สวัสดี ...วันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓
"เนื้อกายต้องบำรุงเพื่อใช้...เนื้อใจต้องรักษาเพื่อสุข..." (สุข...ในที่นี้คือ สุขแบบไม่รู้สึก ไม่มีคำอธิบาย ยิ้ม..ยิ้ม..)
ในความธรรมดา เนื้อของกาย ต้องอาศัยอาหารในการทานเข้าไปในกาย ซึ่งอาหาร ของกายจับต้องได้ เห็นได้ด้วยตาเปล่า...ซึ่งแตกต่างจากอาหาร เนื้อของใจ สำหรับ เนื้อของใจ อาหารประเภทนี้ไม่มีรูปทรง วงกลม สี่เหลี่ยม... พูดแบบโวหารก็คือ อาหารของใจ ไร้ซึ่งรูปทรงแต่สุข...เมื่อรับแล้ว เช่น ธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า การทำบุญของเราเอง การซื้อสิ่งของให้บิดา มารดา การจอดรถให้คนข้ามถนน การถามทุกข์-สุข เพื่อน ๆ ร่วมงาน (แบบจริงใจ)... แม้แต่กระทั่งยิ้ม ๆ ให้กันกับเพื่อนร่วมงาน ร่วมเดินทาง...ล้วนแต่เป็น อาหารของใจ
วันพระ...วันมาฆบูชานี้ อยากสนทนากันเรื่อง การให้อาหารของใจ เธอ...เธอ ทั้งหลายให้อาหารของใจอย่างง่าย คือ ๑. ทาน ๒. ศีล ๓. สมาธิ ทาน คือ การให้ทั้งหลาย ทั้งปวง เช่น การทำบุญตักบาตร การให้อภัย
ศึล คือ น้อมกาย วาจา ใจ ให้ปกติ เป็นกลาง ๆ เช่น ไม่ทุกข์ ไม่สุข เฉย ๆ สมาธิ คือ สงบจากการปรุ่งแต่งทั้งหลาย ทั้งปวง
ฉะนั้น วันพระ และเป็นวันมาฆบูชานี้ขอให้เธอทั้งหลายให้ อาหารของใจ ในวันพระนี้ หรือวันใด ๆ ตามแต่เธอสะดวก ข้อปฏิบัติดังนี้ ๑.อาหารไร้รูปทรงแต่สุข : ทำบุญตักบาตร ให้อภัย หรืออื่น ๆ ตามที่เธอสะดวก ๒.รักษาศีล : รักษากาย วาจา ใจ ให้เคร่งครัดไม่ให้เกิดสุข หรือทุกข์ใด ๆ ๓.สมาธิ : นั่งสมาธินิ่ง ๆ สักครู่ หรือเดินจงกลมอย่างมีสติ
นี่แหล่ะ อาหารของใจ ไร้ซึ่งรูปทรงแต่สุข...
|