Da Vinci Code : จากนิยายสุดลุ้น มาสู่หนัง พยายาม ระทึก (No Spoiled)
ก่อนอื่นขออุทิศย่อหน้าแรกให้ใครก็ตามที่ทำงานเกี่ยวกับการเซนเซอร์ในประเทศไทย ถ้าผู้ใดรับไม่ได้กับถ้อยคำที่น่าจะรุนแรง กรุณาอ่านข้ามไปที่ย่อหน้าที่ 2 เลยครับ
อะไรวะ เบื่อโครตๆ จะblock จะเซนเซอร์ไปถึงไหน ทั้งประเทศไม่ได้มีแต่เด็ก 5 ขวบนะเว้ย แล้วทำแต่ละอย่างโง่ๆทั้งนั้น block web โป๊ คิด เหรอว่าจะเข้าไม่ได้ ใช้วิธี block แบบไดโนเสาร์ แล้วนอกจากนี้อย่างอื่นก็ไม่เห็นทำอะไรเลยกระทรวงนี้ เปลืองงบประมาณจริงๆ ส่วนไอ้กองเซนเซอร์ เซนเซอร์มันเข้าไป ไม่ได้รู้เลยว่านั่นมันนม มันตูด ไม่รู้เลยว่าบุหรี่ เหล้า บ้าป่าวะ ไปดูหนังนะเว้ย ไม่ใช่เข้าห้องเรียนศีลธรรม จัดเรตน่ะทำกันไม่เป็นหรือไง เอาแต่มาริดรอนสิทธิ ผมมีสิทธิเลือกตั้งแล้วนะครับ ทำไมดูนม ดูเหล้า ดูปืนไม่ได้ แก้ปัญหาเอาแต่มักง่าย เงินที่ใช้น่ะภาษีผมนะครับ ช่วยทำอะไรให้มันคุ้มค่าหน่อยครับ เรตน่ะจัดกันซะที
OK เข้าเรื่องดีกว่า ไปดู Da Vinci Code มาครับ เรื่องงนี้ผมเคยอ่านนิยายมาก่อน ก็ไม่ได้ชอบอะไรมากมายหรอกครับ เพราะตัวนิยายมันเก็บเล็กผสมน้อย theory การหา Holy Grail ที่เคยมีอยู่แล้วมาเล่าใหม่ ในรูปแบบนิยายระทึกขวัญ ที่ก่อนจะถึง 5 บทสุดท้าย น่าเบื่อถึงน่าเบื่อที่สุด แต่พอมาถึง 5 บทสุดท้ายเท่านั้นแหละ วางแทบไม่ลง แต่ก็อีกคนที่เคยดูหนัง หรืออ่านหนังสือแนวนี้มาบ้างรับรองว่าต้องคลายปมได้ก่อนที่นิยายจะเฉลยแน่นอน ก็มันไม่ได้ซับซ้อนขนาดนั้นนี่ แต่ก็ต้องยอมรับนะครับว่า Dan Brown เก็บเล็กผสมน้อยมาเป็นนิยายลุ้นระทึกที่ดีเล่มนึงเลย
และเมื่อมาเป็นหนังที่อยู่ในมือนักแสดงตกอับ แต่มาได้ดีกับการกำกับอย่าง Ron Howard พร้อมทัพนักแสดงฝีมือดีไล่ตั้งแต่ Tom Hanks, Audrey Tautou, ป๋า Ian McKellen , Jean Reno, Paul Bettany ไปจนถึง Alfred Molina แน่นอนความคาดหวังของหนังเรื่องนี้ต้องสูงเป็นธรรมดา ทีมงานแน่นขนาดนี้
แต่พอเข้าไปดู เอทำไมมันผิดคาดขนาดนี้ ความลุ้นระทึกที่มีอยู่ในนิยายล้วนหายไปสิ้น จากการลุ้นที่บีบด้วยข้อจำกัดของเวลา ต้องใช้สมองเค้นทุกอย่างออกมา เพื่อไขปริศนา นำสู่การค้นหาความลับของเรื่อง มาสู่การแก้ปัญหาได้ด้วยความบังเอิญครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วล้วนแต่เป็นการแก้ได้อย่างง่ายดาย จนแทบไม่ต้องลุ้นไปกับเรื่อง ก็เข้าใจว่าพยายามแล้ว เพราะมีหลายฉากที่เกือบลุ้น แต่ผลที่ได้กลับมามันไม่ได้ถึงขั้นนั้นเลย
ในส่วนนักแสดง น่าเสียดายที่ได้กลุ่มนักแสดงฝีมือดีขนาดนี้ แต่เกือบทุกคนไม่ได้สร้างความน่าประทับใจได้เลย แม้แต่พระเอกของเรื่องเจ้าของ 2 ออสการ์อย่าง Tom Hanks ที่ไม่น่าเชื่อถือเลยในบทนักสัญลักษณ์วิทยา ฉลาด ไหวพริบดี คนที่พอเอาตัวรอดขโมยซีนไปได้ก้อ Paul Bettany กับป๋า Ian เท่านั้นเอง
ส่วนการกำกับแล้วนั้น ไม่สามารถสร้างบรรยากาศการไม่น่าไว้ใจ อันตรายอยู่รอบด้านได้เลย นี่อาจเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หนังเรื่องนี้มีความสนุกน้อยกว่าที่ควรจะเป็นก็ได้
สรุป ก็สนุกอ่ะนะ แต่ยังไงก็ผิดหวังอย่างแรงกับหนังเรื่องนี้ ไม่ขอพูดถึงไปมากกว่านี้แล้วกันครับ
ปล ตอนดู ยังอดเห็นภาพริชาร์ด เกียร์ กับ โซฟี มาโซ ไม่ได้เลย
เพิ่มอีกนิดสำหรับสาวๆห้องคูทิง เมื่อวานไปออกกำลังกายมา อยู่ๆก็มีฝรั่งมาทัก ก็คุยกัน เค้าบอกว่าเป็นนักเรียน High School ชาวฝรั่งเศส กำลังพยายามเป็นนายแบบในเมืองไทย จริงๆก็เข้าวงการไปแล้วแหละครับ ตอนนี้อยู่ในช่วงฟิตหุ่นอยู่ เอาไว้รู้จักสนิทมากกว่านี้แล้วจะพามาแนะนำครับ
enjoy your day
Create Date : 21 พฤษภาคม 2549 |
|
56 comments |
Last Update : 21 พฤษภาคม 2549 18:51:18 น. |
Counter : 974 Pageviews. |
|
|
|
ติดโรคเจิมบลอกตัวเองมาจากนักเรียนห้องคูทิง
แต่ไม่เห็นต้องรีบเลย ปกติก็ไม่ค่อยมีใครเข้าเร็วอยู่แล้ว
enjoy your day