++The Accidental Billionaire++
ผู้เขียน Ben Mezrich
ผู้แปล ไพรัตน์ พงศ์พานิชย์รีบอ่านเรื่องนี้เพราะเห็นว่าตอนนี้นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์แล้วเรื่อง
Social Network ซึ่งอยากดูมากๆถึงมากที่สุด กะว่าอารมณ์น่าจะประมาณเดียวกับ
The Persuit of Happyness หรือเปล่า ที่ดูแล้วฮึกเหิมประกายไฟลุกโชนอยากประสบความสำเร็จกับเค้าบ้าง เลยรีบบึ่งไปร้านหนังสือหามาอ่านก่อนไปชมภาพยนตร์อีกที
พอดีได้อ่านฉบับภาษาไทยในชื่อเรื่อง
"แบบว่า บังเอิญรวย" ตอนไปสอบถามที่ร้านหนังสือทำให้เกิดอาการอายเล็กน้อย เพราะชื่อเรื่องประหนึ่งจะเป็นหนังสือ How To แนวเดียวกับพ่อสอนลูกรวยยังไงยังงั้น
อ่านหน้าแรกที่ดูแล้วเหมือนจะเป็นคำนำสำนักพิมพ์แต่ก็ไม่ใช่ แล้วก็ไม่ได้บอกว่าใครเป็นคนเขียนหรือต้นฉบับจริงก็มีหน้านี้อยู่ ปรากฎว่าชอบมากๆกับคำชวนเชื่อให้อ่านหนังสือเล่มนี้ ซึ่งเกี่ยวกับเรื่องราวตลกร้ายของชีวิตที่เว็บไซต์สังคมออนไลน์อันดับหนึ่งของโลกถูกสร้างขึ้นจากคนที่เป็นอัจฉริยะแต่กลัวการเข้าสังคมไม่เป็น (พออ่านจนจบแล้วรู้สึกว่า มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ไม่ได้กลัวการเข้าสังคมตรงไหน เพียงแต่ว่าเจ้าตัวพอใจหรือไม่พอใจที่จะเข้าไปเสวนากับกลุ่มคนเหล่านั้นมากกว่า)
ตลกร้ายอีกเรื่องคือการก่อตั้งเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงผู้คนมากหน้าหลายตาเข้าด้วยกัน กับเป็นชนวนให้เพื่อนรัก (หักเหลี่ยมโหด) ต้องแตกคอกันชนิดไม่สามารถกลับมาบรรจบได้อีก
อ่านต่อไปถึงคำนำสำนักพิมพ์มติชน คำนิยมโดยพี่นิ้วกลม และคำนำผู้แปล ล้วนแล้วแต่ทำให้รู้สึกทึ่ง อยากอ่านหนังสือเล่มนี้มากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะดูเหมือนหนังสือเล่มนี้จะเป็นมากกว่าประวัติความเป็นมาของเว็บไซต์ที่ยิ่งใหญ่อย่าง Facebook แต่อาจจะเลยเถิดไปเป็นประหนึ่งน้องๆ สามก๊ก ฉบับผู้บริหาร ว่าด้วยการชิงไหวชิงพริบของเล่ห์เหลี่ยมคนในแวดวงธุรกิจอย่างนั้นเลย
ตัวเรื่องราว ประวัติชีวิตความเป็นมาของทั้งเว็บไซต์ และผู้ร่วมก่อตั้งทั้งหลายจริงๆแล้วก็น่าอัศจรรย์ใจอยู่ ชนิดชีวิตจริงเปรียบประหนึ่งนิยาย หนังสือกล่าวถึงความเป็นอัจฉริยะของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก การหักหลังในแง่มุมธุรกิจโดยที่ตัวผู้เขียนเองก็ไม่ได้ชี้ชัดเจาะจงว่าใครถูกใครผิด แต่ให้ผู้อ่านคิดเอาเอง เนื่องจากว่าตัวหนังสือไม่ได้ถูกเขียนโดยการบอกเล่าของ มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ใดๆทั้งสิ้น แต่เป็นการรวบรวมหลักฐานรายละเอียดมาเรียบเรียงใหม่เท่านั้น และก็เพราะเหตุนี้แหล่ะที่บั่นทอนการเป็นหนังสือที่ดีของหนังสือเล่มนี้
หากอ่านครบทุกบทจะรู้สึกได้ว่า จริงๆแล้วในแต่ละบทมีใจความสำคัญหลักเพียงบรรทัดเดียวเท่านั้น แต่ถูกเติมเสริมแต่งรายละเอียด คำบรรยายอื่นๆที่ไม่เกี่ยวกับเนื้อหาหลักให้มีจำนวนบรรทัดยืดยาวจนสามารถรวบรวมเป็นหนึ่งบทได้ หากผู้เขียนสามารถโน้มน้าวให้มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กยอมปริปากร่วมมือในการทำหนังสือเล่มนี้ มันก็คงจะเป็นหนังสือที่เต็มอิ่มสมบูรณ์แบบมากกว่านี้หลายเท่าตัว
คำนิยม คำโปรย คำนำทั้งหลายจึงดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ดีที่สุดของหนังสือเล่มนี้ ที่สอนว่า อย่ากดรับ friend ง่ายๆทั้งในชีวิตจริงและในเฟซบุ๊ค และทำให้รู้สึกว่า ความสำเร็จยิ่ง "ใหญ่" ยิ่งต้องแลกมากับอะไรเยอะ แล้วตัวคุณพร้อมที่จะแลกอะไรเพื่อให้ได้มาซึ่งความสำเร็จบ้างคะ
The Accidental Billionaire
คงไม่เหมือนกับพล็อกเรือ่งแบบถึงครึ่งนึง
สำหรับในหนังเรื่อง Social Network
ของผกก เดวิด ฟิชเชอร์
เพราะมันเป็นอะไรที่ชัดเจน จนสร้างศัตรูเสีย
เหลือเกินนะขอรับ