นิยาย ดราม่า ดี ฮา หื่น สนุก เลิฟซีนภาษาสวย
Group Blog
 
<<
มิถุนายน 2555
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
28 มิถุนายน 2555
 
All Blogs
 

เปลวไฟปรารถนา9

พรรณยุดาชวนวาสิฐีไปส่งคุณหญิงจิตตรีและรองศาตราจารย์ นายแพทย์เดวิดพร้อมหมอทอแสง วาสิฐีไม่สังเกตแววตาใต้กรอบแว่นของหมอทอแสงว่ามองเธอด้วยสายตาเช่นไร พรรณยุดากอดคุณหญิงเป็นการล่ำลาอีกครั้งพร้อมวิงวอนบุพการีว่า

                “นำน้าวิลล์กลับบ้านเราให้ได้นะคะคุณยาย”

                “คุณย่าวิลล์คงไม่ยอม”

            “คุณยายทวดน่าจะเปลี่ยนเอาคุณลุงไปแทนบ้าง”

                “อ้าว”ผู้มีศักดิ์เป็นลุงอุทานดัง ยีผมสั้นรับใบหน้าสวยใสจนยุ่งเหยิง ก่อนเอ่ยเย้าไปทางภรรยา”คุณป้าคงไม่ยอมลองถามดูสิยุดา” เขากระซิบบอก วาสิฐีได้ยินจึงยิ้มจาง ๆ ในสีหน้า

เด็กคนนี้ยิ้มสวย หมอทอแสงนึกเรื่องเดียวกับสามีโดยไม่รู้ตัว ชาติกำเนิดเท่านั้นไม่เพียบพร้อมเทียมหน้าเหล่าไฮโซ หากเกิดบนกองทองวาสิฐีจะเด่นยิ่งกว่าเดือนเต็มดวง

ขากลับหมอทอแสงเป็นคนขับรถ พรรณยุดานั่งคู่ไปกับป้าสะใภ้วาสิฐีนั่งเบาะหลัง ผู้มากวัยสุดในรถถามวาสิฐีโดยที่สองเด็กสาวไม่รู้ถึงเจตนาคนถาม

                “น้อง ๆ ไม่ติดต่อมาเลยหรือ หมอหมายถึงแม่เลี้ยงของวาสิ”

                “เขาย้ายกันไปหมดไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหนกันค่ะคุณหมอ”

                “คิดถึงมั้ย”

                “สนิทกับอำภาน้องคนรอง ห่วงว่าตอนนี้ทำอะไรอยู่กลัวน้องจะไม่ได้เรียนต่อ”

                “ยังดีนะวาสิ ที่ยังไม่ลืม”

                พรรณยุดาไม่ฉุกใจคิด ต่างจากวาสิฐีเมื่อสบตาที่มองผ่านกระจกหลังจึงทราบหมอทอแสงกดเธอไว้ฐานะผู้อาศัยไม่ให้ลืมกำพรืดตัวเอง

โอ้ จะให้ทำตัวเช่นไรคนรอบข้างจึงจะทราบได้ว่าวาสิฐีไม่คิดตีเสมอพวกท่าน ๆ เลยสักคน เมื่อไหร่คนพวกนี้จึงจะเข้าใจหัวใจของเธอเสียที!!

 

ที่บ้านในอเมริกา เป็นบ้านแห่งที่สาม ซึ่งเวลานี้คุณย่าแก่มากแล้ว ปักหลักอยู่ที่นี่เพราะท่านไม่ชอบบรรยากาศในอังกฤษ ซึ่งเต็มไปด้วยฝน และไม่ชอบอิตาลี แต่ท่านชอบที่อเมริกา ซึ่งมีหลากหลายฤดูให้ท่านได้มีความสุข

 

รองศาสตราจารย์นพ เดวิดปล่อยให้มารดาสนทนากับคุณย่าของเขาตามลำพัง ส่วนตัวชายหนุ่มเดินไปหาน้องชายในสวนอันกว้างขวาง ความร่ำรวยมหาศาล ไม่ได้ทำให้นายแพทย์หนุ่มทิ้งความอ่อนโยนในหัวใจไปเลย เขาเห็นดีงามตามรอยบิดา ซึ่งสร้างมูลนิธิ แต่เขากลับรู้สึกว่า คนที่มีนิสัยรวยจริงๆน่าจะเป็นน้องชายคนเล็กของเขามากกว่า ตั้งแต่เด็ก วิลล์ประกาศความต้องการของตนเองโดยที่ทุกคนต้องยอม

เวลานี้คนที่หมอเดวิดตั้งฉายาในใจว่า สปอย แมน คุณชายนิสัยเสีย กำลังนั่งบนเก้าอี้ไม้ท่าทางเหงา  เสียงย่ำใบไม้ทำให้ชายหนุ่มซึ่งเป็นคนมากปัญหาสำหรับครอบครัวเหลียวหน้ามามอง เดวิดส่งยิ้มไปให้น้องชาย ซึ่งยิ้มตอบ นี่เองคือความเป็นไทยของชายทั้งคู่รอยยิ้มซึ่งมีได้ง่ายกว่าชาติใดในโลก

                นายแพทย์เดวิด พาร่างสูงไปนั่งข้างน้องชาย ซึ่งร่างใหญ่ ใบหน้าคมคายได้สายเลือดชาวตะวันตกเต็มที่ แต่ผิวกลับขาวละเอียดมีไรขนอ่อนระบายขึ้นบ่างๆไม่หนา ผิวไม่หยาบ หรือตกกระ ซึ่งเป็นข้อดีของลูกครึ่ง ซึ่งมักจะมีส่วนผสมทางสายเลือดที่ดี ดวงตาของวิลล์เป็นสีเทา ประกายน้ำเงิน ยามนี้มีความเหงาฉายชัด เขาทักพี่ชาย

                “นั่งก่อนสิเดฟ มาถึงแล้วหรือ”

                “ใช่ มากับคุณแม่ พวกเราคิดว่า แกจะให้รออีกนานมั้ยกว่าจะกลับบ้านของเรา”

                “ย่า เก้าสิบแล้ว ผมอยากอยู่กับท่าน”

                “บ้านของวิลล์ ไม่ใช่ที่นี่ วิลล์ลืมแล้วหรือ คุณแม่ของเราท่านเหงาไม่แพ้คุณย่าหรอกนะ”

                “ผมเห็นแก่ตัวหรือเปล่า”

                “ให้พี่ตอบหรือ” เขาถามน้องชาย ซึ่งเบือนหลบไปทางอื่น เดวิดจึงไม่ได้ตอบอย่างที่ใจต้องการีว่า แกเห็นแก่ตัวอย่างที่สุดสำหรับผู้ให้กำเนิด แต่ชายผู้พี่ ตอบออกมาว่า

“บริษัทที่บ้านยังต้องดูแล ถ้าจะอ้างเรื่องเรียน วิลล์น่าจะตั้งใจเรียนให้จบเสียที”

                “ผมขอโทษครับ” วิลล์ตอบสั้น เขาปล่อยเวลาไปกับการดูแลเดียน่าไม่ห่วงทั้งการเรียนและครอบครัว

 เดวิดวางมือลงบนบ่าน้องชายบีบเบา สองพี่น้องสบตากัน คนพี่เรียกร้อง หากคนน้องต้องการเวลา อีกนานเพียงใดเล่ากว่าเขาจะคิดถึงคนรอคอย!!

 

วันนี้วาสิฐีและพรรณยุดาได้เริ่มเรียนวันแรก ต่างคนต่างเรียนกันคนละที่ วาสิฐีย้ายมาอยู่หอ มีนักศึกษาแพทย์อยู่ร่วมห้องด้วยทั้งสองแบ่งส่วนกันอยู่ และมีอัธยาศัยดีเช่นเดียวกัน การเรียนมิได้คร่ำเคร่งกันจนเกินไปนักทั้งสองถ้อยทีถ้อยอาศัย ไม่เท่าไหร่ก็สนิทกันแล้ว

เริ่มเข้าห้องเรียนแพทย์ ตามภาควิชาปีแรก เกี่ยวกับชีววิทยา เมื่อออกชั่วโมงแล้ว หลายคนรู้สึกว่า โล่ง แต่บางคนบอกว่ายาก เว้นแต่ชายหนุ่มน่าตาดี ที่มองว่า การร่วมเรียน ภาควิชาเดียวกับวาสิฐี น่าสนใจมาก เขาชื่อเลียบเมือง

“วาสิฐีครับ”เลียบเมืองผู้เดินตามหลัง ส่งเสียงนำไปก่อนตัวขยับไปเดินเคียง “ผมชื่อเลียบเมืองครับ”

“กี่เมืองก็เรียบ”เสียงห้าวๆดังซ้อนขึ้นมา วาสิฐีหัวเราะเบา จำไห้ว่าเป็นเพื่อนร่วมห้องชื่อวันดี และยังเป็นเพื่อนเก่าของเลียบเมือง

“จะล้างผลาญฉันอีกกี่ชาติยัยวันดี นี่ฉันมาไกลขนาดนี้แล้ว เธอยังตามมาขยี้หัวใจฉันได้อีกนะ”

“บังเอิญฉันจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวฉันต้องหมั่นเหยียบหัวใจคนอื่นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเธอนายไม”

วาสิฐีหัวเราะกับการหยอกเย้าของสองหนุ่มสาว เลียบเมืองเข้ามาตีสนิท วาสิฐีรับไมตรี แต่ไม่เยอยู่ตามลำพัง การทำงานร่วมกัน ทำเป็นกลุ่ม และเป็นกลุ่มที่มีผลงานดี

 

วันนี้วันศุกร์ วาสิฐีอาศัยรถของเดวิดกลับ ซึ่งมักจะเป็นเช่นนี้บ่อยๆ

“เรียนหนักมั้ยวาสิ”

“วิชาของคนอื่นไม่ยากเท่าของอาจารย์เลยค่ะ”

เดวิดหัวเราะเบาๆ ก่อนขู่ว่า

“แล้วจะให้ยากกว่านี้อีก”

“วาคงต้องขยันสิบเท่า แค่วันนี้ได้ตอบผิดๆถูกๆวายังเข็ดอยู่เลยค่ะ”

“ตอบถูกทั้งหมด เพียงแต่ว่ามีถูกมากถูกน้อย ก็อนุถโลมให้หกคะแนนเต็มสิบ”

วาสิฐีนั่งนับนิ้มมือตัวเองแล้วทำหน้าละห้อยไม่ได้มองว่า เดวิดมองเธอด้วยสายตาเช่นไร เขารู้สึกเอ็นดูต่อความเอาจริงจังในเรื่องการเรียน และระดับผล

“เกือบตกเลยนะคะนี่ ไม่ทราบคนอื่นๆได้เท่าไหร่นะคะ”

คนเป็นอาจารย์ยิ้มในสีหน้า เผลอตัวมองอีกฝ่ายอย่างเปิดใจ วาสิฐีเป็นคนฉลาด เธอเผลอหลบตามองตำราเรียนในมือและรีบเริ่มเรื่องสนทนาใหม่เพื่อปิดบังความเก้อเขินตามประสาหญิง และเพื่อไม่ให้เดวิดเสียน้ำใจมากจนเกินไป ที่เธอไม่ได้คิดกับเขาอย่างหนุ่มสาวเลยสักนิด

 หมอเดวิดรีบกลืนความรู้สึกตามใจตัวเองไปเก็บไว้ในใจอีกครั้ง

“คนที่เก่งสุดคงจะได้คะแนนดีนะคะ”

“คะแนนเป็นไปตามผลการเรียนรู้ คำตอบและความเข้าใจ”

“คนที่ได้คะแนนสูงกว่ามีเยอะมั้ยคะอาจารย์”

“ถามอย่างนี้เขาเรียกว่าหัวหมอ”

วาสิฐีหัวเราจางๆ เสียงกังวานใสของอีกฝ่ายทำให้หัวใจนายแพทย์สดชื่นได้ไม่ยากเลย

ภาพวาสิฐีลงจากรถ โดยที่คนสวนรีบวิ่งมาเปิดประตุให้ ทำให้หมอทอแสง ซึ่งกลับบ้านมาก่อนหน้าแล้ว จ้องมองด้วยความรู้สึกร้อนในใจ และเมื่อนายแพทย์ผู้เป็นสามี ก้าวลงจากรถด้วยรอยยิ้มสุกสว่างหมอทอแสงรู้สึกเจ็บแปลบปลาบที่หัวใจ

เธออยากวิ่งลงไปกระชากสามีเข้ามาถามว่าเขาคิดอย่างไรต้องการอย่างไร จากนั้นเธอจะไล่วาสิฐีออกจากบ้าน แต่...หมอทอแสงหยุดคิดเรื่องร้ายทั้งหมด เมื่อเหลืบสายตาไปเห็นประมุขบ้านเดินคู่มากับพรรณยุดา เดวิดเข้าไปกอด จูบมารดาเช่นเคย พรรณยุดารีบจูงมือเพื่อนรักไปทันทีที่วาสิฐีทำความเคารพคุณหญิงจิตตรี

คุณหญิงคือปราการแกร่งที่ทำให้หมอทอแสงเกรงใจ และพรรณยุดา รักวาสิฐีอย่างไม่เคยเห็นผิดในตัวเพื่อนสาว ถ้าหากหมอทอแสงจะทำอย่างใจคิด เธอจะมีพรรณยุดาหลานรักของคุณหญิง เกลียดชัง...เรื่องนี้บางทีต้องใช้ความเงียบและความเข้าใจแก้ไข แม้เวลานี้หัวใจจะเต็มไปด้วยลวดหนามรัดรึงเอาไว้ก็ตามที คุณหมอจำต้องยอมเพื่อให้อาวุธร้ายนี้ถอดออกไปโดยไม่มีบาดแผลมากกว่าเดิม เธอจึงต้องอดทน!!

 




 

Create Date : 28 มิถุนายน 2555
0 comments
Last Update : 28 มิถุนายน 2555 15:47:07 น.
Counter : 883 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


นางแก้ว ดาราพร
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




New Comments
Friends' blogs
[Add นางแก้ว ดาราพร's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.