ดาวหลงจันทร์ Crush on You บทที่ ๖ (Yuri)
๖ ตอนบ่ายในห้องประชุมของบริษัทซึ่งมีผู้บริหารเข้าร่วมฟังเกือบทุกฝ่าย หากใครติดงานก็ส่งตัวแทนมารับฟังเรื่องที่จะประชุมวันนี้เป็นการรายงานผลการดำเนินงานของบริษัท เฮ้ย! แกมาทำอะไรเนี่ย! ปรียานุช...ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายการเงิน ที่นั่งอยู่ในห้องประชุมก่อนทำหน้าสับสนหลังเห็นเพื่อนสนิทเข้ามาพร้อมกับผู้บริหารระดับสูงของบริษัท แต่แล้วเธอก็แค่พยักหน้าหลังเห็นอีกคนกลอกตาให้ เป็นเชิงบอกว่า 'เดี๋ยวค่อยคุยกัน พลันนึกไปถึงคำสนทนาที่โรงอาหารในวันนี้ ว่ามีผู้ช่วยผู้จัดการคนใหม่ของบริษัทนัยน์ตาของหญิงสาวก็วาววับเป็นประกายขึ้น อย่าบอกนะว่าแกคือผู้หญิงที่เขาลือกันให้แซดวันนี้...ว้าว! เตนั่งข้างคุณอาปรีชานะ ทินกรกระซิบบอกน้องสาว หล่อนผงกหัวน้อยๆ รับคำอย่างเข้าใจเดินไปหาปรีชาที่นั่งเปิดเอกสารตรงหน้าอ่านรอเวลา เก้าอี้ซ้ายมือของประธานฯ ส่วนพี่ชายก้าวไปนั่งที่ประจำของตนเองขวามือของประธานฯ ขอนั่งด้วยคนนะคะ ติชิลาเอ่ยกับปรีชา ชายสูงวัยเงยหน้าส่งยิ้มให้ผู้ช่วยคนใหม่ของตน เชิญครับคุณเต ขอบคุณค่ะ สาวสวยทรุดตัวลงนั่งซ้ายมือของอีกฝ่าย ทานข้าวเรียบร้อย? ปรีชาถาม เรียบร้อยค่ะ ดีครับ ผู้จัดการสูงวัยยิ้ม วันนี้เป็นประชุมประจำเดือนน่ะครับถ้าไงก็ลองอ่านแฟ้มดูก่อน ค่อยๆ ทำความเข้าใจข้อมูลไปเรื่อยๆ ไม่ยากหรอกครับสงสัยก็ถามผมได้นะ ค่ะ ขอบคุณค่ะ สาวสวยหยิบแฟ้มใส่เอกสารตรงหน้ามาพลิกอ่านคร่าวๆ อย่างสนใจเป็นข้อมูลการดำเนินงานของแต่ละฝ่ายในบริษัท ซึ่งบันทึกในรูปตารางเสียเป็นส่วนใหญ่เพื่อง่ายต่อการทำความเข้าใจและตีความ กำไรลดลงฮวบเลยนะเนี่ย ติชิลาหรี่ตาลง ขมวดคิ้วเรียวหลังเห็นตัวเลขในงบกำไรขาดทุนที่อยู่หน้าต้นๆ แสดงผลกำไรลดลงติดต่อกันสองไตรมาส แม้เทียบเป็นเปอร์เซ็นต์จะไม่เยอะมากแค่หลักหน่วยแต่ทว่าหากคิดเป็นตัวเงินแบบคร่าวๆ หายไปหย่อนห้าสิบล้าน งบการเงินเปรียบเสมือนเครื่องส่งสัญญาณชั้นเลิศคอยชี้ให้เห็นแนวโน้มธุรกิจ เตือนให้ผู้บริหารธุรกิจต้องรอบคอบในการทำงาน หายทีละเยอะแบบนี้ต่อไป...ไม่สนุกแน่ หญิงสาวเข้าใจว่าทำไมทรงพลกับทินกรถึงได้เครียดกับเรื่องนี้นัก หากสถานการณ์ยังเป็นอย่างนี้ต่อไป อีกไม่นานบริษัทแห่งนี้อาจจะล้มครืนลงได้หากไม่ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ขนาดธุรกิจที่เคยยิ่งใหญ่ระดับตำนานหลายแห่ง ก็ล่มสลายกันให้เห็นมานักต่อนักแล้ว อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกธุรกิจ ...ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน ติชิลาพลิกดูอีกสองสามหน้าก่อนเงยหน้าขึ้นเมื่อได้ยินเสียงคนอื่นเข้ามาในห้อง แล้วต้องอึ้งงันเมื่อเห็นหน้าสวยคมของดารินปรากฏที่หน้าประตู สองสาวชะงักไปชั่วครู่ แล้วเป็นสาวร่างเล็กที่เรียกสติได้เร็วกว่าเธอทำหน้านิ่งก่อนก้าวไปนั่งยังเก้าอี้ของฝ่ายจัดซื้อข้างปรียานุชตัวแทนของฝ่ายการเงิน มาด้วยเหรอเนี่ย...ให้ตายเถอะ! สาวหน้าคมทำหน้าเบื่อโลกสุดขีด หลังเห็นใบหน้าสวยของคนรักเก่าเป็นครั้งที่สองของวันแถมตอนนี้ยังนั่งประจันหน้าห่างแค่โต๊ะคั่นอีกต่างหาก รู้งี้ให้คนอื่นมาแทนก็ดี สวัสดีค่ะดา ปรียานุชทักทายอีกฝ่าย สวัสดีค่ะพี่นุช เธอหันไปทักตอบสาวเพรียว งานยุ่งเหรอคะ สีหน้าไม่ดีเลย? อีกคนถาม ทั้งที่พอเดาได้ว่าเกิดจากอะไร เปล่าค่ะ ดารินปฏิเสธเสียงนิ่งๆ ไม่คิดขยายความว่าสาเหตุมาจากผู้หญิงสวยที่นั่งเก้าอี้ตรงข้าม ซึ่งทำให้หัวใจของเธอไม่สงบมาตั้งแต่คืนวันที่เมามายประกอบกับมาเจอกันตอนสายแบบไม่ทันตั้งตัวเตรียมใจ จนถึงตอนนี้อาการก็ยังไม่ดีขึ้น คนบ้า! ทำไมต้องมาปรากฏตัวให้เห็นด้วยนะ เผลอแจกค้อนวงโตให้ติชิลาที่ก้มหน้าก้มตาอ่านเอกสารราวกับไม่รู้จักใครในห้องนี้เป็นพิเศษ หึหึ ท่าทางจะยังแค้นไม่หาย ปรียานุชนึกขำในใจ กับท่าทางกระฟัดกระเฟียดของดาริน หลังเห็นหน้าคนรักเก่าเธอตั้งใจว่า เย็นนี้ต้องตะครุบเพื่อนซี้มาสอบถามให้รู้เรื่องว่ามาทำอะไรที่บริษัทแห่งนี้ แถมยังมีข่าวลือว่าเป็นแฟนกับทินกรอีกต่างหากซึ่งเป็นเรื่องที่สาวดุไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด อมพระประธานมาพูดก็ไม่เชื่อ ...เรื่องบางอย่างเปลี่ยนกันง่ายๆ ที่ไหน ไม่นาน ผู้ชายวัยสามสิบกว่าๆ ก้าวเข้ามานั่งที่เก้าอี้ฝ่ายขายข้างรองประธานฯยิ้มร่าดูเป็นมิตรกว่าทุกคน สวัสดีครับทุกคน ไชยยันต์กล่าวทักทายอย่างเป็นกันเองกวาดสายตามองไปทั่วๆ ห้อง หยุดจ้องที่ติชิลาอย่างสนเท่ห์ แล้วพูดชมออกนอกหน้ากับผู้จัดการอาวุโสว้าว! ใครกันครับคุณปรีชา...สวยซะด้วย? อ๋อ ผู้ช่วยผมครับ คุณเต ปรีชาตอบคำถามของอีกฝ่าย สวัสดีค่ะ ติชิลาทักทายหนุ่มจอมเจ้าชู้ สวัสดีครับ ผมไชยยันต์หัวหน้าฝ่ายขายยินดีที่ได้รู้จักอย่างมากนะครับ เช่นกันค่ะ ตอบตามมารยาทส่งยิ้มน้อยๆ ให้เขา ปรายตาเห็นอดีตคนรักทำหน้างอเง้ากว่าเดิมจึงเลิกคิ้วเรียวขึ้นเล็กน้อยอย่างสงสัย ไม่พอใจอะไรอีก? ติชิลานึกฉงนสนเท่ห์ เจ้าชู้ประตูนรกเลยหมอนี่! ดารินนึกหมั่นไส้หัวหน้าฝ่ายขายจอมขี้หลี ที่ชอบแจกขนมจีบไปทั่วทุกฝ่ายที่มีอิสตรีสวยขนาดเธอยังเคยโดนหลายหนตอนเข้ามาทำงานที่นี่ใหม่ๆ แต่อาศัยที่มีกันชนดีก็เลยรอดตัวไป ชักสนุกแล้วสิ หึหึ ปรียานุชนึกขำ กับสถานการณ์ที่คลุมเครือพิกลของสองสาวในห้องนี้คงมีแต่เธอที่รู้ตื้นลึกหนาบางดีที่สุดนึกอยากลุ้นให้ลมหวนนำคู่รักกลับมาคืนดีกันอีกครั้ง ภายใต้เงื่อนไขที่ว่า ...สองสาวไม่ทะเลาะหรือฟัดกันตายไปข้างหนึ่งเสียก่อน ผมคงมีปัญหา แวะไปปรึกษาคุณปรีชาบ่อยๆ แล้วสิหัวหน้าฝ่ายขายหันไปพูดกับผู้จัดการสูงวัยแบบขำๆ นิสัยเก่ากำเริบอีกแล้ว ปรีชาส่ายหัวอย่างรู้ทันความคิดของอีกฝ่าย ผมว่าคุณไชยยันต์ควรปรึกษาคุณทินดีกว่านะครับชายสูงวัยโยนกลองไปหารองประธานฯ หนุ่ม คุณทินเกี่ยวอะไรด้วย? ไชยยันต์ทำหน้าสงสัย มองผู้ชายสองคนสลับไปมาก่อนอดที่จะถามออกมาไม่ได้ หมายความว่ายังไงครับ? ว่าไงครับคุณทิน? ปรีชาโบ้ยให้ชายหนุ่มตอบ พี่ชายเบนสายตามองน้องสาวแวบหนึ่งแล้วตอบคำถามนั้นชนิดที่ทำให้หลายคนที่ได้ยินสะอึกไม่น้อย อ๋อ เตเป็นคนสำคัญของผมครับ ทินกรยอมรับเสียงราบเรียบซึ่งเป็นอะไรที่ชวนคิดมากไม่น้อย โห! คนรักคุณทินเหรอเนี่ย...รสนิยมไม่ธรรมดาเลย หัวหน้าฝ่ายขายตีความแบบนั้น ซึ่งเข้าใจไม่ต่างจากหลายคนที่ได้ยินชัดเต็มสองหู ตกลงมันเรื่องอะไรกัน? ปรียานุชทำหน้าสับสนงวยงง ด้วยรู้รสนิยมของเพื่อนสนิทเป็นอย่างดีว่า...ติชิลาไม่เสพผู้ชายเป็นอาหารแน่แต่การที่ทินกรเอ่ยออกมาแบบนี้ จะแปลเป็นอย่างอื่นก็คงไม่ได้ คนสำคัญ! ดารินอึ้งไปหลายวินาที เม้มริมฝีปากแน่น ลำคอแห้งผากหัวใจที่ไม่สมประกอบร้าวรานหนักกว่าเดิมจนแทบหาชิ้นดีไม่ได้ ไม่รู้ทำไมเธอถึงได้รู้สึกเหมือนน้ำตาจะไหลรินย้อนกลับไปในทรวงอกเจ็บจุกจนพูดไม่ออก โอเค ผมเข้าใจแล้วครับ ไชยยันต์ยอมยกธงขาวยอมแพ้แบบลูกผู้ชายไม่คิดจะตอแยกับผู้หญิงของเจ้านาย เป็นความเสี่ยงที่ไม่คุ้มค่านักเขายังอยากทำงานที่นี่ต่อไปนานๆ ...ได้แต่แอบเสียดายสาวงามอย่างสุดซึ้ง เราเจอกันช้าเกินไป ขอบคุณครับคุณไชยยันต์ ทินกรยิ้มน้อยๆพอใจที่ทำให้จอมเจ้าชู้หยุดวุ่นวายกับติชิลาได้ ทุกการสนทนาหยุดลง เมื่อทรงพลประธานก้าวเข้าไปยังหัวโต๊ะผู้บริหารสูงสุดกวาดตามองผู้ใต้บังคับบัญชา ที่ลุกขึ้นยืนให้เกียรติอย่างพร้อมเพรียงโดยมีปองรัตน์เลขาฯ สาวใหญ่วัยสี่สิบเศษตามเข้ามาด้วย ทำหน้าที่บันทึกการประชุม เชิญนั่งครับ เขานั่งลงพร้อมเชื้อเชิญคนที่เหลือเมื่อทุกคนนั่งลงเรียบร้อย ประธานบริษัทหยุดมองที่เก้าอี้ว่างตัวหนึ่งคนของฝ่ายผลิตยังไม่มาอีกเหรอ? ยังครับ ปรีชาตอบขึ้น ขอโทษครับที่มาช้า เสียงทุ้มต่ำกล่าวขึ้นจากคนที่เพิ่งมาถึงเป็นคนสุดท้ายอย่างกระหืดกระหอบ...กิตติคุณ เชิญ ทรงพลกล่าวสั้นๆ ชายหนุ่มวัยยี่สิบกลางๆ ก้มหัวต่ำก้าวไปยังเก้าอี้ว่างที่เหลืออยู่ แล้วทรุดตัวลงนั่งอย่างระมัดระวัง กิตติคุณเพิ่งรู้ว่าตนต้องมาประชุมแทนเผด็จ หัวหน้าฝ่ายผลิตที่ชอบโยนงานมาให้ในช่วงนาทีสุดท้ายเขายกมือปาดเหงื่อ นึกโล่งใจที่มาทันก่อนเริ่มการประชุม เกือบไปแล้วสิ แล้วเผด็จไม่ว่างเหรอ? ทรงพลถามขึ้นหลังไม่เห็นหัวหน้าฝ่ายผลิตเป็นเวลานาน ทั้งที่อีกฝ่ายเป็นน้องชายคนโปรดของภรรยาที่แวะไปคฤหาสน์บ่อยๆ ยามที่เขาไม่อยู่บ้าน ...บ่งบอกชัดว่าเผด็จเจตนาหลบหน้าเขา คุณเผด็จกำลังคุมผลิตสินค้าล็อตสุดท้ายอยู่ครับต้องให้เสร็จคืนนี้ครับ ชายหนุ่มตอบไม่เต็มเสียง อืม คนฟังผงกหัวรับทราบ ไม่คิดจะซักไซ้ไล่เรียงด้วยรู้ว่าอีกคนตอบไม่ตรงความจริงนักก่อนเข้าเรื่องที่จะประชุมกันทันที เพื่อไม่ให้เสียเวลาให้ฝ่ายผลิตชี้แจงก่อนเลยแล้วกัน หา! กิตติคุณทำท่าตกใจมาก เหงื่อแตกพลั่กทั้งที่นั่งอยู่ในห้องปรับอากาศอุณหภูมิ ๒๖ องศาเซลเซียส เอ่อ ครับ เขารับคำเสียงแผ่ว ก่อนอธิบายผลการดำเนินงานในตารางที่อยู่ในแฟ้มที่แจกจ่ายให้ผู้ร่วมประชุมซึ่งเขาเป็นคนทำเองกับมือ เปิดเอกสารหน้า ๑๐ ครับไตรมาสที่ผ่านมาฝ่ายผลิตสามารถผลิตได้... ทุกคนในห้องเงียบกริบตั้งใจฟัง พลางอ่านเอกสารประกอบตามไปด้วยและมีโอกาสให้ผู้ฟังซักถามข้อสงสัย หลังจากผู้นำเสนอกล่าวจบ ซึ่งเป็นวิธี Brain Storming ที่เกือบทุกบริษัทใหญ่ใช้กัน ผลิตมากขึ้นกว่าไตรมาสก่อนแต่ทำไมกำไรถึงลดล่ะ? ติชิลาครุ่นคิดอย่างสงสัย หลังเปรียบเทียบข้อมูลในตารางอย่างละเอียดหลายอย่างชวนเคลือบแคลงมากขึ้นเรื่อยๆ พลันเหลือบไปเห็นค่าใช้จ่ายที่กระโดดเพิ่มขึ้นหลายรายการโดยเฉพาะค่าแรงล่วงเวลาหรือค่าโอที ทั้งที่ไม่ได้มีการปรับเพิ่มกำลังคนเลย นี่เขาจ้างคนทำงานนอกเวลากันทั้งวันทั้งคืนหรือไง? สาวสวยเชื่อว่าพี่ชายต่างแม่ของหล่อนเองคงติดใจสงสัยเรื่องนี้เช่นกันหลังปรายตาเห็นทินกรขมวดคิ้วแทบเป็นปมในจังหวะที่คนของฝ่ายผลิตเอ่ยถึงหัวข้อนี้พอดี เกือบสิบนาที กิตติคุณกล่าวจบการนำเสนอที่แสนจะขลุกขลักไม่ชวนฟังของตนลงแล้วเปิดโอกาสให้ผู้ฟังสอบถามตามธรรมเนียมปฏิบัติ เอ่อ ท่านใดมีข้อซักถามไหมครับ? อย่ามีคนถามเลยนะ ผมไม่อยากโกหกโดยไม่จำเป็น นึกภาวนาในใจ ไม่อยากตอบสิ่งที่ขัดกับความรู้สึก และสามัญสำนึกเขาเป็นแค่ลูกน้องมีหน้าที่ทำตามบัญชาของเผด็จเท่านั้น อีกฝ่ายบอกซ้ายบอกขวา กิตติคุณจำใจต้องก้มหน้าก้มตาทำโดยไม่กล้ามีปากเสียงแม้แต่น้อย สองปีก่อน กิตติคุณเป็นเด็กเสิร์ฟในร้านฟาสต์ฟู้ด ครอบครัวของเขามีฐานะยากจนต้องหาเช้ากินค่ำไร้ซึ่งอนาคต หากแต่ความช่วยเหลือของเผด็จเสนองานที่นี่ให้ ชายหนุ่มจึงไต่เต้าจากพนักงานธรรมดาได้รับความไว้วางใจจนเลื่อนมาเป็นผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายผลิต เวลานี้เขามีรายได้สูงกว่าที่เคยฝันเอาไว้ลิบลับ ...บุญคุณจึงเป็นคำที่ค้ำคอของเขาเอาไว้ ชายหนุ่มรู้อยู่เต็มอกว่า เผด็จไม่ใช่คนดีเท่าไหร่แต่อีกฝ่ายก็ทำให้พนักงานในฝ่ายผลิตได้รับเงินเดือนเพิ่มขึ้นถ้วนหน้า อันหมายถึงชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวทุกคนพลอยสบายไปด้วยมีโอกาสได้ใช้ของดีๆ ได้ส่งลูกเรียนสูงๆ บางคนซื้อบ้านซื้อรถใหม่ ซึ่งทำให้เขาอยู่ในภาวะเงินอุดปากจนพูดไม่ออกเพราะเป็นหนึ่งในผู้รับประโยชน์เช่นกัน ฝ่ายผลิตผลิตมากขึ้น แทนที่ต้นทุนต่อหน่วยจะถูกลง ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขนาดนี้เลยเหรอครับ?ทินกรเปิดประเด็นขึ้นกลางที่ประชุม เอาแล้วสิ! กิตติคุณเผลอเลียริมฝีปากที่แห้งผากนึกคำตอบที่โดนเผด็จสอนสั่งไว้เพื่อมาตอบ เอ่อ คือกำลังคนของเราไม่พอครับก็เลยต้องใช้วิธีทำล่วงเวลาซึ่งค่าใช้จ่ายนี้ก็เพิ่มขึ้นตามชั่วโมงการทำงานส่วนค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ดที่เพิ่มมาจากการสั่งวัตถุดิบมาเพิ่มทีหลังสั่งจำนวนน้อยต้นทุนก็ต้องแพงขึ้นกว่าเดิมครับ รบกวนคุณกิตติคุณส่งข้อมูลการผลิตแบบละเอียดมาให้ภายในอาทิตย์นี้ด้วยนะครับ ผมอยากศึกษาเพิ่มเติม ขอย้อนหลังไปสักหนึ่งปีหรือมากกว่านั้นก็ดีรองประธานฯ หนุ่มกล่าวเสียงเรียบน่ายำเกรง ทินกรสงสัยงบที่ฝ่ายผลิตชี้แจ้งไม่น้อยคราวนี้ดูมีพิรุธจนเห็นได้ชัดเจน เป็นไปได้ยังไงที่พนักงานระดับล่างจะมีเงินเดือนบวกโอทีเฉลี่ยสูงเกือบเท่าระดับหัวหน้าฝ่าย กล้ามากเลยนะ..โกงกันซึ่งหน้า กิตติคุณรู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ ใบหน้าซีดเผือด เกือบเท่าสีกระดาษที่โดนรองประธานฯจับผิด รีบลนลานรับคำอย่างเร็ว ครับ ผมจะรีบไปจัดการมาให้ เก็บความรู้สึกไม่เก่งเอาเสียเลยใครเห็นก็รู้หมดว่าโกหก แสดงว่าฝ่ายนี้มีปัญหาจริงๆ สินะ ติชิลานึกบ่นในใจกับภาษากายของกิตติคุณที่ดูใสซื่อเกินกว่าจะปกปิดความจริงเอาไว้ ไม่เข้าใจว่า ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงขึ้นมายังตำแหน่งสูงแบบนี้ได้จนทำให้หล่อนพลอยนึกสงสัยว่า เผด็จเป็นคนแบบไหน? ตกลงหัวหน้าของหมอนี่ฉลาดหรือโง่กันแน่? ถึงได้เลือกใช้คนแบบนี้ การมีลูกน้องโง่เขลาอันตรายเสียยิ่งกว่ามีศัตรูเก่งฉกาจเสียอีก...เป็นคำเตือนสติที่ยังคงใช้ได้ดีจากวรรณกรรมเรื่องสามก๊ก มีใครจะถามอะไรฝ่ายผลิตอีกไหม? ทรงพลถามหลังเสียเวลาไปพอสมควรกับการนำเสนอของฝ่ายแรก เมื่อไม่มีใครพูดอะไร เขาจึงพูดต่อ เชิญฝ่ายจัดซื้อครับ เอกสารประกอบค่ะ รบกวนส่งต่อด้วยนะคะ ดารินส่งกระดาษหนึ่งปึกที่เตรียมมาต่างหากชุดละห้าแผ่นส่งวนไปยังผู้ร่วมประชุมทุกคน ปรียานุชหยิบเก็บไว้ชุดหนึ่ง ก่อนส่งต่อให้ไชยยันต์ ซึ่งเขาก็ส่งต่อไปให้คนที่เหลือ ดูที่หน้า ๒๑ ในแฟ้มก่อนนะคะ หญิงสาวเริ่มอธิบายตามตารางในแฟ้มก่อนเพิ่มเติมอ้างอิงไปยังกระดาษอีกชุดซึ่งเธอให้ข้อมูลอย่างละเอียดถี่ถ้วนไม่ตกหล่น เรียกว่าไม่เปิดช่องให้ใครสงสัยได้เลย ทำงานละเอียดมาก...เยี่ยมจริงๆ ติชิลาอดที่จะชมเชยอดีตคนรักในใจไม่ได้ หลังอ่านข้อมูลที่เธอนำเสนอนอกจากจะเข้าใจง่ายแล้ว ยังบ่งบอกถึงความรู้จริงในสิ่งที่พูดไม่มั่วเหมือนกิตติคุณ จากนั้นทรงพลให้ฝ่ายขายนำเสนอ ซึ่งไชยยันต์ทำได้ดีเกินคาดกว่าเป้าหมายที่วางไว้ตามด้วยฝ่ายการเงินโดยปรียานุชเป็นคนสุดท้าย จากนั้นประธานฯ กล่าวก่อนปิดการประชุมที่ใช้เวลานานเกือบสองชั่วโมง ขอบคุณพวกคุณทุกคน ที่ทำงานให้บริษัทอย่างเต็มที่เสมอมาแต่งบสองไตรมาสของบริษัทมีแนวโน้มไม่ค่อยดีเท่าไหร่ผมอยากให้ทุกฝ่ายช่วยกันปรับยอดประมาณการไตรมาสหน้าใหม่ ลดค่าใช้จ่ายเพื่อให้ผลกำไรเพิ่มขึ้นสักห้าถึงสิบเปอร์เซ็นต์รบกวนส่งภายในสองอาทิตย์ด้วยนะครับ ทรงพลกล่าวเสียงจริงจัง นี่ไม่ใช่ประโยคขอร้อง...แต่คือประโยคคำสั่ง ผู้ร่วมฟังเกือบทุกคนอึ้งไป กับคำบัญชาของนายใหญ่ ง่ายซะที่ไหน ดารินนึกบ่นในใจ แต่ไม่กล้าพูดออกมาดังๆ เกรงจะโดนพักร้อนพักงานฐานขัดคำสั่งเจ้านาย ไม่เคยเห็นพ่อเป็นแบบนี้เลย ดุเหมือนกันนะเนี่ย ติชิลาทำหน้าแปลกใจอาจเพราะไม่สนิทกับพ่อมากพอ จึงมีอะไรหลายอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน มีอะไรสงสัยไหมครับ? ทรงพลกวาดตามองลูกน้องทีละคน ไม่ครับ ไชยยันต์ส่ายหน้า แม้จะหนักใจกับคำสั่งแต่เขาเชื่อมั่นในตัวเองเสมอว่า...ขอเพียงตั้งใจจริง อะไรก็เป็นไปได้ ผมขอปิดการประชุมเพียงแค่นี้ ขอบคุณครับ นายใหญ่บอกทิ้งท้ายอย่างสุภาพก่อนลุกออกจากเก้าอี้ โดยมีปองรัตน์เลขาฯ ของเขารีบตามออกไป ผู้ร่วมประชุมหลายคนเผลอถอนหายใจอย่างโล่งอก ที่มาถึงนาทีสุดท้ายแล้วเป็นไชยยันต์ที่เอ่ยปากขึ้นคนแรก ผมขอตัวก่อนนะครับทุกคน มีงานค้างอยู่ครับหัวหน้าฝ่ายขายหันมาหลิ่วตาแบบเจ้าชู้ให้ติชิลา ไว้ค่อยคุยกันนะครับคุณเต ค่ะ หล่อนยิ้มมุมปากให้อีกฝ่าย หนุ่มเจ้าชู้ออกจากห้องไปคนแรก ตามด้วยกิตติคุณก้มหน้าเดินงุดๆออกไปโดยไม่พูดไม่จา ท่าทางคงจะงานยุ่งหน่อยนะครับแบบนี้ ปรีชาเปรยติดตลกขึ้นแบบไม่ได้เจาะจงว่าคุยกับใคร ไม่หน่อยมั้งคะคุณอา นี่มันงานหินชัดๆปรียานุชค้านคำพูดของอีกฝ่าย พร้อมทำหน้าเหนื่อยๆ หินไม่หิน อีกสองอาทิตย์ก็น่าจะรู้ครับผู้จัดการสูงวัยพูดอย่างอารมณ์ดี ทินกรหัวเราะหึหึในลำคอเบาๆ ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายการเงินหันขวับไปจ้องหน้ารองประธานฯ หนุ่มอย่างไม่สบอารมณ์นักรู้สึกเหมือนโดนหัวเราะเยาะ ฉันพูดอะไรผิดเหรอคะคุณทิน? ไม่ครับ แล้วคุณทินขำอะไรคะ? ผมแค่ขำคุณนุชครับ เธอหรี่ตาจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็งอย่างเอาเรื่อง เรื่อง? ผมได้ยินคุณบ่นทีไร สุดท้ายคุณนุชก็ทำได้ทุกทีผมก็เลยไม่รู้ว่าคุณจะบ่นไปทำไม ตกลงนั่นชมหรือว่า? ปรียานุชไม่เข้าใจคำหมายที่เขาพยายามจะสื่อนักว่าต้องการจะบอกอะไรกันแน่ ขืนทำไม่ได้ก็เสียชื่อสิ ผมเชื่อว่าคุณนุชทำได้ ชายหนุ่มยกยิ้มให้หญิงสาว ก่อนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงหันไปเรียกน้องสาวที่กำลังสนทนากับปรีชา เต เจ้าของชื่อเงยมองคนเรียกแทบจะทันที คะ? ก่อนกลับบ้านไปหาพี่ที่ห้องด้วยนะ มีอะไรจะคุยด้วย ได้ค่ะ ติชิลารับปากเบาๆ ขอตัวครับ ทินกรพูดแล้วออกจากห้องนั้นไป หวานอะไรกันจะขนาดนั้นเรียกชื่อเล่นอีกต่างหาก เชอะ! ดารินนึกหมั่นไส้อดีตคนรักเก่า ที่ดูจะสนิทสนมกับรองประธานฯ หนุ่มเหลือเกินจนแทบจะเชื่อสนิทใจว่า สองคนนี้น่าจะมีความสัมพันธ์พิเศษต่อกัน พรุ่งนี้เช้าคุณเตแวะไปดูห้องทำงานด้วยนะครับผมสั่งให้เด็กไปทำความสะอาดแล้วล่ะ เย็นนี้ก็คงเรียบร้อยปรีชากล่าวกับผู้ช่วยคนใหม่ของตน ขอบคุณค่ะคุณปรีชา เรียกคุณอาก็ได้ครับ ทุกคนเรียกผมแบบนี้บิดาของดารินพูดอย่างเป็นกันเอง หล่อนปรายตามองไปยังดารินเหมือนถามว่า มีปัญหาอะไรไหม? เธอคนนั้นนั่งกอดอก ถลึงตาเขียวปั๊ดให้ มองทำไม! ค่ะคุณอา ติชิลารับคำอย่างว่าง่ายไม่รังเกียจที่จะเรียกเขาแบบนั้น ทั้งที่ตามจริงหล่อนต้องเรียกอีกฝ่ายสนิทสนมกว่านี้แต่เกรงจะได้ลูกปืนเป็นของแถมจึงสงบปากคำไว้ จริงๆ เตต้องเรียกคุณพ่อต่างหากนะคะ ถ้าคุณเตสงสัยเอกสารของฝ่ายจัดซื้อ ถามดารินได้นะครับเขาเจตนาให้สองสาวสนิทสนมกัน เพื่อประโยชน์ในอนาคต โดยไม่รู้เลยสักนิดว่าคู่นี้เคยเป็นอะไรกันมาก่อน ทำไมต้องเปิดทางให้แบบนั้นด้วยคะพ่อ สาวร่างเล็กนึกหวั่นเกรงไม่อยากให้คนรักเก่าเข้ามาสนิทชิดเชื้อเกินความจำเป็น...กลัวใจตัวเองเหลือเกิน หล่อนซ่อนยิ้มในหน้าปรายตามองไปทางเธอที่จ้องเขม็งมาจนตาแทบถลน ก่อนหันกลับไปพูดกับชายอาวุโส ค่ะคุณอา งั้นผมขอตัวไปทำงานต่อก่อนนะครับ ปรีชาลุกขึ้นยืน หมายออกไปจากห้องประชุมแล้วนึกอะไรขึ้นมาได้ จึงหมุนตัวกลับมามองลูกสาว ถ้าเจอวัลลภอย่าลืมชวนมาทานข้าวที่บ้านด้วยนะพ่ออยากเจอ ได้ค่ะพ่อ ดารินรับคำเช่นปกติ แต่เดาไม่ออกว่าบิดามีธุระอะไรกับเพื่อนชายของตน ผู้จัดการอาวุโสพยักหน้า แล้วออกจากห้องไปอีกคน ไปนะคะพี่นุช สาวร่างเล็กเอ่ยขึ้น คว้าเอกสารแล้วลุกออกไปไม่อยากอยู่กับตัวอันตรายกับหัวใจสองต่อสอง เธอยังไม่อยากพูดถึงเรื่องที่เกิดขึ้นคืนนั้นขอเวลาทำใจอีกสักหน่อย วัลลภ...ใคร? ติชิลาขมวดคิ้วแทบเป็นปม หลังได้ยินชื่อชายหนุ่มที่ปรีชาอยากเจอตัวโดยหวังว่าเขาจะไม่ใช่คนพิเศษของดาริน ปรียานุชซ่อนยิ้มในหน้ากับความรักสามเส้าสี่เส้า ที่ชวนติดตามกว่าในละครเสียอีก ชักเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ จะเป็นยังไงต่อไปนะอยากรู้จริงๆ หึหึ เจ็บ เดือนผ่านปีผ่านยังจำ น้ำคำพรอดพร่ำบอกรัก สาบานชั่วฟ้าแน่นหนัก เจ็บนักหลงรมคนลวง. OoXoO ขอบคุณที่กรุณาติดตามค่ะ
หนังสือจองได้ถึง 21 ธันวาคม 60 นะคะ รายละเอียดการจองอยู่ที่ลิงค์ 'สินค้า' ค่ะ ส่วน Ebook น่าจะคลอดได้เร็วๆ นี้ค่ะ นาง OoXoO
Create Date : 03 ธันวาคม 2560 |
|
0 comments |
Last Update : 3 ธันวาคม 2560 16:02:08 น. |
Counter : 752 Pageviews. |
|
|
|