::: นอนบ้านคืนนี้ ๓ (บ้านของฉัน) :::
ห่างหายจากการเขียนบล๊อกไปซะนาน
นั่นก็หมายความว่าไม่ค่อยได้ถ่ายรูปซักเท่าไหร่
ถ้าเอาความหมายจริงๆคือ รูปได้ถ่ายอยู่แต่ไม่ถูกใจ
ไม่กระตือรือล้นเหมือนเมื่อก่อน
เมื่อวิเคราะห์(ใช้คำนี้ดูเป็นทางการชะมัด)ดูแล้วอาการไร้อารมณ์ถ่ายรูปของตัวเองเกิดจาก
๑. ต้องรับผิดชอบงานมากขึ้น
๒. หายเศร้าไปแล้ว อันนี้อธิบายได้จากตัวหนังสือที่ว่า "ความเศร้าเป็นเครื่องหล่อเลี้ยงศิลปิน" (ไม่ได้หมายความว่าเปาเป็นศิลปินนะ) คือ เวลาที่เศร้าๆนี่อารมณ์อยากวาดรูป ระบายสี ถ่ายรูป ทำโน่นนี่จุกจิกมันผุดมาจากไหนไม่รู้ นัยว่าเป็นการระบายความเครียดทางอ้อม เพราะเวลาที่ทำงานอดิเรกพวกนี้ตัวเองจะหลุดไปอยู่อีกโลกนึงที่ไม่รับรู้อะไรเลย (แม้ว่าจะเป็นช่วงเสี้ยววินาทีที่กดชัตเตอร์ )
บล็อกนี้ให้ชื่อว่า "บ้านของฉัน" เนื่องจากมีความเศร้าที่ไม่เรียกว่าเศร้านั่นก็คือ บ้านหลังนี้ (ที่กระบี่) ต้องถูกรื้อ เป็นความเศร้าที่เรียกว่าความผูกพัน แต่เราไม่ไปยึดติดกับมันเลยไม่เศร้า เมื่อถึงเวลาต้องย้ายก็ต้องย้ายอะนะ
ยี่สิบกว่าปีของบ้านหลังนี้ ยังจำภาพวันเเรกที่เข้ามาอยู่ได้ จำช่วงชีวิตวัยเด็กที่เติบโตที่บ้านนี้
หม่าม๊าทำปลาให้กินเกือบทุกวัน ไก่ทอด ขนมห่อ ๕ บาทนี่ไม่ค่อยได้แตะเลย ท่านไม่ค่อยให้กิน... ปลาอินทรีย์ทอดซีอิ๊วชิ้นนี้เสิร์ฟพร้อมประโยคของ ป๊า ม๊า "กินเยอะๆนานๆได้กินที กรุงเทพฯหากินยาก ปลากินแล้วดี"
บ้านที่มีคนปลูกต้นไม้ ๒ คน ส่งผลให้ลูกในบ้านรักต้นไม้ไปด้วย
นอกเหนือจากดอกไม้บูชาพระนานๆจะมีดอกไม้ที่จะมาประดับบ้าน พอประเมินความคุ้มค่าม๊าจึงเลือกดอกไม้นี้ (ลืมชื่อแล้วอะ) เพราะสวยและทนนั่นเอง
กลัวว่าสีม่วงจะน้อยใจ
ตกกลางคืนดอกต้นไม้ในภาพที่ ๒ ก็บาน บ้านนี้มีเรื่องน่าตื่นเต้นให้ลุ้นเสมอๆ
ช่วงตอนอยู่อนุบาลหลังเลิกเรียนเป็นเวลาที่ตื่นเต้นเพราะกลับมาบ้านทีไรก็มีของใหม่ๆเกือบทุกวัน อันที่จำได้คือชิงช้าที่ม๊าทำไว้ให้ใต้บันได
ประทับใจตรงที่ตอนชั่วโมงศิลปะครูให้วาดภาพบ้าน ส่วนใหญ่ก็จะเป็นภาพบ้านที่มีหลังคาจั่วกับบ้านสี่เหลี่ยม หน้าต่าง ประตู ดอกไม้สักดอก
แต่เปาดันวาดเป็นในตัวบ้านที่มีบันไดขึ้นชั้นสอง กับชิงช้าที่ม๊าทำให้ ครัวอยู่ที่หลังบ้านโต๊ะกินข้าว วาดเป็นแปลนบ้านซะงั้นพอเอาไปส่งครูนี่กลัวครูว่าอะ เพราะไม่เหมือนของเพื่อนๆ แต่ท่านก็ไม่ว่าอะไร ดันไปอธิบายให้ครูฟังด้วยว่าตรงนั้นคืออะไร นี่คืแฃออะไร แล้วย้ำว่าบ้านหนูเป็นแบบนี้มีชิงช้าใต้บันไดนะ เด็กป.๑ นี่ร้ายเนอะ
เมนูที่ชำนาญคือไข่เจียว กินไข่เจียวทุกวันเลย จนใครๆเรียกว่าไอ้ไข่ วันนั้นป๊าอยากกินไข่ดาว
ไข่ดาวใบนี้น่าจะกรอบฟูที่สุดที่เคยทอดมา แอบดีใจด้วยหละ ๕๕๕
ยามเช้าที่สามารถเห็นได้จากห้องนอน (ภาพนี้เดินออกไปถ่ายนะ)
นึกถึงพี่เลี้ยงที่ชื่อพี่พิม พี่เค้ามีส่วนทำให้เป็นคนรักการอ่าน พี่พิมเอาหนังสือกลุสตรี ขวัญเรือน เปิดหน้านิทานให้อ่านเอง (ตอนนั้น ป.๑อ่านหนังสือได้แล้ว) จากนั้นกลายเป็นไปหาอ่านจากเล่มเก่าๆที่อยู่ในลังซะเกลี้ยงเลย ชอบดูรูปประกอบด้วยแหละ
อีกเรื่องที่ได้จากพี่พิม พี่พิมสอนให้ตื่นเช้าๆเอาหนังสือมาอ่านจะได้เรียนเก่งๆ ไอ้เราก็เชื่อทำตามซะงั้น หลังๆพัฒนาเป็นโดเรมอนแทน ฮาๆ
ละเเวกบ้าน อยู่บ้านห้องแถวมาตั้งแต่เกิด ชินกับชีวิตแบบนี้ เคยไปอยู่บ้านเดี่ยวไม่กี่วันมันแปลกๆพิลึก
แน่นอนมอร์นิ่งวอร์ค ณ อีกฟากของถนนเริ่มขึ้นแล้ว หนนี้เสน่ห์แรงเนื่องจากมีแมวตามตั้ง ๒ ตัว
ตัวเเรก เดินๆอยู่ก็มานัวเนียที่ขา พอไปเกาคางให้เสร็จจะเดินต่อมันก็วิ่งตามมาอีก อีกตัวก็เจ้าดำในรูป กำลังจะเล็งดอกหางนกยูงเจ้านี่ก็ปรี่มาจากไหนไม่รู้ มานัวเนียใกล้ๆ ที่เห็นภาพเบลอ เพราะใส่โคลสอัพฟิลเตอร์อยู่หล่ะ พอยกกล้องจะถ่ายรูปมันก็มาแง้วๆตรงหน้า
โฉมหน้าเจ้าดำนัวเนีย
เริ่มต้นของวันที่เห็นจนชินตา
คราบจั๊กจั่นที่โคนต้นสน เกิดมาก็เห็นต้นสนพวกนี้แล้ว
ชบาเเจ๊ดแจ๋เมื่อสงกรานต์ปีก่อน
ลองซูมเกสร
อีกแนว
ลองเปลี่ยนสีฉากหลัง
ดอกหญ้า
ชอบต้นหญ้าเล็กๆอะนะ
ดอกหญ้า
ถ้าเป็นคนตัวเล็กๆไปเดินในดงดอกหญ้าคงดีนะ
เป็น อาเปาในดงหญ้า
หมดเวลาเดินเล่นแล้ว
สถานที่ ::: บ้านกระบี่ วันหยุดสงกรานต์ ๒๕๕๓
เก็บภาพ ::: วาฬอันดามัน เพ็นแท๊กซ์ เคสิบ ดี + โคลสอัพฟิลเตอร์
Create Date : 19 พฤษภาคม 2553 |
|
10 comments |
Last Update : 19 พฤษภาคม 2553 0:27:08 น. |
Counter : 1688 Pageviews. |
|
|
|
แต่กลับมาทีไร
ก็มาพร้อมกับภาพสวย ๆ
และเรื่องราวดี ๆ ทุกทีไป