สิงหาคม 2551หนึ่งใจ..เดียวกัน -> เกรด B
ถ้าโจทย์ที่หนังเรื่องนี้ตั้งมาแต่ต้น คือ การเป็นหนังที่สร้างความรู้สึกให้คนดูได้ตระหนัก อยากตั้งคำถามถึงความเป็นอยู่ของเด็กผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษาตามต่างจังหวัด ที่ไม่ได้รับการเหลียวแลค้ำชูจากผู้ใหญ่ในบ้านเมิอง เหมือนกับเด็กในเมือง ที่ทะนุถนอมได้เพราะ มีเงิน เป็นปัจจัยใหญ่แล้ว .."หนึ่งใจเดียวกัน" ถือว่าตีโจทย์ได้แตก ในฉากไคลแม็กซ์ ที่สามารถรวบรวมหัวใจของคนดูทุกคน ให้ตกอยู่ในอาณัติคำพูดที่ "ทูลกระหม่อมฯ อุบลรัตน์" แสดงออกมาได้ถึง ทึ้งน้ำตาเป็นสายได้เหมือนที่คาดจากตัวอย่าง
แต่นั่นก็เป็นเพียงฉากเดียวที่ผมเห็นว่า ทูลกระหม่อม ทำได้ถึงจริงๆ ..ขณะที่ฉากอื่นๆ อาจถือว่าสมจริงในอิริยาบถของสามัญชน แต่ภาพของคุณพิมพ์ดาว ยังไม่สมจริงพอจะลืมว่า พิมพ์ดาวบนจอนั้น คือใครกันในความเป็นจริง
ถ้าจะมองว่าใครทำหน้าที่ได้ดี จนไม่มีอะไรที่น่าเอะใจ ก็คงจะมีแต่ "นุ่น-ศิรพันธ์" ที่ด่าก็ดูจริง(จนทูลกระหม่อม แสดงความพรั่นพรึงตอบกลับได้น่าเชื่อว่ากลัว) ห่วงใยก็ดูไม่เคอะเขิน ..เป็นธรรมชาติ เสมือนว่า ภาพของคุณพิมพ์ดาว ไม่ใช่ใครอื่น เช่นที่คนดูเรารู้สึกกัน
หากก็ยังน่าเสียดายที่ หนึ่งใจ..เดียวกัน มีโครงที่ดี มีเรื่องที่แข็ง แต่กลับอ่อนแรงไปให้กับงานบทหนังที่พบจุดรั่วอยู่มากมาย ..แม้จะเข้าใจว่าอยากให้คนดูได้ขบคิดถึงสาระตัวเรื่องมากกว่า แต่รายละเอียดทางภาษาหนัง ก็ยากที่จะทำให้เชื่ออะไรต่อมิอะไรได้อย่างเต็มที่
จะโชคดีอยู่หน่อยก็ตรงที่หนังถ่ายทอดอารมณ์จากฉากหนึ่งไปสู่อีกฉากได้ค่อนข้างลื่น อินพอประมาณ ..แต่มันย่อมจะไหลได้มากกว่านี้อีก ถ้ายอมเก็บจุดเล็กจุดน้อยที่คงไม่เสียเวลาอะไรมาก หากมันจะส่งผลให้ความตั้งใจคราวนี้ ดูมีคุณค่าที่น่าจดจำ มากไปกว่า รับรู้ถึงความรู้สึกที่จะเล่า แต่จบลงก็ไม่ได้ต่อติดอะไรกับหนังมากมายนักเช่นนี้
Memento -> เกรด A <- {Super Recommended}
ถ้าคุณได้ดู "Batman Begins" และ "The Dark Knight" ...แล้วยังว่าเดินเรื่องไม่หวือหวาอะไรสุดกู่
ถ้าคุณได้ดู "The Prestige" ...แล้วคิดว่ามันจะหักมุมได้เหนือจริงก็เกินไป
ขอแนะนำ "Memento" ...เพราะมันคือความพอดี ที่อยู่บนความเป็นไปได้ และหนักแน่นจริงจังปนหวือหวาในการนำเสนอ สำหรับหนังในแบบฉบับของ "คริสโตเฟอร์ โนแลน"
ซึ่งถ้าพลอตหนังไล่ล่า ที่ว่าด้วยเรื่อง ชายหนุ่มตามค้นฆาตกรที่ฆ่าเมีย จะไม่แปลกใหม่อะไรนัก ในแนวหนังทริลเลอร์ ..นั่นก็ถือเป็นเพียงจุดเล็กๆ ในเรื่องราวหลักๆ ซึ่งจะบ่งชี้ว่า ความเป็นคน(ที่เป็นโรค)ความจำสั้นของพระเอกนี่แหละ จะมีผลทำให้เหตุการณ์ในหนังเกิดการพลิกผันเรื่อยไป ในทุกๆช่วงเวลาที่หนังตัดสลับเหตุการณ์ในอดีต และกาลปัจจุบันที่ย้อนเวลาขึ้นไปหาอดีต ...คงงงละซี้ ว่ามันจะเป็นอย่างไร
ถ้างงกันจริงงงกันจัง ขอแนะนำว่าต้องลองดู ..แล้วคุณอาจจะอยากก้มกราบ คริส โนแลน เลยทีเดียว
(แต่โดยส่วนตัวผม ก็ยังคงปลาบปลื้มชอบตัวหนัง The Prestige กับ The Dark Knight มากกว่าอยู่ดี)
Wall-E -> เกรด A <- {Super Recommended}
'พิกซาร์' ..ชื่อนี้ไม่ผิดหวังเลยจริงๆ ดูอนิเมชั่นค่ายนี้ กี่เรื่องต่อกี่เรื่อง ก็ล้วนเข้าข่ายดี และสนุกได้หมดโดยตลอด ...และที่แน่นอนเสียยิ่งกว่าแน่นอน ก็คือ การสร้างความประทับใจในเนื้อหา ที่มีมุมมองดีๆ เอาไปคิดต่อยอดได้เพลินใจ
และ "Wall-E" ก็ยังเข้าข่ายความเป็นหนัง พิกซาร์ เอาไว้ได้ทุกกระบวนท่า แม้กระทั่งว่า หนังแทบจะทำตัวเองให้เป็นหนังเงียบอย่างนี้ ก็ยังมีกลิ่นอายที่น่ารักของภาพและบุคลิกคาแรกเตอร์มาช่วยหนุนนำแต่ต้นจนถึงปลาย ให้กลายเป็นหนังที่ต้องพูดถึง ความมีเสน่ห์เหลือล้น จนออสการ์การ์ตูนยอดเยี่ยมช่างควรค่าเหลือเกิน
นี่ยังไม่รวมกับความจริงอีกข้อ ที่หนังหน้าเด็กเรื่องนี้แฝงประเด็นลึกๆ เกี่ยวกับ 'โลก' ที่ดูผู้ใหญ่จะเข้าใจมากกว่าเอาไว้ ..ให้กลายเป็นหนังที่มีคุณค่าล้นเหลือ จนอาจจะไปได้ไกลกว่า ถึงขั้นจะถึงออสการ์หนัง(คน)ยอดเยี่ยมเลยด้วยซ้ำ
แต่ทั้งสองความจริงนั่นก็ดูจะเป็นเรื่องที่ต้องละไว้ในฐานที่มันยอดเยี่ยมอย่างเจตนาจริงๆ ..เพราะอย่างไรแล้วถึงตัวหนังจะดีพร้อม และพร้อมที่จะทำให้ใครๆประทับใจได้อยู่ก็จริง หากส่วนตัวผม กลับยังไม่ลงตัวอย่างเต็มที่ โดนอย่างเต็มใจ เท่าที่คาดไว้แต่ต้น ..ถ้าจะบอกว่าผิดหวังก็คงไม่ใช่ แต่มันก็น้อยกว่าที่อยากได้จริงๆไปนิดนึง
เมื่อเทียบกับงานของ "แอนดรูว์ สแตนตัน" คนเดียวกันใน "Finding Nemo" ...เรื่องของเจ้าปลาน้อย ก็ดูลงตัว ไปพร้อมๆกับความอิ่มเอิบใจในขณะเดียวกันสำหรับผมที่มีให้มากกว่า
แต่ถึงกระนั้นแล้ว ส่วนที่เป็นความไม่เต็มที่ ก็ย่อมไม่ใช่เรื่องที่น่าตำหนิอะไรได้อีกเลย ..เมื่อเทียบกับเจตนาบริสุทธิ์ 100% อันเป็นทั้งความสนุกตามสไตล์ และสาระตามธรรมเนียม ผนวกรวม แล้วล้วนก็คู่ควรกับการเป็นหนังที่ใครๆก็ต้องตกหลุมรักให้เลยจริงๆครับ
ขอให้ความรับรองอีกเสียงว่า หุ่นยนต์แอ๊บแบ๊ว ..คุ้มค่า ทุกบาททุกสตางค์ สำหรับทุกคนในครอบครัวอย่างแน่นอน
วันนี้เรารอดูถ่ายทอดโอลิมปิกตอนเย็นค่ะ อยากรู้ว่าลุงจางอี้โหมวจะทำยังไงกับพิธีเปิด 55
(แม้ว่าจะขุ่นใจหน่อยๆ กับข่าวที่จีนเนรเทศผู้ประท้วงฟรีธิเบตเมื่อวานนี้)