จุดไฮไลท์ของกรุงโคเปนเฮเกนเลยค่ะ
อากาศวันนี้ร้อนมากแดดแรงด้วยค่ะ หลังจากซื้อตั๋วเรือที่จะพาชมรอบเกาะก็นั่งรอชมนกชมไม้ ดูผู้คนไปมาก็เพลินไปอีกแบบน่ะค่ะ ท่าเรือเนฮัม (Nyhavn)สีสันของอาคารรอบๆสดใสตัดกับสีฟ้าของท้องฟ้าดูแล้วเพลินตามากๆเลยค่ะ

เนฮัม (Nyhavn) ท่าเรือโบราณกับบ้านเลขที่ 67 ของคริสเตียน แอนเดอร์สัน Nyhavn (เนฮัม) สร้างขึ้นโดยกษัตริย์คริสเตียนที่ 5 (King Christian V) แห่งเดนมาร์กจากปี ค.ศ. 1670-1673 ซึ่งแรงงานที่ใช้ในการก่อสร้างก็คือเชลยศึกชาวสวีเดน ถูกควบคุมมาจากสงคราม Dano-Swedish ในปี ค.ศ. 1658-1660 เนฮัมเป็นท่าเรือใกล้เมือง เปรียบเสมือนประตูให้เรือบรรทุกสินค้าและเรือเดินสมุทรจากทะเลผ่านเข้ามาสู่ใจกลางเมือง นอกจากนั้นที่นี่ก็เป็นแหล่งขึ้นชื่อเรื่องเบียร์ และการค้าประเวณีอีกด้วย นักเขียนชื่อดังของเดนมาร์กขวัญใจเด็กๆ อย่างคริสเตียน แอนเดอร์สัน (Hans Christian Andersen) ผู้ประพันธ์เรื่องเดอะลิตเติ้ลเมอร์เมต (The Little Mermaid) ยังได้มาใช้ชีวิตอยู่ที่เนฮัมแห่งนี้เป็นเวลาถึง 18 ปีเลยทีเดียว

สะพานข้ามคลองแห่งแรกที่เนฮัมเปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1875 ซึ่งสะพานแห่งแรกนี้เป็นสะพานไม้ มันถูกใช้งานเรื่อยมาจนกระทั่งปี ค.ศ. 1912 สะพานแห่งนี้จึงถูกแทนที่ด้วยสะพานที่ใช้งานอยู่ในปัจจุบัน เมื่อการเดินเรือสมุทรมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นท่าเรือแห่งนี้จึงได้ถูกครอบครองโดยการเดินเรือขนส่งภายในประเทศเดนมาร์ก แต่หลังสงครามโลกครั้งที่สองการเดินทางและขนส่งทางบกเข้ามามีบทบาทสำคัญ แทนที่การเดินเรือและขนส่งทางน้ำ ทำให้เนฮัมแห่งนี้ถูกทิ้งให้รกร้องว่างเปล่าไปโดยปริยาย

ในปี ค.ศ. 1977 เนฮัมได้รับการพัฒนาให้เป็นพิพิธภัณฑ์ท่าเรือ และทำพิธีเปิดโดยท่านนายกเทศมนตรีเมืองโคเปนเฮเกน (Egon Holde Weidekamp) ซึ่งหลังจากนั้นมาท่าเรือแห่งนี้ก็ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวทั้งในท้องถิ่นเอง และจากนักท่องเที่ยวต่างถิ่นเป็นจำนวนมาก บริเวณท่าเรือสิ่งที่น่าสนใจมากสำหรับเราก็คืออาคารสีสันสดใสที่ก่อสร้างเรียงรายกันอยู่ริมท่าเรือ ซึ่งบ้านหลังเก่าแก่ที่สุดคือบ้านเลขที่ 9 สร้างขึ้นตั้งแต่ปี ค.ศ. 1681 ส่วนคริสเตียน แอนเดอร์สัน (Hans Christian Andersen) นั้นอาศัยอยู่ในบ้านเลขที่ 67 ในช่วงปี ค.ศ. 1845-1964

หลังจากเดินเล่นรอบสองฝั่งคลอง เราก็เดินข้ามสะพานไปยังอีกฝั่งหนึ่งซึ่งเป็นศูนย์วัฒนธรรม (Cultural Centre) ซึ่งขณะข้ามสะพานยังมีโอกาสได้เห็นความทันสมัยของสะพานแห่งนี้ คือเมื่อมีเรือที่ไม่สามารถลอดผ่านใต้สะพานเพราะมีความสูงมากกว่าตัวสะพาน บริเวณกลางสะพานก็จะเปิดออกโดยตัวสะพานจะเลื่อนเข้าไปทั้งฝั่งซ้ายและฝั่งขวา ทำให้เรือแล่นผ่านสะพานไปได้โดยใช้เวลาเปิดและปิดไม่นาน (ยอมรับว่าตื่นเต้นเพราะพึ่งเคยเห็นครั้งแรก)

พอข้ามฝั่งไปยังไม่ทันได้เดินดูอะไรมากก็ต้องรีบข้ามกลับมายังเนฮัมเพื่อเตรียมตัวนั่งเรือเที่ยวรอบเกาะโคเปนเฮเกน ซึ่งการนั่งเรื่อเที่ยวรอบเกาะครั้งนี้ก็น่าประทับใจมากเช่นกัน (เรียบเรียงโดยคุณ ต๊อก ปติมา ผู้ร่วมทริป)