::: ย่ำกรุง :::
ทริปย่ำกรุงคราวนี้ไม่ได้ฉายเดี่ยวเหมือนหนก่อนๆ
ตรงที่มีเพื่อนๆอีก ๓ คน
ครั้งสุดท้ายที่ทั้งหมดไปเดินเล่นถ่ายรูปก็คือวันสุดท้ายของการเรียนปี ๔ เกรดออกหมดทุกวิชา ปัญหาพิเศษก็ส่งตัวเล่มเรียบร้อยไม่ค้างคา ของใช้ที่หอพักก็เก็บใส่กระเป๋า ลัง กล่อง เตรียมย้ายออก... มันก็นานมาแล้วเนอะ
มาเที่ยวด้วยกันหนนี้แต่ละคนไม่มีการบ้านแบบเดียวกัน รายงานหัวข้อเดียวกันที่มานั้งช่วยกันทำ ช่วยกันลอกได้ด้วยหน้าที่การการแตกต่างกันไป ^^
เริ่มการเที่ยวด้วยการนัดสมาชิกที่สถานีรถไฟฟ้าสนามกีฬาแห่งชาติ แล้วจึงพากันไปเดินเล่น
หอศิลปวัฒธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร
:::
มีร้านรับวาดรูปเหมือน ทั้ง ชาร์โคล์ สีน้ำ ข้าพเจ้าขอเป็นชาร์โคล์สัก ๑ ใบ
วันที่ไปเป็นลูกค้ารายแรก มีไทยมุงเพียบแถมถ่ายรูปไปด้วย
(ถ่ายรูปที่วาดนะ ตัวแบบเป็นแบล็กกราวน์เบลอๆ รูปนี้เพื่อนถ่ายให้)
:::
ออกจากหอศิลปฯก็ไปต่อที่วัดโพธิ์ (อาจบรรยายชื่อสถานที่ผิดพลาดก็ขออภัยด้วยเจ้าค่ะ)
:::
:::
กระเบื้องกลมๆเรียงกันเป็นดอกไม้
:::
=(^^)=
:::
แมวตัวนี้จู่ๆก็เดินออกมานั่งแหมะให้ถ่ายรูปง่ายๆ
:::
ที่มิวเซียมสยาม
:::
ที่ห้องจัดแสดง มีแบบจำลองชีวิตชาวนาข้าพเจ้าสะดุดตากับ"เฉลว"ที่ใช้ปักในนาข้าว
ต้องย้อนความทรงจำไปเมื่อยังเด็กๆ น้องสาวรับนิตยสาร"สวนเด็ก" มีช่วงนึงเป็นเรื่องเกี่ยวกับ"ข้าว" มีตัวละคร กะทิ หรือ ทิ ทุ้ย ซึ่งเป็นพี่น้องกันเป็นตัวเดินเรื่อง ข้าพเจ้าคลับคล้ายคลับคลาว่าโมเดลที่เห็นนั้นต้องมี"เฉลว" อยู่ด้วนแน่ๆ และก็ใช่จริงๆ
จึงไปค้นข้อมูลมาดู
เฉลว คือเครื่องทำด้วยตอก หักขัดกันเป็นมุม ตั้งแต่ห้ามุมขึ้นไป (ลักษณะเป็นตาชะลอม) เช่นเดียวกับเฉลวปักหม้อยาต้มสมัยโบราณ เป็นสิ่งที่ใช้ประกอบ พิธีทำขวัญข้าว แต่เฉลวของชาวนาตามประเพณีดังกล่าวเป็นเฉลวขนาดใหญ่ กว้างประมาณ 20 นิ้ว
เฉลว ที่ใช้ไม้ไผ่สานจักเป็นตอกเส้นบาง ๆ สานตาเหลี่ยมหรือตาชะลอม มัดไว้กับไม้ไผ่ปักให้แน่นในแปลงดำนา หมายถึงการปัดรังควานสิ่งชั่วร้ายที่จะทำให้ข้าวไม่งอกงาม รวมทั้งเป็นเครื่องหมายที่ทำให้เจ้าของนาเป้นศิริมงคลในการประกอบอาชีพสืบสานตำนานนาต่อไปอย่างไม่รู้สิ้นรู้จบ
อุปกรณ์ในการทำเฉลว ได้แก่ ตอกสำหรับสานเฉลว ยอดไม้ไผ่หรือทางระกำยาวประมาณ 2 เมตร ตัดกิ่งหรือใบออกไป เกลาให้สวยเหลือใบตอนยอดไว้เล็กน้อย หนึ่งในสามของยอดไม้นี้ผูกติดกับเฉลว สำหรับเอาไปปักในนาข้าว หมากพลูหนึ่งคำ ข้าวกระยาสารท ดินเหนียว เมี่ยง มะขาม กล้วย อ้อย ส้ม ขมิ้น ดินสอพอง แป้ง ด้ายยาวสามเส้น รัดต้นข้าวสามกอ และเงินไม่จำกัดจำนวน
กำหนดเวลาปักเฉลวกระทำเมื่อถึงเดือนสิบสิ้น เป็นวันสารท ชาวบ้านจะทำกระยาสารทนำไปทำบุญที่วัด และเลี้ยงลูกหลาน ถึงเดือนสิบเอ็ดกลางเดือน จะช่วงที่ชาวนาจะปักเฉลว และต้องนำไปปักในวันศุกร์ที่นาแปลงใดแปลงหนึ่งของตน
เมื่อสานเฉลวและผูกไม้สำหรับปักเรียบร้อยแล้ว จะต้องห่อข้าวกระยาสารท และของกินสำหรับคนแพ้ท้องหรือเริ่มตั้งครรภ์ เช่น ดินเหนียว เมี่ยง มะขาม หรือส้ม กล้วย อ้อย เป็นต้น นำไปผูกติดกับเฉลวด้วย และจะต้องมีขมิ้น ดินสอพอง แป้ง ซึ่งเป็นเครื่องทาตัวสำหรับเด็ก มีความหมายว่า ในช่วงระยะนี้ข้าวในนากำลังแตกกองาม และจะเริ่มตั้งท้องแล้วต่อไปก็จะให้ลูก ให้รวงข้าวเป็นสิ่งสำคัญสำหรับชีวิตมนุษย์ เป็นพระคุณของแม่โพสพ จึงจำเป็นต้องบูชาระลึกถึง ประหนึ่งในเดือนสิบ เดือนสิบเอ็ดนี้ แพ้ท้องเพราะข้าวเริ่มท้อง จึงเตรียมของสำหรับคนมีท้องมาไว้ให้ด้วย ส่วนเครื่องสำหรับเด็กนั้น เตรียมมาให้ไว้เมื่อคลอดลูกแล้ว จะได้ใช้บำรุงเลี้ยงลูกให้อุดมสมบูรณ์ ซึ่งหมายความว่าให้ข้าวในนาออกรวงได้อุดมสมบูรณ์ ชาวนาจะได้ข้าวมาก ๆ มิใช่ว่าข้าวออกมาแท้งหรือเป็นโรคมีข้าวลีบมาก ซึ่งชาวนาไม่ปรารถนา ส่วนด้ายขาวสามเส้นนั้นนำไปรัดต้นข้าวสามกอที่ริมโคลนหลักเฉลว สำหรับเครื่องเซ่น จะถูกทิ้งไว้ที่ที่นาเลย ไม่เก็บกลับบ้าน
คำกล่าวในการปักเฉลว แม่โพศรีแม่โพสพ แม่นพดารา แม่จันทร์นารี แม่ศรีสุชาดา มาเถิดนะแม่นา มาเถิดนะแม่นา ขวัญเอย ขวัญเอ่ย
------------------------------------------------------------------------------
ข้อมูลจาก
//www.panyathai.or.th/wiki/index.php/%E0%B9%80%E0%B8%89%E0%B8%A5%E0%B8%A7
:::
ถ่ายเงาเล่น
:::
สะพานพระราม ๘ ยามพลบค่ำ ถ่ายด้วยขาตั้งทูแฮนด์
:::
---------------------------------------------------------------------------- ถ่ายภาพ วาฬอันดามัน
ผู้ร่วมทาง เกด จี ปุ๋ม
เมื่อ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๓
Create Date : 19 ธันวาคม 2553 |
|
5 comments |
Last Update : 19 ธันวาคม 2553 17:25:18 น. |
Counter : 1778 Pageviews. |
|
|
|
สวยดีนะคะ สะพานพระราม 8