1 2 3 4 5
6 7 8 9 10 11 12
13 14 15 16 17 18 19
20 21 22 23 24 25 26
27 28 29 30 31
Men are from Mars, Women are from Venus V
ในที่สุดก็อ่านจบซะที ที่มาอัพช้าเพราะว่าไปต่างจังหวัดมาอ่ะนะ สามบทสุดท้ายที่เหลือก็จะเล่าถึงวิธีการที่จะทำให้ความสัมพันธ์ยั่งยินและอยู่รอดต่อไป >>>บทแรก..จะแสดงความรู้สึกแย่ยังไงดี เค้าแนะนำว่าเราควรจะใช้วิธีการเขียน "จดหมายรัก" เวลาที่เราทะเลาะหรือไม่เข้าใจอีกฝ่าย เป็นแพทเทิร์นแบบนี้คือ โกรธ เสียใจ กล้ว รู้สึกผิด แล้วตบท้ายด้วยรัก สุดท้ายให้เขียน ปล. แล้วบอกว่าต้องการให้อีกฝ่ายทำอะไรเมื่ออ่านจบแล้ว แต่ละส่วนควรจะมีความยาวเท่าๆกัน เราสามารถที่จะเลือกว่าจะให้อีกคนอ่านหรือไม่อ่านก็ได้ แล้วจะอ่านออกเสียงหรือว่าอ่านในใจก็แล้วแต่ แต่ในหนังสือบอกว่าเราควรจะอ่านออกเสียงมากกว่า ไม่ว่าจะอ่านเองหรือให้อีกฝ่ายอ่าน เพราะมันเหมือนกับว่าเราฟังสิ่งที่เค้าระบายอยู่ ตัวอย่าง ถึงที่รัก ฉันโกรธที่คุณลืมซื้อนมกลับมาบ้านตามที่บอก ฉันโกรธ.... ฉันเสียใจที่เราจะไม่มีนมทานพรุ่งนี้ ฉันเสียใจที่ฉันรู้สึกว่าพึ่งคุณไม่ได้ ฉันเสียใจ... ฉันกลัวว่าฉันต้องเป็นคนทำทุกอย่างไปหมด ฉันกลัวว่าฉันจะทนคุณไม่ได้ ฉันกลัว... ฉันรู้สึกผิดที่ทำเป็นไม่ใส่ใจคุณตอนที่คุณกลับมา ฉันรู้สึกผิดที่ทำเป็นปั้นปึงใส่คุณ ฉันรู้สึกผิดที่... ฉันรักคุณ ฉันรู้ว่าคุณทำงานหนักและอาจจะลืมเรื่องเล็กๆน้อยๆไป ฉันเข้าใจว่าคนเราบางทีก็ลืมได้ ขอบตุณที่บอกว่าจะไม่ลืมซื้อนมกลับมา ฉันรู้ว่าคุณอยากจะช่วยฉันจริงๆ ปล. ฉันอยากได้ยินว่าคุณจะไม่ลืมที่จะซื้อนมมาให้ฉันพรุ่งนี้ การเขียนจดหมายรักนี้จะทำให้เราเข้าใจอีกคนมากขึ้น และเหมือนกับว่าเราได้ปลดปล่อยและเข้าใจความรู้สึกของตัวเองที่มีอยู่ออกไป เราอาจจะไม่ต้องเอาจดหมายรักนี้ไปให้กับอีกคนเลยก็ได้ เพราะแค่เขียนระบายออกมาก็ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นแล้ว การเขียนจดหมายรักนั้น สามารถเขียนให้คนอื่นได้ด้วย เช่น พ่อ แม่ ญาติๆ ลูกน้อง หัวหน้า ฯลฯ การที่เราจะเอาจดหมายรักนี้ไปให้อีกคนดูนั้นอาจจะอยากสักหน่อยที่จะทำให้เค้ายิ้มร่ากลับมาเพราะว่าช่วงแรกๆจะเหมือนเป็นการว่าเค้า บางคนก็ไม่สามารถอ่านไปถึงส่วนที่เป็นรักได้เพราะรู้สึกแย่ไปแล้ว บางคนเลยเลือกที่จะอ่านรักก่อนแล้วค่อยไปที่โกรธ >>>บทที่สอง...จะขอยังไงให้ได้อย่างที่ต้องการ บทนี้ผู้เขียนมุ่งให้ผู้หญิงอ่านโดยเฉพาะเพราะว่าเป็นผู้ให้มากกว่าผู้รับและเป็นผู้ที่ให้โดยที่ผู้ชายไม่ต้องร้องขอ แต่ผู้ชายมักจะให้ก็ต่อเมื่อมีคนร้องขอ และจะขอความช่วยเหลือก็ต่อเมื่อต้องการเท่านั้น แต่ผู้ชายก็อ่านได้นะจ๊ะ แต่เราว่าไม่อ่านอ่ะดิแล้ว เพราะว่าทำให้ผู้ชายรู้แกวหมด อิอิ สิ่งแรกที่ผู้หญิงควรคิดเสมอคือ ผู้ชายมาจากดาวอังคาร เพราฉะนั้นอย่าไปหวังว่าเค้าจะรู้ว่าเราต้องการอะไร หรือว่าทำอะไรให้โดยที่เราไม่ได้บอก ถ้าอยากให้เค้าทำอะไรให้ต้องบอก แต่เป็นแบบว่า"ขอ"ให้ทำ ไม่ใช่"สั่ง"ให้ทำ 3 ขั้นตอนในการขอให้ผู้ชายช่วยและได้อย่างที่ต้องการ 1. ขอสิ่งที่เค้าทำให้อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าผู้หญิงจะรู้สึกว่ามันเป้นเรื่องธรรมดา แต่การขอสิ่งที่เค้าทำให้อยู่แล้วนั้นจะทำให้เค้ารู้สึกว่าสิ่งที่เค้าทำนั้นมีคุณค่า สิ่งที่ควรจำคือ ต้องขอไม่ใช่สั่ง ต้องพูดตรงๆ ย่อ ไม่ยืดยาว เช่น แทนที่จะบอกว่า เนี่ยกลับบ้านดึกอ่ะ ทางเข้าบ้านก็เปลี่ยว กลับคนเดียวด้วย ให้ถามว่าไปส่งเราที่บ้านหน่อยได้ไหมอ่ะ เพราะว่าผู้ชายจะคิดว่าผู้หญิงสั่งตนว่า เนี่ย เป็นความรับผิดชอบของเธอที่ต้องไปส่งฉันนะถ้าพูดอ้อมๆอ่ะนะ แล้วพอเค้าทำให้ก็อย่าลืมที่จะชื่นชมและขอบคุณเค้าด้วยล่ะ เพราะนั่นจะยิ่งทำให้เค้าอยากจะยอมตามใจเรามากขึ้น 2. ขอต่อไปแม้ว่าเค้าจะปฏิเสธก็ตาม ทีนี้ เราเริ่มที่จะขอสิ่งที่เค้าไม่ค่อยเคยทำให้บ้าง หรือสิ่งที่เค้าไม่เคยทำให้เลยก็ได้ แต่ก็ต้องเตรียมรับคำตอบ"ไม่"ไว้ด้วย แต่ก็ไม่ใช่ว่าถอดใจเสียแต่ทีแรกโดยไม่ขอก่อนเลย แล้วพอเค้าบอกว่า "ไม่ได้" "ทำให้ไม่ได้" ผู้หญิงควรที่จะเข้าใจโดยไม่บ่น และเชื่อมั่นว่าถ้าเค้าทำให้ได้เค้าคงทำให้แล้วล่ะ 3. ฝึกวิธีขอแล้วต้องได้ ต่อไปเราก็จะมาฝึกวิธีการขอแบบที่เค้าต้องไม่ปฏิเสธแน่นอน คือ แทนที่เวลาขอแล้วเค้าบอกว่า "ไม่" แล้วเราจะตอบ ok ทันที เราควรเงียบไว้ก่อน ปล่อยให้เค้าบ่นๆ ไปก่อน แล้วเค้าจะตอบตกลงทำให้เอง อย่าไปพูดขัดเวลาที่เค้าบ่นๆอยู่เพราะว่ามันจะเหมือนเป็นการสั่งและจะทำให้ทั้งสองทะเลาะกันอีกรอบแทน ที่เค้าบ่นอาจจะเป็น อืม เหนื่อยนะเนี่ย ยุ่งๆอยู่ด้วย ก็ปล่อยให้เค้าบ่นไป หรือผู้หญิงอาจจะตอบกลับว่า ฉันก็ยุ่งเหมือนกัน ฉันก็เหนื่อยเหมือนกัน แต่จะยินดีมากถ้าคุณจะช่วยทำนั่นให้หน่อย คือ ประมาณว่าไม่บอกว่าฉันยุ่งกว่า เหนื่อยกว่า อย่าไปบอกว่าทำไมเค้าควรทำให้เรา จำไว้ว่าเราแค่ขอให้ช่วย ไม่ใช่สั่งให้ทำ ถ้าเค้าบ่นแล้วก็ยังปฏิเสธอีก ก็ให้ทำข้อ 1 กับ 2 ต่อไปเรื่อยๆ เพราะว่าข้อ 3 จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อทำสองข้อแรกไปแล้วด้วยดี >>>บทสุดท้าย...ทำให้ความสัมพันธ์ยั่งยิน เคยไหมที่อยู่รักกันดีๆแล้วมาทะเลาะกันใหญ่โตเพราะเรื่องงี่เง่า เคยไหม ที่แฟนทำดีให้แล้วรู้สึกโกรธ เหมือนตัวเองถูกทิ้ง เคยไหมทีเมื่อวานยังอยากทำอย่างนั้นอย่างนี้ให้ ยังรักและเข้าใจแฟนตัวเอง แต่วันนี้กลับอยากให้เค้าสนใจดูแล หรือรู้สึกแย่ที่คบกัน คนแต่งเค้าบอกว่าที่เป็นแบบนี้เพราะว่ายิ่งเราถูกรักมากเท่าไหร่ เรายิ่งรู้สึกเชื่อใจและอยากบอกความรู้สึกเราออกไป ความรู้สึกเหล่านั้นถูกเก็บสะสมมานานเหมือนรอวันที่เราได้รักใครสักคนเพื่อเราจะได้ปลดปล่อยมันออกมา ดังนั้น เราควรจะเข้าใจว่าที่ทะเลาะกันหรือว่ารู้สึกไม่ดีนั้นมาจากความรู้สึกที่ถูกเก็บกดในอดีตที่มันถูกปล่อยขึ้นมา เค้าบอกว่าให้จำกฎ 90/10 ไว้ ว่าที่เรานั้นรู้สึกแย่นั้น 90% มาจากอดีตที่ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับเรื่องที่ทะเลาะหรือมีปัญหากันอยู่ อีก 10% ถึงมาจากเรื่องในตอนนี้จริงๆ การที่เรารู้อย่างนีแล้วทำให้เราเข้าใจอีกฝ่ายและเข้าใจตัวเองมากขึ้นว่าไม่ควรโทษปัจจุบัน ให้เราพยายามปลดปล่อยอดีตแล้วเราจะพ้นจากทุกข์ตอนนี้เอง คนแต่งยังบอกอีกว่าเราควรจะเขียนจดหมายรัก (อีกแล้ว) เพื่อที่เราจะสามารถค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของความรู้สึกแย่ๆ เช่น สมัยเป็นเด็กอาจจะถูกทอดทิ้งโดยพ่อหรือแม่ หรือว่ากล้วโดนทิ้ง บางครั้งการที่อีกคนทำสิ่งดีๆให้เรานั้นอาจจะทำให้ความรู้สึกแย่ๆในอดีตโผล่ขึ้นมาก็ได้ เช่น เคยอยากให้เค้ามารับ ขอมาหลายรอบก็ไม่ได้ แต่มาอยู่วันหนึ่งเค้าก็มารับเฉยๆซะงั้น ความรู้สึกที่ว่าทำไมไม่มารับฉันเนี่ยก็ระเบิดขึ้นมาทันที จบแล้ว... เราว่าหนังสือเล่มนี้ดีอ่ะ เหมือนจะทำให้เข้าใจคนอื่นมากขึ้น แต่บางเรื่องเราก็ไม่เห็นด้วยเท่าไหร่ หวังว่าคนที่อ่านจะเอามันไปใช้ประโยชน์ได้ไม่มากก็น้อยเนอะ ถ้าอ่านแล้วไม่เข้าใจลองไปอ่านเล่มจริงก็ดี เพราะว่าเราก็เขียนไม่ละเอียดเท่าไหร่หรอก ถ้าไม่เข้าใจอยากให้ช่วยก็ถามได้นะ จะพยายามตอบให้ล่ะกัน
Create Date : 30 พฤษภาคม 2550
1 comments
Last Update : 17 มิถุนายน 2550 8:31:27 น.
Counter : 1911 Pageviews.
โดย: some men who are from the other solar systems (เจ็บY ) 31 พฤษภาคม 2550 17:41:35 น.
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [? ]
การที่เราเอาหนังสือที่เราอ่านอยู่นั้นมาย่อลงใน blog ก็ไม่ได้ตั้งใจว่าจะมีคนอ่านมากมายหรอก แต่แค่เป็นการกระตุ้นตัวเองให้ตั้งใจอ่านเข้าไว้ และนึกเสมอว่ายังมีคนที่ยังรออ่านใน Blog อยู่ (หรือเปล่า)
อยากให้อ่านเมื่อนานมาแล้ว แต่ไม่เคยได้อ่านเลย เพราะเอาเวลาไปทำอย่างอื่นหมด พึ่งจะมาได้อ่านจากสรุปย่อของคุณนี่ละ เนื้อหาดีมากครับดีใจที่ได้อ่าน
ถึงแม้มันจะเป็นตอนที่สายไปแล้วก็ตาม........
ปล.จะรออ่านผลงานต่อไปนะครับ