เพลงศึกอยุธยา (๑๖)
อกเอ๋ยอกนวลอ่อนสะท้อนไหว
ร้องว่าใครไยกำขยำถัน
ยินเสียงพร่ำคำรับขึ้นฉับพลัน
กล่าวว่าขวัญนุชนาฏอย่าหวาดกลัว
ขวัญอย่าเพริดหลงเพลินตามเนินผา
ขวัญจงมาซบอกอ้ายโจรชั่ว
ขวัญจงรีบกลับพลันรับขวัญตัว
ขวัญอย่ามัวถลำไกลลำเนา
เจ้าแพรแลเห็นหน้าน้ำตารื้น
พี่ไม่คืนมาเรือนพร้อมเพื่อนเขา
นึกว่ายกกระบัตรนั้นซัดเอา
ตกตายเน่ากลางทางระหว่างมา
แล้วนี่นักเลงใหญ่กระไรหรือ
จึงยื่นยื้อมือกุมปทุมข้า
ไม่เกรงกริ่งยิ่งรัดอัดกายา
แน่ะ..ยิ่งว่าก็ยิ่งอิงกระชับ
อ้ายช้างครางว่าแหม..เจ้าแพรพี่
เมื่อเช้านี้พี่เกือบไม่ได้กลับ
พบกองนายฉัตรแก้วแถวดอนพลับ
พี่นี้ขับม้าให้เขาไล่ตาม
ให้พวกเขาสนใจแห่ไล่พี่
ลัดเลาะหนีอ้อมทางดงช้างข้าม
เขาไล่ทันปะทะโคกพระราม
พี่ฟันตายไปสามที่โคกนั้น
นายฉัตรแก้วเข้ามาเป็นม้าสี่
พอปะฝีมือดูก็รู้ขั้น
ยกกระบัตรจอมดุแห่งสุพรรณ
มือเหนือชั้นกว่าพี่คนนี้นัก
เขาโถมแรงแทงจกเข้าอกพี่
เหล็กน้ำพี้เขาเห็นกระเด็นหัก
ระหว่างเขาสะดุดหยุดชะงัก
พี่รีบชักม้าผางเข้าทางไพร
นึกถึงเหตุที่รอดพ้นมอดม้วย
คงเป็นด้วยประเจียดหลวงตาไผ่
ห้ออ้ายนิลผินผ่านเข้าด่านใน
อ้อมดงใหญ่แล้ววกตัดรกมา
นางแพรเกลือกหน้ากกกับอกช้าง
สะอื้นพลางจำนรรจ์ โอ้..ขวัญข้า
ข้าสวดมนต์บ่นพร่ำภาวนา
พระรักษาให้พี่พ้นโพยภัย
นี่ก็กรายบ่ายช่วงล่วงเวลา
แล้วข้าวปลาพี่ช้างหิวบ้างไหม
เออแน่ะนี่ปล่อยข้าก่อนปะไร
รัดซะจนหัวใจจะแหลกลาญ
ช้างจุมพิตลงกลางระหว่างคิ้ว
ว่าถึงหิวข้าวปลากระยาหาร
จนท้องกิ่วหิวทุกข์ทรมาน
เห็นยิ้มหวานหิวนั้นก็บรรเทา
ตอนนี้ตกอกฉิวหิวประหลาด
หิวสวาทหนักหน่วงทรวงกระเส่า
เสียงลมป่าสะบัดพัดเบาเบา
ดงสะเดาสุขปริ่มปานฉิมพลี
ควายเฒ่า
ดงสะเดา