|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
(Five Spot) After Dark (, My Sweet!) - บางเรื่องแม้ (ไม่) มีปากก็ (อ) ยากพูด
ฮารุกิ มุราคามิ เขียน เจย์ รูบิน แปล
มีคนหนึ่งพูดไว้ในกระทู้พันทิปว่าเรื่องนี้เป็น lazy Murakami ส่วนเจ้าของกระทู้ก็บอกว่าหนังสือเล่มนี้ทำให้เธอผิดหวังอย่างรุนแรง ซึ่งมันก็มีส่วนจริงอยู่เหมือนกันแหละนะ แต่สำหรับจขบ.แล้ว เล่มนี้ไม่ถึงขั้น letdown สุดๆ แต่ก็รู้สึกว่ามันขาดพลังที่ควรจะมี คือมันมี elements ของมุราคามิทุกอย่าง ขาดแต่ impact เท่านั้น (วันนี้เป็นไรวะ พูดไทยคำอังกฤษคำ) กำลังคิดว่านี่เป็นการพักผ่อนของคนเขียนระหว่างรวบรวมจิตใจเขียนงานชิ้นใหญ่เล่มต่อไป (อืมม กดดันกันน่าดู)
แต่บทวิเคราะห์ใน Time Asia ที่ onopen เอามาแปลบอกว่านี่คือจุดเปลี่ยนของมุราคามิ เขากำลังกลับสู่ความเป็นญี่ปุ่น ซึ่งเราว่าไม่จริงโว้ย มันเป็น obsession ของฝรั่งที่พยายามยัดเยียดความ exotic ให้ทุกสิ่งที่เป็นเอเชียตะหาก และความเป็นญี่ปุ่นที่งอกขึ้นมาในเรื่องนี้นั้น ก็แสนจะเป็นญี่ปุ่นร่วมสมัย ซึ่งมันทั้งเป็นและไม่เป็นญี่ปุ่นไปพร้อมๆ กัน สิ่งที่ว่านั้นก็คือชื่อย่าน (อันเหมาะแก่การสิงสู่ในยามราตรีเสียเป็นส่วนใหญ่) ชื่อร้านฟาสต์ฟู้ตเปิดตลอดคืน และเ้ลิฟโฮเต็ล จะว่าไปแล้วมันก็คือการทำให้ความเหงาลอยๆ แบบ Murikamian มีความ concrete ขึ้นมาอีกนิดเท่านั้นเอง
ส่วนสำคัญในเรื่องนี้คือการนอน (หลับและไม่หลับ) และการสื่อสาร 11.56 น. สาวน้อยมาริ (ตัวเอกเรื่องนี้เป็นผู้หญิง แต่ไม่ได้เป็นเจ้าของมุมมอง ถ้าใครอ่าน Sputnik Sweetheart คงจำกันได้) นั่งปักหลักอ่านหนังสือเล่มเขื่องอยู่ในร้าน Denny's ตอนเกือบเที่ยงคืน เธอคงคิดจะอ่านไปจนเช้า ถ้าไม่ใช่เพราะจู่ๆ ก็มีไอ้หนุ่มคนหนึ่งเข้ามาทัก บอกว่าเป็นเพื่อนกับพี่สาวเธอ
ทาคาฮาิชิเป็นนักดนตรีแจ๊ซสมัครเล่น เขากำลังจะไปซ้อมดนตรีสั่งลาเป็นครั้งสุดท้ายในใต้ถุนตึกแถวนั้น แต่บังเอิญมาพบมาริเข้าตอนเข้าไปหาอะไรกิน
ในขณะเดียวกัน เอริ พี่สาวแสนสวยของมาริก็กำลังหลับ หลับมานานแสนนาน และเมื่อตัวเลขบนนาฬิกาเป็น 00:00 โทรทัศน์ในห้องเธอก็เกิดมีภาพขึ้นมาทั้งๆ ที่ไม่ได้เสียบปลั๊ก... แน่นอนค่ะ นี่ไม่ใช่เรื่องผีค่ะ
12.25 น. คาโอรุ ผู้จัดการเลิฟโฮเต็ลที่เคยเป็นนักมวยปล้ำหญิงมาก่อนพรวดพราดเข้ามาในร้าน บอกว่ามีโสเภณีชาวจีนถูกทุบตีอยู่ในห้องหนึ่งของโรงแรม อยากขอให้มาริช่วยไปเป็นล่าม
เรื่องนอนไม่หลับนี่ก็เป็นหัวข้อหนึ่งที่เกี่ยวโยงมาจากเรื่องสั้นใน Elephant Vanishes เรื่องหนึ่งในนั้นกล่าวถึงผู้หญิงคนหนึ่งที่นอนไม่หลับ เธอแกล้งเข้านอนพร้อมสามี แล้วแอบลุกขึ้นมาอ่าน Anna Karenina ในตอนดึก และที่สำคัญในอดีตเธอเคยนอนไม่หลับ (แปลว่าไม่ได้นอนหลับเลย) เป็นเดือนๆ แล้ววันหนึ่งก็ล้มตัวลงนอนไปเป็นเวลานานๆ อาจจะเป็นวัน สัปดาห์ หรือเดือนก็ไม่แน่ใจ จำไม่ได้แล้ว
ส่วนเรื่องการสื่อสาร คงบรรยายหมดไม่ได้ เพราะจะกลายเป็น spoiler ขนานใหญ่ไป เพราะประเด็นนี้กระจายอยู่ทั่วเรื่อง และเป็นประเด็นหลักที่เด่นชัดมากๆ แต่จุดที่สะท้อนความล้มเหลวในการสื่อสารได้เด่นชัดที่สุดโดยไม่ต้องยัดเยียด ก็คือในตอนกลางๆ ค่อนไปทางท้ายเรื่อง ทาคาฮาชิบอกมาริว่าคำขวัญของเขาคือ "เดินช้าๆ ดื่มน้ำมากๆ" อีกสักพักมาริก็บอกว่าใช่สิ คติประจำใจเขาคือ "เดินมากๆ ดื่มน้ำช้าๆ" นี่
ความขัดแย้ังกันของคาแรคเตอร์สองคนนี้น่าสนใจมาก มาริเงียบกริบ ไม่อยากพูดอยากคุย ดูแสนจะเย็นชา ส่วนทาคาฮาชิก็พล่ามไม่หยุดปาก ดูเหมือนเป็นคนสนุกสนาน สบายๆ แต่สุดท้ายเราจะรู้ว่าทั้งสองคนก็มีปัญหาหนักอกมาอย่างยาวนานไม่แพ้กันเลย เพียงแต่ใช้วิธีรับมือต่างกันเท่านั้น
อีกอย่าง ความเปลี่ยนแปลงที่สัมผัสได้ในเรื่องนี้คือไม่มีตัวละครที่เป็นเจ้าของมุมมองอย่างในเรื่องอื่นๆ แต่จะเป็นมุมมองสัพพัญญู คือคนเล่าเรื่องรู้ทุกอย่างและบอกเล่าด้วยมุมมองค่อนข้างเป็นกลางแทน ตอนอ่านไปได้นิดหน่อย มีเพื่อนถามว่าเป็นบทหนังหรือ ก็บอกว่าเปล่า เป็นนิยาย แต่พออ่านไปเรื่อยๆ ชักสะักิดใจ เออ หรือว่ามันจะเป็นบทหนังจริงๆ เพราะลักษณะการบรรยายฉาก บทสนทนาบางตอนมันให้ความรู้สึกของบทหนัง แถมยังมีการพูดถึงมุมกล้องอย่างโจ่งแจ้งด้วย อะไรกันนี่
*อภิธานศัพท์ Five Spot After Dark - เป็นเพลงแจ๊ซที่เปิดในร้าน Denny's ตอนต้นเรื่อง และเป็นเพลงที่พี่มุราคามินึกถึงตอนเขียนเรื่องนี้
After Dark, My Sweet - เป็นหนังฆาตกรรมปี 1990 ไม่เคยดู แต่ชอบชื่อมันมาก พอเห็นชื่อ After Dark ก็นึกถึงชื่อหนังเรื่องนี้ขึ้นมาทันที
ปิดท้ายเรื่องปก โปรดสังเกตมุมซ้ายบน ตอนแรกไม่ชอบเอามากๆ คิดว่ามันเสร่อสุดๆ แต่พอพลิกด้านหลัง
โปรดสังเกตมุมขวาบน กลายเป็นเจ๋งไปเลยอ่ะ
ปิดท้ายกว่า ตอนเห็นหนังสือที่คิโนะ พลิกไปพลิกมา ไม่แน่ใจว่าซื้อดีไหม แพงอยู่ แต่ก็ลด 20% อยู่พอดี สุดท้ายตัดสินใจเดินไปดูเอเชียบุคส์ (ที่สยามพารากอน ไกลกันใช่ไหมน่ะ เฮ่อ) ปรากฏว่าที่คิโนะถูกกว่าเกือบร้อย เลยซื้อมา แต่พอไปต่อรถกลับบ้าน แวะบุ๊คกาซีน ปรากฏว่า เฮ่อๆ ลดแล้วถูกกว่าที่คิโนะอีก 40 บาท แง่งๆๆ //ลงไปดิ้นๆๆ
สรุปยอด ให้สามดาวครึ่งค่ะ ***1/2 ส่วนความยากอยู่ที่ประมาณ 2.5-3
Create Date : 16 กันยายน 2550 |
|
22 comments |
Last Update : 17 กันยายน 2550 1:09:29 น. |
Counter : 1113 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: rebel 16 กันยายน 2550 18:19:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: ยาคูลท์ 16 กันยายน 2550 18:51:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: bookmark 16 กันยายน 2550 21:49:28 น. |
|
|
|
| |
โดย: grappa 16 กันยายน 2550 23:20:10 น. |
|
|
|
| |
โดย: ทินา IP: 58.64.70.230 17 กันยายน 2550 23:42:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: PinGz (Kai-Au ) 18 กันยายน 2550 2:13:52 น. |
|
|
|
| |
โดย: ยาคูลท์ 18 กันยายน 2550 2:53:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: grappa IP: 58.9.188.241 20 กันยายน 2550 7:02:44 น. |
|
|
|
| |
โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ IP: 58.9.17.183 20 กันยายน 2550 15:57:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: NtG IP: 58.8.152.164 22 กันยายน 2550 17:05:22 น. |
|
|
|
| |
โดย: อ๋อย เย IP: 124.120.159.8 23 กันยายน 2550 1:16:30 น. |
|
|
|
| |
โดย: scarborough IP: 58.9.54.121 24 กันยายน 2550 1:14:20 น. |
|
|
|
| |
โดย: sky -_- IP: 110.168.204.94 2 พฤษภาคม 2554 23:58:21 น. |
|
|
|
|
|
|
the grinning cheshire cat
|
|
|
|
|
|
ไม่ควรไปดูราคาของสิ่งนั้นอีก
เพราะมันมักจะถูกกว่าราคาที่ซื้อมา