++ภาพหลอกตา++
ผู้เขียน มิจิโอะ ซูสุเกะ
ผู้แปล พรพิรุณ กิจสมเจตน์
ห่างหายจากนิยายลึกลับสืบสวนของญี่ปุ่นไปเนิ่นนาน ชั้นหนังสือที่ร้างลาจากนิยายแปลญี่ปุ่นเพราะต้องเขยิบที่เผื่อแผ่ให้หนังสือแนวอื่นๆที่ทยอยเข้ามาจับจองพื้นที่ บัดนี้ได้กลับมาทวงบัลลังค์และครอบครองพื้นที่ส่วนใหญ่ อันเป็นผลสืบเนื่องจากการที่สำนักพิมพ์บลิส พับบลิชชิ่ง ปิดตัวลงในงานหนังสือครั้งที่ผ่านมา "ภาพหลอกตา" เล่มนี้คงจะไม่มีโอกาสตกมาถึงมือของเราเป็นแน่หากสำนักพิมพ์บลิสไม่ได้ปิดตัวลงเพราะในใจยังคงหวาดหวั่นกับผลงานของมิจิโอะ ซูสุเกะ เล่มแรกที่ได้อ่านจบไปในครั้งก่อนกาล "ฤดูร้อนซ่อนเงา" ซึ่งไม่ค่อยเป็นที่แนะนำให้บอกต่อเท่าไหร่นักด้วยอารมณ์สั่นประสาทแบบโรคจิตอ่านแล้วรู้สึกจิตหลอนบวกผะอืดผะอมเล็กน้อย แต่ในเมื่อ "ภาพหลอกตา" ได้มีโอกาสมานอนนิ่งอยู่ที่บ้านแล้ว ความคิดถึงนิยายลึกลับแบบฉบับของญี่ปุ่นก็ได้เวลาเรียกร้องแล้ว
จากปกหลัง...อุบัติเหตุคร่าชีวิตพี่สาวเกิดขึ้นโดยไม่คาดฝัน กลายเป็นรอยอดีตฝังใจชายหนุ่มตั้งแต่ยังเด็ก เมื่อใดนึกถึงปริศนาในจุดเกิดเหตุ เงาดำมืดก้นบึ้งจิตใจยิ่งขยายวงกว้าง พร้อมคำพูดก่อนวาระสุดท้ายของพ่อซึ่งยังดังก้องหู พ่อทำถูกแล้ว... ยี่สิบสามปีให้หลัง ชีวิตชายหนุ่มมาถึงทางแยกอีกหน เมื่อถูกรุมเร้าด้วยกระแสอารมณ์ซัดสาดและการหักหลังอย่างไม่น่าอภัย สุดทางแห่งการตัดสินใจ ก่อให้เกิดความตายซ่อนเงื่อน ท่ามกลางบรรยากาศตื่นตระหนก ลนลาน ซ่อนเร้น กับความจริงว่าสิ่งที่เห็นอาจไม่เป็นอย่างใจคิด ภาพความทรงจำโถมทะลักราวกับเขื่อนพังทลาย พัดพาชายหนุ่มให้ย้อนเวลาสู่เมื่อครั้งยังเยาว์ เพื่อพบจุดจบของพี่สาว เบื้องหลังซึ่งถูกอำพรางปิดตาย และบทสรุป ณ สุดปลายทางที่เลือกเดิน
"ภาพหลอกตา" มีดีกรีหนึ่งในสิบนิยายลึกลับยอดเยี่ยมในปี 2009 ที่สำนักพิมพ์ทาคาระจิมะฉะเป็นผู้จัด แม้จะชั่งใจว่าจะหยิบมาอ่านดีหรือไม่ดีเพราะความหลังฝังใจกับ "ฤดูร้อนซ่อนเงา" แต่เมื่อมีรางวัลการันตีก็ดูน่าสนใจไม่น้อย และเล่มนี้ก็ไม่ทำให้ผิดหวังเลย แม้ "ฤดูร้อนซ่อนเงา" จะออกแนวหลอนแบบโรคจิต แต่ "ภาพหลอกตา" เล่มนี้ แม้จะมีกลิ่นอายหลอนๆแบบโรคจิตที่ทำให้พะอืดพะอมอยู่บ้างในดีกรีที่น้อยกว่า แต่ความหลอนโรคจิตส่วนใหญ่นั้นแท้จริงแล้วเป็นเพียง "ภาพหลอกตา" ที่ผู้เขียนหลอกล่อคนอ่านให้คิดจินตนาการไปเอง
พอมานึกอีกที แม้ผลงานของ "มิจิโอะ ซูสุเกะ" จะสั่นประสาทหลอนจิตใจ แต่จะว่าไปกลับกลายเป็นว่า แท้จริงแล้ว "มิจิโอะ ซูสุเกะ" เป็นนักเขียนที่มีความสามารถสูงมากในการบรรยายให้คนอ่านรู้สึกกระทบกระเทือนจิตใจและผะอืดผะอมได้ผ่านเพียงตัวอักษร ไม่ว่าจะเป็นงาน "ฤดูร้อนซ่อนเงา" หรือ "ภาพหลอกตา" เล่มนี้ก็ตาม
ชอบคำนิยมของผู้แปลที่ว่า "ผลงานเล่มนี้ชวนให้รู้สึกเหมือนถูกจับนั่งในเรือลำเล็ก ล่องไปตามร่องน้ำแคบไหลเอื่อย พร้อมคำบอกใบ้ให้ลองสังเกตสองข้างทาง...ระหว่างกำลังเพลินกับการค้นหา จู่ๆเรือกลับดิ่งวูบ ยังไม่ทันได้อ้าปากร้องก็มีตามมาอีกหลายวูบ" เพราะมันเป็นจริงตามนั้นเลย
การอ่าน "ภาพหลอกตา" เหมือนการนั่งรถไฟเหาะตีลังกา มีเลี้ยวโค้งหักมุมซ้ายหักมุมขวา ดิ่งลงพุ่งขึ้นไปตลอดทาง รถไฟจะหยุดก็ต่อเมื่อพลิกไปถึงหน้าสุดท้ายนั่นแหล่ะ ถ้าเป็นภาพยนตร์อาจจะประมาณเดียวกับ "The cabin in the woods" (ซึ่งเราได้ดูในสัปดาห์เดียวกับที่อ่านหนังสือเล่มนี้จบ) ต้องบอกว่าเป็นสัปดาห์ที่ระทึกขวัญสั่นประสาทจริงๆ แต่ขอโทษทีเถอะนะ ญี่ปุ่นก็ยังเป็นราชาเรื่องลึกลับสั่นประสาทสยองขวัญอยู่ดีนั่นแหล่ะ
...แล้วต่อไปนี้เราจะไปหาอ่านงานแปลญี่ปุ่นดีๆแบบนี้ได้ที่ไหนกันเนี่ย...
ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ
แนวญี่ปุ่นี่ มันออกจะน่ากลัวซับซ้อนนะคะ
คุณเพลินเคยอ่านเรื่อง the key เรื่องเดียวเอง แต่มันก็ไม่ใช่สยองขวัญคะ ส่วนตัวคือขี้กลัวขนาดหนักก็เลยอ่านแนวนี้ไม่ได้ มันจะจำติดในสมอง....(อันกลวงอยู่แล้ว)
ขอบคุณที่แวะไปที่บล๊อกนะคะ ถ้ามีตังค์เหลือซื้อหนังสือได้จะหา "ฟ้าใหม่ในซานมาร์โค" มาอ่านคะ