นิยาย ดราม่า ดี ฮา หื่น สนุก เลิฟซีนภาษาสวย
Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
9 พฤศจิกายน 2554
 
All Blogs
 

วิวาห์อารมณ์7

ตอนที่ 7 อยากแย่ง

ที่ว่าการบริษัทแห่งหนึ่ง ทั้งสุดา และราตรี สองสาวนั่งทำงานกันอย่างเอาใจใส่ ชิดสมัยรอเวลาว่างแล้วจึงได้ขอพบสองสาว จากนั้นจึงออกไปทานขนมเล่นกัน ทั้งสุดาและราตรีถามเป็นเสียงเดียวกันว่า
“ไปไหนมาล่ะไหม”
“ไปสมัครงานมา แต่ไม่ได้อีกตามเคย...สงสัยต้องรำละครแล้วล่ะ”
“ขอพี่เปรมแต่งงานก็สิ้นเรื่องเขาจะได้เลี้ยงเธอ”
“บ้าสิพวกเธอนี่ พูดบัดสี ใครจะขอผู้ชายแต่งงาน”
“นั่นสินะ ถ้าเป็นยัยคุณหนูบ้าเลือดคนนั้นอาจจะปล้ำผู้ชายก่อนก็ได้เนอะ”ราตรีเอ่ยพาดพิงไปถึงดารกาอย่างไม่ชอบอีกฝ่ายเอาเสียเลย
ชิดสมัยรีบถามราตรีทันที
“ทำไมไปว่าแดงอย่างนั้นล่ะ”
“ยัยหนูแดงแผลงฤทธิ์เราก็รู้อยู่ว่าเขาเอาแต่ใจ”ราตรีย้ำหนัก เพราะรู้นิสัยเพื่อนไม่สนิทคนนี้ดี “แต่ดูเหมือนพี่นเรศจะสนใจยัยหนูแดงมาก ว่าแต่ยัยนั่นคงต้องตะครุบพี่นเรศแน่เลย”
“เธอไปใส่ร้ายหนูแดงจนฉันกลัวเลยนะราตรี”ชิดสมัยเอ่ยเสียงเบา หน้าซีดขาวราวกับกลีบดอกไม้ หายใจหอบ ราตรีรีบลูบแขนอีกฝ่ายปลอบใจ แต่สุดาไม่ทันสังเกตยังเย้าว่า
“กลัวทำไม กลัวเขาจะปล้ำพี่เปรมของเธอเหรอ”
“พอแล้วสุ เพื่อนเราทำท่าจะเป็นลมแล้ว อย่าไปแกล้งเลย เราก็รู้อยู่ว่า พี่เปรมไม่มีทางมองยัยหนูแดงแผลงศรนั่นหรอก พี่เปรมรักเพื่อนของเรายังกับอะไรดี เขาว่าจะมาสู่ขอเร็วๆนี้ด้วยซ้ำ”
“พวกเธอพูดเอาเองแท้ๆ พี่เปรมไม่เคยพูดสักคำ”คนพูดเปลี่ยนจากท่าทีจะเป็นลมมาเป็นอายจัด ก่อนว่า “พวกเธอว่างมั้ยคืนวันศุกร์นี้”
“จะพาไปดูละคร หรือหนังละจ๊ะ”
“ละครเวทีซบเซาไปแล้ว ตอนนี้ยังฉายอยู่เห็นจะเป็นหนังดีพอดูได้ตามใบปิด แต่ฉันงี้ติดละครวิทยุมากเลยต้องกลับไปฟังเกือบทุกคืนเชียว เรื่องเรือนแพ ฟังแล้วสงสารจังเลยสามชีวิตต้องมาแตกแยกกัน”
“ตกลงเธอไม่ไปกับฉันเพราะติดละครวิทยุหรือสุดา”
“เปล่าจ้ะ จริงๆแล้วพอดีติดที่คุณยายมาเยี่ยมจ้ะเพื่อนรัก”สุดากล่าวแก้ ราตรีทำเสียงอ่อย
“ฉันต้องไปงานเลี้ยงบ้านคุณน้า ค้างถึงวันอาทิตย์แน่ะ เพราะอยู่ต่างจังหวัด ไหมก็ไปตามลำพังกับพี่เปรมได้นี่ ไม่น่าเกลียดสักหน่อย”
“พี่นเรศไปด้วย”
“แน่ะเพื่อนเราจะควงสอง”
“พูดจาน่าเกลียดที่สุดเลยพวกเธอ ฉันไม่คุยด้วยแล้ว”ชิดสมัยเอ่ยอย่างแง่งอน สองเพื่อนรักจึงได้ง้อเอาใจ ชิดสมัยยังติดบึ้งก่อนว่า
“ฉันกลับล่ะ ไม่ไปแล้วดูหนังดูละคร”
“อย่าทำอย่างนั้นเชียวนะ เสียดายพี่เปรมแย่เลย ทั้งหล่อทั้งรวย”
ชิดสมัยทำไม่รู้ไม่ชี้ แต่เมื่อลับหลังเพื่อนแล้วเธอกับมีแต่รอยยิ้มระบายสวยบนใบหน้า เธอปิดปากไม่ยอมบอกว่าเธอจะจับคู่ให้นเรศกับดารกาด้วย เธอไม่อยากให้เปรมหันไปมองสาวคนใด โดยเฉพาะดารกา ผู้ที่เธอกลัวใจ และคิดจัดการจับคู่เสียให้สิ้นเรื่องกันไป
สุภาษิตชายคนจริง...เมียเพื่อนเหมือนแม่เรา...นั่นคือสิ่งที่แตะต้องไม่ได้ ชิดสมัยจึงต้องจัดการโดยเร็ว
ดารกาสาวเท้าเดินเร็วไปที่ห้องนั่งเล่นหลังออกมาจากงานเลี้ยงโดยไม่ฟังเสียงใคร เธอรีบเดินไปยังจุดหมาย ซึ่งคาดว่ามารดาจะนั่งเล่นที่นั่น เธอเดินไม่นานนักก็โดนแม้นฉุดแขนมาจากด้านข้างซึ่งแม้นดักซุ่มไม่ให้ใครเห็น
“คุณหนูเจ้าขา”
“พระช่วย”
“แม้นเองเจ้าค่ะ”
“เอ้า...ทำไมต้องมาทำลับลับล่อๆด้วยล่ะแม้น”ดารการีบถาม
พลางเหลียวมองที่ดักซุ่มของพี่เลี้ยง แล้วยิ้มในสีหน้า เพราะใช้ประตูเปิดจากห้องรับรองแขกเปิดออกมาบังร่างของผอมของแม้นอย่างมิดชิดทีเดียว
“ดักฉุดแดงทำไมคะ”
“แม้นเห็นคุณนายวัลย์คว้าคุณแดงไปจากหน้าทางเดิน แม้นซุ่มอยู่ที่พุ่มมะลิซ้อน คว้าไม่ทันเจ้าค่ะ”
ดารกาหัวเราะเสียงใสอย่างกลั้นไว้ไม่อยู่ เพราะแม้นไม่เคยตามใครทันสักครั้ง แม้แต่เรื่องความรักก็ตาม
“คุณนายเธอเจ้ากี้เจ้าการพาคุณหนูแดงไปหาให้ใครได้เกี้ยวพาบ้างหรือเปล่าเจ้าคะ”
ดารกาออกแปลกใจเมื่อได้ยินคำถามด้วยท่าทางที่ไม่ดีเอาเสียเลยของพี่เลี้ยง และคนที่เธอห่วงที่สุดคือมารดา ดังนั้นจึงเอ่ยถามอย่างเฉลียวใจว่า
“พี่วัลย์เขาไปหาคุณแม่ แล้วทำให้คุณแม่ไม่สบายใจเรื่องของแดงหรือเปล่าจ๊ะแม้น”
“ไปสิเจ้าคะ ไปต่อว่าคุณผู้หญิงว่า ไม่ดุแลคุณ ปล่อยให้ไปเที่ยวทุกวัน ต่อไปนี้เธอจะดูแลคุณเอง นี่คุณแม่สั่งให้มาดักพาคุณหนูออกไปก่อน”แม้นลดเสียง สีหน้าท่าทีจืดเจื่อนลงไปอย่างเห็นได้ขัดเพราะทำไม่สำเร็จจึงเอ่ยแสนเบา “แต่ไม่ทันคุณวัลย์”
“คุณแม่คงห่วงแดง”
“เจ้าค่ะ พอคุณวัลย์ออกจากห้องปุ๊บ ท่านปวดศีรษะทุกทีเลยเจ้าค่ะ แม้นสงสารคุณผู้หญิงจริงๆเลยที่โดนสะใภ้พูดจาข่มเอาข่มเอาอย่างนี้”
ดารการับฟังด้วยหัวใจที่เจ็บร้อนแทนมารดา และเธอคิดว่า สมควรแล้วที่หักหน้าวัลย์วิไลอย่างเมื่อครู่นี้ ที่ไม่ต้อนรับแขกที่เธอพามา แม้คนพวกนั้นจะสามารถช่วยเหลือพี่ชายของเธอให้เล่นการเมืองได้สะดวก
แต่...เลิศชายยิ่งเล่นการเมือง ยิ่งเหมือน เล่น ไม่ได้ทำจริง ทำไมจึงใช้คำว่าเล่นการเมือง ทำไมพวกเขาไม่ใช้คำว่า ทำการเมืองให้เป็นจริงเป็นจัง หรือถ้าทำแล้วมันจะแย่ไปกว่า ‘เล่น’เช่นนี้ เพราะเป็นของเล่นกระมังจึงไม่มีประชาธิปไตยเต็มใบ นับแต่ได้รัฐธรรมนูญมา มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปบ้าง นอกจากการเหลิงอำนาจของคน พวกพ้อง
นักการเมืองบางคนรวยมาก บางคนจน อย่างพี่ชายเธอนั้นแรกเริ่มเล่นการเมืองประสบความสำเร็จมาก และรวย ต่อมาเริ่มขายทรัพย์สินออกไปอย่างที่บิดามารดาไม่สามารถห้ามได้ เพราะเริ่มล้มเหลวจากการรัฐประหารและมีการเลือกตั้งใหม่หลายครั้ง
เลิศชาย ต้องซื้อเสียงเพื่อให้ได้ชัยชนะ และนั้นเป็นการลงทุน การเมืองเป็นเรื่องพวกพ้อง พรรคพวก เลิศชายไม่มีนายทหารเป็นพวก ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า หากจะตั้งตัว หรือสร้างอิทธิพลต้องยึดสายทหาร
นายทหารชื่อดังท่านหนึ่งจึงมีอำนาจสั่งการมากนัก ดารกาเชื่อว่าเขาคนนั้นต้องมีเงินล้นฟ้าทีเดียว เพียงแต่ตอนนี้คงเปิดโปงอะไรไม่ได้ หาไม่คงถูกจับยิงเป้า...ประชาธิปไตยที่คนยังถูกพิพากษาโดยไม่ต้องขึ้นศาล
เล่นไปเพื่ออะไร หากไม่ทำเพื่อชาติอย่างแท้จริง!!
“คิดอะไรเจ้าคะคุณหนู เงียบไปเชียว”
“คิดเล่นๆจ้ะแม้น”
หญิงสาวตอบพลางเลี้ยวเข้าห้องนั่งเล่น ซึ่งเป็นมุมยื่นส่วนไปทางด้านหลังเพื่อชมทิวทัศน์ของสวนดอกไม้ และสวนไม้ยืนต้น โดยเฉพาะ เมื่อเปิด ประตู หน้าต่าง ซึ่งยาวจรดพื้น เป็นแบบทรงของชาวยุโรป รับลมเย็นได้สบาย
คุณเลื่อนมีสีหน้าดีขึ้นทุกครั้งเมื่อได้พบกับลูกรักคนนี้ ดารกาเข้าไปนั่งพื้นใกล้ตั่งนอนเล่นของมารดา สวมกอดท่าน ซุกหน้าแนบอก ออดอ้อนกับผู้บังเกิดเกล้าว่า
“นั่งเป็นห่วงแดงมากเชียวหรือคะคุณแม่”
คุณเลื่อนจับคางมลบิดเล็กน้อย เหมือนลงโทษ ซึ่งที่แท้คือหยอกเอินมากกว่า
“ทำอวดเก่ง ตะลอนเที่ยวทุกวัน ไหนบอกมาทีว่าวันนี้ไปที่ไหนมาบ้าง”
“ไปหาเที่ยวเล่นแถวกระทรวงค่ะคุณแม่”
“ไปทำไมเจ้าคะ”คนสงสัยและถามเสียงแข็งกลับเป็นแม้น “เมื่อวานไปเที่ยวท่าน้ำ วันนี้ไปกระทรวง ตกลงกระทรวงอะไรคะ อยู่ท่าน้ำด้วยหรือเปล่าเจ้าคะ”
“ไม่บอกแม้นดอก แต่แดงจะบอกคุณแม่ของแดง”เธอหันไปยั่วพี่เลี้ยง มารดาอารมณ์ดีขึ้นทันตา
“อย่าโยกโย้อยู่เลย ว่าไงไปทำไม”
“ไปหาเพื่อนรุ่นพี่ที่เป็นทหารบกค่ะคุณแม่ เรามีนัดดูหนังรอบค่ำด้วยนะคะ”
“จะไปได้อย่างไรตามลำพังเจ้าคะคุณหนู มืดมืดค่ำๆอย่างนี้”
“อย่างนี้ยังเพิ่งสามโมงนะจ๊ะแม้น” เธอหันมาโต้แย้งพี่เลี้ยง ซึ่งทำหน้ามุ่ย เถียงไม่เคยชนะสักที นอกจากนั้นยังทำให้งงกลับกับความทันสมัยของดารกาอีกด้วย
“ตามนายเราไม่ทัน แล้วจะเป็นพี่เลี้ยงได้ยังไงกันนะแม้น”คุณเลื่อนเปรยขึ้น แม้นจึงตอบว่า
“แม้นตามสาวโก้เก๋ไม่ทันจริงๆเจ้าค่ะ คุณเธอช่างยอกย้อนให้แม้นปวดหัวเสียเรื่อย แต่ว่า เมื่อคุณหนูจะไปรอบค่ำให้จงได้ แม้นก็จะไปด้วยนะเจ้าคะ”
“ไปนั่งกรนให้แดงได้อายต่อพี่เปรมปะไรเล่า”
“เปรม...เปรมไหนเจ้าคะคุณหนูแดง”
คุณเลื่อนเป็นฝ่ายเอ็ดข้าเก่าเต่าเลี้ยงของตนเองว่า
“ทำเป็นเจ๊กตื่นไฟเอะอะให้อึงไปทำไมแม้น” แม้นทำตัวลีบ เงยขึ้นมองหน้านายผู้หญิงซึ่งพยักหน้ารับ เอ่ยว่า
“เขาเพื่อนหนูแดงนานนมมาแล้วทำเป็นลืมหรือ พ่อเปรมเขาเป็นนายทหาร คนใกล้ชิดกับท่านนายพลใหญ่คับเมืองนั่นละแม้น”
“เอ่อคุณผู้หญิงเห็นดีเห็นงามไปกับคุณหนูแดงเสียแล้วหรือเจ้าคะ”
“แล้วกันแม้น เรื่องอะไรมาย้อนฉันอย่างนี้เล่า ลูกสาวฉันโตแล้วนะ แล้วเขาก็ไม่ปิดบังฉันสักเรื่องฉันจะไปว่าอะไรเขาล่ะ เขาไม่ได้หอบผ้าไปอยู่กับผู้ชายเสียเมื่อไหร่ นี่ก็ขอไปดูหนัง เอ่อว่าแต่ไปอย่างไรล่ะหนูแดง”
ดารกามีท่าทีครุ่นคิด เธอนึกถึงขณะที่นัดหมายกัน ชิดสมัยดึงเธอไปดูหนัง และเธอต้องการไปให้ได้ แต่เปรมไม่เอ่ยปากมารับเธอ เขาทำตัวเหมือนคนไม่คุ้นเคย
‘เกรงใจยัยชิดสมัยขี้โรคอย่างน่าหมั่นไส้’ดารกาคิดได้เพียงเหตุผลเดียว
“ว่าอย่างไรล่ะหนูแดง เงียบไปเลย พี่เปรมไม่มารับหรือลูก”
“เอ่อพี่เปรมมีธุระค่ะ แดงไปรอที่บ้านชิดสมัยค่ะ เอ่อเราตกลงกันอย่างนั้นค่ะ”
“ให้เสริมไปส่งนะลูก ไปกี่โมงล่ะ”
“ไปนั่งเล่นบ้านชิดสมัยสักหกโมงค่ะคุณแม่”ดารกาเพิ่งวางแผนตอนนี้เอง
เธออยากตีสนิทกับชิดสมัยให้มากกว่าเดิม อยากรู้ว่า เพื่อนที่เธอปรามาสว่าเป็นคนขี้โรคนั้นจะแหนหวงคนรักอย่างจงอางหวงไข่ หรือเสือแม่ลูกอ่อนหวงลูก แต่ไม่ว่าชิดสมัยจะเลือกเป็นอะไรก็ตาม ดารกาคนนี้เลือกแล้วที่จะแย่งเปรมกลับมาเป็นพี่ชายคนดีของเธอให้ได้ดังเดิม พี่ชายที่ดารกาไม่ยอมให้มีน้องสาวคนอื่นทั้งสิ้น!!
มารดาของชิดสมัยนั่งเย็บผ้าอยู่ตามปกติ เธอมีลูกค้ามาให้ตัดเย็บเสื้อผ้าอยู่บ้างไม่มากนัก มีรายได้พอกินกันไปอย่างไม่เดือดร้อน วันนี้แม่ริมดูลูกสาวแต่งตัวและแต่งหน้าเข้มแต่วัน จึงได้ท้วงว่า
“เปรมมารับหกโมงกว่าไม่ใช่หรือไหม ทำไมรีบแต่งตัวล่ะลูก”
ชิดสมัยยิ้มบางๆให้กับมารดา ไม่อายที่จะเอ่ยบอกความจริงกับท่านว่า
“นี่เป็นการเที่ยวกลางคืนวันแรกของไหมนี่คะคุณแม่ ไหมอยากสวยอย่างไม่มีที่ติค่ะ คุณแม่ว่าไหมสวยหรือยังคะ”
“สวยสิสวยมาก”แม่ริมชม แล้วมองไปที่ประตูทางเข้าบ้าน หญิงสาวร่างอรชรแต่งกายสวยด้วยผ้าราคาแพงอย่างที่ช่างตัดเสื้อรู้ดี ดารกายกมือทำความเคารพมารดาของชิดสมัย
“สวัสดีค่ะคุณแม่” ผู้เป็นลูกแนะนำว่า
“หนูแดง ลูกสาวคุณหลวงค่ะคุณแม่ เธอจะไปเป็นเพื่อนไหมคืนนี้ค่ะ”
ความสวยที่เหมือนดวงจันทร์จรัสแสงของดารกาทำให้แม่ริมอดตำหนิลูกสาวในใจไม่ได้ว่าช่างไม่ฉลาดเลยที่เอาเพื่อไปข่มตัวเออย่างนี้
“พวกสุดากับราตรีไม่ไปด้วยหรือเห็นสนิทกัน”
“พวกนั้นธุระเยอะค่ะคุณแม่ มีแต่แดงที่รับปากไหมจะไปเป็นเพื่อนค่ะ”
แม่ริมลอบถอนใจ เมื่อยิ่งพิศ ยิ่งเพ่ง ยิ่งเห็นความงามอย่างไม่น่าเบื่อตาของดารกา สาวที่หาความงามเช่นนี้ยากนักที่จะยิ่งมองยิ่งสวย เห็นแล้วยิ่งกลัวใจจนอดหวงแทนลูกสาวเสียไม่ได้ว่า
“เปรมเขาบอกว่าติดยศร้อยเอกแล้วจะแต่งงานกับไหมไม่ใช่หรือลูก”
อุ๊ย...คุณแม่เอาที่ไหนมาพูด ชิดสมัยครางในอก
“ดีเหมือนกันนะ บ้านเราจะได้มีผู้ชายคุ้มครอง ยิ่งคนดีอย่างเปรมแม่ก็วางใจ ว่าแต่หนูแดงมีคู่หมายหรือยังล่ะจ๊ะ”
“มีแล้วค่ะคุณแม่ เราหมั้นกันตั้งแต่เด็กๆค่ะ”
“แดงมีแล้วหรือแดง” ชิดสมัยถามหน้าซื่อ ส่วนแม่ริม ทำตาโต อุทานว่า
“เหมือนละครวิทยุเลยนะ พวกลูกคนมีเงินจะจับคู่หมั้นกันแต่เด็กๆ หนูแดงคงมีคู่หมั้นที่เหมาะสมกันมากใช่มั้ยจ๊ะ”
“ค่ะ เป็นนายทหาร คุณพ่อคุณแม่ของเขารักแดงมากเชียวค่ะ” ดารกานึกถึงคนที่ท่านรักและเอ็นดูเธออย่างไม่ได้โกหก
คุณริมอดเอ่ยออกมาเสียไม่ได้ว่า
“ดีนะ เพราะลูกผู้หญิงเราแย่มากที่สุดก็เรื่องพ่อผัวลูกสะใภ้ พ่อแม่ผู้ชายมีรักให้หนูแดงเป็นทุนอย่างนี้ดีแล้วนะ”
“ไหมล่ะจ๊ะ คุณพ่อคุณแม่พี่เปรมคงรักไหมมากกระมัง ไหมน่ารักออก”ดารกากล่าวทั้งที่รู้อีกฝ่ายไม่รู้จักพ่อปริก แม่วาด ชิดสมัยมีท่าทีสลดลง ก่อนเอ่ยตามจริงออกมาว่า
“ไหมไม่รู้จักพวกท่านเลยจ้ะแดง ไหมคบกับพี่เปรมมาสองปีแล้ว แต่พี่เปรมยังไม่เคยพาไปบ้านของเขาที่ต่างจังหวัด
เลย พี่เปรมคงเห็นว่าไม่เหมาะสมที่จะไปตามลำพัง”
อ้อ...นางงามแสนดีของพี่เปรม!ดารกานึกค่อน จากนั้นจึงเอ่ยออกมาว่า
“คุณแม่นั่งเย็บผ้าอย่างนี้ตั้งแต่เช้าเลยหรือคะ”
“ใช่จ้ะ”
“ไม่ร้อนหรือคะ” ดารกาหาทางออกไปคุยกับชิดสมัยตามลำพัง ซึ่งได้ผล เพราะแม่ริมรีบเอ่ยอย่างวางใจ ในคำบอกเล่าของดารกาที่ว่า เธอมีคู่หมั้นแล้ว โดยไม่รู้เรื่องอุปโลกน์ของหญิงสาวคนสวย
“หน้าบ้านมีลมพัด ไม่ค่อยร้อน พากันไปนั่งตรงนั้นสิ เดี๋ยวเปรมคงมารับ เขามาหาไหมบ่อยๆไป”
แหม แหม คุณแม่ท่าทางไม่เบาเลยนะ อยากจับไปคู่กับแม้นเสียจริง มีหวังสองคนนี้คงได้งัดค้างแน่ว่าชิดสมัยหรือแดงคนนี้ใครมีดีกว่าใคร...แต่ แดงเป็นคนที่ถูกลืมนี่นา ความคิดเอาชนะหดหู่ลงไปชั่วขณะ
ชิดสมัยไปรินน้ำดื่ม เหยาะยาอุทัยทิพย์ลงไปแก้วละเพียงหยดเดียว น้ำเปลี่ยนสีเป็นสีชมพู เธอเดินถือแก้วตามหลังดารกาซึ่งเดินไปนั่งบนเก้าอี้ไม้ยาวหน้าบ้านอยู่ก่อนแล้ว ชิดสมัยส่งแก้วน้ำดื่มให้ดารกา ซึ่งยื่นมือเรียวขาวมารับไปดื่มแล้วออกปากชม
“ชื่นใจจังเลย ข้างในร้อนนะ มีพัดลมเล็กๆตัวเดียว เกรงใจคุณแม่ต้องแบ่งพัดลมมาให้แดง แดงเห็นเหงื่อท่านออกด้วย”
“บ้านเราไม่รวยนี่จ๊ะ ใช้จ่ายต้องระวัง ไม่เหมือนแดง อยากได้อะไรคงสั่งได้ดังใจ”
ดารกาจับสายตามองหน้าสวยของชิดสมัย พลางนึกในใจ ใช่เธออยากได้พี่เปรมคืนและจะเอาคืนให้ได้
“พี่เปรมจีบไหมนานตั้งสองปีแล้ว แดงไม่ยักรู้เรื่องเลย”
“แดงไม่ค่อยสนใจพวกเรานี่นา พวกเรายังพูดเลยว่า เพราะแดงรวยเลยไม่ใส่ใจกับพวกจนๆอย่างไหม”
“เป็นอย่างนั้นเสียเมื่อไหร่กัน แดงเพียงแต่รำคาญรักยมของไหมต่างหาก”
“อะไรนะ” ชิดสมัยอุทาน สีหน้าเผือดซีดขึ้นมาทันตา ดารกาตกใจกับอาการที่ผิดปกติของชิดสมัย หญิงสาวหอบหายใจ
“ไหมเป็นอะไร ไหมบอกแดงสิ ทำไมไหมหน้าซีดอย่างนั้นล่ะ”
ชิดสมัยถอนใจยาวๆสองสามครั้ง หายใจยาวและลึกซ้ำอีก อาการหน้าซีดหายไป
“ไหมเป็นโรคหัวใจมากขนาดนี้เลยหรือ ตายจริงแดงพูดไม่ระวัง แดงขอโทษนะ”
“ไหมกลัวผีน่ะแดง”ชิดสมัยบอกเล่าอย่างอายๆ “แดงไปเห็นไหมมีรักยมหรือ ไหมไม่มีนะ ไหมกลัว”
ดารกาหัวเราเสียงใส ก่อนเฉลย
“แดงหมายถึงสุดาราตรีจ้ะ เขาเหมือนรัก ยม คู่กันอย่างแกะไม่หลุดเลย”
“แดงปากร้ายเชียว อย่างนี้สุดากับราตรีเขาถึงได้ชอบตีกระทบแดง แล้วไปรู้จักรักยมได้ยังไง ไหมไม่เคยเห็นหรอก รู้แต่ว่าเป็นผี”
“พี่เลี้ยงแดงชอบเล่าเรื่องไสยศาสตร์ให้ฟัง เรื่องการทำของให้คนหลงรัก”
ชิดสมัยฉุกใจคิดขึ้นมาได้เรื่องหนึ่งที่เคยได้ยินมารดาเอ่ยพาดพิงไปถึงบิดาของหญิงสาว ‘นังคนนั้นมันทำของพ่อแกถึงไปไม่กลับอย่างนี้’
“แดงเชื่อมั้ย”
“ไหมเชื่อหรือ”
“คุณพ่อของไหมทิ้งไหมไปหลายปีแล้ว คุณแม่ท่านก็ว่าคุณพ่อโดนของ”
แม่ริม ปล่อยตัวโทรม ผมกระเซิง ไม่แต่งตัวให้ดูดี อย่างที่ดารกาเห็น อาจจะเป็นส่วนหนึ่งก็ได้ที่คุณพ่อของชิดสมัยทิ้งไป แต่ไม่ว่าเป็นเช่นไร มารดาของชิดสมัยน่าเห็นใจอยู่ดี เพราะท่านทำงาน ไม่มีเวลามานั่งแต่งสวย ถ้าเป็นหญิงที่ไม่ต้องช่วยครอบครัวทำกิน อาจจะทำสวยใสเอาใจสามีได้ตลอด ไสยศาสตร์ที่ว่า ดารกาคิดไปถึงเรื่องความเห็นแก่ตัวมากกว่า เธอไม่เชื่อเรื่องพวกนี้สักนิดเดียว
“คุณแม่ไม่ไปง้อหรือไหม”
“ไม่เลยสักครั้ง ท่านใจแงกว่าไหมเยอะเลย รู้มั้ย ตั้งแต่คบกับพี่เปรม ไหมยังต้องคอยง้อพี่เปรมอยู่เสมอเลย”
“ท่าทางพี่เปรมดุออก”ดารกาแสร้งว่า “แล้วรักกันได้ยังไงล่ะ” ข้อนี้ต่างหากที่อยากรู้
ชิดสมัยหน้าแดงเล็กน้อยก่อนบอกเล่าให้ดารกาฟัง
“ไหมไปธุระหน้ากระทรวง วันนั้นแดดร้อนมาก ไหมเป็นลม พอดีพี่เปรมมาเห็นพอดี พี่เปรมช่วยไว้ อุ้มไหมขึ้นรถเช่า พาไปส่งโรงพยาบาล จากนั้นพี่เปรมก็มาส่งที่บ้าน และมาเยี่ยมบ่อยๆ ไหมแข็งแรงขึ้นก็ตอบแทนพี่เปรม ทำอาหารให้ทาน พี่เปรมชอบสาคูไส้หมูมากเลยนะแต่ต้องไม่หวานมาก ต้องไม่ใส่ถั่ว แต่ใส่ตั้งฉ่ายแทน ก็คบกันเรื่อยมา”
เสน่ห์ปลายจวักจากสาวอมโรค!! ดารกาคิดค่อน
เวลาเดียวกันนั้นเองที่รถของเปรม มาจอดหน้าบ้าน เปรมนั่งคู่มากับนเรศ ชายหนุ่มเห็นดารกานั่งอยู่หน้าบ้านของชิดสมัย เขาอดบ่นเสียไม่ได้ว่า
“กันคิดว่าจะไปรับคุณแดงที่บ้านเลยไม่ต้องไป ไม่ต้องรู้จักบ้านของเธอเสียที”
เปรมลอบยิ้มไม่ให้นเรศได้ตำหนิ พวกเขาลงจากรถไปในบ้านชิดสมัยเพื่อทักผู้ใหญ่ และรับสองสาวออกมาตามเวลา ที่คิดว่าจะไปทานอาหารกันก่อน
นเรศเปิดประตูให้ชิดสมัยได้นั่งคู่ไปกับเปรม และตนเองนั่งคู่กับดารกา นเรศ ขยับตัวเองเพื่อเบียดไหล่ดารกาอย่างฉวยโอกาส หญิงสาวห่อกายให้เล็กลง เพื่อไม่ให้นเรศได้ถูกตัว เปรมมองจากกระจกหลัง เขาย่นหัวคิ้วเล็กน้อย ชิดสมัยเห็นพอดีจึงถามด้วยความสงสัย
“เป็นอะไรคะพี่เปรม”
“ไม่มีอะไร”เขาตอบเสียงเรียบ
หลังทานอาหารแล้ว หนุ่มสาวสองคู่พากันไปโรงหนังที่ได้รับความนิยมสูงสุดในยามนี้ โรงหนังเฉลิมกรุงมีคนมีชมค่อนข้างเยอะพอควร
ตามหมายเลขที่นั่ง ชิดสมัยเดินเข้าไปเลือกเก้าอี้นั่งก่อนเปรมตามไปนั่ง ดารกาตามไปก่อนที่นเรศจะแย่งนั่งกลาง เพื่อกันเธอออกจากเปรม ดังนั้นกลายเป็นเปรมขนาบด้วยสองสาวเป็นไปตามความตั้งใจของดารกา โดยไม่มีพิรุธเพราะหญิงสาวหันไปยิ้มบางๆให้นเรศได้ชื่นใจ
สุภาพบุรุษเสือไทย คือภาพยนตร์รอบนั้น
เนื้อหาเป็นเรื่องของเสือใบ เสือดำ และเสือมเหศวร สามเสือของหนังค่อนข้างประทับใจ และฉากเศร้า ชิดสมัยถึงกลับร้องไห้ ใช้ผ้าเช็ดหน้าซับน้ำตาจนเปียกชื้น เปรมเหลือบมองดารกาซึ่งนั่งซ้ายมือของเขา เธอก็ร้องไห้อย่างเงียบงัน ชายหนุ่มเขาหันเย้าดารกา
“คนเก่งทำขี้แย”
“พี่เปรมใจดำ”
ดารกาว่าลอดริมฝีปากพอได้ยิน นเรศได้ยินไม่ชัดว่าดารกาพูดว่าอะไร นเรศจึงชะโงกหน้ามาถามใกล้ ดารการีบหลบห่างจากอีกฝ่าย แต่ปะทะกับคนนั่งข้างซึ่งกำลังยั่วตอบอย่างไม่ตั้งใจ
แก้มเนียนนุ่มกรุ่นหอมของดารกาชนจมูกโด่งงามของเปรมเข้าอย่างไม่ตั้งใจ ชิดสมัยเหลือบมองค้อนขวับ ขณะที่นเรศไม่พอใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างปุบปับกะทันหัน ส่วนสองหนุ่มสาวตัวต้นเหตุนั่งกายตรงเงียบงันไปทั้งคู่
หนังจบลงท่ามกลางการฝืนดูของกลุ่มของเปรม ถึงหนังเศร้าก็ไม่อาจทำให้สองสาวร้องไห้ได้อีก สาวคนหนึ่งหึงหวงอีกคนหนึ่งวาบไหวต่อการถูกสัมผัสโดยบังเอิญ
ชิดสมัยสาวเท้าเกือบเป็นวิ่งหนีออกจากโรงภาพยนตร์ เปรมรีบก้าวตามไปคว้าแขนหญิงร่างบอบบางเรียกรั้งเสียงอ่อน
“ไหมจะไปไหน มาขึ้นรถทางนี้”
“ไหมไม่ไป ไม่ไป”ชิดสมัยออกแรงดึงแขนของตนเองให้พ้นการเกาะกุม เปรมก้มหน้าลงมาถามเสียงเครียด
“ไหมโกรธอะไร”
“ก็”เธอพูดไม่ออก ก่อนที่จะประเคยกำปั้นเล็กๆลงบนอกแกร่งของชายหนุ่มรูปงามด้วยความหึงหวง
ภาพของคนทั้งสองตกอยู่ในสายตาของดารกา ซึ่งเดินแยกไปยืนรออยู่ข้างรถ เช่นเดียวกับนเรศ ซึ่งทำท่าไม่พอใจ สีหน้าออกเตคร่งเครียดไม่น้อย เมื่อชายร่างสูงโปร่งยังเห็นว่าดารกาให้ความสนใจต่อเปรม เขาจึงหาเรื่องหญิงสาวที่ใจเขาใฝ่ปองเช่นกัน
“คุณคุยอะไรกับเปรมนักหนาในโรงหนัง คุณแดง”
“แปลกจริง”หญิงสาวจอมยุ่ง ทำเสียงขึ้นจมูกไม่พอใจ
“คนรู้จักก็จะไม่ให้คุยกันหรือพี่นเรศ”
“แต่คุณไม่เพียงแต่คุยเท่านั้น ผมเห็นแก้มคุณถูกจมูกเปรม”
“บังเอิญเท่านั้นไม่เห็นเสียหาย”ดารกาตอบอย่างไม่ยี่หระ ซึ่งทำให้นเรศเกิดอารมณ์โกรธ อยากเอาชนะขึ้นมาในทันที
“ถ้าอย่างนั้น ผมคงทำได้ไม่เสียหายล่ะสิ” กล่าวพลางชายหนุ่มคว้าแขนเธอตรึงไว้ทั้งสองข้าง ก้มหน้าไปหาดวงหน้างามใกล้ชิด ดารกาส่ายหน้าหลบหลีก และสะบัดแขนแรงจนพ้นการจับตรึงของอีกฝ่าย จากนั้นดารกาตวัดฝ่ามือฟาดเข้าเต็มแก้มนเรศเต็มแรง
เพี๊ยะ
“บ้าที่สุดคุณเห็นฉันเป็นผู้หญิงชนิดไหนกัน”
“คุณพูดเองว่าไม่แปลก คุณทำหัวก้าวล้ำทันสมัยเองนะคุณแดง”
เธอตวัดสายตาฉับ มองนเรศ พลางเหยียดยิ้มมุมปาก ชายร่างสูงรู้สึกชาไปทั้งกายจนค่อย ๆ โกรธขึ้นมาทีละนิด ขณธเดียวกันนั้นเปรมดึงกึ่งลากชิดสมัยกลับมาที่รถจนได้ เขาบอกคนทั้งสองอย่างไม่รู้มีอะไรเกิดขึ้น
“ขึ้นรถเถอะดึกมากแล้ว”
“ไปส่งกันก่อนก็แล้วกันเพราะอยู่ใกล้ ๆ”นเรศเอ่ยตัดบทก่อน
เปรมแปลกใจเพราะคิดว่านเรศจะไปส่งดารกาด้วยกันจึงชวน
“ไม่ไปส่งคุณแดงด้วยกันหรือ”
“ไม่ล่ะ เพราะเค้าคงไม่อยากให้กันไปส่งแน่”
เปรมขมวดคิ้วมุ่นต่อคำตัดพ้อของนเรศ ส่วนดารกาอยากย้อนแต่กลัวถูกดุจากเปรมจึงนิ่งเสีย เปรมไม่พูดอะไร ทุกคนต่างเก็บปากจนเงียบ กระทั่งเปรมขับรถมาถึงบ้านของนเรศ ชายหนุ่มเป็นลูกชายเศรษฐี มีฐานะดีคนหนึ่ง
ชายร่างสูงโปร่งลงจากรถโดยไม่ล่ำลาใครจนเปรมแปลกใจยิ่งขึ้น เขาเหลือบหางตามองทางกระจกหลัง จึงได้เห็นดารกาเบือนหน้าไปมองนอกรถ ให้เปรมเดา เขาเดาไม่ถูกว่าเกิดอะไรขึ้น นอกจากโทษว่า หนูแดงทำฤทธิ์มากตามเคย เขากลับรถ ขณะที่กำลังชะลอความเร็วเพื่อกลับรถให้ตรงทาง
ดารกาเอ่ยเรื่อย ๆ เหมือนจัดไฟให้ชิดสมัยร้อนราวกับถูกเผาด้วยริษยานัก
“ไปส่งไหมก่อนดีกว่านะคะพี่เปรม บ้านไหมถึงก่อนบ้านแดง พี่เปรมจะได้ไม่อ้อมกลับไปกลับมา”
“ที่แท้เธออยากจะนั่งรถพี่เปรมตามลำพังใช่มั้ยดารกา เธอคิดจะแย่งคู่รักเพื่อน”
“ไหม พูดอะไรอย่างนั้น”เปรมปรามอย่างไม่พอใจ ดารกาจึงเปิดประตูรถลงไปทันที เปรมรีบเรียกรั้งอีกฝ่าย
“คุณแดงจะไปไหน ที่มันอะไรเกิดอะไรขึ้น”
“อยากไปไหนก็ช่างเขาสิคะพี่เปรม”
“ไหมหยุดหึงหวงเสียที”
“แดงจะแย่งพี่เปรมไปจากไหม”
“ไปกันใหญ่แล้ว พี่ไม่เห็นเขาทำอะไรเลย”
“พี่เปรมเข้าข้างเธอ อยู่ในโรงหนังก็จูบกันแล้วนี่ยังคิดไปตามลำพังอีก”
“แต่นี่มันดึกแล้ว ถ้าคุณแดงไม่กลับกับเราเธอจะกลับได้อย่างไร”
“ทำไมไหมต้องสนใจด้วยล่ะคะ คนก๋ากั่นอย่างแดงมีที่ไปอยู่แล้วล่ะ”
เปรมไม่รับฟังวาจาของชิดสมัย แต่เขาขับรถตามดารกาซึ่งเดินลิ่ว ๆ ไปแล้ว ชิดสมัยสะบัดหน้าหนีไปทางอื่นอย่างไม่พอใจ แต่ทำอะไรมากไปกว่านั้นไม่ได้ เปรมจอดรถใกล้ริมถนน เปิดประตูรถลงไปหาดารกา ปากเรียกรั้งให้อีกฝ่ายหยุดการจ้ำอ้าวๆ
“หยุดก่อนคุณแดง นี่ตั้งใจจะเดินกลับบ้านหรือไง”
“คู่รักพี่เปรมเขาหึงแดงจนลมออกหูอย่างนั้นแล้ว จะให้แดงไปด้วยได้ยังไง”
“คุณแดงยั่วให้เขาโกรธก่อน คิดว่าพี่รู้ไม่ทันหรือ”
“แดงยั่วอะไรไม่ทราบ” ดารกาหยุดเท้าหันกลับไปตีหน้าแสนซื่อ
เปรมไม่อยากต่อความยาวบอกให้ดารกาขึ้นรถไปด้วยกัน หญิงสาวก้าวขึ้นนั่งเบาะหลัง ชิดสมัยสะบัดหน้าพรืดจนน่ากลัวคอเคล็ด
ดารกามิได้พูดอะไรกับอีกฝ่ายนั่งรถไปเงียบ ๆ คนขับหนักใจเหมือนดั่งถูกหินถ่วง ก่อนตัดสินใจอ้อมไปส่งดารกาก่อน การกระทำของเปรมสร้างความพอใจให้ชิดสมัยเป็นอันมาก หญิงสาวร่างบอบบางปลายหางตามาทางดารกาอย่างผู้กำชัยชนะเพราะเปรมแสดงออกว่าชิดสมัยมาเป็นที่หนึ่ง
ร้อยโทเปรมขับรถมาจอดหน้ารั้ว บ้านเลิศพานิช ดารกาแสร้งรอให้เปรมเปิดประตูรถให้ ซึ่งเขาก็ลงมาทำหน้าที่นั้น ดารกาจงใจกล่าวให้ชิดสมัยและเปรมได้ยินชัดเต็มสองหูว่า
“แหมวันนี้สนุกทั้งนอกจอและในจอเลยนะคะ ขอบคุณค่ะพี่เปรม”
ดวงตาคู่สวยเป็นประกายนิ่งดั่งน้ำลึก เปรมไม่เข้าใจมีสิ่งใดซ่อนอยู่ภายใต้ความราบเรียบไร้รอยเปิดเผยของอีกฝ่าย ดารกาหันไปชะโงกหน้าโลกมือลาชิดสมัย ซึ่งสะบัดหน้าหนีไปทางอื่น ไม่ยอมรับไมตรี ที่เพิ่งได้คิดว่า ดารกายืมเธอเป็นสะพานเพื่อเข้ามาหาเปรม ไม่ใช่นเรศอย่างที่เธอเข้าใจ และอยากให้เป็น
ดารกาเลวร้ายยิ่งนักในความคิดของชิดสมัย เปรมเปิดประตูรถเกลับมาเป็นคนขับ โดยไม่มีคำพูดใดใด นอกจากชิดสมัยจะเป็นฝ่ายเอ่ยออกมาอย่างไม่อาจเก็บไว้ในใจได้
“ไหมน่าจะรู้ทันว่าแดงเข้ามาตีสนิทเพราะอยากแย่งพี่เปรม”
“พูดเหมือนพี่เป็นสิ่งของที่จะให้ใครต่อใครมายื้อเล่นง่ายๆ”
“ถ้าคิดจะโกรธไหมขอให้พี่เปรมไปโกรธแดงแทนก็แล้วกัน เพราะเธอเป็นนางผีร้ายที่จ้องจะตะครุบพี่เปรมไปจากไหม”
“ทำไมคิดมากอย่างนั้นนะไหม เราไม่ต้องพูดถึงเขาไม่ดีกว่าหรือ”
“ได้ค่ะ แต่พี่เปรมอย่าคิดถึงก็พอ”
เปรมนิ่งอึ้ง ที่ได้ยินคำตอบโต้ของชิดสมัยอย่างไม่เคยได้ยินมากก่อนเลย...ชิดสมัยกลัวเขาเหมือนหนูกลัวแมว ไม่เคยทำฤทธิ์มาก ปากไวเหมือน...หนูแดง ใช่เขาคิดมาตลอดทีเดียวเรื่องของดารกานับแต่วันที่ได้พบกันอีกครั้งที่บ้านของเขา หนูแดงจอมแผลงฤทธิ์คน การห้ามจึงดูเหมือนการยุ เพราะเปรมยิ่งคิดมาขึ้น คิดมาตลอดนับแต่เจอกับดารกาอีกครั้งที่บ้านเกิดของเขา และไม่เคยหยุดคิดได้เลย!!




 

Create Date : 09 พฤศจิกายน 2554
1 comments
Last Update : 9 พฤศจิกายน 2554 9:11:27 น.
Counter : 628 Pageviews.

 

เอิ๊ก ๆ ๆ ๆ ๆ คิดถึงพี่สาวคนนี้จริง ๆ ๆ ๆ ๆ อยากไปลอยทะเล

 

โดย: rabbitcall 19 พฤศจิกายน 2554 15:12:30 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นางแก้ว ดาราพร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add นางแก้ว ดาราพร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.