|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | |
|
|
|
|
|
|
|
เรื่องของคุณหมอดูลิตเติ้ล (14-จบ)
บทที่ยี่สิบ เมืองชาวประมง
แล้วคุณหมอก็ปลุกชายนั้นขึ้นอย่างนุ่มนวล นุ่มนวลที่สุด แต่ในตอนนั้นเองไม้ขีดก็ดับลงอีกครั้ง และชายคนนั้นก็คิดว่าเป็นเบน อาลีกลับมาอีกครั้ง และเขาก็เริ่มชกต่อยคุณหมอในความมืด
แต่พอจอห์น ดูลิตเติ้ลบอกเขาว่าเขาเป็นใคร และว่าหลานตัวน้อยของเขาปลอดภัยอยู่บนเรือ ชายคนนั้นก็ยินดีเป็นที่สุด และพูดว่าเขาขอโทษที่สู้กับคุณหมอไป แต่เขาก็ไม่ได้ทำหมอเจ็บมากนัก เพราะมันมืดเกินกว่าจะชกกันได้ถูก แล้วเขาก็เอายานัตถุ์ให้คุณหมอหยิบมือหนึ่ง
แล้วชายคนนั้นก็เล่าว่ามังกรแห่งบาร์บารี่เอาเขามาทิ้งไว้ที่โขดหินนี้อย่างไรตอนที่เขาไม่ยอมรับปากว่าจะเป็นโจรสลัด และเขาได้ลงมานอนในรูนี้เพราะบนหินไม่มีบ้านที่จะให้ความอบอุ่นแก่เขา
แล้วเขาก็พูดว่า
“สี่วันมาแล้วที่ผมไม่มีอะไรกินหรือดื่มเลย ผมมีชีวิตอยู่ด้วยยานัตถุ์เท่านั้น”
“เห็นไหมล่ะ!” จิพพูด “ผมบอกหมอว่าไงล่ะ”
ดังนั้นพวกเขาจึงจุดไม้ขีดอีกและเดินผ่านทางใต้ดินออกมาสู่แสงอาทิตย์ และคุณหมอก็เร่งให้ชายคนนั้นลงไปที่เรือเพื่อดื่มซุปเสียหน่อย
พอพวกสัตว์ทั้งหลายและเด็กชายได้เห็นคุณหมอและจิพกลับมาที่เรือพร้อมกับชายผมแดง ทุกคนก็เริ่มโห่ร้องและตะโกนและเต้นรำไปทั่วลำเรือ และนกนางแอ่นที่ข้างบนก็เริ่มร้องเพลงดังสุดเสียง พวกมันทั้งแสนๆ ล้านๆ ตัว เพื่อแสดงให้เห็นว่าพวกมันก็ดีใจที่พบตัวลุงผู้กล้าหาญของเด็กชายแล้ว เสียงของพวกมันดังเสียจนพวกกลาสีที่อยู่ไกลออกไปในทะเลคิดว่ากำลังมีพายุร้ายแรงมา “ฟังเสียงพายุที่โหยหวนทางตะวันออกสิ!” เขาพูดกัน
และจิพก็ภาคภูมิใจในตัวเองเป็นที่สุด ถึงแม้มันจะพยายามอย่างมากที่จะไม่ทำท่าหลงตัวเองก็ตาม พอแด๊บแด๊บมาหามันและพูดว่า “จิพ ฉันไม่เคยรู้เลยว่าเธอฉลาดอย่างนี้!” มันก็แค่สะบัดหัวและตอบว่า
“อ๋อ ก็ไม่มีอะไรพิเศษหรอก แต่ต้องใช้หมาถึงจะหาคนเจอ รู้ไหม นกไม่มีประโยชน์กับเรื่องอย่างนี้หรอก”
แล้วคุณหมอก็ถามชาวประมงผมแดงว่าบ้านเขาอยู่ที่ไหน และพอเขาบอกมา คุณหมอก็ขอให้นกนางแอ่นนำทางเรือไปที่นั่นก่อน
และเมื่อมาถึงดินแดนที่ชายคนนั้นบอก พวกเขาก็เห็นเมืองชาวประมงเล็กๆ อยู่ที่เชิงเขาหิน และชายคนนั้นก็ชี้ให้ดูบ้านที่เขาอาศัยอยู่
และระหว่างที่กำลังทอดสมอกันอยู่นั่นเอง แม่ของเด็กชาย (ซึ่งเป็นน้องสาวของชายคนนั้น) ก็วิ่งลงมาหาพวกเขาที่ชายฝั่ง หัวเราะและร้องไห้ไปพร้อมๆ กัน เธอนั่งอยู่บนเนินเขามายี่สิบวันแล้ว มองดูทะเลและรอให้พวกเขากลับมา
แล้วเธอก็จูบคุณหมอหลายครั้งจนเขาหัวเราะคิกคักและหน้าแดงเหมือนเด็กสาวๆ และเธอยังพยายามจูบจิพด้วย แต่มันวิ่งหนีไปซ่อนในเรือเสียก่อน
“เป็นเรื่องงี่เง่าจริงๆ ไอ้การจูบเนี่ย” มันพูด “ฉันทนไม่ได้หรอก ให้หล่อนไปจูบกั๊บกั๊บก็แล้วกัน ถ้าหล่อนต้องจูบอะไรสักอย่างน่ะนะ”
ชาวประมงและน้องสาวเขาไม่อยากให้คุณหมอรีบร้อนจากไปอีกเร็วนัก ทั้งสองขอให้เขาอยู่ด้วยก่อนสักสองสามวัน ดังนั้นจอห์น ดูลิตเติ้ลและสัตว์ของเขาจึงต้องอยู่ที่บ้านนั้นตลอดวันเสาร์และอาทิตย์และอีกครึ่งหนึ่งของวันจันทร์
และเด็กชายเล็กๆ ทุกคนในหมู่บ้านชาวประมงนั้นก็ลงมาที่ชายหาดและชี้กันให้ดูเรือลำใหญ่ที่ทอดสมออยู่ที่นั่น และกระซิบกระซาบบอกกันว่า
“ดูนั่นสิ! นั่นน่ะเรือโจรสลัด ของเบน อาลี มันเป็นโจรสลัดที่ร้ายกาจที่สุดในเจ็ดย่านสมุทรเลย! สุภาพบุรุษแก่ๆ ใส่หมวกทรงสูงที่พักอยู่ที่บ้านคุณนายเทรฟเลียนน่ะ เขาเอาเรือนั่นมาจากมังกรแห่งบาร์บารี่ แล้วบังคับให้มันไปเป็นชาวไร่ ใครจะคิดได้ล่ะ เขาสุภาพอ่อนโยนออกอย่างนั้น!... ดูใบเรือใหญ่สีแดงนั่นสิ! เรือนั่นดูร้ายกาจใช่ไหมล่ะ เร็วมากด้วย โอ้โฮ!”
ในระหว่างสองวันครึ่งที่คุณหมอพักอยู่ที่เมืองชาวประมงเล็กๆ นั่น ผู้คนต่างพากันเชิญเขาไปดื่มน้ำชาและกินอาหารเที่ยง อาหารค่ำและงานเลี้ยง พวกสุภาพสตรีทั้งหลายส่งดอกไม้และลูกกวาดเป็นกล่องๆ มาให้เขา และวงดนตรีของหมู่บ้านก็เล่นเพลงใต้หน้าต่างห้องเขาทุกคืน
สุดท้ายคุณหมอก็พูดว่า
“พวกคุณคนดีทุกคนครับ ผมต้องกลับบ้านแล้ว พวกคุณใจดีกันเป็นที่สุด ผมจะไม่ลืมเลย แต่ผมต้องกลับบ้าน เพราะผมมีเรื่องต้องทำ”
และแล้ว ในตอนที่คุณหมอกำลังจะจากไปนั่นเอง นายกเทศมนตรีของเมืองก็เดินมาตามถนน พร้อมกับคนอื่นๆ มากมายที่แต่งตัวโอ่อ่า แล้วนายกเทศมนตรีก็มาหยุดหน้าบ้านที่คุณหมอพักอยู่ และทุกคนในหมู่บ้านก็มาชุมนุมกันเพื่อดูว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น
หลังจากเด็กรับใช้หกคนเป่าทรัมเป็ตที่เงาแวววาวเพื่อให้ทุกคนหยุดพูดกันแล้ว คุณหมอก็ออกมาที่ประตูหน้าบ้านและนายกเทศมนตรีก็พูดขึ้นว่า
“คุณหมอจอห์น ดูลิตเติ้ลครับ” เขาพูดขึ้น “ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างที่ยิ่งที่ได้เป็นตัวแทนมอบของขวัญเล็กๆ น้อยๆ จากผู้คนแห่งเมืองอันเป็นที่รักของเราซึ่งรู้สึกสำนึกบุณคุณที่ท่านได้กำจัดมังกรแห่งบาร์บารี่ไปจากท้องทะเลได้”
แล้วนายกเทศมนตรีก็เอาห่อกระดาษทิชชูห่อเล็กๆ ออกมาจากกระเป๋าเสื้อ เปิดมันออก แล้วก็ส่งนาฬิกาที่งดงามเป็นที่สุด ประดับด้วยเพชรแท้ที่ด้านหลังให้คุณหมอ
จากนั้นนายกเทศมนตรีก็เอาห่อของที่ใหญ่กว่านั้นอีกออกมาจากกระเป๋าและพูดว่า
“เจ้าหมาอยู่ที่ไหนล่ะ”
แล้วทุกคนก็เริ่มตามหาจิพ และสุดท้ายแด๊บแด๊บก็ไปพบมันอยู่ที่ลานหน้าคอกม้าอีกฟากของเมือง มีหมาทุกตัวในแถบชนบทนั้นกำลังยืนตะลึงพูดไม่ออกด้วยความชื่นชมนับถือล้อมรอบมันอยู่
พอจิพถูกนำมาอยู่ข้างๆ คุณหมอแล้ว นายกเทศมนตรีก็เปิดห่อของห่อใหญ่ออก ข้างในนั้นเป็นปลอกคอหมาที่ทำจากทองคำแท้ๆ! เสียงพึมพำอย่างทึ่งๆ ดังขึ้นมาจากชาวหมู่บ้านขณะที่นายกเทศมนตรีก้มลงติดมันรอบคอเจ้าหมาด้วยมือของเขาเอง
เพราะสิ่งที่เขียนด้วยอักษรตัวใหญ่อยู่บนปลอกคอนั่นก็คือ “จิพ หมาที่ฉลาดที่สุดในโลก”
จากนั้นฝูงชนทั้งหมดก็เดินลงไปที่ชายหาดเพื่อส่งพวกเขา หลังจากชาวประมงผมแดงกับน้องสาวของเขาและเด็กน้อยได้ขอบคุณคุณหมอกับหมาของเขาครั้งแล้วครั้งเล่าและครั้งแล้วครั้งเล่าแล้ว เรือเร็วลำใหญ่ที่มีใบสีแดงก็หันหัวไปทางพัดเดิลบีอีกครั้ง พวกเขามุ่งหน้าออกทะเล ขณะที่วงดนตรีของหมู่บ้านเล่นดนตรีอยู่บนชายฝั่ง
บทสุดท้าย ถึงบ้านอีกครั้ง
ลมเดือนมีนาคมพัดมาแล้วก็พัดจากไป ละอองฝนเดือนเมษายนหมดไปแล้ว ดอกตูมในเดือนพฤษภาคมคลี่บานออกเป็นดอกไม้ และดวงอาทิตย์เดือนมิถุนายนก็กำลังสาดแสงลงบนท้องทุ่งที่งดงามเมื่อจอห์น ดูลิตเติ้ลกลับมาถึงประเทศของเขาในที่สุด
แต่เขายังไม่ได้กลับไปบ้านที่พัดเดิลบีเลย ก่อนอื่นเขาเดินทางไปทั่วประเทศในรถลากแบบยิปซีกับพุชมี-พูลยูก่อน ไปหยุดที่งานออกร้านในชนบททุกงาน และที่นั่น ระหว่างนักกายกรรมฝั่งหนึ่งและละครหุ่นอีกฝั่งหนึ่ง พวกเขาก็จะแขวนป้ายแผ่นใหญ่ที่เขียนว่า “เชิญชมสัตว์สองหัวที่น่าทึ่งจากป่าลึกแห่งแอฟริกา ค่าเข้าชม หกเพนนี”
แล้วพุชมี-พูลยูก็จะอยู่ข้างในรถลาก ขณะที่สัตว์อื่นๆ จะนอนกันอยู่ใต้รถ คุณหมอจะนั่งบนเก้าอี้ด้านหน้า เก็บค่าเข้าชมและยิ้มให้ผู้คนที่กำลังเดินเข้าไป แล้วแด๊บแด๊บก็จะวุ่นวายดุเขาตลอดเวลาเพราะเขาจะปล่อยให้พวกเด็กๆ เข้าไปได้ฟรีถ้ามันไม่คอยมอง
แล้วคนดูแลสวนสัตว์และพวกคณะละครสัตว์ก็จะมาขอให้คุณหมอขายสัตว์พิลึกตัวนั้นให้ บอกว่าพวกเขาจะจ่ายเงินให้อย่างงาม แต่คุณหมอก็ส่ายหน้าทุกครั้ง และพูดว่า
“ไม่ล่ะครับพุชมี-พูลยูจะต้องไม่มีวันถูกขังไว้ในกรง เขาจะต้องไปไหนมาไหนได้อย่างอิสระเหมือนคุณและผม”
พวกเขาเห็นภาพและเหตุการณ์แปลกประหลาดมากมายในชีวิตสัญจรแบบนี้ แต่ทุกอย่างดูเป็นเรื่องธรรมดาไปเลยหลังจากเหตุการณ์ยิ่งใหญ่ที่พวกเขาได้เห็นและทำมาในต่างแดน ตอนแรกมันก็น่าสนใจดีที่ได้เป็นคล้ายๆ ส่วนหนึ่งของละครสัตว์ แต่หลังจากเวลาผ่านไปสองสามอาทิตย์ ทุกคนก็เริ่มเบื่อเป็นที่สุด แล้วคุณหมอและพวกสัตว์ทุกตัวก็เริ่มอยากกลับบ้าน
แต่คนมากมายต่างหลั่งไหลกันมาที่รถลากคันน้อย และจ่ายเงินหกเพนนีเพื่อเข้าไปดูพุชมี-พูลยู จนไม่นานคุณหมอก็สามารถเลิกเป็นคนเดินสายจัดการแสดงได้
และในวันที่งดงามวันหนึ่ง เมื่อดอกฮอลลี่ฮ็อคกำลังบานเต็มที่ เขาก็กลับไปที่พัดเดิลบีอย่างเศรษฐีคนหนึ่ง เพื่อไปอยู่ในบ้านหลังเล็กที่มีสวนกว้างใหญ่หลังนั้น
และม้าแก่ขาเป๋ในคอกม้าก็ดีใจมากที่ได้พบเขา นกนางแอ่นที่สร้างรังอยู่ใต้ชายคาบ้านเขาและมีลูกอ่อนแล้วก็เช่นกัน และแด๊บแด๊บก็ดีใจด้วยที่ได้กลับมาบ้านที่มันรู้จักเป็นอย่างดี ถึงแม้จะมีงานปัดฝุ่นรอให้ทำอยู่มากมาย เพราะมีหยากไย่อยู่ทั่วไปก็ตาม
และหลังจากจิพเอาปลอกคอทองคำไปอวดหมาคอลลี่หลงตัวเองที่ข้างบ้านแล้ว มันก็กลับมาและเริ่มวิ่งไปรอบๆ สวนเหมือนเป็นบ้า มองหากระดูกที่เคยฝังไว้เมื่อนานมาแล้ว และไล่หนูออกมาจากเพิงเก็บเครื่องมือ ระหว่างนั้นกั๊บกั๊บก็ขุดหัวฮอร์สเรดิชที่หยั่งรากลึกสามฟุตอยู่ตรงหัวมุมกำแพงสวน
แล้วคุณหมอก็ไปหากลาสีที่ให้เขายืมเรือมา และซื้อเรือใหม่ให้เขาสองลำ และตุ๊กตายางตัวหนึ่งให้ลูกของเขา และเขาก็จ่ายค่าอาหารที่ได้ยืมมาเพื่อเดินทางไปแอฟริกาให้คนขายของชำด้วย แล้วก็ซื้อเปียโนใหม่อีกหลังหนึ่ง และใส่พวกหนูขาวกลับเข้าไป เพราะพวกมันบอกว่าลิ้นชักโต๊ะทำงานมันหนาวเกินไป
แม้แต่เมื่อคุณหมอเอาเงินใส่กล่องเก็บเงินใบเก่าบนชั้นตู้ถ้วยชามแล้ว เขาก็ยังมีเงินเหลืออยู่อีกมาก จนต้องซื้อกล่องเก็บเงินที่ใหญ่เท่าๆ กันมาใหม่อีกสามใบเพื่อเก็บเงินที่เหลือ
“เงินเป็นเรื่องน่ารำคาญจริงๆ” เขาพูด “แต่ก็ดีที่ไม่ต้องเป็นกังวลอีก”
“ใช่แล้วค่ะ” แด๊บแด๊บที่กำลังอุ่นมัฟฟิ่นให้เขาทานกับน้ำชาพูด “เป้นอย่างนั้นจริงๆ!”
และเมื่อฤดูหนาวมาเยือนอีกครั้ง และหิมะปลิวมากระทบหน้าต่างครัว คุณหมอและสัตว์ของเขาก็จะนั่งรอบเตาผิงใหญ่ที่มีไฟอบอุ่นหลังจากอาหารค่ำ และเขาก็จะอ่านหนังสือของตัวเองให้พวกสัตว์ฟังดังๆ
แต่ไกลออกไปในแอฟริกา ที่ที่พวกลิงกำลังคุยกันบนต้นปาล์มก่อนจะเข้านอนใต้ดวงจันทร์สีเหลืองดวงใหญ่ พวกมันก็จะพูดแก่กันว่า
“ข้าสงสัยจริงว่าตอนนี้ชายผู้แสนดีคนนั้นกำลังทำอะไรอยู่ที่โน่น ในดินแดนคนขาว! พวกเจ้าคิดว่าเขาจะกลับมาอีกหรือเปล่า”
แล้วโพลินีเชียก็จะส่งเสียงร้องมาจากเถาวัลย์
“ฉันคิดว่าเขาจะมา ฉันเดาว่าเขาจะมา ฉันหวังว่าเขาจะมา!”
แล้วตอนนั้นเจ้าจระเข้ก็จะคำรามใส่พวกมันมาจากโคลนดำในแม่น้ำ
“ฉันแน่ใจว่าเขาจะมา ไปนอนกันได้แล้ว!”
Create Date : 01 พฤศจิกายน 2551 |
|
8 comments |
Last Update : 1 พฤศจิกายน 2551 13:10:24 น. |
Counter : 2178 Pageviews. |
|
 |
|
|
| |
โดย: Guga IP: 125.24.146.223 1 พฤศจิกายน 2551 22:13:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: ahiruno007 IP: 58.9.15.142 2 พฤศจิกายน 2551 12:53:37 น. |
|
|
|
| |
โดย: ahiruno007 IP: 58.9.14.189 3 พฤศจิกายน 2551 11:30:21 น. |
|
|
|
|
|
|
the grinning cheshire cat
|
|
|
|
|
|