พระราชวังยอดนิยมที่สุดในโลก พระบรมมหาราชวังติดอันดับ 3
เปิดอันดับพระราชวัง พิพิธภัณฑ์ และปราสาท ที่มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ ถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 10 ของปราสาทและพระราชวังที่สวยที่สุดในโลก โดยการจัดอันดับของเว็บไซต์ซีเอ็นเอ็นในหัวข้อ World's most visited palaces and castles โดยใน 10 อันดับนี้พบว่า พระบรมมหาราชวังของไทย ติดอันดับ 3 มาอย่างสมน้ำสมเนื้อ
เมื่อวันที่ 30 มีนาคม 2558 สำนักข่าวซีเอ็นเอ็น เปิดเผยอันดับพระราชวัง พิพิธภัณฑ์ และปราสาทที่มีนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมมากที่สุดในโลก พบพระราชวังที่ครองแชมป์คือพระราชวังต้องห้าม ในกรุงปักกิ่งของจีน ที่มีนักท่องเที่ยวปีละราว 15.3 ล้านคนเลยทีเดียว ส่วนพระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร นั้น อยู่อันดับที่ 3 ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวปีละราว 8 ล้านคน ขณะที่ทั้ง 10 อันดับ พระราชวังและปราสาทยอดนิยมที่มีนักท่องเที่ยวไปเยือนมากที่สุด ได้แก่
1. พระราชวังต้องห้าม กรุงปักกิ่ง, จีน (15,340,000 คนต่อปี)

2. พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ กรุงปารีส, ฝรั่งเศส (9,334,0000 คนต่อปี)

3 พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพฯ, ไทย (8,000,000 คนต่อปี)

1. พระบรมมหาราชวัง วังแห่งราชวงศ์จักรี
ในอดีตพระบรมมหาราชวังเป็นที่ประทับของพระมหากษัตริย์ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อครั้งสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ แต่เดิมมีเพียง พระมหาปราสาท พระราชมณเฑียรสถาน และวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ต่อมาในสมัยรัชกาลที่ 4 และรัชกาลที่ 5 เริ่มรับอิทธิพลจากตะวันตก เราจึงได้เห็นสถาปัตยกรรมแบบตะวันตกผสมผสานอยู่ด้วย
2. มีวัดอยู่ในเขตพระราชฐาน
ที่นี่มีวัดพระศรีรัตนศาสดารามอยู่ในบริเวณวังเหมือนกับวัดพระศรีสรรเพชญ์ในสมัยกรุงศรีอยุธยา ปัจจุบันแบ่งพื้นที่ออกเป็นบริเวณวัดพระศรีรัตนศาสดาราม และเขตพระราชฐาน อันเป็นพื้นที่สำหรับเป็นที่ประทับและบริหารราชการแผ่นดินของพระมหากษัตริย์ โดยเขตพระราชฐานสามารถแบ่งออกเป็นเขตพระราชฐานชั้นนอก เขตพระราชฐานชั้นกลาง และเขตพระราชฐานชั้นใน แสงสียามค่ำคืนพระบรมมหาราชวัง 3. มีพระที่นั่งสวยงามมากมาย
ภายในมีหมู่พระที่นั่งที่สำคัญและน่าสนใจ ดังนี้ คือ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เดิมชื่อพระที่นั่งอินทราภิเษกมหาปราสาท เป็นพระมหาปราสาทองค์แรกที่สร้างขึ้นในพระราชวัง เป็นที่ประดิษฐานพระบรมศพพระมหากษัตริย์ สมเด็จพระอัครมเหสี และพระบรมวงศานุวงศ์ และที่ประกอบพระราชพิธีสำคัญ เช่น พระราชพิธีการมงคลและบำเพ็ญพระราชกุศลต่างๆ
ต่อมาคือ พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาท ใช้เป็นที่ประทับทรงพระราชพาหนะ และประทับเปลื้องเครื่องในงานพระราชพิธีที่มีขบวนแห่ พระที่นั่งพิมานรัตยา สร้างเมื่อ พ.ศ. 2332 ในสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เป็นที่บรรทม และทรงใช้เป็นที่ชุมนุมมหาสมาคมสำหรับพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชบริพารฝ่ายใน เพื่อเข้ารับพระราชทานเครื่องอิสริยยศ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ และยังเป็นที่สรงน้ำพระบรมศพพระบรมวงศานุวงศ์ก่อนที่จะประดิษฐานพระบรมโกศในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท
ถัดมาคือ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สร้างในสมัยรัชกาลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อ พ.ศ. 2419 ใช้เป็นที่รับรองพระราชอาคันตุกะชั้นพระราชาธิบดี หรือชั้นประมุขของรัฐ นอกจากนี้ยังมีหมู่พระที่นั่งสำคัญอื่นๆ เช่น พระที่นั่งราชกรัณยสภา พระที่นั่งมูลสถานบรมอาสน์ พระที่นั่งบรมราชสถิตยมโหฬาร พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน พระที่นั่งไพศาลทักษิณ เป็นต้น มุมสวยๆ อีกมุม
4. วัดที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในไทยอยู่ที่นี่
ตรงมุมด้านตะวันออกเฉียงเหนือของพระบรมมหาราชวังเป็นที่ประดิษฐาน วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือ วัดพระแก้ว พระอารามใช้เป็นที่ประกอบพระราชพิธีทางศาสนาที่สำคัญ สร้างแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2327 และได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์มาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 1-9 ตลอดทุกรัชกาล ภายในพระอุโบสถ และระเบียงรอบวัดมีภาพจิตรกรรมฝาผนังสวยงามมาก เป็นที่ประดิษฐานพระมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) พระคู่บ้านคู่เมืองของไทย
ที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่เวลา 08.3016.00 น.

4. พระราชวังแวร์ซายส์ กรุงปารีส, ฝรั่งเศส (7,527,122 คนต่อปี)

ภาพจาก travelcaffeine.
5. พระราชวังทอปกาปึ เมืองอิสตันบูล, ตุรกี (3,335,000 คนต่อปี)

6. พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจและพระราชวังฤดูหนาว นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก, รัสเซีย (3,120,170 คนต่อปี)

7. หอคอยแห่งลอนดอน กรุงลอนดอน, สหราชอาณาจักร (2,894,698 คนต่อป๊)

8. พระราชวังเชินบรุนน์ กรุงเวียนนา, ออสเตรีย (2,870,000 คนต่อปี)

9. อฮัมบรา เอล เจเนราไลฟ์ เมืองกรานาดา, สเปน (2,315,017 คนต่อปี)

10. ปราสาทชูริ โอกินาว่า, ญี่ปุ่น (1,753,000 คนต่อปี)

//travel.kapook.com/view116144.html
//www.thairath.co.th/content/490659
https://www.facebook.com/media/set/?set=a.337303476459686.1073742085.187529244770444&type=1&pnref=story
แชร์สนั่น! เมื่อจีนลงข่าวนี้เกี่ยวกับไทย ประเทศไทยเป็นประเทศที่โชคดีที่สุดในโลก เหตุผลที่ประเทศไทย เป็นสยามเมืองยิ้ม มีดังต่อไปนี้
1. ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางครัวโลก ไม่ต้องกลัวอดตาย มีอาหารกินตลอดเวลา และส่งออกไปทั่วโลก
2. ประเทศไทยมีทรัพยากรธรรมชาติที่สมบูรณ์มาก มีป่าไม้ ภูเขา ทะเล ทองคำ จนได้ชื่อว่าดินแดนสุวรรณภูมิ
3. ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในเขตแผ่นดินไหวโดยตรง แนวแผ่นดินไหวอ้อมประเทศไทยทั้งประเทศ ในขณะที่เกือบทั้งโลกอยู่ในเขตแผ่นดินไหวรุนแรง
4. ประเทศไทยไม่ได้อยู่ในเขตพายุรุนแรง นานๆ จะเจอสักครั้ง เพราะพายุไต้ฝุ่นส่วนใหญ่เกิดในทะเลจีนใต้ บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ มาถล่มหนักเวียดนาม ลาว เขมรและอ่อนตัวลง กลายเป็นพายุธรรมดาเมื่อเข้าประเทศไทย
5. ประเทศไทยไม่เคยตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวันตก ในขณะที่ทุกประเทศในอาเซียนตกเป็นอาณานิคม
6. ประเทศไทยไม่ได้เป็นผู้พ่ายแพ้ในเหตุการณ์สงครามโลกครั้งที่ 1 และ 2
7. คนทุกชนชาติ และทุกศาสนาในประเทศไทยมีสิทธิ เสรีภาพ มากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก
8. ประเทศไทย มีพระมหากษัตริย์ที่ทรงงานหนัก เพื่อพสกนิกรชาวไทย ตลอดระยะเวลาที่ทรงครองราชย์ ทรงมีโครงการในพระราชดำริกว่า 3,000 โครงการ โครงการส่วนพระองค์ส่วนจิตรลดาทรงก่อตั้งมูลนิธิต่างๆมากมาย เช่น มูลนิธิราชประชานุเคราะห์ มูลนิธิพระดาบส มูลนิธิชัยพัฒนา เป็นต้น ทรงอุปถัมถ์พระศาสนา ภาษาไทย วัฒนธรรม ประเพณี พระราชพิธี งานช่างหลวง การศึกษา การแพทย์ การคมนาคม การอนุรักษ์ดินและน้ำ ทรัพยากรป่าไม้ ป่าชายเลน เกษตรทฤษฎีใหม่ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ฯลฯ
9. พระพุทธศาสนา เจริญที่สุดในโลกในประเทศไทย เพราะประเทศไทยมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นเอกอัครศาสนูปถัมภกและทรงเป็นพุทธมามกะ
และนี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวดีๆ ที่คิดว่าอ่านแล้วก็จริงอย่างที่เขาว่า ว่าประเทศไทยนั้นเป็นประเทศที่โชคดีที่สุดในโลกประเทศหนึ่ง ฉะนั้น ก็อยากให้คนไทยทุกคนรักกันไว้นะคะ เพราะประเทศอื่นที่จับตามองประเทศเราอยู่นั้น เขามีความอิจฉาในความโชคดีของประเทศเราแน่นอนค่ะ! อิอิ ข้อมูลจาก: ดูเพิ่มเติม ==> //nisit.co/Wvfh
Create Date : 07 เมษายน 2558 |
Last Update : 5 พฤษภาคม 2558 18:38:28 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2227 Pageviews. |
 |
|
|
|
|