ขอต้อนรับสู่โลกของนิยายยูริ เรื่องจากประสบการณ์ และทำนายดวงชะตา โดย นิ้วนาง-เดียนา-ลำดวนพยากรณ์
Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2561
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728 
 
8 กุมภาพันธ์ 2561
 
All Blogs
 

ดาวหลงจันทร์ Crush on You บทที่ ๑๘ (Yuri)



๑๘

“ที่ห้องมีข้าวสารกับหมูบดบ้างไหมคะ?” ติชิลาเอียงหน้ามาถามขณะทำหน้าที่เป็นสารถีรถญี่ปุ่นคันเล็กให้ดาริน ซึ่งนั่งเงียบ สายตามองออกนอกหน้าต่างตลอดทางตั้งแต่ออกจากบริษัทเหมือนครุ่นคิดอะไรอยู่

หล่อนจึงหาเรื่องคุยเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจ รู้จักนิสัยใจคอของอีกฝ่ายอย่างลึกซึ้งว่า...เป็นพวกคิดมากขนาดไหน?จึงไม่แปลกใจเลยที่ดารินจะคบหากับไมเกรนเป็นเพื่อนสนิทมาเนิ่นนาน

“เหลือนิดนึงมั้ง” ดารินตอบหลังใช้เวลาขบคิดเล็กน้อย ยังไม่ได้ซื้อเสบียงของอาทิตย์นี้หลังกลับมาคอนโดเมื่อวานตอนสายด้วยอารมณ์เคืองขุ่น หลังรู้ว่าเพื่อนชายคนสนิทคิดจะทำอะไรต่อหญิงสาวหมกตัวอยู่แต่ในห้องตลอดทั้งวัน คิดหาทางออกในหลายเรื่องซึ่งได้บทสรุปบ้างแล้วโดยเฉพาะเรื่องความสัมพันธ์กับวัลลภ ทำให้เธอบอกเลิกกับเขาไป

...กับบางคนหากคบหาแล้วปวดกบาลปวดหัวใจการเลิกราน่าจะเป็นทางออกที่ดีที่สุด ดีกว่ายืดเยื้อ จะทรมานกันทั้งสองฝ่าย

“แล้วเหลือของสดอะไรบ้างคะ?”

“นมสดกับมาม่า”

มันใช่เหรอ!

หล่อนหลุดหัวเราะคิกคักกับคำตอบ

สาวหน้าคมทำหน้าไม่เข้าใจ เอียงหน้ามองคนขับ

“มีอะไรน่าขำ?”

“พี่เพิ่งรู้นะคะว่านมสดกับมาม่าคือของสด” เฉลยพร้อมยิ้มยวนๆ

อ๊าย!

ดารินหน้าแดงร้อนหลังคิดตาม อับอายไม่น้อยที่ตอบไปแบบนั้น ไม่น่าอายเท่าไหร่...แค่ปล่อยไก่หมดเล้ากันเลยทีเดียวจึงรีบแก้ตัวจนลิ้นแทบจะพันกัน

“กะ ก็ดาไม่ได้ตั้งใจฟัง”

น่ารักไปนะคะ

ติชิลาคิดแบบนั้นยามเห็นหน้าคมขึ้นสี ก่อนเสนอแผนบางอย่าง

“ถ้าไงเราแวะซื้อที่ร้านสะดวกซื้อข้างล่างก่อนเผื่อน้องดาอยากได้อะไรเพิ่ม จะได้ไม่ต้องลงมาอีก ดีไหมคะ?”

“ก็ได้ค่ะ” ยอมรับข้อเสนอนั้น หลังคิดตาม

“ที่ห้องมีพาราฯ เหลือไหม?”

“ค่ะ เหลือประมาณครึ่งขวด” สาวผมสั้นพยักหน้าน้อยๆ

“ดีแล้วล่ะค่ะ” คนอายุมากกว่าพูดยิ้มๆ จากนั้นก็หันไปขับรถต่ออย่างตั้งใจเหลืออีกแค่สองไฟแดงก็จะถึงคอนโด

ทำไมถึงได้ใจดีกับฉันนัก?

ดารินลอบมองหล่อนผ่านหางตาหากเป็นเมื่อก่อนเธอคงไม่กล้าคิดฝันว่าผู้หญิงคนนี้จะกลับเข้ามาในชีวิตของตนอีกหลังผ่านไปหลายปีหากแต่ตอนนี้ติชิลาตัวเป็นๆ อยู่ตรงนี้ อยู่ในระยะมือเอื้อมถึง

...และเธอมีคำถามมากมายที่อยากจะถามหล่อน เพียงแต่ไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นจากตรงไหนดี

สองสาวลงจากรถ เดินผ่านทางเข้าประตูคอนโดไปด้วยกัน

“ยังมึนหัวอยู่ไหมคะ?” ติชิลาเอ่ยถามระหว่างเดินชำเลืองมองอีกคนบ่อยๆ อย่างเป็นห่วง กลัวจะตะครุบกบ

ดารินส่ายหน้าน้อยๆ หลังรู้สึกดีขึ้นอาจเพราะนั่งสบายไม่ต้องขับรถเอง

“ไม่แล้วล่ะ”

สาวสวยยิ้มจางๆ อย่างพอใจกับคำตอบก่อนเดินไปยังร้านค้าปลีกของคอนโด

“เย็นนี้ทานข้าวต้มหมูนะ หรือจะทานอย่างอื่นดี?”

“อะไรก็ได้” เธอไม่อยากจะเรื่องมากจนเกินไปแค่นี้ก็รบกวนอีกฝ่ายมากเกินไปแล้ว แต่แล้วเรื่องน่าอับอายก็บังเกิดขึ้นแบบไม่คาดฝัน

โครก!

เสียงท้องของดารินร้องลั่นจนเจ้าตัวหน้าขึ้นสีเข้มด้วยอายคนข้างกายเหลือเกินโชคดีที่ไม่มีผู้รู้เห็นมากกว่านี้ ไม่เช่นนั้นคงเผ่นหนีขึ้นห้องไปแล้ว

บ้าจริง! ทำไมต้องมาร้องตอนนี้ด้วย...ขายหน้าจริงๆ

“ห้ามหัวเราะเยาะนะ” เธอปั้นหน้ายักษ์ ขู่อีกคนลอดไรฟัน

ไม่เปลี่ยนเลยจริงๆ หึหึ

ติชิลาอมยิ้มในหน้า ไม่ได้รู้สึกกลัวสักนิด พยายามกลั้นหัวเราะไว้เต็มที่นึกไม่ถึงว่าวันนี้อีกคนจะทำให้หล่อนยิ้มเยอะกว่าทุกวัน

...นานแค่ไหนแล้วนะที่ไม่ได้ยิ้มกว้างมากขนาดนี้

“โอเค ขอเวลาแป๊บนะคะ รับรองไม่เกินสิบนาที”

“อือ” ขานรับเบาๆ มองแผ่นหลังของอดีตคนรักเดินเข้าไปเลือกซื้อของด้วยความรู้สึกคุ้นเคย ไม่ต่างจากในอดีตนัก จึงได้แต่นึกบ่นในใจ

เดจาวูชัดๆ

เพียงไม่นาน ติชิลาก็ออกมาจากร้านพร้อมถุงพลาสติกใส่ของหลายอย่าง

“เรียบร้อยค่ะ”

“ซื้ออะไรเยอะแยะ?” ดารินอดจะสงสัยไม่ได้

“อ๋อ พี่ตุนของสดน่ะค่ะ” หล่อนบอกยิ้มๆพลางยกถุงขวดนมขึ้นโชว์ต่อหน้า

“บ้า!” ส่งค้อนให้อีกฝ่ายที่เอาเรื่องหน้าแตกของเธอมาล้อเล่น

“แต่พี่ว่า นี่มันยังสดไม่พอ” สาวผมยาวพูดลากเสียงเล็กน้อย

หืม!

คนฟังทำหน้าฉงนสนเท่ห์ แต่เมื่อมองตามสายตาวาววับของสาวสวยที่จ้องมายังหน้าอกดารินใจหายวาบ เข้าใจทันทีว่าอีกคนหมายถึงอะไร ยกมือขึ้นป้องร่างกายส่วนบนของตน

“ทะลึ่ง ลามกที่สุด!” ต่อว่าอย่างเหลืออด ก่อนสะบัดหน้าหนี แล้วก้าวไปยังลิฟต์

มาทีเป็นชุดเลย หึหึ

หล่อนนึกหัวร่อในใจ

“รอพี่ด้วยสิ” ติชิลาร้องบอก รีบขยับเท้าตามไปทันที ก่อนตามไปยืนเบียดไหล่ชนไหล่กับรุ่นน้องในกล่องเหล็กที่มีหนุ่มสาวคู่หนึ่งอยู่ด้วย

ทำไมต้องมาเบียดกันด้วยลิฟต์ก็ออกกว้าง

ร่างเล็กนึกบ่นในใจ

สาวสวยขยับริมฝีปากข้างใบหูเรียวเล็กของเธอ โดนแบบเฉี่ยวๆเหมือนจงใจฉกฉวยทุกโอกาส...แตะนิดแตะหน่อยก็เอา

หูนิ่มมาก...แต่ดื้อสุดๆ

“ไปทำที่ห้องดานะคะ ห้องพี่มีแต่กระทะไฟฟ้า”

สาเหตุที่ขอไปห้องดารินแทนห้องตัวเองเพื่อสาวหน้าคมไม่ต้องเดินไปเดินมา และอีกอย่างคือไม่อยากให้เธอเห็นสภาพห้อง ที่ตอนนี้มีแฟ้มข้อมูลของบริษัทวางเกลื่อนเพราะอาจทำให้อีกฝ่ายเคลือบแคลงว่า ตนกำลังทำอะไร ไม่อยากให้เรื่องที่กำลังตรวจสอบรั่วไหลออกไปกลัวจะเข้าถึงหูปรีชาบิดาของเธอ ซึ่งเป็นหนึ่งบุคคลที่น่าสงสัย

ติชิลาไม่อยากมองข้ามใครเลยสักคน แม้ว่าคนผู้นั้นจะดูหน้าซื่อมือสะอาดก็ตามแต่ความจริงอาจไม่ได้เป็นแบบนั้น เหมือนบทกลอนที่ท่านสุนทรภู่ได้ประพันธ์ไว้ในเรื่อง‘สุดสาคร’

แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวที่เลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
มนุษย์นี้ที่รักอยู่สองสถาน บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน เกิดเป็นคนคิดเห็นจึงเจรจา
แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
รู้สิ่งใดไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี

ฉวยโอกาสเก่งจริงๆ!

สาวร่างเล็กนึกต่อว่าในใจ ทว่าไม่มีอารมณ์จะต่อปากต่อคำด้วย อาการมึนหัวทำท่าเหมือนจะกลับมาอีกรอบจึงเผลอยกมือขึ้นแตะขมับนวดคลึงเพื่อบรรเทาอาการที่เกิดขึ้น

อย่าเพิ่งมาเวียนหัวตอนนี้สิ

ติชิลาสังเกตเห็นความผิดปกติของอีกฝ่าย จึงใช้แขนเรียวที่ว่างโอบเอวบอบบางเอาไว้เกรงเธอจะซวนเซล้มลง

“อีกแป๊บนะคะ เดี๋ยวก็ถึงแล้วล่ะ”

สาวผมสั้นเหลียวมองใบหน้าด้านข้างของคนพูด ที่แสดงความห่วงใยออกมาชัดเจนด้วยความรู้สึกคุ้นเคย และอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก

ในใจพลันบังเกิดความรู้สึกอยากไขว่คว้า อยากได้หล่อนมาเป็นคนของตนแต่แล้วความคิดก็พลันสะดุดลง เมื่อคิดถึงปัจจุบันที่ต่างจากในอดีตชนิดหนังคนละม้วนเมื่อติชิลามีบุคคลที่คู่ควร และเหมาะสมดั่งกิ่งทองใบหยก

เข้มแข็งหน่อยสิดารินพี่เตมีคุณทินกรอยู่แล้วนะ...อย่าลืมสิ!

นึกเตือนตัวเองอีกรอบ ไม่ให้เผลอใจไปมากกว่านี้

หลังทั้งคู่เข้าไปในห้องของดารินติชิลาประคองเธอไปนั่งที่โซฟาเพื่อให้พักผ่อน พร้อมวางข้าวของที่โต๊ะกระจกใกล้ๆ

“พักตรงนี้ก่อนนะคะ พี่จะรีบทำข้าวต้มก่อน”

“ค่ะ”

ระยะห่างของเราลดลงแล้วใช่ไหมคะ?

สาวสวยยิ้มน้อยๆ ที่อีกฝ่ายดูจะอ่อนข้อให้มากกว่าเดิม ไม่บึ้งตึงเฉยชามากเท่าช่วงวันแรกๆที่กลับมาเจอกัน อย่างน้อยการได้เข้ามายังภายในพื้นที่ส่วนตัวสองต่อสองนับเป็นโอกาสดีที่จะรื้อฟื้นความสัมพันธ์ของเรา

“อยากดื่มอะไรก่อนไหมคะ?”

หืม?

ดารินเลิกคิ้ว แล้วหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ กับคำพูดที่แสดงราวกับเป็นเจ้าของห้องเสียเอง

“ตกลงนี่ห้องใคร” เธอย้อนถาม

“ห้องน้องดาค่ะ แต่พี่พร้อมบริการทุกระดับประทับใจ” หล่อนยิ้มหวานกว้างชวนให้คนมองใจสั่นเล่นๆ

ใจเย็นๆ จะเต้นแรงทำไม

สาวร่างเล็กเตือนตัวเองที่จู่ๆ ก็ใจเต้นแรงแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย

“น้ำส้มก็ได้ค่ะ”

“อ้าว!นึกว่าอยากดื่มนมสดซะอีก” ติชิลาแสร้งทำหน้าประหลาดใจ แล้วสัพยอกอีกรอบ

เล่นมุกตลอดคนอะไร!

เธออดที่จะค้อนอีกฝ่ายไม่ได้ ที่ได้ยินคำว่า ‘นมสด’ ซึ่งเป็นมุกสองแง่สองง่ามของวันนี้

“ทะลึ่งจริงๆ!” พึมพำต่อว่าเบาๆ

“ขอบคุณที่ชมค่ะ” สาวสวยยิ้มระรื่นเต็มหน้าเดินไปตู้เย็นหยิบน้ำส้มเย็นๆ หนึ่งขวดมาเปิด แล้วส่งให้อีกสาว

“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวรับขวดเครื่องดื่มไปถือดื่มดับกระหาย

“ยินดีค่ะ” สาวผมยาวยิ้มน้อยๆ อ่อนโยน หยิบถุงที่ได้จากร้านสะดวกซื้อไปทำกับข้าวมื้อเย็น

สาวหน้าคมเผลอมองตามอีกสาวที่ง่วนกับการทำกับข้าวอยู่ในโซนครัวของตน แล้วอดที่จะยิ้มออกมาไม่ได้ด้วยรู้ว่าหล่อนชอบเรื่องทำครัวขนาดไหน...เสน่ห์ปลายจวักชัดๆ

นิสัยเหมือนเดิมจริงๆ

น่าแปลกที่เธอเพิ่งแตกหักกับวัลลภ แต่ทว่าหัวใจกลับไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดมากมายแบบที่กังวลไว้แม้จะสนิทสนมกับเขามานานแต่เอาเข้าจริงชายหนุ่มคนนั้นไม่ได้มีอิทธิพลกับหัวใจดวงนี้นัก

ผิดกับผู้หญิงที่เป็นอดีตคนนี้ที่กำลังคืบคลานมายึดพื้นที่ในอกข้างซ้ายอย่างรวดเร็ว ไม่ต่างจากที่เคยเป็น

หล่อนใช้เวลาไม่นานก็ทำข้าวต้มร้อนๆ หอมฉุยออกมาสองชามแล้วนำมาวางที่โต๊ะกระจก

“หอมจัง” ดารินอดที่จะชมไม่ได้

“ทานเลยค่ะ” ติชิลาชวน ไม่อยากให้อีกฝ่ายต้องหิวมากเกินไป เกรงโรคกระเพาะจะกำเริบอีก“ระวังร้อนนะคะ”

เธอตักข้าวต้ม เป่าลมไล่ไอร้อน ก่อนเข้าปาก

ฝีมือดีขึ้นกว่าเดิมอีก

“พอใช้ได้” พูดชมแค่สั้นๆ

“ขอบคุณค่ะ” เชฟสาวไม่คิดจะเรียกร้องอะไรมากไปกว่านั้นด้วยรู้ว่า อดีตคนรักปากหนักขนาดไหน ก่อนเริ่มรับประทานบ้าง

ทั้งสองทานกันเงียบๆ เหลือบมองกันบ้างบางครั้งใช้ภาษากายและสายตาแทนถ้อยคำ ทำให้บรรยากาศเข้าโหมดหวานซึ้งได้ไม่ยาก ไม่นานข้าวต้มก็หมดชาม

“อิ่มไหมคะ?” สาวสวยถามขึ้น

“อืม” เจ้าของห้องพยักหน้า ทั้งอิ่มทั้งอร่อยแต่เธอไม่คิดจะปริปากชมออกมาตรงๆ

“อีกสักพักน้องดาก็อาบน้ำ แล้วนอนพักนะคะ พรุ่งนี้จะได้สดชื่น”สาวสวยบอก ขยับตัวลุกหมายเอาชามที่ใช้ไปทำความสะอาด ไม่อยากอยู่รบกวนอีกคนนานเกินไป

“เดี๋ยวค่ะ”

“คะ?”

“ขอถามอะไรหน่อยสิ?”

ติชิลาขยับตัวนั่งลงตามเดิม แล้วตั้งใจฟัง

เอาไงดี?

ดารินเม้มริมฝีปากแทบเป็นเส้นตรงอย่างครุ่นคิดหนักจ้องหน้าอีกฝ่ายเขม็ง คำพูดของปรียานุชยังคงวนเวียนอยู่ในสมอง

“ถ้าดาอยากรู้อะไรจากเตพี่แนะนำให้ถามค่ะ ถามตรงๆ”

หืม?

สาวผมสั้นหันมอง พร้อมทำหน้าประหลาดใจ

“ถ้ายังรักกัน อย่าใช้ทิฐินำหน้าค่ะ”ปรียานุชกล่าวทิ้งท้าย

เอาว่ะ

สาวหน้าคมตัดสินใจเด็ดเดี่ยว ทำหน้าจริงจัง แล้วถามสิ่งที่ค้างคาใจมาหลายปีออกไป

“ทำไมตอนนั้นถึงหนีดาไป...ช่วยบอกเหตุผลดาได้ไหมคะ?”

OoXoO

ขอบคุณที่กรุณาติดตามค่ะ ฝากกดถูกใจ 'เพจนิ้วนาง' ด้วยนะคะ

นาง

OoXoO





 

Create Date : 08 กุมภาพันธ์ 2561
0 comments
Last Update : 8 กุมภาพันธ์ 2561 18:25:13 น.
Counter : 1594 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


BlogGang Popular Award#20


 
นิ้วนาง-เดียนา
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




งานเขียนทั้งหมดใน blog นี้ สงวนลิขสิทธิ์ตามกฎหมาย พระราชบัญญัติ พ.ศ.2537 ห้ามนำไปพิมพ์ เผยแพร่ หรือลอกไปกระทำการใดๆ ก็ตาม หากผู้ใดกระทำการผิด เจ้าของ blog จะเอาผิดท่านตามกฏหมาย ได้ทุกกรณี


Friends' blogs
[Add นิ้วนาง-เดียนา's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.