| All Blog
|
ความรู้สึก คือ เหตุผลอย่างหนึ่ง - หนุ่มเมืองจันท์ ++ความรู้สึก คือ เหตุผลอย่างหนึ่ง++ ผู้เขียน หนุ่มเมืองจันท์ ครั้งแรกที่พาหนังสือฟาสต์ฟู๊ดธุรกิจ ลำดับที่ 19 กลับมาบ้านนั้น ไม่ได้สนใจความหมายของชื่อเรื่องเท่าไหร่นัก เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นในงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติเดือนตุลาคมครั้งที่ผ่านมา จนเวลาล่วงเลยเข้าเดือนมกราคมปีถัดมา จึงได้มีโอกาสหยิบขึ้นมาอ่าน ตอนแรกตั้งใจว่าจะพา "ความรู้สึก คือ เหตุผลอย่างหนึ่ง" ไปด้วยกันระหว่างท่องเที่ยวพักผ่อนที่เกาะพยาม แต่สุดท้ายหนังสือเล่มนี้ก็ไม่มีโอกาสได้ไปเที่ยวทะเลที่เกาะพยาม เพราะอยู่ดีๆก็อ่านรวดเดียวจบในครึ่งวันเสียอย่างนั้น ระหว่างยืนต่อแถวยาวเหยียดรอทำพาสปอร์ต ความหมายของชื่อหนังสือ "ความรู้สึก คือ เหตุผลอย่างหนึ่ง" จึงมาสะดุดความคิดเอาเมื่อตอนอ่านเนื้อหาย่อๆบนปกหลังเป็นครั้งแรก สรุปได้ความว่า... "ความรู้สึก" นั้น ที่แท้ก็คือ "เหตุผล" อย่างหนึ่งที่ใช้ในการตัดสินใจ และเพียงเท่านั้น ก็ตกหลุมรักหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาทันทีทันใด...  จากปกหลัง... ในโลกแห่งความเป็นจริง เราคงไม่สามารถใช้ความรู้สึกตัดสินใจทุกเรื่อง หรือใช้ "เหตุผล" กับทุกสิ่ง บางเรื่องก็ต้องใช้ "เหตุผล" และบางเรื่องก็ต้องใช้ "ความรู้สึก" แต่เรามักจะใช้ตรรกะ "เหตุผล" ในการตัดสินใจ จนบางครั้งละเลยความรู้สึกของตัวเรา ลืมความปรารถนาหรือความต้องการที่แท้จริงของเรา ทั้งที่ความรู้สึกเป็นเหตุผลที่มีพลังอย่างยิ่ง ถ้าสมองมีรอยหยัก ที่แสดงถึงความฉลาด และ "เหตุผล" หัวใจก็มีรอยยิ้ม ที่แสดงถึงความสุข การตัดสินใจด้วยสมองที่ไม่ลืมความรู้สึกของหัวใจ เราจะได้ความสำเร็จที่เปี่ยมด้วยความสุข จะว่าไปแล้ว หนังสือเล่มนี้อาจจะไม่ค่อยเหมาะกับคนอย่างเราที่ส่วนใหญ่ใช้ "ความรู้สึก" ในการตัดสินใจ จริงๆควรจะหันไปอ่านหนังสือที่สอนให้ใช้ "เหตุผล" ในการตัดสินใจบ้าง ท่าจะดีเสียกว่า แต่การมานั่งอ่านหนังสือเล่มนี้ที่บอกว่า "การใช้ความรู้สึกในการตัดสินใจ บางครั้งก็จำเป็นและสำคัญอย่างไร" จากคุณหนุ่มเมืองจันท์แล้ว ก็เหมือนกับการมีใครสักคนมาวางมือบนไหล่และตบเบาๆอย่างอบอุ่นและปลอบใจว่า "มันก็ไม่ผิดอะไรนี่ที่จะใช้ความรู้สึก" โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับเรื่องของความสุข ความทุกข์ และขอรวมเรื่องของความรักไว้ด้วย ที่มันเป็นเรื่องของ "ความรู้สึก" ล้วนๆ เหมือนเป็นธรรมเนียมปฎิบัติเวลาอ่านฟาสต์ฟู๊ดธุรกิจที่จะต้องมีประโยคดีๆให้แอบจดจำมากมาย ใน "ความรู้สึกคือเหตุผลอย่างหนึ่ง" ก็เช่นกัน มีหลายๆบท และหลายๆประโยคที่ทำให้ยิ้มได้ หัวเราะได้ ซาบซึ้งได้ และแม้กระทั่งน้ำตาไหลได้ คงต้องไปอ่านเอาเองว่าประโยคไหนทำให้ยิ้มได้ ประโยคไหนทำให้หัวเราะได้ และประโยคไหนทำให้น้ำตาไหลได้ เพราะแต่ละคนก็คงมีประโยคที่โดนใจไม่เหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เป็นเพราะคนเรามี "เหตุผล" และ "ความรู้สึก" ที่ไม่เหมือนกัน เหตุผลของใครก็ของมัน ความรู้สึกของใครก็ของมันเช่นกัน... หลายๆครั้งที่เราตัดสินคนอื่นว่าทำไม่ถูกต้อง ไม่ฉลาดเอาเสียเลย ตรรกะอยู่ตรงไหน และอะไรต่อมิอะไร บางครั้งเราก็หลงลืมไปว่า คนเหล่านั้นอาจจะกำลังใช้ "ความรู้สึก" ในการตัดสินใจอยู่ก็ได้ ซึ่งมันอาจจะไม่ตรงกับเหตุผลของเรา (และอาจจะไม่ตรงกับเหตุผลของเค้าด้วย) แต่มันตรงกับ "ความรู้สึก" ตัวเราเองยังให้ "ความรู้สึก" เป็นใหญ่ในการตัดสินใจเรื่องบางเรื่องเลย แต่พอคนอื่นใช้ "ความรู้สึก" ของเค้าในการตัดสินใจเรื่องนั้นบ้าง เรากลับรับมันไม่ได้ แท้จริงแล้ว ไม่ใช่เพราะการตัดสินใจของคนอื่นมันไม่ตรงกับตรรกะและเหตุผลของเราหรอก แต่มันเป็นเพราะการตัดสินใจของเค้ามันไม่ตรงกับ "ความรู้สึก" ของเรามากกว่า ต่อให้ "เหตุผล" ของเรามันดีแค่ไหน และแม้เราจะมั่นใจว่าในระยะยาวมันจะทำให้ "ความรู้สึก" ของเค้าดีด้วย แต่ในเมื่อวันนี้เค้าไม่ได้ "รู้สึก" ว่ามันใช่ เราก็คงไม่มี "เหตุผล" อะไรจะที่ไปดื้อดึง เพราะถ้า "ความรู้สึก" คือ "เหตุผล" อย่างหนึ่ง เค้าก็คงจะไม่ได้ทำผิดอะไร ต่อให้มันเป็นการตัดสินใจที่บ้าบอไร้อนาคตแค่ไหนก็ตาม การหยิบหนังสือ "ความรู้สึก คือ เหตุผลอย่างหนึ่ง" ขึ้นมาก็เหมือนกัน หากใช้ "เหตุผล" ล้วนๆในการตัดสินใจ คงจะสรุปได้ว่า หนังสือเล่มนี้อ่านครึ่งวันก็จบ ราคาตั้งร้อยห้าสิบบาท และ "เหตุผล" ก็คงบอกให้เรา "ไปยืนอ่านที่ร้านหนังสือท่าจะคุ้มกว่า" แต่เราเลือกที่จะใช้ "ความรู้สึก" ล้วนๆในการตัดสินใจหยิบหนังสือเล่มนี้แล้วพาไปจ่ายตังค์ เพราะแค่เห็นชื่อคุณ "หนุ่มเมืองจันท์" เราก็ไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้ว นอกจาก "รู้สึก"ว่า... เราจะต้อง "ชอบ" หนังสือเล่มนี้อย่างแน่นอน...
กี๊ด....ต้องรีบไปซื้อตามค่ะ ชอบผลงานเค้ามากนะ.....ขอบคุณที่แนะนำค่ะ ร้านหนังสือจ๊ะ อาทิตย์นี้เจอกัน ^^
โดย: auau_py
 วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:7:27:12 น.@คุณอาคุงกล่อง ชอบตรงที่เอาเรื่องธุรกิจมาผูกกับเรื่องชีวิตค่ะ ให้กำลังใจได้ดีมากเลยเล่มนี้
@คุณ auau_py ขำตรง ร้านหนังสือจ๊ะ อาทิตย์นี้เจอกัน 55 @คุณพุดน้ำบุศย์ เห็นตามเรื่อยๆนะคะ คราวหน้าจะเจอกันงานเจิมลายเซ็นพี่หนุ่มเมืองจันท์หรือเปล่านะ โดย: narumol_tama
วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:9:43:42 น.รีวิวน่าสนใจมากเลยค่ะ
มีโอกาสต้องหามาอ่านมั่งแระหล่ะ อิอิ แวะมาเยี่ยมชม ทักทายแบบไม่ล็อกอินนะค่ะ อิอิ โดย: ณ ปลายฉัตร IP: 58.11.53.9 วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:10:29:06 น.
ขอบคุณที่แวะไปเยี่ยมกันนะคะ......แหมๆๆๆ ร้านหนังสือเราน่ะห่างกันมากพักใหญ่แล้วค่ะ เดินแต่นิยสารบ้านๆทั้งหลาย....ไม่ได้แตะมุมอื่นเลย ^^
โดย: auau_py
วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:10:52:51 น.ยังไม่เคยได้อ่านค่ะ แต่แค่ได้ยินชื่อหนังสือ ก็อยากบอกว่า เราก็เป็นคนที่คิดเห็นเช่นนั้นเหมือนกันค่ะ
โดย: Sab Zab'
วันที่: 24 มกราคม 2556 เวลา:23:06:31 น.เคยอ่านเรื่อง ความสุข ณ จุดที่ยืนอยู่ แล้วชอบมาก
เล่มนี้น่าสนใจ ขอบคุณที่รีวิวนะคะ โดย: แฟนlinKinPark
วันที่: 25 มกราคม 2556 เวลา:0:03:47 น.ยังไม่เคยอ่านค่ะ
แต่เจ้าของบล็อก เขียนได้จนน่าติดตาม ต้องไปหาคว้ามาบ้างแล้วละเนี่ยย โดย: ๏ รำเพย IP: 115.31.142.135 วันที่: 1 มีนาคม 2556 เวลา:8:34:24 น.
คุณรำเพย ลองไปหาอ่านนะคะ เราชอบคุณหนุ่มเมืองจันท์มากเลยค่ะ อ่านแล้วรู้สึกดีทุกที ให้กำลังใจชีวิตข้อคิดดีเสมอเลยค่ะ
โดย: narumol_tama
วันที่: 4 มีนาคม 2556 เวลา:20:22:30 น. |
natcharat
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 34 คน [?] ตั้งใจเปิดบล็อคนี้ขึ้นมาระบายอารมณ์เวลาอ่านหนังสือแต่ละเล่มจบ เพราะชอบอ่านหนังสือมากๆ (จริงๆชอบอย่างอื่นด้วย ดูหนัง ฟังเพลง กิน เที่ยว ช็อปปิ้ง) แอดเป็นเพื่อนกันที่ Facebook ได้นะคะ http://www.facebook.com/narumol.pichedpun "ลิขสิทธิ์ของงานเขียนทุกชิ้นในบล็อกนี้ เป็นของเจ้าของบล็อกตามกฎหมาย หากต้องการคัดลอก ดัดแปลง หรือนำส่วนหนึ่งส่วนใดไปเผยแพร่ต่อ ด้วยวิธีใดๆ กรุณาติดต่อขออนุญาตจากเจ้าของบล็อกก่อนนะคะ เพราะงานเขียนบางชิ้นติดลิขสิทธิ์ค่ะ" [สงวนลิขสิทธิ์ ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2539]
Friends Blog
|
|||||||||||||
มาเยี่ยมชม มาทักทายครับ
เล่มนี้ผมยังไม่ได้อ่านเลยครับ ปกติผมก็ชอบอ่านหนังสือของคุณ หนุ่ม เมืองจันท์เหมือนกันครับ ผมตามอ่านมาหลายเล่มแล้วครับ ผมว่าเรื่องราวที่เขาเขียนนั้นให้ความรู้ทางธุรกิจได้เป็นอย่างดีเลยครับ ผมชอบครับ
อิอิ