ครั้งหนึ่งแมวถูกยกขึ้นเป็นเทพเจ้า และบัดนี้มันก็ยังไม่ลืมเรื่องนั้น (หึหึ //เลียอุ้งเท้า)
Group Blog
 
<<
มกราคม 2549
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
23 มกราคม 2549
 
All Blogs
 
Kafka on the Shore (สปอยล์อยู่บ้าง โปรดทำใจ)

Image hosting by Photobucket

ฮารุกิ มุราคามิ เขียน
ฟิลลิป เกเบรียล แปล

เรื่องนี้อ่านไว้นานแล้วล่ะ ตอนอ่านจบตั้งใจจะเขียนยาวๆ ให้สะใจ แต่ปรากฏว่าลงรถมาร้านเน็ทดันหยุดยาว (อ่านจบบนรถเมล์) ก็เลยหมดอารมณ์ไปซะนั่น ได้แต่รีวิวสั้นๆ รวมกับเรื่องอื่นไปครั้งหนึ่ง

แต่ทีนี้มีใบสั่งมาจากคนดังแถวนี้ว่าอ่านหนังสือดีๆ อย่างนี้มาแล้วอย่าริอ่านงกเก็บไว้คนเดียว ควรจะเอามาเล่าต่อให้รู้ทั่วๆ กันเสียโดยดี

ซึ่งมันก็ยากอยู่เหมือนกันนะคะที่จะพยายามไล่เรียงความทรงจำให้หวนกลับคืนมา ครั้นจะย้อนกลับไปอ่านใหม่อีกรอบ บรรดาหนังสืออื่นๆ อีกมากมายในกองดองก็จะค้อนขวับๆ เอาเสียเปล่าๆ แต่ไหนๆ ฉบับภาษาไทยก็ใกล้จะออกแล้ว LMJ ก็อาสาขอคุ้ยสมองมายั่วน้ำลายกันก่อนละกันนะ

ในตอนแรกขอเล่าเรื่องย่อคร่าวๆ เฉพาะครึ่งเรื่องแรก ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้เปิดเผยประเด็นสำคัญมากๆ ในเรื่อง แต่ก็มีเนื้อหาบางอย่างที่ถ้าไปอ่านเจอเองในหนังสือจะมีความสุขมากกว่าอยู่เหมือนกัน ถ้าไม่อยากรู้เรื่องเหล่านั้นก็จงไปอ่านเรื่องย่อเวอร์ชั่นที่รีวิวสั้นๆ ไว้ดีกว่าค่ะ

เรื่องย่อ (สปอยล์นิดหน่อย)

คาฟกา ทามุระตั้งใจจะหนีออกจากบ้านในวันเกิดครบรอบ 15 ปี ด้วยเหตุผลว่าหากไม่ทำเช่นนั้น เขาจะ "damaged beyond repair" (จะมีความหมายอย่างใดนั้นจะมีการเปิดเผยในตอนกลางๆ เรื่อง โปรดอดใจรอ) เสียงบางอย่างในใจเขาบอกให้มุ่งหน้าไปเกาะชิโกกุ ระหว่างทางบนรถบัสเขาได้พบซากุระ หญิงสาวที่กำลังจะไปเป็นช่างทำผมที่นั่น และเป็นคนให้ที่พักพิงในคืนแรกแก่เขา คาฟการู้สึกขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกว่าซากุระอาจจะเป็นพี่สาวที่หนีหายไปนานของเขาก็ได้ แต่ก็ไม่วายเกิดความรู้สึกทางเพศเล็กๆ ต่อผู้หญิงคนนี้

คาฟกาได้ไปพบห้องสมุดเล็กๆ แสนสงบแห่งหนึ่ง ได้รู้จักโอชิมะ บรรณารักษ์หนุ่มเรียบกริบนิสัยประหลาดที่สุดท้ายแล้วได้ให้ความช่วยเหลือแก่เขาในคราวคับขันอย่างมากมาย และได้รู้จักมิสซาเอกิ หัวหน้าห้องสมุดผู้แสนงามแสนสง่า ซึ่งความรู้สึกลึกๆ บอกคาฟกาว่าเธออาจเป็นแม่ของเขาที่หนีหายไปนาน แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เขาหยุดหลงรักเธอได้

ในขณะเดียวกันนั้นนากาตะ ชายชราปัญญาต่ำผู้มีอาชีพสืบหาแมวหายเพราะพูดกับแมวได้ ก็เกิดพบเหตุการณ์ที่บีบบังคับให้เขาต้องกระทำผิดร้ายแรง หลังจากเหตุการณ์กึ่งจริงกึ่งฝันนั้นแล้วเขาก็ไม่สามารถพูดกับแมวได้อีก แต่เกิดความสามารถทำให้ของประหลาดๆ ตกลงมาจากท้องฟ้าได้แทน

นอกจากจะมีที่พักอยู่ในโตเกียวใกล้กับบ้านคาฟกาแล้ว นากาตะเองก็ถูกเสียงภายในสั่งให้ไปที่ชิโกกุเช่นกัน เขาขึ้นรถเมล์โบกรถบรรทุกไปท่ามกลางความช่วยเหลือของคนมากมาย จนในที่สุดก็มาพบกับโฮชิโนะ คนขับรถบรรทุกที่รู้สึกว่านากาตะเหมือนปู่สุดที่รักของตัวเองจนถึงกับยอมทิ้งงานทิ้งการมาร่วมผจญภัยเพื่อหาทาง "ปิด" อะไรบางอย่างที่นากาตะเองก็ยังไม่รู้ว่าเป็นอะไรด้วยอีกคน

จบเรื่องย่อ (โดยคร่าวๆ) แล้วค่ะ

เรื่องจะกล่าวถึงตัวละครทั้งสองนี้สลับกันไปทีละบท ถ้าคนอ่านจิตใจไม่มั่นคงอาจจะงงเล็กน้อย แต่ก็มีการช่วยเหลือไว้แล้วโดยบทคาฟกาจะเล่าจากมุมมองบุรุษที่หนึ่ง ส่วนของนากาตะจะเล่าผ่านมุมมองบุรุษที่สาม การเล่าเรื่องแบบนี้จะทำให้เห็นความคล้ายคลึงคู่ขนานกันของตัวละครที่ไม่น่าจะมีอะไรเหมือนกันได้เลยคู่นี้อย่างเด่นชัด จนรู้สึกว่าเรื่องนี้ต่างหากที่น่าจะชื่อว่า "รักเร้นในโลกคู่ขนาน" ถ้าอ่านเรื่องย่อก็จะเห็นโครงสร้างอันหนึ่งแล้วว่า ทั้งสองคนหนีมา, พบความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ, แล้วก็พบผู้ช่วยเหลือคนสำคัญ โลกคู่ขนานนี่แหละที่เป็นเสน่ห์สำคัญ เป็นมนตราในเรื่อง

นอกจากนั้นยังมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อีกมากที่อ่านแล้วรู้สึกว่ามันน่ารักจัง อย่างฉากการปรากฏตัวของ "ผี" (ซึ่งจะเป็นใครนั้นต้องรออ่านเอง) ที่สวยงามชวนฝันมากๆ และตัวละครในเรื่องนี้ก็จะมีรายละเอียดมากกว่าในเรื่องอื่นๆ ของพี่มุราคามิ คือเรื่องอื่นเขาจะเว้นช่องว่างให้คนอ่านตีความเองอยู่มากน่ะค่ะ และตัวละครรองๆ ก็จะเป็นเหมือนสัญลักษณ์ในเรื่องมากกว่า แต่ตัวละครรองเรื่องนี้ทั้งโอชิมะ โฮชิโนะ และมิสซาเอกิต่างมีรายละเอียดหลายด้านและน่ารักมาก (ยกเว้นมิสซาเอกิที่จะออกไปทางน่าสงสาร) โดยเฉพาะโอชิมะนั้น LMJ หลงรักเลยล่ะ

อย่างหนึ่งที่ทำให้เรื่องนี้สนุกมากก็คือความยาวของหนังสือ ทำให้มีเวลาพัฒนาเรื่อง และมีเนื้อที่ให้ใส่อะไรๆ ลงไปได้มาก ในขณะที่พล็อตก็คุมทุกอย่างไว้ได้พอดิบพอดี โดยส่วนตัว LMJ เป็นคนชอบอ่านหนังสือยาวๆ อยู่แล้ว (โปรดดูสโลแกน ถึงจะยืมเขามาก็เหอะ) เลยเข้าทางพอดี ยังคงให้ห้าดาวเหมือนเดิมค่ะ *****


Create Date : 23 มกราคม 2549
Last Update : 24 มกราคม 2549 13:46:09 น. 12 comments
Counter : 6739 Pageviews.

 
อยากรู้จัก โอชิมะ บรรณารักษ์หนุ่มเรียบกริบนิสัยประหลาด จริง จริ๊ง

คุณนพดล มาบอกไว้ที่บล็อกว่า หนังสือภาษาไทย ชื่อว่า คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ น่าจะออกวางแผงประมาณเดิอนหน้าแล้ว เย้ๆ


โดย: ผู้ออกใบสั่ง แต่ไม่ได้ดังหรอกนะ (grappa ) วันที่: 23 มกราคม 2549 เวลา:20:48:36 น.  

 
มาบอกอีกทีว่า อ่านข้ามๆ นะ กลัวโดนสปอยล์
เอ หมู่นี้อัพบล็อกดึกๆ นะ อัพที่บ้านได้แล้วใช่ไหม


โดย: grappa วันที่: 23 มกราคม 2549 เวลา:21:04:28 น.  

 
ขอภาวนาให้นวนิยายเรื่องนี้เป็นมาสเตอร์พีซของ'มูราคามิ'จริงๆ เหมือนกับงานเขียน 2-3 เล่มแรก


โดย: พิรฌาน วันที่: 24 มกราคม 2549 เวลา:0:21:04 น.  

 
แวะมาสืบข่าวหนังสือของมุราคามิ เผื่อเจอจะได้พิจารณาหามาอ่านกับเขาบ้าง หุหุ


โดย: bellerophon วันที่: 24 มกราคม 2549 เวลา:8:19:23 น.  

 
มาสอดส่อง หาหนังสืออ่าน
อิอิ


โดย: rebel วันที่: 24 มกราคม 2549 เวลา:8:34:59 น.  

 
รอแปลอยู่เนี่ยแหละค่ะ


ถ้าออกเมื่อไหร่ซื้อแน่นอน


อ่านเฉพาะที่ย่อแล้วเหมือนกัน เพราะชอบที่จะอ่านโดยมีข้อมูลให้น้อยที่สุด และค่อยๆ รู้จักหนังสือเล่มนั้นด้วยตัวเองค่ะ



เอ่อ..เห็นมีการพาดพิงถึงในบล็อกผมอยู่ข้างหลังคุณ เลยงงๆ นิดหน่อย

เรื่องไรกันเหรอคะ? แหะๆ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 24 มกราคม 2549 เวลา:10:32:31 น.  

 
งานเขียนยุคแรกๆของ'มูราคามิ'คือ
Hear the Wind Sing - novel, 1979
Pinball, 1973 - novel, 1980
A Wild Sheep Chase - novel, 1982
จากลิ้งค์ //www.complete-review.com/authors/murakamh.htm

มีสไตล์แสวงหา,โหยไห้อดีต และ เหนือจริง
ผมเคยอ่านนวนิยายเขาหลายเล่มแล้วรีวิวในบล็อก
//pirachan.exteen.com/category-Haruki-Murakami
ลองแวะชมนะครับ อย่างน้อยก็เปรียบเทียบสารที่เราได้รับ
หรือมุมมองเป็นเช่นไร?


โดย: พิรฌาน วันที่: 24 มกราคม 2549 เวลา:22:01:17 น.  

 
ขอบคุณที่เขียนบล็อกนี้ค่ะ

เคยเปิดอ่านถึงตอนทามุระลงรถไฟ แล้วมีบทที่เกี่ยวกับครูโรงเรียนอนุบาลน่ะค่ะ (อ่านนานแล้ว ชักลืม ๆ เหมือนกัน)
...
แต่หลังจากนั้น ค่อยรู้ว่าเป็นเรื่องเหนือจริง เลยไม่ได้อ่านต่อ ดีจังที่จะมีแปลไทย จะได้อ่านจบเร็วขึ้นหน่อย


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 25 มกราคม 2549 เวลา:0:00:55 น.  

 
พักหลัง ๆ มานี่ไม่ค่อยมีเวลาอ่านหนังสือเลย


โดย: 9A วันที่: 31 มกราคม 2549 เวลา:11:19:53 น.  

 
จริงๆชอบหนังสือที่ตัดไปตัดมานะคะ
อ่านแล้วมันปวดหัวดีค่ะ 555+

แต่ถ้าเรื่องนี้ยาวมาก คงขอยอมแพ้
เพราะแค่เห็นหนังสือเล่มหนาๆ
แมงปอก็เหนื่อยแล้วค่ะ


โดย: แมงปอเฒ่าเจ้าค่ะ วันที่: 31 มกราคม 2549 เวลา:17:51:53 น.  

 
ตกลงแล้ว เล่มนี้ ต้นฉบับเป็นภาษาอะไรคะ


โดย: หวัน (หวันยิหวา ) วันที่: 26 มีนาคม 2549 เวลา:19:22:48 น.  

 
ถามเพิ่มอีกนิดได้มั้ยคะ
ถ้าคุณนพดลแปลเรื่องนี้จากฉบับภาษอังกฤษ ถ้างั้นเรื่องอื่นๆ ของมุราคามิ อย่าง Norwegian wood หรือ แกะรอยแกะดาว ก็แปลจากภาษาอังกฤษเหมือนกันเหรอคะ
ถ้าอย่างนั้น เราอ่านฉบับภาษาอังกฤษก็น่าจะดีกว่าเนอะ


โดย: หวัน (หวันยิหวา ) วันที่: 28 มีนาคม 2549 เวลา:20:23:49 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

the grinning cheshire cat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ปีศาจแมวอายุ 1,700 ปี บำเพ็ญตบะจนแปลงร่างเป็นคนได้ กำลังศึกษาวิถีชีวิตแบบมนุษย์ แต่รู้สึกว่ายากจัง เพราะยังคิดอะไรแบบแมวๆ อยู่เลย
Photobucket LMJ recommends


Photobucket
เต๋าแบบหมีพูห์ (The Tao of Pooh)
Benjamin Hoff เขียน
มนต์สวรรค์ จินดาแสง แปล
มติชน พิมพ์

หนังสือ Tao (หรือ Dao) spin-off ที่ไม่งี่เง่า และคนเขียนรู้จริงจริงๆ ทั้งเรื่องเต๋าและเรื่องหมี

Photobucket
ฅ.คน ฉบับ 41 มี.ค. 52

เจ้าหญิงพอลล่า:
หัวใจเธอมันน่ากราบ
กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง:
ยังไงปลาทูก็เจ๋งกว่าโรงถลุงเหล็ก
สัมภาษณ์อ. นิธิ เอียวศรีวงศ์:
ฉบับลำแต้ๆ

เมฆาสัญจร
เมฆาสัญจร (Cloud Atlas)
เดวิด มิทเชลล์ เขียน
จุฑามาศ แอนเนียน แปล
มติชน พิมพ์

เหนือคำบรรยาย (เพราะตัดสินใจเลือกคำบรรยายไม่ถูก ฮา)

ยูโทเปีย และ 1984
ยูทเปีย
เซอร์โธมัส มอร์ เขียน
สมบัติ จันทรวงศ์ แปล
1984
จอร์จ ออร์เวลล์ เขียน
รัศมี เผ่าเหลืองทอง
และ
อำนวยชัย ปฏิพัทธเผ่าพงษ์ แปล
สมมติ พิมพ์

หนังสือเปิดหูเปิดตาระดับตัวพ่อ แถมปกสวยระดับตัวแม่อีกต่างหาก โอ๊ว

เทพเจ้าแห่งสิ่งเล็กๆ
เทพเจ้าแห่งสิ่งเล็กๆ
(The God of Small Things)
อรุณธตี รอย เขียน
สดใส แปล
โครงการสรรพสาส์น
ของสำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก พิมพ์

เรื่องเล่าโค-ตะ-ระอัศจรรย์จากอินเดีย

นายธนาคารเพื่อคนจน
นายธนาคารเพื่อคนจน
โมฮัมหมัด ยูนุส เขียน
สฤณี อาชวานันทกุล แปล
มติชน พิมพ์

อัตชีวประวัติฉบับกึ่งสุขกึ่งเศร้า บางครั้งก็เกือบเคล้าน้ำตา ของหนุ่มนักเรียนนอก กับธนาคารหลังคามุงหญ้า (บานประตูก็ไม่มี) ของเขาและลูกศิษย์ ที่หาญกล้าพุ่งชนทุกอย่างเพื่อให้ผู้หญิงจนๆ จำนวนมากในบังคลาเทศยืนหยัดด้วยขาของตัวเองได้

(อันที่จริงเราควรจะแนะนำว่า นี่เป็นหนังสืออัตชีวประวัติของนักเศรษฐศาสตร์ที่แก้ปัญหาความยากจนในบังคลาเทศจนได้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2006 แต่ม่ายอ่ะ ทำงั้นแล้วจะได้อะไร คุณจะรู้เหรอว่าหนังสือเล่มนี้ทั้งสนุกเป็นบ้าและ insightful ขนาดไหน กริๆ)



I'm reading




Potjy's currently-reading book recommendations, reviews, favorite quotes, book clubs, book trivia, book lists


100+ TBR 2010



2010 reading goal

Friends' blogs
[Add the grinning cheshire cat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.