขารักได้สมดั่งใจหวังในความสำเร็จของการศึกษาและหน้าที่การงาน และเมื่อถึงเวลาที่ใช่เขาก็ทำทุกอย่างให้สมกับคนที่เขารักว่าความรักของเขาจะทวีวัฒนาสืบไป ซึ่งมันคืออะไรก็ต้องไปลองอ่านเอาเองนะคะ ฟีน่าชอบประเด็นความลับในวัยรุ่นของสองคนนี้มาก
ส่วนสำนวนภาษาของเรื่อง บางที่ก็ยังมีความรู้สึกว่ายังไม่ค่อยลงตัวในการอ่านบ้างบางครั้งบางคราว อย่างคำว่า กอปร เวลาอยู่ในประโยคบางช่วง ดูมันโดดๆ จากสำนวนในช่วงนั้น เก่าใหม่ผสมกันแล้วยังไม่ลงตัวมากนัก แต่ที่เห็นชัดตาคือคำว่า เป็นชิ้นเป็นอันที่ใช้ในท้ายเรื่องที่กล่าวถึง ไททัศน์ในทำนองที่ว่า เขาไม่ได้ทำงานกับบุราแล้ว เพราะมาดูแลกิจการของครอบครัวตัวเอง แต่ยังคงร่วมงานกับบุราเป็นชิ้นเป็นอัน คำว่าเป็นชิ้นเป็นอัน มันแปลความได้ว่าเป็นเรื่องเป็นราว เป็นสาระ แต่มักใช้ในทำนองของการปฏิเสธ เช่น โตจนอายุสามสิบแล้วก็ยังไม่ได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลย การที่จะบอกว่าว่าไททัศน์มาทำงานกับบุรา แบบนานๆ จะมาทำงานด้วย ก็น่าจะใช้คำว่า แต่ยังคงร่วมทำงานกับบุราเป็นครั้งเป็นคราวไป น่าจะถูกต้องเสียมากกว่า เพราะไททัศน์ไม่ได้ทำงานกับบุราตลอดแล้ว
แต่ถ้ามองว่าเป็นนิยายเล่มแรกที่ไม่ได้คาดหวังอะไรถือว่าผ่านเลยนะคะ เรื่องนี้ไม่ได้ขายแค่ความรักระหว่างตัวพระเอกกับนางเอกเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความรักของเพื่อนที่มีต่อกันด้วย ทั้งจากตัวพระเอกเองกับเพื่อนรักอีกคนที่ทำให้เขาต้องน้ำท่วมปากแบกรับปัญหาบางอย่างเอาไว้จนแอบโมโหแทนเลย นี้ถ้าไม่ใช่เพื่อนตายกันคงไม่กล้าทำแบบนี้หรอก หรือตัวนางเอกกับกลุ่มเพื่อนที่เรียกว่าซี้กันมาก เห็นได้ชัดถึงสายสัมพันธ์นี้ ตลอดไปจนตัวพระเอกที่มีความหวังดีกับคนที่แอบรักนางเอกมาตั้งแต่เรียน เขาไม่คิดหักหาญความรู้สึกของผู้ชายคนนี้ เพราะคิดว่าเหมือนน้องชายการแสดงออกในการเป็นเจ้าของนางเอกจึงไม่จำเป็นต้องหักหน้าอีกคนให้เจ็บแค้น แต่เขาเลือกใช้วิธีที่ให้เขาถอยห่างไปเอง แต่ยังคงมีความรู้สึกที่ดีให้กับนางเอกตลอดไป จนเราเองอ่านไปก็รู้สึกว่าตัวละครนี้มีเสน่ห์ และดูเหมือนว่าเขาอาจจะมีเล่มของตัวเองด้วย ถ้านักเขียนคิดจะเขียนภาคต่อนะคะ เนื้อเรื่องไม่ได้หวานมากมาย เพราะตัวนางเอกเป็นพวกสาวสมัยที่กล้าเปิดเผยใจให้รู้ก่อน แต่ไม่กระด้างลางหรือทำตัวก๋ากั๋นจนฟีน่าปรับคะแนนจนติดลบ นางเอกแสบ แต่พระเอกปราบเธอได้อยู่หมัดตลอดเวลา เธอจึงค่อนข้างเกรงใจพระเอก เป็นสไตล์ที่ฟีน่าชอบอยู่แล้วค่ะ ไม่ชอบให้นางเอกมาขี่คอพระเอก หรือข่มพระเอกให้เป็นเบี้ยล่าง เลยต้องบอกว่าของลองเล่มนี้ให้ผ่านได้อย่างสบายใจค่ะ ใครอยากจะลองก็เชิญนะคะ อาจจะถูกใจแบบที่ฟีน่าทดสอบก็ได้นะคะ