เพลงศึกอยุธยา (๑๒๙)
ปืนใหญ่โหมโทรมเมืองจนหมดวัน
จวบสายัณห์สิ้นแสงสุรีย์ศรี
รัตติกาลคลุมผ้าแห่งราตรี
ก็เงียบฉี่สิ้นเสียงปังเปรี้ยงปึง
แล้วรากกำแพงใหญ่ที่ไฟสุม
พอสองทุ่มเวลาล่วงมาถึง
กำแพงก็ทรุดตัวเสียงดังตึง
พม่าอึงเอ็ดร้องกันก้องดัง
เสียงปืนใหญ่ก็พลันแผดสัญญาณ
เหล่าทหารพลไพร่ก็ไหลหลั่ง
เอาบันไดพาดแห่งกำแพงพัง
ปีนขึ้นยังเชิงเทินดำเนินการ
ส่วนที่ทรุดนั่นไซร้เข้าได้ก่อน
พระนครถูกบุกเข้าทุกด้าน
พอพลที่เข้าได้ไขทวาร
ส่วนใหญ่ก็บุกผ่านเข้าราญรอน
อ้ายเรืองเห็นพม่ามาโผงผาง
บอกพี่ช้างเร็วพี่เราหนีก่อน
อ้ายช้างร้องเสียงรัวส่ายหัวคลอน
มึงจะจรหนีคว้างไปทางใด
มาครานี้นี่ไร้ที่ให้หนี
เมื่อกรุงศรีเราสิ้นอายุขัย
เรืองเอ๋ยมึงกับกูจะอยู่ไย
เถอะเราไปตายพร้อมอยุธยา
นายหมื่นทรงอ้ายหวังทั้งอ้ายไว
ฟังคำไขอ้ายช้างต่างยิ้มร่า
หมื่นทรงบอกชื่นใจในวาจา
เช่นนั้นมามอดม้วยลงด้วยกัน
อย่าอ่อนน้อมยอมเป็นเชลยเขา
มาเถิดเราจงมาร่วมอาสัญ
ครั้นกล่าวแล้วก็กราดดาบฟาดฟัน
โถมถลันเข้าหาปัจจามิตร
ที่กล่าวถึงทั้งผองควงสองดาบ
แล่นขนาบถลามาติดติด
สละเป็นชาติพลีแล้วชีวิต
ช้างประชิดศัตรูเข้าสู้รบ
กำดาบสองมือมั่นเข้าพันพัว
ดาบทรงหัวปลาหลดไกวตลบ
เสียงดาบปะทะดาบทาบกระทบ
พม่าจบชีวังสังเวยคม
ควายเฒ่า