ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
<<
ธันวาคม 2560
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
17 ธันวาคม 2560
 
 

ดาวหลงจันทร์ Crush on You บทที่ ๑๑ (Yuri)



๑๑

“ไม่ยักรู้ว่า คุณเตทำกับข้าวเก่งด้วย” วัลลภชมไม่ขาดปาก ทึ่งอึ้งประทับใจหลังเห็นติชิลาแสดงฝีมือทำครัวอย่างคล่องแคล่วอย่างไม่น่าเชื่อ “คนอะไรทั้งสวยทั้งเก่ง”

ชิส์! ชมกันเข้าไป

ดารินส่งค้อนให้เพื่อนชายที่ดูจะแปรพักตร์ไปเข้ากับสาวสวยทั้งที่เพิ่งรู้จักเท่านั้น จึงเอ่ยสั่งห้วนๆอารมณ์บูดเน่ามากขึ้น

“ไปเตรียมจานกับช้อนมาสิลภ ตักข้าวมาด้วยล่ะ ดาหิวแล้ว”

อย่าบอกนะว่าหึงฉัน หึหึ

เขามองเธอที่แสดงอากัปกิริยาบึ้งตึงเหมือนแง่งอน จึงอดที่จะคิดเข้าข้างตัวเองไม่ได้กลอกตาไปมาใช้ความคิด นึกอยากให้ความสัมพันธ์ของเราคืบหน้าไปกว่านี้

ที่ผ่านมาวัลลภคิดเสมอว่า ดารินคือแฟนของเขา แม้เขาเอ่ยปากบอกรักตรงๆหลายครั้ง ทว่าหญิงสาวตอบว่า ขอเวลาคิดอีกหน่อย ไม่ได้ยอมรับ แต่ไม่ได้ปฏิเสธประกอบกับครอบครัวของเธอ โดยเฉพาะปรีชาเปิดไฟเขียวให้ชัดเจน ทำให้ชายหนุ่มเชื่อมั่นมากว่าอีกไม่นานดารินต้องตกลงปลงใจกับเขาแน่

“รับทราบครับ” ยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ขยับลุกไปยังโซนครัว

ผู้ชายนี่เห็นผู้หญิงสวยไม่ได้เลยจริงๆ ...เหมือนกันหมด

ดารินนึกบ่น ก่อนหันมาสนใจกล่องพิซซ่าที่วางบนโต๊ะตรงหน้า แล้วอดที่จะหวนคิดถึงอดีตไม่ได้

ยังจำได้อีกเหรอเนี่ย...ตั้งหลายปีแล้วนะ

“หาอะไรครับ?” วัลลภเอ่ยขึ้น หลังมาถึงโซนครัวแล้วเห็นติชิลาเหลียวซ้ายแลขวา

“ชามอยู่ไหนคะ? ฉันจะใส่แกงเลียงค่ะ” หญิงสาวเพิ่งปิดเตาหลังแกงเดือดได้ที่

เขาเปิดตู้อย่างคุ้นเคย หยิบชามใบหนึ่งส่งให้หล่อน

“นี่ครับ”

“ขอบคุณค่ะ” สาวสวยรับชามไปใส่แกงเลียงร้อนๆ ที่หล่อนทำสุดฝีมือ

“รับข้าวหน่อยนะครับ”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ”

“หอมมาก” วัลลภเอ่ยชมอย่างจริงใจแกงเลียงเป็นหนึ่งในอาหารโปรดของเขา ขณะหยิบจานตักข้าวสำหรับทุกคน

“หวังว่าคงจะพอทานได้” เอ่ยแบบถ่อมตัวก่อนยกชามแกงนั้นออกไปอย่างระมัดระวังแล้ววางที่โต๊ะรับแขกซึ่งใช้เป็นโต๊ะทานข้าวด้วย

หอมชะมัด

ดารินอดที่จะนึกชมไม่ได้ หลังได้กลิ่นหอมโชยเตะปลายจมูกแต่สงวนท่าทางเอาไว้เต็มที่ ไม่อยากให้อีกฝ่ายได้ใจ หญิงสาวรู้มานานแล้วว่าฝีมือปรุงอาหารของหล่อนเยี่ยมขนาดไหน...น้องๆ เชฟเลยทีเดียว

กริ๊ง! กริ๊ง! กริ๊ง!

มือถือของติชิลากรีดร้อง หล่อนหยิบอุปกรณ์ออกมาดูปรายตามองสาวร่างเล็ก ก่อนตัดสินใจกดรับ

“สวัสดีค่ะพี่ทิน”

“เตอยู่ไหนน่ะ? พี่อยู่หน้าห้องแล้วนะ กดกริ่งตั้งหลายหนเตก็ไม่ออกมาสักที”

“คือเตมาอยู่ห้องคุณดารินค่ะ”

“ห้องไหนเหรอ?” ทินกรถามอย่างสนใจ “พี่ไปได้ไหม?”

“รอเดี๋ยวนะคะพี่ทิน” สาวสวยยกมือปิดมือถือไม่ให้เสียงเล็ดรอดเข้าไปในสายแล้วหันไปถามความเห็นของเจ้าของห้อง “น้องดาสะดวกให้คุณทินกรแวะมาไหมคะ?...ถ้าไม่สะดวกพี่กลับห้องก่อนก็ได้”

จะมาทำไม?

ดารินทำหน้าอึ้งๆ ไม่คิดอยากจะต้อนรับรองประธานฯหนุ่มสักเท่าไหร่ ไม่ได้สนิทสนมคุ้นเคยกับเขามากนัก เธอเพิ่งขึ้นมาเป็นตำแหน่งผู้ช่วยได้ไม่นานเวลาเจอเขาจะรู้สึกเกร็งทุกครั้ง

“เอ่อ...” ทำหน้าอึกอักลังเล

ติชิลาอ่านสีหน้าของอีกฝ่ายออก ก่อนกรอกเสียงตอบพี่ชายไปโดยไม่คิดจะรอคำตอบจากเธอ

“พี่ทินคะ รอแป๊บนะคะ เดี๋ยวเตกลับไปที่ห้องค่ะคือคุณดาเธอมีแขกอยู่น่ะค่ะ” เอ่ยแก้ตัวให้ดารินเสร็จสรรพ

“โอเค” คนในสายรับคำอย่างว่าง่าย ก่อนกดปุ่มเลิกสนทนา

สาวสวยเก็บมือถือ แล้วเงยหน้ามองอดีตคนรัก

“ทานให้อร่อยนะคะ ขอตัวก่อน”

ท่าทางจะสนิทกับคุณทินเหลือเกิน...โทรตามก็รีบไปขนาดนี้

ดารินอดจะคิดแบบนั้นไม่ได้ จินตนาการไปไกลว่า สองคนนี้คงไม่ได้เป็นแค่คนเพิ่งรู้จักแต่น่าจะลึกซึ้งกว่านั้น ทินกรจัดว่ามีคุณสมบัติเป็นสามีแห่งชาติได้อย่างสบายๆทั้งดังทั้งหล่อทั้งรวย หากติชิลาจะเลือกเขาก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร

วัลลภที่ถือจานใส่ข้าวออกมาทำหน้างง ที่เห็นแขกคนสวยทำท่าเหมือนจะจากไป

“คุณเตไม่ทานด้วยกันก่อนเหรอครับ?”

“ต้องขอโทษนะคะ คงไม่ได้แล้วค่ะ คือมีคนมาหาที่ห้องฉันต้องกลับก่อน ฝากทานพิซซ่าด้วยนะคะ”

“เสียดายจัง อุตส่าห์ทำแกงจนเสร็จ แต่ไม่ได้อยู่ชิมสักคำ”เขาบ่นอุบอิบอย่างเสียดาย

“ชิมแล้ว บอกฉันด้วยนะคะว่าอร่อยหรือเปล่า?” หล่อนพูดยิ้มๆ“พรุ่งนี้เจอกันค่ะ”

“ครับ” วัลลภยิ้มกว้าง

“สวัสดีค่ะคุณดา” ติชิลาหันมาเอ่ยลากับดาริน

“ค่ะ” เธอรับคำสั้นๆ เสียงแผ่วกว่าที่ตั้งใจเอาไว้

หล่อนยิ้มจางๆ จ้องใบหน้าสวยคมหลายวินาทีก่อนหมุนตัวไปยังทางออก

เป็นผู้หญิงที่น่าสนใจจริงๆ

วัลลภอดที่จะเคลิ้มไปกับสาวสวยคนนี้ไม่ได้

สาวร่างเล็กมองแผ่นหลังที่แสนคุ้นเคยเดินไปใส่รองเท้าแล้วก้าวออกจากห้องไป ด้วยความรู้สึกหลากหลายที่ประเดประดังในสมอง หัวใจที่คิดว่าเข้มแข็งดั่งหินผากลับอ่อนยวบไม่ต่างจากเทียนโดนไฟลน เพียงแค่ติชิลามาปรากฏตัวตรงหน้าเท่านั้น

ทำไมต้องโผล่มาในชีวิตฉันอีก มาทำให้ฉันสับสนทั้งที่คุณกำลังจะเริ่มต้นใหม่กับคนอื่น...คนใจร้าย!

“พี่ทินแวะมาไม่บอกก่อน มีอะไรเหรอคะ?” ติชิลาถามอย่างร้อนใจทันทีที่เดินมาใกล้พี่ชายซึ่งยืนรออยู่หน้าห้อง ซึ่งอยู่คนละปีกกับห้องของดาริน

ตื่นเต้นอะไรจะขนาดนั้น!

ทินกรยิ้มมุมปากอย่างร่าเริง

“พี่จะแวะมาหาเตต้องมีธุระ?” ย้อนถามหน้าตาย ก่อนยกกล่องอาหารที่แวะซื้อเอามาฝาก“นี่ไงธุระของพี่ ทานอาหารกับน้อง”

เฮ้อ! ไม่รู้จะพูดยังไงเลย

สาวสวยส่ายหัวแม้จะไม่สบอารมณ์ที่โดนพี่ชายมาขัดจังหวะมื้อเย็นกับดารินแต่ก็โกรธเขาไม่ลง...คนไม่รู้ไม่ผิด

“เชิญค่ะ” หล่อนเปิดห้องให้ทินกรเข้าไปก่อน แล้วปิดล็อกประตู

“จัดห้องสวยนะ” พี่ชายเอ่ยชม หลังกวาดตามองไปรอบๆ ห้องอย่างสนใจ

แม้จะเป็นห้องขนาดไม่ใหญ่นัก แต่ตกแต่งได้น่าอยู่ ข้าวของจัดวางอย่างลงตัวมีโซฟารับแขก พร้อมโต๊ะกระจกซึ่งมีกุหลาบผ้าสีแดงช่อใหญ่ใส่แจกัน และแฟ้มดำวางอยู่โทรทัศน์สี่สิบนิ้วติดผนัง พร้อมเครื่องเล่นซีดี ยังเหลือแต่ตู้หนังสือโล่ง มีหนังสือสองกองวางใกล้ๆที่อีกคนยังไม่ได้จัด ส่วนโซนครัวยังไม่มีอุปกรณ์อะไร นอกจากตู้เย็น กับไมโครเวฟแล้วก็จานชามช้อนส้อมไว้ใช้แก้ขัดไม่กี่คู่

“ยังไม่เรียบร้อยเท่าไหร่ค่ะ”

“นั่งทานที่โซฟานะ?”

“ค่ะ ขอบคุณค่ะ” ติชิลานั่งลงข้างเขารับกล่องอาหารไปเปิดแล้วก็ต้องอุทานออกมา นัยน์ตาคู่งามเป็นประกายยินดียิ่ง “ว้าว!”

“ผัดซีอิ๊วเจ้าโปรดของเราไง”

“น่าอร่อยจัง”

“ทานให้หมดนะ”

“ไม่มีปัญหาค่ะ” หล่อนยักคิ้วเรียวกวนๆ แบบไม่เก็บซ่อนความเป็นเด็กเอาไว้

สองพี่น้องนั่งทานกันเงียบๆ แต่เต็มไปด้วยความสุข จนกระทั่งอิ่มหนำสำราญ

“อร่อยมากค่ะ” สาวสวยพูดอย่างร่าเริง ตอนเรียนอยู่ต่างประเทศหล่อนคิดถึงอาหารร้านนี้มากแม้จะกลับมาเมืองไทยเป็นอาทิตย์แล้วแต่ยังไม่มีเวลาว่างแวะไปทานหากไม่ได้พี่ชายก็คงไม่มีลาภปาก

“ขอบคุณนะคะพี่ทิน” ติชิลาเอ่ยขอบคุณเขาอีกครั้ง

“เพื่อคุณน้องยินดีครับ เฮ้อ! อิ่มท้องแตกเลย สงสัยพรุ่งนี้ต้องไปวิ่งแล้ว” ทินกรบ่นอู้ พลางยกมือลูบท้องเกรงทุกอย่างที่รับประทานจะลงไปกองที่พุงให้เสียบุคลิก งานช่วงนี้ยุ่งจนหัวฟู ไม่มีเวลาออกกำลังกายเหมือนเคยเขาให้ความสำคัญกับงานเหนือสิ่งอื่นใด

“กลัวหมดหล่อเหรอคะ?” หล่อนเอ่ยล้อๆ

“ใครจะยอมกันล่ะ พี่มีซิกแพคด้วยนะ อย่ามาทำดูถูก”พี่ชายพูดสวนกลับอย่างเร็ว

ห่วงหล่อเหมือนกันเหรอเนี่ยไม่ยักรู้

น้องสาวซ่อนยิ้มในหน้า

“ว่าแต่นี่ขนแฟ้มมาอ่านต่อด้วยเหรอ?”

“ค่ะ เตอยากอ่านให้จบเร็วๆ”

“แล้วเจออะไรไหม?” ทินกรถามเสียงจริงจังไม่เหลือภาพขี้เล่นแบบเมื่อกี้แม้แต่น้อย เปลี่ยนอารมณ์เร็วจนแทบตามไม่ทัน

“ก็มีหลายจุดที่น่าสงสัยค่ะ แต่ขออ่านให้ครบทุกแฟ้มก่อนน่าจะเห็นภาพทั้งหมด” ติชิลาเอ่ยขรึมๆ แฝงความมั่นใจว่าจะสามารถหาช่องโหว่ของคนร้ายเจอ “เตคิดว่าเรื่องนี้คงเกี่ยวพันกับหลายคนหลายฝ่าย”

เงินตั้งเกือบร้อยล้าน...ทำแค่ไม่กี่คนไม่ได้หรอก

“พี่ก็ว่างั้นแหละ พวกนั้นต้องมีเครือข่ายแน่ เราต้องลากออกมาให้หมด”คนฟังเห็นพ้องด้วยอารมณ์ขุ่นเคืองนิดๆ “ถ้าเจออะไรก็บอกๆ กันด้วย พี่จะได้ช่วย” ทินกรไม่คิดทิ้งภาระทั้งหมดบนบ่าน้องสาวเรื่องนี้ถือเป็นความรับผิดชอบของเขาเหมือนกัน ในฐานะรองประธานบริษัท

“ค่ะ” หล่อนพยักหน้าน้อยๆ รับคำ

“แล้วคุณนุชว่าไงบ้างล่ะ?” เขาอยากรู้ว่าเธอคิดยังไงกับเรื่องนี้

“เตยังไม่ได้ชวน แค่เล่าให้ฟังคร่าวๆ นุชบอกว่าถ้าเจออะไรน่าสงสัยจะเอามาบอกค่ะ”

“ก็ยังดี” พี่ชายผงกหัวเล็กน้อยไม่คาดหวังว่าปรียานุชจะร่วมมือนัก เธอเพิ่งเลื่อนขึ้นมาเป็นผู้ช่วยฝ่ายการเงินไม่นานหลังคนเก่าขยับขึ้นไปเป็นหัวหน้าฝ่าย หากไม่รู้ว่าเป็นเพื่อนสนิทของน้องสาวเขาคงไม่ไว้ใจอีกฝ่ายเท่าไหร่ ด้วยยังไม่รู้จักนิสัยใจคอลึกซึ้งพอ ไม่รู้ทำไมเขาชอบที่จะปะทะคารมกับเธอคนนี้ แทบทุกครั้งที่เจอหน้ากัน เหมือนเป็นความสุขทางใจเล็กๆน้อยๆ

อย่าบอกนะว่า พี่ทินสนใจนุชอยู่

หล่อนอดที่จะคิดแบบนั้นไม่ได้ ที่เห็นทินกรเอ่ยถึงเพื่อนสนิทของตนหลายหนจนผิดสังเกตแต่ก็ไม่คิดขัดขวางทางรักใคร หากทั้งคู่ลงเอยกันได้ก็นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี

สองพี่น้องนั่งคุยกันอีกครู่หนึ่ง จนสองทุ่มเศษทินกรคิดว่าควรจะกลับได้แล้วติชิลาเดินออกมาส่งเขาหน้าลิฟต์ที่อยู่ตรงช่วงกลางของชั้น ซึ่งไม่มีใครยืนรอเลยสักคน

“ขับรถดีๆ นะคะ”

“สบายมาก”

“ขอบคุณสำหรับของฝากค่ะ ถูกใจเตมาก”

“เปลี่ยนคำขอบคุณเป็นอย่างอื่นแทนได้ไหม?”ชายหนุ่มเอียงคอมองคนตรงหน้าที่ยืนอยู่แทบไหล่จะชนกัน

หล่อนทำหน้าแปลกใจ

“อะไรคะ?”

“ขอกอดทีสิ” เขาร้องขอแบบอ้อนๆ หลังคิดว่าอยู่กันเพียงลำพัง

“นึกว่าเรื่องอะไร ได้สิคะมาค่ะ” สาวสวยพูดตอบยิ้มๆแล้วโผเข้ากอดเขา ทินกรยกสองแขนกอดตอบอย่างยินดี

ทั้งสองกอดกันนานหลายวินาทีก่อนคลายวงแขนออก พี่ชายยิ้มอย่างอ่อนโยนยกมือหนาขยี้ผมสลวยของน้องสาวเบาๆ อย่างเอ็นดู

ติ๊ง!

ประตูลิฟต์เปิดออก เวลาการจากกันมาถึง

“ไว้พรุ่งนี้เจอกันนะ”

“บายค่ะพี่ทิน” หญิงสาวโบกมือให้เขา ยืนรอจนประตูเหล็กปิด จึงหมุนตัวก้าวเท้ากลับห้องอย่างสบายใจเพื่อไปอาบน้ำอาบท่าให้สบายตัว แล้วอ่านเอกสารที่เอามาด้วยต่อให้จบ

ติชิลาไม่ได้รู้เลยสักนิดว่า การกระทำของหล่อนทำให้ใครบางคนที่บังเอิญมารู้เห็นเข้า...หัวใจสลายอีกรอบ

ดารินยืนหมดอาลัยตายอยากพิงผนังห้องหลบมุมอยู่ไม่ไกลจากช่องลิฟต์นัก เธอออกมาทิ้งขยะแล้วเหลือบเห็นสองคนเดินมาจึงซ่อนตัว สองหูได้ยินชัดเจนทุกถ้อยคำสนทนา ฟังแล้วสนิทชิดเชื้อเสมือนหนึ่งเป็นคู่รักก็ไม่ปานสาวผมสั้นยอกแสยงแสนสาหัส ปานมีมีดคมปักลงกึ่งกลางใจ หยาดน้ำใสๆ หลั่งอาบสองแก้มเนียน

นี่คุณลืมเรื่องของเราหมดแล้วใช่ไหม คนบ้า!

ช้ำใจ

รักไร้ค่าเจ็บปวดนัก

เห็นประจักษ์จิตหม่นไหม้

เขามีอื่นเราช้ำใจ

อยากจากไปให้ไกลกัน.

OoXoO

ขอบคุณที่กรุณาติดตาม เรื่องนี้จะอัพถึงตอนที่ 18 ถ้าชอบก็อุดหนุนกันหน่อยนะคะ

หนังสือจองได้ถึง 21 ธันวาคม ส่วน Ebook โหลดซื้อได้ที่ MEB ค่ะ

นาง

OoXoO




 

Create Date : 17 ธันวาคม 2560
0 comments
Last Update : 17 ธันวาคม 2560 15:34:27 น.
Counter : 682 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

 

นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com