สวัสดี วันนี้...วันพระขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๘
ยามบ่าย...ด้วยความอิ่มเอมทางกาย จากอาหารทางกาย พากายแข็งแรง... เพียงแค่ชั่วคราวเท่านั้น แต่ว่า...ความอิ่มเอมทางใจ จากอาหารทางใจ ก็พาใจแข็งแรงเนิ่นนานกว่าสภาพกายแข็งแรงเฉกเช่น อาหารทางกาย ถือวัตถุดิบมาเข้ากระบวนการผลิต... ใช้เวลาในการบริโภค เช้า กลางวัน และ เย็น ส่วนอาหารทางใจ วาง...ปล่อยวางในสิ่งที่ไม่สามารถบังคับควบคุมได้ ตามสภาวะของธรรมชาติที่เกิดขึ้น ทำความสงบ ยอมรับตามสภาวะที่เป็นจริง... เมื่อใด...ยอมรับ เมื่อนั้น...ย่อมรู้สุขดอกไม้หน้าบ้านกำลังบาน ผมไม่อยากให้มันโรยรา...แต่เวลามันก็นำพา สุดท้ายก็โรยราล่วงหล่นไปสิ่งที่ผมทำได้ก็คือ เฝ้ามองและยอมรับมัน... นี่คือ สภาวะธรรม...ธรรมชาติอย่างหนึ่ง เราจะเห็นได้ว่า อาหารทางกาย อาศัยวัตถุดิบปรุงแต่ง จึงเป็นเพียง แค่ชั่วคราว ต้องหมั่นเติมเพื่อบำรุง... แต่อาหารทางใจ ไม่ต้องอาศัยวัตถุดิบ ไม่ต้องการสิ่งปรุงแต่ง เพียงแต่ต้องการความสงบ...พุ่งลงตรงที่ใจ... แค่นี้ใจก็แข็งแรงเนิ่นนาน ไม่ว่าอะไรๆ จะมากระทบทางใจ มันจะสงบ มีสติในการแก้ไข แก้ปัญหาทุกอย่าง ถ้าใจเขาแข็งแรงแล้ว เขาไม่เคยกลัวทุกข์ ไม่รังเกียจสุข เขาเป็นกลางๆ ทุกข์เขาก็ไม่มากไป สุขก็ไม่มากไปแต่ถึงอย่างไรแล้ว...กาย กับ ใจ เขาก็เป็นดั่งกันและกันเสมอ...เสมอ...ยามใด...ที่กายป่วย ใจก็เจ็บ ท้อแท้ หดหู่ ดูไม่ดีเลย... เมื่อใจยิ่งเจ็บ กายก็ยิ่งป่วย หมอช่วยยาก ยามใด...ที่กายป่วย แต่ใจไม่เจ็บ ไม่ท้อแท้ ไม่หดหู่ กายดูดีขึ้นมา...วันนี้...วันพระความสงบ สุขทางใจ...ส่งผลให้ร่างกายก็แข็งแรง