|
 |
1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 |
8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 |
15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 |
22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 |
29 | 30 | 31 | |
|
|
 |
18 มีนาคม 2552
|
|
|
|
เขาคิชฌกูฏ (28/2552)
เป็นครั้งแรกกับการไปนมัสการรอยพระพุทธบาทที่เขาคิชฌกูฏ ครั้งนี้เป็นความตั้งใจไปของแม่ แม่ได้โทรมาชวนให้ไปไหว้พระและให้ไปเป็นเพื่อนแม่ ก็เลยตกลงไปเป็นเพื่อนแม่ ก่อนไปก็ศึกษาจากเพื่อนชาวบล็อกที่ไปมาแล้วถึงความยากลำบากว่าเป็นอย่างไรบ้าง ดูในรูปของเพื่อนบล็อกแต่ละท่านเห็นมีคนไปมากมายเลย จะต่อรถทีก็ต้องรอคิวกันยาว นึกแล้วก็เริ่มท้อในใจเหมือนกัน แต่ยังไงก็ต้องลองไปสักครั้ง ครั้งนี้เราไปเริ่มต้นกันที่บ้านยายค่ะ ไปนอนค้างคืนกันที่บ้านยาย บ้านยายจะอยู่อำเภอเขาสอยดาว ก็ห่างจากเขาคิชฌกูฎก็ประมาณแปดสิบกว่ากิโล ก็ยังดีหน่อยไม่ต้องรีบตื่นเช้ามาก เราเริ่มออกเดินทางจากบ้านยายตอนตีสี่ ถึงวัดพลวงก็ประมาณตีห้า มาถึงโฮ้รถจอดเต็มวัดเลย นึกในใจงานนี้สงสัยกว่าจะได้ขึ้นเขาคงต้องรอหลายชั่วโมงแน่ ๆ แต่ผิดคราดค่ะ ที่เห็นรถจอดอยู่นั้นเขาขึ้นไปอยู่บนเขาหมดแล้วค่ะ ครั้งนี้เป็นการมาครั้งแรกไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไรว่าจะทำอะไรตรงไหน แต่ดีหน่อยได้น้าน้อง (น้องสาวของแม่) คอยเป็นคนแนะนำว่าควรทำอย่างไรบ้าง ไหว้ต้องจุดไหนบ้าง เพราะน้าเขาจะมาไหว้ทุกปีค่ะ เลยรู้หมด และคราวนี้ที่มากันก็เพราะน้าน้องนี้ละค่ะที่เป็นคนชวนแม่ให้มาไหว้ บอกว่าเดินไม่เหนื่อยมาก เพราะเราไม่ต้องรีบร้อนเดิน เมื่อไปถึงก็ซื้อธูป เทียน ทอง ดอกดาวเรือง และพลอยประจำปีเกิด วันเกิดค่ะ พลอยนำไปโรยที่รอยพระพุทธบาทค่ะ
จุดที่หนึ่ง เราก็ขึ้นไปบนศาลาไหว้พระ 9 รูป ปิดทองรูปหนึ่งขอพรครั้งหนึ่ง จนครบ 9 ครั้งค่ะ นี้เป็นจุดแรกที่เราไหว้กันค่ะ

จุดที่สอง เราก็ไปจุดเทียน ธูป ตั้งสัจจะขอในสิ่งที่เราต้องการต่อหน้าสังขารหลวงพ่อนัง (พระครูพุทธบทบริบาล) หน้าห้องกระจก (เป็นการขอครั้งที่ 1 )
จุดที่สาม ก็ไปประพรมน้ำพระพุทธมนต์ ให้เป็นสิริมงคลก่อนขึ้นไปบนเขาค่ะ
จุดที่สี่ ตั้งสัจจะอธิษฐานที่พระอภิบาลมงคลพุทธไสยาสน์ (ขอครั้งที่ 2)
ภาพระหว่างเดินทางขึ้นเขาต่อแรกค่ะ
 ในภาพจะเป็นอาเรณูกับน้าน้องค่ะ (น้าน้องใส่เสื้อลายสีเหลืองนี้ละค่ะที่เป็นคนชวนแม่มาไหว้ น้าน้องจะมาไหว้ทุกปี)

นั่งรถต่อแรกมาถึงที่เปลี่ยนรถต่อที่สองแล้วค่ะ คราวนี้เป็นการไหว้ จุดที่ห้า ไหว้พระที่เจดีย์กลางเขา จุดเปลี่ยนรถ (ขอครั้งที่ 3)
หลังจากไหว้กันเสร็จก็ซื้อตั๋วขึ้นรถกันไปต่อค่ะ ระหว่างทางที่นั่งรถขึ้นนี้สุด ๆ เลยค่ะต้องจับให้แน่นนะค่ะ ทางชันมาก ๆ โค้งก็สุด ๆ แต่ผู้ขับขี่ที่นี้ชำนาญทางทุกท่านนะค่ะ ไม่ต้องกลัวนะค่ะ และแล้วก็นั่งกันมาถึงจุดสิ้นสุดทางรถแล้วค่ะต่อจากนี้ต้องใช้สองเท้าเดินขึ้นไปนะค่ะ ระยะทางประมาณหนึ่งกิโลค่ะ ก่อนขึ้นเราก็มาไหว้กันที่
จุดที่หก ไหว้พระที่พระสิวลี จุดสิ้นสุดเดินทางด้วยรถยนต์ค่ะ(ขอครั้งที่4)

และเมื่อไหว้พระกันเสร็จเราก็ออกเดินทางด้วยเท้ากันเลยค่ะ การเดินขึ้นเราไม่ต้องรีบร้อนนะค่ะ ค่อย ๆ เดินเหนื่อยก็ให้หยุดพักค่ะ ถ้าเรายิ่งรีบก็จะยิ่งทำให้เหนื่อยมาก ค่ะ มีเคล็ดลับมาฝากนิดหนึ่งนะค่ะ ถ้าเหนื่อยให้หยุดแล้วสูดลมหายใจเข้าทางจมูกลึก ๆ และหายใจออกทางปากโดยการเปล่งเสียงนิดหน่อย(ทีจริงจะให้เปล่งเสียงดัง ๆ แต่กลัวคนเดินผ่านไปผ่านมาเขาจะงงก็เปล่งแต่พอสมควรแล้วกัน) จะช่วยทำให้ดีขึ้นค่ะ วิธีนี้พ่อกับแม่บอกมาค่ะ ท่านทั้งสองใช้แล้วได้ผลค่ะ ไปดูรูปกันนะค่ะ
มีบันไดให้เดินขึ้นสบาย ๆ แล้วค่ะและไม่ร้อนด้วยเพราะสองข้างทางมีแต่ต้นไม้



เห็นเค้าใช้ธูปติดกับก้อนหินกันเยอะเลย อาติ๋มเลยลองทำกับเขาบ้าง

เหนื่อยก็ไม่ต้องกลัวมีเก้าฮี้ให้นั่งพักเหนื่อยค่ะ เตรียมน้ำไปด้วยนะค่ะ แต่ถ้าไม่เตรียมไปก็ไม่ต้องกลัวมีขายตลอดเส้นทางเดินขึ้นค่ะ เพียงเตรียมทุนทรัพย์ในกระเป๋าไปก็แล้วกันค่ะ

ระหว่างรอแม่กับอานั่งพักเหนื่อยเราแอบเดินไปดูหมีค่ะ ชื่อว่าบุญรอดค่ะ

หายเหนื่อยแล้วก็เดินกันต่อเลยค่ะ



ตลอดเส้นทางเดินเราจะเห็นดอกดาวเรืองเต็มไปหมดเลยนะค่ะ และพร้อมกับการปักธูปแบบนี้ละค่ะ

เดินมาถึงตรงนี้หันมองไปทางขวามือก็จะเห็นวิวสวย ๆ ค่ะ

ถึงแล้วประตูสวรรค์

จากประตูสวรรค์เดินขึ้นไปอีกนิดหน่อยก็จะถึงแล้วค่ะรอยพระพุทธบาท หยุดพักกันอีกนิดค่ะ

เดินขึ้นไปตามบันไดนี้ก็ถึงแล้วค่ะรอยพระพุทธบาท

ถึงแล้วค่ะ เย้ๆๆๆๆ และแล้วเราก็ถึง จุดที่เจ็ด ไหว้พระแล้วทำจิตให้เป็นสมาธิก่อน จึงอธิษฐานในสิ่งที่เราได้ตั้งสัจจะขอไว้ต่อหน้าหลวงพ่อนังที่รอยพระพุทธบาทเป็นครั้งสุดท้าย เป็นอันเสร็จสิ้นในการเดินทางขึ้นไปนมัสการรอยพระพุทธบาทค่ะ หลังจากนี้เราจะไปอธิษฐานขออะไรที่ไหนก็ได้อีก ไม่เกี่ยวกับการตั้งสัจจะแล้ว


เดินไปปิดทองต้องระวังหน่อยนะค่ะ ด้านซ้ายเป็นเหวลึกค่ะ

นมัสการรอยพระพุทธบาทเสร็จเดินมาทางศาลาเห็นประชาชนนั่งกันเต็มเลยมองเข้าไปข้างในเห็นหลวงพ่อเขียนท่านนั่งอยู่เลยไปนั่งบ้างรับน้ำมนต์

รับน้ำมนต์เสร็จ พ่อและอาเรณูกะจะไปที่ผ้าแดงกันต่อ เราเลยตามไปดูแลพ่อค่ะ ฮะๆๆๆ(ไม่รู้ใครดูแลใครค่ะ) ส่วนแม่และคนอื่น ๆ ไม่ไปแล้วค่ะ นี้ค่ะต้องเดินผ่านทางนี้ค่ะถ้าเราจะไปผ้าแดง เดินตรงนี้เสียวดีจังเพราะสองข้างโล่งมาก ๆ

โล่งจนมองเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามเลย ขนาดเสียวขานะแต่ยังอุตสาถ่ายภาพมาได้ ฮะๆๆ


และแล้วเราสามคนก็เดินกันไปไม่ถึงผ้าแดงหลอกค่ะ เพราะเดินผ่านคนที่เขาไปมาเขาบอกว่าเดินไปอีก 800 เมตร แต่เป็นทางเดินลงชัน ๆ กลัวเดินลงไปได้แต่ขากลับจะไม่ไหวละค่ะ เลยไปได้แค่ไหว้พระอินทร์เท่านั้นละค่ะ แล้วก็เดินกลับกันเลยค่ะ
เดินกลับกันแล้วค่ะงานนี้ขากลับแทบวิ่งลงเลยค่ะเพราะต้องเดินตามให้ทันพ่อ เพราะพ่อเดินเร็วมาก ๆเลย ฮะๆๆๆ งานนี้เกิบแย่เวลาเดินกลับเนี้ยละ เราว่าเดินขึ้นยังดีกว่าเดินลงนะเนี้ย เดินลงมาหน้าจะทิ่มลงอย่างเดียวเลย

ต้องทำเวลาจริง ๆ ทั้งเดินและถ่ายภาพไปด้วย ถ้าหยุดแล้วถ่ายภาพ มีหวังพ่อหนีเราไกลแน่ ๆๆ




เราใช้เวลาเดินลงจากเขาไม่กี่นาทีเองค่ะและแล้วเราก็ถึงจุดขึ้นรถจุดที่หนึ่งแล้ว ไปซื้อตั๋วขึ้นรถลงจากเขากันดีกว่าค่ะ นั่งคราวนี้ขอนั่งในสุดแล้วกันพยายามถ่ายภาพเวลานั่งรถมาฝากค่ะได้มาแค่นี้ละค่ะ แบบเบลอๆ นะค่ะ
เส้นทางที่รถวิ่งค่ะ

สวนกับรถที่กำลังวิ่งขึ้นค่ะ

อีกภาพแล้วกันกับทางขึ้น-ลง เขา เดี๋ยวนี้พัฒนาดีขึ้นเยอะแล้วละค่ะ

สุดท้ายกับภาพแม่ลูกคู่นี้แล้วกัน (อาติ๋ม กับน้องดำรง) เห็นบอกว่าขากลับต้องแวะข้างทางเพื่อจอดรถนอนหลับหนึ่งตื่นก่อน ไม่งั้นขับรถกลับไม่ไหว

เขาคิชฌกูฎจะเปิดถึงวันที่ 26 มีนาคม 2552 นี้นะค่ะ ถ้าใครสนใจไปก็รีบๆ ไปกันหน่อยนะค่ะ แต่ขอแนะนำว่าไปช่วงวันธรรมดาดีที่สุดค่ะคนจะน้อยหน่อยทำให้เวลาเราเดินแล้วจะไม่เหนื่อย และไม่ต้องเหนื่อยรอต่อคิวขึ้นรถด้วยค่ะ แต่ไปช่วงเช้า ๆ จะดีค่ะ เดินจะได้ไม่ร้อนมาก ค่ารถขึ้นลงเขา สองต่อคนละ 200 บาทค่ะ( ต่อละ 50 บาท ) ถ้าใครสะดวกจะเตรียมธูปเทียน ทอง และดอกไม้ไปเองก็ได้นะค่ะ ถ้าไม่ได้เตรียมไปก็ซื้อที่วัดได้เลยค่ะมีขายพร้อม แถมมีใบแนะนำการนมัสการพระพุทธบาทให้ด้วยค่ะ น้ำและอาหารมีขายค่ะ ถ้าไม่เตรียมไปมีซื้อกินได้ตลอดการเดินขึ้นเขาค่ะ เพียงแต่เตรียมทุนทรัพย์ในกระเป๋าไปก็พร้อมแล้วกันเพราะราคาค่อนข้างแพงค่ะ (แต่เขาขนขึ้นไปขายได้ขนาดนั้นก็ถือว่าสมกับราคาแล้วกันค่ะ) ถ้าทนไหวจะลงมากินข้าวที่ร้านข้างล่างได้นะค่ะ เพราะวันนั้นก็หิ้วท้องลงมาทานกันที่ร้านข้างล่างข้าวแกงอร่อยด้วยสองอย่างราคา 25 บาทอิ่มเลยค่ะ แต่เสียอย่างเดียวลืมถ่ายภาพและจำชื่อร้านมาค่ะ
Create Date : 18 มีนาคม 2552 |
Last Update : 15 กุมภาพันธ์ 2553 10:21:42 น. |
|
36 comments
|
Counter : 4011 Pageviews. |
|
 |
|
|
โดย: iamorange วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:21:13:01 น. |
|
|
|
โดย: พี่สาว (พอที ) วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:21:19:17 น. |
|
|
|
โดย: Fullgold วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:21:44:59 น. |
|
|
|
โดย: nongmalakor วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:22:02:33 น. |
|
|
|
โดย: ลุงแอ๊ด วันที่: 18 มีนาคม 2552 เวลา:22:40:58 น. |
|
|
|
โดย: sawkitty วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:6:39:12 น. |
|
|
|
โดย: ชีวิตมีลีลา วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:8:51:54 น. |
|
|
|
โดย: Jiji&Kaka วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:10:33:14 น. |
|
|
|
โดย: AB_PAE วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:13:17:21 น. |
|
|
|
โดย: ก.ก๋า (กะว่าก๋า ) วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:15:53:55 น. |
|
|
|
โดย: nongmalakor วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:21:59:52 น. |
|
|
|
โดย: nssr@2527 วันที่: 19 มีนาคม 2552 เวลา:23:19:08 น. |
|
|
|
โดย: n_nink วันที่: 20 มีนาคม 2552 เวลา:10:56:38 น. |
|
|
|
โดย: kai (aitai ) วันที่: 20 มีนาคม 2552 เวลา:12:46:03 น. |
|
|
|
โดย: adaytrip วันที่: 20 มีนาคม 2552 เวลา:18:13:55 น. |
|
|
|
โดย: chalawanman วันที่: 20 มีนาคม 2552 เวลา:19:56:48 น. |
|
|
|
โดย: JewNid วันที่: 20 มีนาคม 2552 เวลา:20:09:19 น. |
|
|
|
โดย: แป๋วภูเก็ต วันที่: 20 มีนาคม 2552 เวลา:21:09:06 น. |
|
|
|
โดย: ชีวิตมีลีลา วันที่: 20 มีนาคม 2552 เวลา:22:21:02 น. |
|
|
|
โดย: อุ้มสี วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:8:07:10 น. |
|
|
|
โดย: nssr@2527 วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:11:04:32 น. |
|
|
|
โดย: SIMAKHA วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:11:17:50 น. |
|
|
|
โดย: ชีวิตมีลีลา วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:14:09:29 น. |
|
|
|
โดย: พี่สาว (พอที ) วันที่: 21 มีนาคม 2552 เวลา:15:25:47 น. |
|
|
|
โดย: n_nink วันที่: 22 มีนาคม 2552 เวลา:2:36:57 น. |
|
|
|
โดย: กะว่าก๋า วันที่: 22 มีนาคม 2552 เวลา:7:28:40 น. |
|
|
|
โดย: iamorange วันที่: 22 มีนาคม 2552 เวลา:9:14:23 น. |
|
|
|
โดย: ชีวิตมีลีลา วันที่: 23 มีนาคม 2552 เวลา:9:03:42 น. |
|
|
|
โดย: Jiji&Kaka วันที่: 26 มีนาคม 2552 เวลา:10:10:33 น. |
|
|
|
โดย: คนชุมแสง วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:0:47:59 น. |
|
|
|
โดย: คนชุมแสง วันที่: 28 มีนาคม 2552 เวลา:0:57:44 น. |
|
|
|
| |
|
 |
paerid |
|
 |
|
|
อ้าว...แล้วทำไมเปิดถึงแค่วันที่ 26 มีนาคมล่ะคะ...เอ...หรือว่าพี่อ่านข้อความไม่ครบกันหนอ...
พี่ไปส่งน้องบุ๊คเข้าค่ายตั้งแต่เช้าวันจันทร์ที่ผ่านมาค่ะ
วันศุกร์นี้ก็จะไปรับกลับบ้าน แต่ตอนรับกลับ ต้องไปรับที่ไบเทค บางนาค่ะ เพราะมีงานพิธีการที่นั่น
แต่ช่วงนี้ชีพจรลงเท้าบ่อย ๆ ค่ะ แต่ส่วนใหญ่จะไปวันธรรมดา ก็เลยไม่ได้บอกใคร เกรงใจเวลาทำงานค่ะ...
พี่ฝากข้อความไว้หลังไมค์นะคะน้องณี