ครั้งหนึ่งแมวถูกยกขึ้นเป็นเทพเจ้า และบัดนี้มันก็ยังไม่ลืมเรื่องนั้น (หึหึ //เลียอุ้งเท้า)
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
29 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 
The No.1 Ladies' Detective Agency - ทุ่งหญ้า ฟ้าใส คนใจดี

Photobucket



Alexander McCall Smith เขียน
ABACUS พิมพ์

นิยายเรื่องนี้เป็นเล่มแรกในชุดนิยายนักสืบชื่อเดียวกัน คุณเคียว เพื่อนบล็อกที่เรียนวิชาเกี่ยวกับ publishing อยู่ที่อังกฤษบอกว่าต้องอ่านหนังสือชุดนี้เพื่อไปอภิปรายในชั้นว่า "อะไรคือเบสต์เซลเลอร์"

ตัวจขบ.นั้นอ่านนิยายชุดนี้สะเปะสะปะไม่เรียงลำดับมาหลายเล่มแล้ว ได้ฟัง (อ่าน) ก็ตบเข่าฉาด บอกว่า ใช่เลย หนังสือชุดนี้มันตั้งคำถามจริงๆ ว่าอะไรคือเบสต์เซลเลอร์ ต้องเป็นเรื่องฮิตตามกระแสหรือ ก็เปล่า ต้องตื่นเต้นเร้าใจวางไม่ลงหรือ ก็เปล่า ต้องมีพระเอกเท่ห์นางเอกสวยยืนล่ำแอนด์หลุดบนหน้าปกหรือ ก็เปล่า

สรุปคือไม่มีอะไรบ่งสักอย่างว่ามันจะขายดี แต่ตอนนี้หนังสือเล่มที่เก้ากำลังจะออก เอาไปสร้างเป็นหนังทีวีแล้ว (โดยคุณแอนโทนี่ มิงเกลล่าที่เพิ่งเสียชีวิตไป may his soul rest in peace) และคุณแม็คคอล สมิธผู้เขียนสปันซีรี่ส์ตามออกมาอีกสี่ชุด

เออ เอากับเขาสิ

ด้วยความที่ชื่อเรื่องมันมีคำว่า detective อยู่ ใครมาอ่านครั้งแรกก็ต้อง culture shocked กันทั้งนั้น เพราะมันปราศจากเรื่องลึกลับตื่นเต้นไล่ล่าอะไรต่ออะไรตามประสานิยายนักสืบโดยสิ้นเชิง คดีต่างๆ ในเรื่องมักจะคลี่คลายลงได้ภายในสองสามบท (และบทหนึ่งก็มีไม่กี่หน้า) ไม่ได้ลึกลับซับซ้อนหรือโหดร้ายวิปริตอะไรเลย ซึ่งจะว่าไปแล้ว จะบอกว่านี่เป็นเรื่องนักสืบที่สมจริงเอามากๆ เลยก็ได้ เพราะชีวิตนักสืบเอกชนจริงๆ ก็จะเจออะไรประมาณๆ นี้อยู่แล้ว

แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น

แล้วประเด็นคืออะไร???

อ่านต่อไปแล้วจะรู้

แม้จะอ่านเล่มหลังๆ มาแล้วหลายเล่ม แต่มาตอนที่ได้อ่านเล่มแรกนี่เองที่จขบ.เพิ่งรู้สึกอะไรบางอย่าง ซึ่งจุดนี้ก็เกี่ยวพันกับคำถามอะไรคือเบสต์เซลเลอร์ที่ว่ามาข้างต้นนั่นแหละ คือรู้สึกว่าตอนแรกคนเขียนไม่ได้ตั้งใจจะเขียนเรื่องนี้เป็นซีรี่ส์หรอก เขาแค่จะเขียนนิยายที่พูดถึงชีวิตของผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วผู้หญิงคนนั้นเผอิญเป็นนักสืบเท่านั้นเอง เพราะทุกอย่างมันดูลงตัวสมบูรณ์ดีแล้ว

แต่ทีนี้มันเจือกดังขึ้นมาไง

แล้วทำไมถึงดังล่ะ

ถ้าจะถามจขบ. ก็อยากจะตอบว่ามันดังเพราะโลกที่เป็นแบ็คกราวน์ในเรื่องค่ะ มันเป็นโลกที่มีส่วนผสมของความ exotic คือโลกที่ห่างไกลไม่รู้จัก ชวนให้อยากรู้อยากเห็นเป็นยิ่งนัก แล้วก็โลกที่จริงๆ แล้ว "เรา" ก็อยากจะอยู่อยากจะเป็น แต่เราเดินเลยจุดนั้นมานานแล้ว และย้อนกลับไปไม่ได้

ประเด็นคือฉากในนิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นที่ประเทศบอสวานาค่ะ เป็นบอสวานาในปัจจุบันที่มีความเจริญทางวัตถุพอสมควร มีห้างให้เดิน มีบ้านเศรษฐีหรูเวอร์ มีพระเอกเป็นช่างซ่อมรถที่เก่งและประณีตสุดๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มีจิตวิญญาณในแบบของตัวเอง อย่างในตอนที่พูดถึงนักธุรกิจระดับชาติคนหนึ่งที่มีห้างร้านมากมายทั่วประเทศ

He was undoubtedly one of the wealthiest men in the country, if not the wealthiest, but amongst the Batswana this counted for little, as none of the money had gone into cattle, and money which was not invested in cattle, as everybody knew, was but dust in the mouth.


ชีวิตโดยทั่วไปก็เรื่อยๆ สบายๆ ไม่รีบร้อน มีลูกค้ามาก็ดื่มชาคุยกัน เวลาไม่มีลูกค้า นางเอกของเราก็จะเดินไปดูน้ำหอม หรือไปคุยกับแฟนที่อู่ซ่อมรถ

ซึ่งตรงนี้จะมองว่าเป็นความล้าหลังก็อาจจะได้ แต่คนเขียนซึ่งเป็นคนขาวที่เกิดและโตในแอฟริกากลับมีน้ำเสียงเวลาพูดถึงเรื่องพวกนี้อย่างที่เรารู้สึกว่าเขาอิจฉานะ

และจะบอกว่าบางครั้งคนอ่านก็อิจฉาเหมือนกัน แหะๆ


LMJ ให้หนังสือเล่มนี้สี่ดาวครึ่ง ****1/2
ซีรี่ส์นี้สี่ดาว ****
และมา รามอทสเว นักสืบหญิงหมายเลขหนึ่งของเรา ซึ่งใครๆ ก็ชอบเอาไปเทียบกับมิสมาร์เปิ้ลผู้นี้ห้าดาวเลยค่ะ *****
ความยากประมาณ 2

แต่หนังสือเล่มนี้มีแปลเป็นภาษาไทยแล้วจ้า ปกคล้ายๆ อย่างนี้ แต่สุดกิ๊บเก๋ด้วยการใช้กระดาษสีน้ำตาลทำปก โอ้ ว้าว

Photobucket




Create Date : 29 มีนาคม 2551
Last Update : 29 มีนาคม 2551 3:12:08 น. 32 comments
Counter : 908 Pageviews.

 
ก่อนอ่านมาถึงที่บอกว่า แล้วประเด็นคืออะไร
เชื่อไหมว่า ดิชั้น ตบเข่าฉาด แล้วคิดอยู่ในใจว่า

แล้วประเด็นคืออะไรวะ อยู่เหมือนกัน

ลีลาเยอะนะ กว่าจะเข้าเรื่องเอา สี่ห้าบรรทัดสุดท้าย


โดย: grappa วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:7:09:52 น.  

 
กำลังนั่งนึกอยู่ว่า "ท่าตบเข่าฉาด" ..
มันจะออกมาแบบไหนคะ เพราะว่าเคยเจอกันมาก่อน
อาจจะแบบว่านึกไม่ยาก แต่มานั่งคิดดู เอ แล้ว
ไอ้ท่านี้จะทำยังไง .. (แอบแซว)

แต่ว่าแหม๊ พูดแล้วเหมือนยั่วยุ อยากตบเข่าฉาด
บ้างเหมือนกันคะ เล่มนี้ไม่รู้ว่าเค้าพิมพ์มานาน
หรือยังอ่ะค่ะจะได้ตามซื้อมั่ง อยากอ่านจัง ...


โดย: JewNid วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:7:42:46 น.  

 
เล่มนี้น้องสาวก็แนะนำให้อ่านค่ะ แต่ยังไม่เคยอ่านเลย (เชย..)
แฮ่ เราก็ชอบอ่านเบสต์เซลเลอร์แบบทั่วไปที่ไขคดีลึกลับฆาตกรรมโหดน่ะค่ะ คิดดูแล้วก็เริ่มน่าเบื่อเหมือนกัน อยากอ่านเรื่องนักสืบน่ารักๆอย่างนี้บ้าง
อยากดูเวอร์ชั่นหนังทีวีด้วยค่ะ


โดย: apple_cinnamon วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:10:34:52 น.  

 
-พี่แป๊ด-

ก็โอ้เอ้ตามสไตล์หนังสือไงพี่ ตอนอ่านเล่มแรกลุ้นอยู่นานมากว่าเมื่อไหร่มันจะมีคดีวะ เล่นดื่มชา* คุยกัน แล้วก็เล่าเรื่องชีวิตประจำวันของนางเอกอยู่ได้ แล้วพอมีคดีก็งงสุดๆ เพราะมันจบลงภายในเวลาอันรวดเร็ว แต่บังเอิญพอถึงตอนนั้นก็ติดไปแล้วเรียบร้อย แหะๆ

* เขาดื่มกันเป็นล่ำเป็นสันมากเลยนะพี่ เป็นชาแดงแบบแอฟริกาใต้ที่เรียกว่ารอยบอสหรือบุชที เมื่อก่อนลิปตันเคยเอามาใส่ขวดขายเหมือนกัน แต่ไม่ยักกะฮิตแฮะ ซื้อมากินแล้วพยายามนึกภาพถนนเส้นเล็กๆ ทุ่งหญ้า แล้วก็ต้นอะคาเซียอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่ไม่ค่อยสำเร็จแฮะ

ข้อพิสูจน์ว่าเขาดื่มชากันเป็นบ้าเป็นหลังจริงๆ คือในย่อหน้าแรก เขาบรรยายว่าอุปกรณ์ในสำนักงานนักสืบประกอบไปด้วยรถตู้หนึ่งคัน โต๊ะสองตัว เก้าอี้สามตัว พิมพ์ดีดหนึ่งเครื่อง และ้ถ้วยชาสามใบ และตบท้ายว่าสำนักงานนักสืบจะต้องการอะไรมากไปกว่านี้อีกล่ะ แอ๊ะ


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:12:24:30 น.  

 
Bliss ออกทีเดียว 2 เล่มเลย
อ่านความเห็นคุณแล้ว ....คงต้องเอาเล่มนี้ไปบวกเพิ่มใน list อีกละ


โดย: นัทธ์ วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:13:15:29 น.  

 
อ่านฉบับแปลภาษาไทยแล้วค่ะ
อ่านเรื่อยๆเพลินๆ ได้อารมณ์เหมือนนั่งเล่นอยู่ริมแม่น้ำ มองแม่น้ำไหลผ่านไปเรื่อยๆ

อาจจะดูเหมือนไม่มีประโยชน์ แต่มันสบายใจดี


โดย: piccy IP: 124.121.209.87 วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:13:53:40 น.  

 
แว่บแรกดูปกพบว่าน่าสนใจ
มาอ่านจาก blog พบว่าน่าสนใจมากขึ้น
เดี๋ยวต้องไปหามาอ่านมั่งแล้ว


โดย: :-) (Nontagorn ) วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:17:28:23 น.  

 
ตอนนี้ยังมีนักสืบแบบไม่น่ารักอยู่ในมือค่ะ...ไว้ค่อยหาแบบน่ารักมาอ่าน


โดย: ~:พุดน้ำบุศย์:~ วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:20:14:12 น.  

 
วันนี้ไปสอยพวกลดราคาจากโฆษิตกับนาครอะมี้
ไม่ค่อยได้อะไรจากบูทในแพลนารี
ตอนเช้าเจอคุณจิระนันท์ที่นายอินทร์ ดีใจ เขาซื้อหนังสือหนูล่วยยย เมี้ยววววว

ลัลล้า โปสการ์ดหนูขายหมดล็อตแย้ว โฮ่ๆ


โดย: แพนด้ามหาภัย วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:20:43:44 น.  

 

จะเปลี่ยนใจไปอ่านใหม่อีกรอบ ก็เพราะเจ้ารีวิวด้วยท่าตบเข่าฉาดนี่ล่ะ

ยังไม่ได้แวะไปบูท สนพ นี้แม้แต่น้อย


โดย: อั๊งอังอา IP: 124.120.129.157 วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:21:08:23 น.  

 
รอเล่มนี้เล่มแปลของบลิส ตอนโฆษณาตอนแรกไม่ได้ปกแบบนี้นี่คะ อยากอ่านเรื่องนี้มานานแล้วล่ะค่ะ ขอบคุณที่รีวิวนะคะ

อ่านคอมเม้นท์เรื่องศาสนาอิสลามแล้วค่ะ ตกลงแล้วเรื่องวุ่นวายและความรุนแรงที่เกิดขึ้นนี่ เกิดจากการตีความผิดอีกแล้วเหรอคะ เศร้าจังเลย


โดย: TaMaCHaN (narumol_tama ) วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:21:59:47 น.  

 
พออ่านรีวิวไปแล้วก็อยากอ่านบ้างจังค่ะ
ตรงที่ว่ามันดูสบายๆเนี่ยแหล่ะ
แต่พอนึกได้ว่ามันเป็นซีรีส์ก็ขอยอมแพ้เลยค่ะ
แมงปอฯถนัดแต่ดูซีรีส์ เรื่องอ่านนี่ขอทีละเล่มก็พอ
เล่มเดียวก็ใช้เวลานานเกินไปแล้วค่ะ 555+


โดย: แมงปอเฒ่าเจ้าค่ะ วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:23:18:53 น.  

 
ขอยืมคำนี้หน่อยนะคะ "ปวดตับ"

นี่เราต้องกลับไปเพิ่มรายชื่อในลิสต์อีกแล้วหรือนี่
เดือนนี้จนกรอบมาก....

แต่ช่วยไม่ได้ ....อยากอ่านนี่นา


โดย: Jevanni วันที่: 29 มีนาคม 2551 เวลา:23:48:22 น.  

 
หุหุ ขอตบเข่าดังฉาดบ้างสักที

กำลังมีปัญหาอยู่ว่าจะซื้ออะไรที่บลิสดี

แล้วก็เข้ามาเห็นคำตอบในบล็อกนี้พอดี

ดังนั้น ขอตบอีกสักฉาดหนึ่ง...ก่อนไป


โดย: ahiruno007 IP: 58.9.21.86 วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:2:39:58 น.  

 
ตามลิ้งค์ไปดูหนังตัวอย่างแล้วแต่เข้าไม่ได้น่ะค่ะ เดี๋ยวจะลองไปหาดูในyoutubeอีกที
รู้สึกคนที่เล่นบทนางเอกหน้าคุ้นๆ เป็นนักร้องรึเปล่าน้า..


โดย: apple_cinnamon วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:8:09:19 น.  

 
แวะมาเยี่ยมครับ ท่าทางน่าอ่านจริง ๆ นะ


โดย: Johann sebastian Bach วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:15:07:26 น.  

 
เอ...อ่านแล้วยังสงสัยอยู่ว่าหนังสือจะเรียบๆเรื่อยๆเกินไปหรือเปล่าคะเนี่ยะ กลัวอ่านแล้วแอบเซ็งอ่ะ


โดย: หวัน (หวันยิหวา ) วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:22:56:35 น.  

 
โอยยยย ดีใจที่เล่มนี้แปลไทยสักที

สนใจตั้งแต่อ่านที่บล็อกคุณเคียวแล้น อิอิ

ต่อให้ระดับสอง เมื่อมีแปลเป็นไทย ข้าพเจ้าก็ขออ่านแบบแปลเป็นไทยนั่นแล น่าจะดีต่อข้าพเจ้ามากกว่า

วันที่ ๕ ไปงานหนังสือมั้ยเนี่ยตัว

จะได้เอารักแห่งสยามไปให้ด้วย (คิวยาวเน้อ เพราะงั้นจะรีบเอาไปให้ก่อนเลย จะได้รันคิวต่อได้อ้ะ)


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:23:29:41 น.  

 
ตบเข่าไม่ฉาดได้ป่ะ? ท่าจะเจ็บนะนั่น

ตอนเห็นฉบับแปลไทยเรื่องนี้ มองข้ามไปเลย
นึกว่าหนังสือเก่าอ่ะ สีปกมันหลอกตา


โดย: ยาคูลท์ วันที่: 30 มีนาคม 2551 เวลา:23:43:45 น.  

 

บลิส - ทางไปรษณีย์เหมือนกัน รออีกนิดก็ได้ ใกล้หมดงบแล้ว



โดย: อออ IP: 124.120.117.226 วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:9:40:19 น.  

 
สวัสดีอีกรอบ

อ้าวเหรอ..งั้นเดี๋ยวจะลองหาเวอร์ชั่นนี้ดูแล้วกัน

เอ่อ..ถ้าแก่..ข้าพเจ้าอาจหงุดหงิดมากกว่านี้กระมัง เหอๆ


อืมม์..

ตกลงวันที่ 5 ไปเปล่านี่?


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:16:23:45 น.  

 
อ้าว..ไม่ไปเหรอ อดเจอแมวเลย

งั้นเดี๋ยวเลื่อนคิวคุณยาคูลท์มาแล้วกันเนาะ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:16:44:52 น.  

 
สวัสดีอีกรอบ (สามคอมเม้นท์ติดเลย)

อ่า..งั้นก็เอาเป็นว่าเจออันไหนซื้ออันนั้นแล้วกัน แหะๆ

ง่า..ภาษาอังกฤษยากป่าวอ้ะ ระดับไหนหละ? แหะๆ


อ่า..คนแนะนำแนะนำมานานแล้ว จากกรุ๊ปบล็อกกรุณาหย่อนตั๋วหนังหรือเสียบที่คั่นหนังสือน่ะแหละ จำชื่อคนแนะนำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำ แต่จำชื่อหนังสือได้ เพราะเห็นคนพูดถึงอยู่เนืองๆ น่ะนะ



โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:17:00:55 น.  

 
แลดูคล้ายๆเสี่ยวนักสืบของวินทร์ เลียววาริณนิดๆนะคะ (ตรงที่ว่าคดีไม่ได้อลังการสังหารโหดเจ็ดชั่วโคตร แต่ก็ง่ายๆเกิดได้ทุกเมื่ออย่างงี้แหละ) เหล่มาพักนึงแล้วล่ะ แต่ไม่รู้ว่าจะอ่านดีรึเปล่า อาจจะแวะไปงานหนังสือ สอยเล่มแปลไทยซะเพื่อประหยัดตังค์ไปอีกหน่อย



โดย: scarborough IP: 58.9.68.46 วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:21:36:37 น.  

 
จะแวะมาสำนักจริงๆ เหรอคะ ฮี่ๆ



โดย: fonkoon วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:21:56:52 น.  

 
อ่านติดตามถึงบรรทัดสุดท้ายแบบเพลินไม่สะดุดเลยค่ะ เขียนลำดับได้ดีจัง

ปิดท้ายด้วยตบเข่าฉาดด! บรรยากาศแบบในเรื่องนี่แหละที่เราชอบ
ชักจะนึกอิจฉาขึ้นมาบ้างนิดๆแล้วแฮะ


โดย: Hobbit วันที่: 31 มีนาคม 2551 เวลา:22:23:29 น.  

 
สวัสดีอีกรอบ

ไปดูปกมาแล้น แต๊งกิ้วหลายเด้อ


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:8:00:46 น.  

 
ได้ภาคไทยมาไว้ในครอบครองแล้วค่ะ แต่ให้คุณแม่ไปอ่านก่อน


โดย: Nontagorn วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:20:56:00 น.  

 
^
^
ดีใจล่วยค่า


โดย: ลูกสาวโมโจโจโจ้ (the grinning cheshire cat ) วันที่: 1 เมษายน 2551 เวลา:21:20:36 น.  

 
อ่านที่เขียนดูแล้วน่าจะสนุกนะคะ จดไว้ไปซื้อดีกว่า


โดย: หมูย้อมสี วันที่: 2 เมษายน 2551 เวลา:19:24:59 น.  

 
เราชอบหนังสือชุดนี้นะ เสน่ห์มันอยู่ที่ความเรียบง่ายและล้าหลังนี่แหละ อิอิ

ชอบนางเอกด้วย เธอชอบย้ำมากๆ เลยว่า หุ่นแบบ Traditional African Women ^^


โดย: Clear Ice วันที่: 3 เมษายน 2551 เวลา:23:23:30 น.  

 


โดย: หนังสือมือสอง (AngelTomorrow ) วันที่: 4 เมษายน 2551 เวลา:6:02:14 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

the grinning cheshire cat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ปีศาจแมวอายุ 1,700 ปี บำเพ็ญตบะจนแปลงร่างเป็นคนได้ กำลังศึกษาวิถีชีวิตแบบมนุษย์ แต่รู้สึกว่ายากจัง เพราะยังคิดอะไรแบบแมวๆ อยู่เลย
Photobucket LMJ recommends


Photobucket
เต๋าแบบหมีพูห์ (The Tao of Pooh)
Benjamin Hoff เขียน
มนต์สวรรค์ จินดาแสง แปล
มติชน พิมพ์

หนังสือ Tao (หรือ Dao) spin-off ที่ไม่งี่เง่า และคนเขียนรู้จริงจริงๆ ทั้งเรื่องเต๋าและเรื่องหมี

Photobucket
ฅ.คน ฉบับ 41 มี.ค. 52

เจ้าหญิงพอลล่า:
หัวใจเธอมันน่ากราบ
กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง:
ยังไงปลาทูก็เจ๋งกว่าโรงถลุงเหล็ก
สัมภาษณ์อ. นิธิ เอียวศรีวงศ์:
ฉบับลำแต้ๆ

เมฆาสัญจร
เมฆาสัญจร (Cloud Atlas)
เดวิด มิทเชลล์ เขียน
จุฑามาศ แอนเนียน แปล
มติชน พิมพ์

เหนือคำบรรยาย (เพราะตัดสินใจเลือกคำบรรยายไม่ถูก ฮา)

ยูโทเปีย และ 1984
ยูทเปีย
เซอร์โธมัส มอร์ เขียน
สมบัติ จันทรวงศ์ แปล
1984
จอร์จ ออร์เวลล์ เขียน
รัศมี เผ่าเหลืองทอง
และ
อำนวยชัย ปฏิพัทธเผ่าพงษ์ แปล
สมมติ พิมพ์

หนังสือเปิดหูเปิดตาระดับตัวพ่อ แถมปกสวยระดับตัวแม่อีกต่างหาก โอ๊ว

เทพเจ้าแห่งสิ่งเล็กๆ
เทพเจ้าแห่งสิ่งเล็กๆ
(The God of Small Things)
อรุณธตี รอย เขียน
สดใส แปล
โครงการสรรพสาส์น
ของสำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก พิมพ์

เรื่องเล่าโค-ตะ-ระอัศจรรย์จากอินเดีย

นายธนาคารเพื่อคนจน
นายธนาคารเพื่อคนจน
โมฮัมหมัด ยูนุส เขียน
สฤณี อาชวานันทกุล แปล
มติชน พิมพ์

อัตชีวประวัติฉบับกึ่งสุขกึ่งเศร้า บางครั้งก็เกือบเคล้าน้ำตา ของหนุ่มนักเรียนนอก กับธนาคารหลังคามุงหญ้า (บานประตูก็ไม่มี) ของเขาและลูกศิษย์ ที่หาญกล้าพุ่งชนทุกอย่างเพื่อให้ผู้หญิงจนๆ จำนวนมากในบังคลาเทศยืนหยัดด้วยขาของตัวเองได้

(อันที่จริงเราควรจะแนะนำว่า นี่เป็นหนังสืออัตชีวประวัติของนักเศรษฐศาสตร์ที่แก้ปัญหาความยากจนในบังคลาเทศจนได้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2006 แต่ม่ายอ่ะ ทำงั้นแล้วจะได้อะไร คุณจะรู้เหรอว่าหนังสือเล่มนี้ทั้งสนุกเป็นบ้าและ insightful ขนาดไหน กริๆ)



I'm reading




Potjy's currently-reading book recommendations, reviews, favorite quotes, book clubs, book trivia, book lists


100+ TBR 2010



2010 reading goal

Friends' blogs
[Add the grinning cheshire cat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.