ครั้งหนึ่งแมวถูกยกขึ้นเป็นเทพเจ้า และบัดนี้มันก็ยังไม่ลืมเรื่องนั้น (หึหึ //เลียอุ้งเท้า)
Group Blog
 
<<
กันยายน 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
282930 
 
3 กันยายน 2551
 
All Blogs
 
เรื่องของคุณหมอดูลิตเติ้ล (10)

บทที่สิบห้า
มังกรแห่งบาร์บารี่

ทุกอย่างคงเป็นไปได้ด้วยดีถ้าหากเจ้าหมูไม่เป็นหวัดเพราะกินอ้อยชื้นๆ ที่บนเกาะ เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างนี้:
หลังจากพวกเขาถอนสมอขึ้นโดยไร้เสียง และเคลื่อนเรือออกจากอ่าวอย่างระมัดระวังที่สุดแล้วนั้น จู่ๆ กั๊บกั๊บก็จามออกมาเสียงดังเสียจนโจรสลัดบนเรืออีกลำหนึ่งต้องรีบขึ้นมาข้างบนเพื่อดูว่าเป็นเสียงอะไร

ทันทีที่พวกมันเห็นคุณหมอกำลังหนีไป มันก็แล่นเรืออีกลำเข้ามาขวางทางเข้าอ่าวเพื่อไม่ให้คุณหมอออกไปสู่ทะเลหลวงได้

จากนั้นหัวหน้าของคนเลวเหล่านี้ (ซึ่งเรียกตัวมันเองว่า “เบน อาลี, เจ้ามังกร”) ก็ชูกำปั้นใส่คุณหมอและตะโกนข้ามน้ำมาว่า

“ฮ่า! ฮ่า! แกถูกจับแล้วเพื่อนยาก! แกกำลังคิดจะหนีไปในเรือของข้างั้นรึ แต่แกไม่ใช่นักเดินเรือที่เก่งไปกว่าเบน อาลี มังกรแห่งบาร์บารี่ได้หรอก ข้าต้องการเป็ดของแก แล้วก็หมูนั่นด้วย เราจะกินสเต็คหมูกับเป็ดย่างกันคืนนี้ แล้วก่อนที่ข้าจะปล่อยแกกลับบ้านไป แกต้องให้เพื่อนแกส่งทองคำเต็มหีบมาให้ข้าก่อน”

กั๊บกั๊บผู้น่าสงสารเริ่มร้องไห้ และแด๊บแด๊บก็เตรียมพร้อมจะบินหนีเพื่อรักษาชีวิตไว้ แต่นกฮูกทูทูกลับกระซิบกับคุณหมอว่า

“ล่อให้มันพูดต่อไปเรื่อยๆ ครับคุณหมอ พูดจาดีๆ กับมัน เรือลำเก่าของเรายังไงก็ต้องจมอยู่แล้ว พวกหนูบอกว่ามันจะลงไปอยู่ที่ก้นทะเลก่อนคืนพรุ่งนี้แน่ แล้วพวกหนูก็ไม่เคยพลาดเลย พูดจาดีๆ จนกว่าเรือจะจมลงไปพร้อมกับมัน ล่อให้มันพูดไว้ครับ”

“อะไรนะ จนกว่าจะถึงคืนพรุ่งนี้เรอะ!” คุณหมอพูด “เอาเถอะ ฉันจะทำให้ดีที่สุด... เดี๋ยวก่อนนะ... จะพูดเรื่องอะไรดีล่ะ”

“โธ่เอ๊ย ปล่อยมันมาเลย” จิพร้อง “เราสู้ไอ้พวกวายร้ายชั้นต่ำนั่นได้อยู่แล้ว มันมีกันแค่หกคนเอง ปล่อยมันมาเล้ย ฉันอยากจะไปบอกหมาคอลลี่ข้างบ้านตอนกลับไปจะแย่อยู่แล้วว่าฉันกัดโจรสลัดจริงๆ มาแล้ว ปล่อยมาเลย เราสู้ได้อยู่แล้ว”

“แต่พวกมันมีปืนกับดาบนะ” คุณหมอพูด “ไม่ล่ะ ทำอย่างนั้นไม่ได้ผลหรอก ฉันต้องพูดกับมัน... นี่แน่ะ เบน อาลี...”

แต่ก่อนที่คุณหมอจะพูดอะไรไปได้มากกว่านั้น พวกโจรสลัดก็เริ่มแล่นเรือเข้ามาใกล้พลางหัวเราะอย่างรื่นเริง และพูดกันว่า “ใครจะจับเจ้าหมูนั่นเป็นคนแรกดีล่ะ”

เจ้ากั๊บกั๊บที่น่าสงสารกลัวแทบตายแล้ว และพุชมี-พูลยูก็เริ่มลับเขาของมันเตรียมสู้ด้วยการเอาไปถูกับเสากระโดงเรือ ในระหว่างนั้นจิพก็เอาแต่กระโดดขึ้นๆ ลงๆ เห่าและด่าทอเบน อาลีเป็นภาษาหมา

แต่ในไม่ช้าก็ดูเหมือนมีอะไรผิดปกติเกิดขึ้นกับพวกโจรสลัด พวกมันหยุดหัวเราะและพูดตลก มันดูงุนงง และมีอะไรทำให้มันไม่สบายใจอยู่

แล้วเบน อาลีที่ก้มลงจ้องมองเท้าตัวเองก็ตะโกนลั่นออกมา

“ให้ฟ้าผ่าแน่ะ! พรรคพวก เรือนี่กำลังรั่ว!”

แล้วโจรสลัดคนอื่นๆ ก็ออกไปชะโงกมองด้านข้างเรือ และเห็นว่าเรือกำลังจมลงในน้ำเรื่อยๆ จริงๆ ด้วย และหนึ่งในนั้นก็พูดกับเบน อาลีว่า

“แต่ถ้าเรือลำนี้มันจะจมเราต้องเห็นหนูกำลังทิ้งเรือสิ”

แล้วจิพก็ตะโกนข้ามไปที่เรือลำนั้นว่า

“เจ้าพวกสมองกลวง ไม่มีหนูเหลือให้ทิ้งเรือแล้ว! เขาทิ้งกันไปหมดตั้งสองชั่วโมงมาแล้ว! ‘ฮ่า! ฮ่า!’ ให้นายบ้างสิ ‘เพื่อนยาก!’ “

แต่แน่อยู่แล้วว่าคนพวกนั้นต้องไม่เข้าใจมัน ไม่ช้าส่วนหัวเรือก็เริ่มจมลงเร็วขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งเรือมีหน้าตาเหมือนตั้งเอาหัวทิ่มลงอยู่ แล้วพวกโจรสลัดก็ต้องเกาะอยู่กับกราบเรือและเสากระโดงและเชือกและอะไรก็ตามที่พอเป็นหลักยึดไว้ได้ จากนั้นน้ำทะเลก็ไหลผ่านเข้ามาทางหน้าต่างและประตูทุกบานเป็นเสียงก้อง และสุดท้ายเรือก็จมดิ่งลงไปที่ก้นทะเล เกิดเป็นเสียงโกรกกรากอย่างน่ากลัว และคนชั่วทั้งหกก็ลอยตุ๊บป่องอยู่ในน้ำลึกในอ่าว

บางคนเริ่มว่ายน้ำเขาหาฝั่งของเกาะ ในขณะที่คนอื่นๆ มาพยายามขึ้นเรือที่คุณหมอออยู่ แต่จิพคอยไล่งับจมูกพวกมันไว้ พวกมันก็เลยไม่กล้าปีนขึ้นเรือมา

แล้วจู่ๆ พวกมันทุกคนก็ร้องขึ้นมาด้วยความกลัวจับจิต
ฉลาม! ฉลามมาแล้ว! ให้เราขึ้นเรือไปก่อนจะถูกกินเถอะ! ช่วยด้วย ช่วยด้วย! ฉลาม! ฉลาม!”
แล้วคุณหมอก็เห็นแล้วเช่นกัน ทั่วทั้งอ่าวมีครีบหลังของปลาใหญ่ที่กำลังว่ายน้ำมาอย่างรวดเร็ว

และฉลามใหญ่ตัวหนึ่งก็เข้ามาใกล้เรือ และยื่นจมูกขึ้นมาจากน้ำพูดกับคุณหมอว่า

“คุณคือจอห์น ดูลิตเติ้ล คุณหมอของสัตว์ผู้โด่งดังหรือเปล่า”

“ใช่แล้ว” คุณหมอดูลิตเติ้ลพูด “ฉันชื่อนั้น”

“ดีแล้ว” ฉลามพูด “เรารู้ว่าโจรสลัดพวกนี้เป็นคนเลวทั้งนั้น โดยเฉพาะเบน อาลี ถ้าพวกมันทำความรำคาญให้หมอ เราก็ยินดีจะกินมันให้นะ แล้วหมอจะได้ไม่ต้องเดือดร้อนอีก”

“ขอบคุณ” คุณหมอพูด “เป็นความมีแก่ใจเป็นที่สุดทีเดียว แต่ฉันไม่คิดว่าจำเป็นจะต้องกินพวกเขาหรอกนะ อย่าปล่อยให้พวกเขาคนไหนไปถึงฝั่งก่อนฉันจะบอกให้ทราบก็แล้วกัน แค่ให้พวกเขาว่ายวนเอาไว้ ได้ไหมครับ และได้โปรดช่วยทำให้เบน อาลีว่ายมาตรงนี้หน่อย ฉันจะได้คุยกับเขา”

ปลาฉลามจึงว่ายไปไล่เบน อาลีเข้ามาหาคุณหมอ

“ฟังนะ เบน อาลี” จอห์น ดูลิตเติ้ลพูดพลางชะโงกออกจากขอบเรือ “คุณเคยเป็นคนที่เลวมาก และผมเข้าใจว่าคุณได้ฆ่าคนไปมากแล้วด้วย ฉลามที่แสนดีเหล่านี้เพิ่งจะอาสากินคุณให้ผม และการที่ทะเลจะขาดคุณไปสักคนนี่ก็น่าจะเป็นเรื่องดีทีเดียว แต่ถ้าคุณสัญญาว่าจะทำอย่างที่ผมบอก ผมก็จะปล่อยให้คุณจากไปอย่างปลอดภัย”

“ข้าต้องทำอะไรล่ะ” โจรสลัดถามพลางเหลือบตามองฉลามตัวใหญ่ที่กำลังดมขาเขาอยู่ใต้น้ำ

“คุณต้องไม่ฆ่าคนอีก” คุณหมอพูด “คุณต้องหยุดปล้นชิง คุณต้องไม่จมเรืออีกแม้แต่ลำเดียว คุณต้องเลิกเป็นโจรสลัดไปเลย”

“แล้วข้าจะทำอะไรได้ล่ะ” เบน อาลีถาม “ข้าจะอยู่ได้ยังไง”

“คุณและคนของคุณต้องขึ้นไปที่เกาะนี้และเป็นคนปลูกเมล็ดพืชให้นก” คุณหมอตอบ “คุณต้องปลูกเมล็ดพืชให้นกขมิ้น”

มังกรแห่งบาร์บารี่หน้าซีดด้วยความโกรธ “ปลูกเมล็ดพืชให้นก!” เขาครางด้วยความรังเกียจ “ข้าเป็นกลาสีไม่ได้รึ”

“ไม่ได้” คุณหมอพูด “เป็นไมได้ คุณเป็นกลาสีมานานพอแล้ว และได้ส่งเรือแข็งแรงและคนดีๆ มากมายลงสู่ก้นทะเล ตลอดชีวิตที่เหลือของคุณต้องเป็นชาวไร่ที่รักสันติ ปลาฉลามกำลังรออยู่นะ อย่าทำให้เสียเวลาเขาอีกเลย ตัดสินใจเสียเถอะ”

“ให้ฟ้าผ่าสิ!” เบน อาลีพึมพำ “เมล็ดพืช!” แล้วเขาก็มองลงไปในน้ำอีก และเห็นปลาใหญ่กำลังดมขาอีกข้างของตัวเองอยู่

“ก็ได้” เขาพูดเศร้าๆ “เราจะเป็นชาวไร่”

“แล้วก็อย่าลืมล่ะ” คุณหมอพูด “ถ้าคุณไม่รักษาสัญญา ถ้าคุณเริ่มฆ่าและขโมยอีกเมื่อไหร่ ผมก็จะรู้เรื่อง เพราะพวกนกขมิ้นจะไปบอกผม และแน่ใจได้เลยว่าผมจะต้องหาทางลงโทษคุณได้แน่ เพราะถึงผมจะแล่นเรือได้ไม่เก่งเท่าคุณ แต่ตราบใดที่นกและสัตว์และปลายังเป็นเพื่อนผม ผมก็ไม่จำเป็นต้องกลัวหัวหน้าโจรสลัดเลย ต่อให้เขาเรียกตัวเองว่า ‘มังกรแห่งบาร์บารี่’ ก็ตาม ทีนี้ก็ไปเป็นชาวไร่ที่ดีและอยู่อย่างสงบได้แล้ว”

แล้วคุณหมอก็หันไปหาฉลามใหญ่ และโบกมือพลางพูดว่า

“เรียบร้อยแล้ว ให้เขาว่ายน้ำเข้าฝั่งอย่างปลอดภัยเถอะ”


บทที่สิบหก
ทูทูนักฟัง

หลังจากขอบคุณปลาฉลามที่มีใจดีแล้ว คุณหมอกับสัตว์เลี้ยงของเขาก็เริ่มออกเดินทางกลับบ้านอีกครั้งด้วยเรือเร็วที่มีใบเรือสีแดงสามใบ

พอพวกเขาแล่นเรือออกไปในทะเลหลวงแล้ว พวกสัตว์ทั้งหมดก็ลงไปชั้นล่างเพื่อดูว่าข้างในเรือใหม่ลำนี้เป็นอย่างไรบ้าง ส่วนคุณหมอก็เอนหลังพิงขอบเรือด้านหลังพร้อมคาบไปป์ไว้ในปาก พลางมองหมู่เกาะคานารี่ค่อยๆ หายลับเข้าไปในความมืดยามเย็น

ระหว่างที่เขายืนอยู่ตรงนั้น พลางสงสัยว่าพวกลิงเป็นอย่างไรกันบ้าง และสวนของเขาจะเป็นอย่างไรเมื่อตอนที่กลับไปถึงพัดเดิลบีอยู่ แด๊บแด๊บก็พุ่งขึ้นบันไดมา ยิ้มแย้มและมีข่าวอยากบอกเต็มที่

“คุณหมอคะ!” มันร้อง “เรือโจรสลัดนี่สวยจริงๆ เลย สวยที่สุด เตียงข้างล่างทำจากผ้าไหมสีเหลืองอ่อน มีหมอนใบโตๆ เป็นร้อยเลย มีพรมหนาๆ นุ่มๆ บนพื้นด้วย ถ้วยชามก็ทำจากเงิน แล้วก็มีของกินดีๆ ทุกอย่างเลย ห้องเก็บอาหารนั่นพิเศษสุดจริงๆ แหม พูดง่ายๆ คืออย่างกับร้านขายของแน่ะ หมอต้องไม่เคยเห็นอะไรอย่างนี้มาก่อนในชีวิตแน่ คิดดูสิคะ เขาเก็บปลาซาร์ดีนไว้ตั้งห้าแบบแน่ะ โห คนพวกนี้! มาดูสิคะ... อ้อ แล้วเราก็เจอห้องเล็กๆ ที่ประตูล็อคอยู่ข้างล่างด้วยค่ะ พวกเราอยากจะเข้าไปดูว่ามีอะไรข้างในจะแย่อยู่แล้ว จิพบอกว่ามันต้องเป็นที่ที่พวกโจรสลัดเก็บสมบัติไว้แน่ แต่พวกเราเปิดประตูไม่ได้ค่ะ ลงมาดูหน่อยสิคะว่าหมอจะเปิดให้พวกเราเข้าไปได้หรือเปล่า”

ดังนั้นคุณหมอก็เลยลงไปชั้นล่าง และก็เห็นว่ามันเป็นเรือที่สวยมากจริงๆ เขาพบพวกสัตว์ชุมนุมกันอยู่รอบประตูเล็กๆ บานหนึ่ง แย่งกันพูดอยู่วุ่นวาย พยายามทายว่ามีอะไรอยู่ข้างใน คุณหมอลองหมุนลูกบิดดูแต่มันไม่ยอมเปิด แล้วทุกคนก็เริ่มลงมือหากุญแจกันเป็นการใหญ่ ทั้งดูใต้พรมเช็ดเท้า ดูใต้พรมทุกผืน ดูในตู้ ในลิ้นชัก และในช่องใส่ของทั้งหมด ในหีบใบใหญ่ที่อยู่ในห้องกินข้าวของเรือด้วย เรียกว่าดูทุกที่จริงๆ

และระหว่างที่ดูนั้นพวกเขาก็ได้พบของดีๆ วิเศษที่พวกโจรสลัดต้องขโมยมาจากเรือลำอื่นอีกมากมาย ทั้งผ้าคลุมไหล่แคชเมียร์ที่บางเหมือนใยแมงมุม ปักลายดอกไม้ด้วยทอง กระปุกยาสูบดีๆ จากจาไมกา กล่องงาช้าแกะสลักที่ใส่ชารัสเซียไว้เต็ม ไวโอลินเก่าๆ ตัวหนึ่งที่สายขาดและมีภาพอยู่ด้านหลัง ตัวหมากรุกใหญ่ชุดหนึ่งที่แกะสลักจากปะการังและอำพัน ไม้เท้าที่มีดาบอยู่ข้างในเมื่อดึงด้ามออกมา แก้วไวน์หกใบที่มีเทอร์คอยซ์และเงินประดับที่ขอบ และชามใส่น้ำตาลใบใหญ่น่ารักที่ทำจากเปลือกหอยมุก แต่ตลอดทั้งลำเรือกลับไม่มีกุญแจที่ไขล็อคนั่นได้ให้เห็นเลยสักนิดเดียว

ดังนั้นทุกคนจึงกลับมาที่ประตู และจิพก็มองลอดรูกุญแจเข้าไป แต่ว่ามีอะไรอย่างหนึ่งตั้งชิดกำแพงด้านในอยู่จนมันมองอะไรไม่เห็น

ระหว่างที่ยืนล้อมกันอยู่และสงสัยว่าควรจะทำอย่างไรต่อไปนั่นเอง จู่ๆ นกฮูกทูทูก็พูดขึ้นมาว่า

“ชู่ว์! ฟังสิ! ฉันว่าต้องมีใครอยู่ในนั้นแน่ๆ เลย!”

ทุกคนก็เลยเงียบกันอยู่ชั่วครู่หนึ่ง แล้วคุณหมอก็พูดว่า

“เธอคงจะเข้าใจผิดแล้วล่ะทูทู ฉันไม่เห็นได้ยินอะไรเลย”

“ผมแน่ใจครับ” นกฮูกพูด “ชู่ว์! เอาอีกแล้ว ไม่ได้ยินหรือครับ”

“ไม่ได้ยินเลย” คุณหมอพูด “มันเป็นเสียงแบบไหนกันล่ะ”

“ผมได้ยินเสียงคนคนหนึ่งเอามือล้วงกระเป๋า” นกฮูกพูด

“แต่นั่นเป็นเสียงที่แทบไม่ได้ยินเลยนะ” คุณหมอพูด “เธอไม่ได้ยินมันตอนอยู่ข้างนอกนี้หรอก”

“ขอโทษ แต่ผมได้ยินครับ” ทูทูพูด “ผมบอกว่ามีคนอยู่อีกฝั่งประตู กำลังเอามือล้วงกระเป๋าอยู่ แทบทุกอย่างทำให้เกิดเสียงอยู่บ้างทั้งนั้นแหละครับ ถ้าหูของเราดีพอจะได้ยินมันได้ ค้างคาวสามารถได้ยินเสียงตัวตุ่นเดินอยู่ในอุโมงค์ใต้พื้นดิน แล้วก็คิดว่าตัวเองหูดีแล้ว แต่นกฮูกอย่างเราบอกได้เลยว่า แค่หูเดียวเราก็บอกสีของลูกแมวจากการที่มันกะพริบตาในความมืดได้แล้ว”

“โอ้โฮ!” คุณหมอพูด “นึกไม่ถึงเลย น่าสนใจมาก... ฟังอีกทีสิ แล้วบอกฉันว่าตอนนี้เขาทำอะไรอยู่”

“ตอนนี้ผมยังไม่แน่ใจนะ” ทูทูพูด “ว่าเป็นผู้ชายหรือเปล่า อาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้ ยกตัวผมขึ้นหน่อยสิ ให้ผมฟังที่รูกุญแจ แล้วเดี๋ยวผมจะบอก”

ดังนั้นคุณหมอจึงยกตัวเจ้านกฮูกขึ้นและอุ้มขึ้นไปใกล้ล็อคที่ประตู

อีกอึดใจต่อมาทูทูก็พูดว่า

“ตอนนี้เขากำลังเอามือซ้ายถูหน้า มือเขาเล็กและหน้าก็เล็ก อาจจะเป็นผู้หญิงก็ได้ ไม่ๆ ตอนนี้เขาปัดผมขึ้นไปจากหน้าผากแล้ว เป็นผู้ชายแน่แล้ว”

“บางทีผู้หญิงก็ทำอย่างนั้นเหมือนกันนะ” คุณหมอพูด

“จริงครับ” นกฮูกพูด “แต่เวลาที่ทำอย่างนั้นผมยาวๆ ของพวกเธอจะทำเสียงไม่เหมือนกันเลย... ชู่ว์! ช่วยจับเจ้าหมูอยู่ไม่สุขนั่นให้นิ่งๆ หน่อยครับ แล้วทีนี้ช่วยกลั้นหายใจสักครู่หนึ่งให้ผมฟังให้ถนัดๆ ที่ทำอยู่นี่ยากมากเลยนะครับ แล้วประตูน่ารำคาญนี่ก็หนาเหลือเกิน! ชู่ว์! ทุกคนเงียบๆ นะ หลับตาแล้วก็อย่าหายใจ”

ทูทูเอียงตัวเข้าไปฟังอีกครั้ง ตั้งอกตั้งใจฟังอยู่นาน

สุดท้ายมันก็เงยหน้าขึ้นมองคุณหมอและพูดว่า

“คนในนั้นไม่มีความสุขครับ เขาร้องไห้ เขาพยายามจะไม่สะอึกสะอื้น ไม่อย่างนั้นเราก็จะรู้แล้วว่าเขากำลังร้องไห้ แต่ผมได้ยินเสียงน้ำตาเขาหยดลงบนแขนเสื้อชัดทีเดียวล่ะ”

“ทำไมเธอถึงรู้ว่าไม่ใช่น้ำหยดลงมาจากเพดานล่ะ” กั๊บกั๊บถาม

“เชอะ! ไม่รู้ความเลย!” ทูทูทำเสียงดูถูก “น้ำหยดจากเพดานจะต้องเป็นเสียงดังกว่านี้สิบเท่า”

“เอาล่ะ” คุณหมอพูด “ถ้าคนที่น่าสงสารนั่นไม่มีความสุข เราก็ต้องเข้าไปดูว่าเขามีปัญหาอะไร หาขวานมาให้ฉันหน่อย ฉันจะฟันประตู”



Create Date : 03 กันยายน 2551
Last Update : 3 กันยายน 2551 14:10:16 น. 1 comments
Counter : 562 Pageviews.

 
ชอบตอนนี้ด้วย
ที่เจ้าฮูกฟังเสียงน้ำตาหยด


โดย: Guga IP: 125.24.150.207 วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:2:47:06 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

the grinning cheshire cat
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ปีศาจแมวอายุ 1,700 ปี บำเพ็ญตบะจนแปลงร่างเป็นคนได้ กำลังศึกษาวิถีชีวิตแบบมนุษย์ แต่รู้สึกว่ายากจัง เพราะยังคิดอะไรแบบแมวๆ อยู่เลย
Photobucket LMJ recommends


Photobucket
เต๋าแบบหมีพูห์ (The Tao of Pooh)
Benjamin Hoff เขียน
มนต์สวรรค์ จินดาแสง แปล
มติชน พิมพ์

หนังสือ Tao (หรือ Dao) spin-off ที่ไม่งี่เง่า และคนเขียนรู้จริงจริงๆ ทั้งเรื่องเต๋าและเรื่องหมี

Photobucket
ฅ.คน ฉบับ 41 มี.ค. 52

เจ้าหญิงพอลล่า:
หัวใจเธอมันน่ากราบ
กลุ่มอนุรักษ์แม่รำพึง:
ยังไงปลาทูก็เจ๋งกว่าโรงถลุงเหล็ก
สัมภาษณ์อ. นิธิ เอียวศรีวงศ์:
ฉบับลำแต้ๆ

เมฆาสัญจร
เมฆาสัญจร (Cloud Atlas)
เดวิด มิทเชลล์ เขียน
จุฑามาศ แอนเนียน แปล
มติชน พิมพ์

เหนือคำบรรยาย (เพราะตัดสินใจเลือกคำบรรยายไม่ถูก ฮา)

ยูโทเปีย และ 1984
ยูทเปีย
เซอร์โธมัส มอร์ เขียน
สมบัติ จันทรวงศ์ แปล
1984
จอร์จ ออร์เวลล์ เขียน
รัศมี เผ่าเหลืองทอง
และ
อำนวยชัย ปฏิพัทธเผ่าพงษ์ แปล
สมมติ พิมพ์

หนังสือเปิดหูเปิดตาระดับตัวพ่อ แถมปกสวยระดับตัวแม่อีกต่างหาก โอ๊ว

เทพเจ้าแห่งสิ่งเล็กๆ
เทพเจ้าแห่งสิ่งเล็กๆ
(The God of Small Things)
อรุณธตี รอย เขียน
สดใส แปล
โครงการสรรพสาส์น
ของสำนักพิมพ์มูลนิธิเด็ก พิมพ์

เรื่องเล่าโค-ตะ-ระอัศจรรย์จากอินเดีย

นายธนาคารเพื่อคนจน
นายธนาคารเพื่อคนจน
โมฮัมหมัด ยูนุส เขียน
สฤณี อาชวานันทกุล แปล
มติชน พิมพ์

อัตชีวประวัติฉบับกึ่งสุขกึ่งเศร้า บางครั้งก็เกือบเคล้าน้ำตา ของหนุ่มนักเรียนนอก กับธนาคารหลังคามุงหญ้า (บานประตูก็ไม่มี) ของเขาและลูกศิษย์ ที่หาญกล้าพุ่งชนทุกอย่างเพื่อให้ผู้หญิงจนๆ จำนวนมากในบังคลาเทศยืนหยัดด้วยขาของตัวเองได้

(อันที่จริงเราควรจะแนะนำว่า นี่เป็นหนังสืออัตชีวประวัติของนักเศรษฐศาสตร์ที่แก้ปัญหาความยากจนในบังคลาเทศจนได้รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประจำปี 2006 แต่ม่ายอ่ะ ทำงั้นแล้วจะได้อะไร คุณจะรู้เหรอว่าหนังสือเล่มนี้ทั้งสนุกเป็นบ้าและ insightful ขนาดไหน กริๆ)



I'm reading




Potjy's currently-reading book recommendations, reviews, favorite quotes, book clubs, book trivia, book lists


100+ TBR 2010



2010 reading goal

Friends' blogs
[Add the grinning cheshire cat's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.