|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
คนของความสุข(คลิป)
ดูรายการ "แผ่นดินไท"ช่อง ทีวีไทย เอามาฉายอีกรอบส่งท้ายตอนสุดท้ายของรายการ แล้วชื่นชมลุงนิลและวิถีชีวิต เผื่อเพื่อนๆใครมาชมจะได้หันมารักการปลูกต้นไม้หรือทำเป็นอาชีพอยู่ดีกินดีมีความสุข ดังเช่นลุงนิล
ความพยายามทำเกษตรกรรมด้วยหลักเศรษฐกินพอเพียงตามพระราชดำรัสในหลวง จนพ้นจากความทุกข์จากหนี้สินเกือบล้านแล้วมาพบความสุขที่เต็มเปี่ยม
ตอนที่ลุงกลุ้มใจเรื่องหนี้จนท้อแท้ในชีวิต บังเอิญเปิดทีวีมาเจอ วันนั้น คืนวันที่ 4 ธ.ค. 2540 เปิดทีวีได้ฟังดูพระราชดำรัสวันเฉลิมเกี่ยวกับการกู้เงินพอดี และเศรษฐกิจพอเพียง ตื้นตันใจจนน้ำตาไหลไม่รู้ตัว ตั้งแต่นั้น....ลุงจึงตั้งใจว่า จะอยู่อย่างเศษฐกิจพอเพียง บันทึกไว้ในสมองฝังไว้ในใจว่าจะเดินตามรอยเท้าพ่อ
จากเคยเป็นหนี้สินจากเกษตรเชิงเดี่ยว(ปลูกทุเรียนชนิดเดียว) หันมาทำสวนผสมผสาน ทั้งผืนน้ำพื้นดิน ตลอดจนยอมไม้สูง ใช้ประโยชน์ให้เต็มที่ ทั้งแจก แลก แบ่งปัน ขายเป็นรายได้ รายวัน รายอาทิตย์ รายปี ราคาผลผลิตบางชนิดตกก็ไม่กระทบ ก็ขายอย่างอื่นที่ได้ราคาดีไปก่อน
ไม่จำเป็นต้องมีเงินเยอะ ค่อยๆทำทีละนิดละหน่อยก็ปลดหนี้ได้
ภายในเนื้อที่17ไร่กว่า ได้แบ่งเป็นชั้นลุงนิลเรียกว่าสวนคอนโด9ชั้น สวนปลูกเลียนแบบป่าดงดิบ
ชั้นที่1 อยู่ในน้ำ ขุดสระเอาน้ำไปรดทุเรียน เลี้ยงปลา ปลูกพืชน้ำ ปลูกบัวถวายราชินี
ชั้นที่2 อยู่ใต้ดิน พืชหัว เช่น กะชาย ข่า มัน เก็บขายเป็นรายได้เป็นอาทิตย์ กระชาย200กล.กิโลละ12บาท ตกอาทิตย์ละ5พัน
ชั้นที่3 ยอดเหลียง สมุนไพร พริกขี้หนู
ชั้นที่4 ส้มจี๊ดพันกว่าต้น เก็บขายทุกวัน เฉลี่ยได้วันละ 2 พัน
ชั้นที่5 กล้วยเล็บมือนาง ตัดเป็นอาทิตย์ราคา 5-6 บาท ประมาณ 5-6 พันบาท/อาทิตย์
ชั้นที่6 ทุเรียน
ชั้นที่7 พริกไทย ปลูกไต่รอบต้นทุเรียนทุกต้นตอนแรกทดลองปลูกต้นเดียวเก็บได้ 80กล.ในระยะ4ปี เก็บพริกไทยสดเป็นรายได้รายวัน พอแก่เอามาตากทำเป็นพริกไทยแห้ง ได้3แสนบาท/ปี
ชั้นที่8 ธนาคารต้นไม้ ไม้ยืนต้น เมื่อสร้างสวนครบ3พอ พอกิน พออยู่ พอใช้ ก็ทำพอร่มเย็นไม้ใช้สอยเพื่อสร้างร่มเงาลดความร้อนให้โลก ปลูกให้เทวดาเลี้ยงไม่ได้รดน้ำดูแล พอโตตัดขายเอาเงินไปเที่ยวต่างประเทศได้เลย เหมือนเป็นเงินสะสม
ชั้นที่9 ไม้ยางนา ไม้ต้นสูงมาก ในหลวงเป็นชั้นที่สูงที่สุด ปลูกถวายให้ในหลวง
รูรั่วที่ใหญ่ที่สุดคือ ราคาปุ๋ยที่แพง โชคดีที่ได้ทำปุ๋ยEM ชีวภาพ วิธีทำจะไม่ใส่จุลินทรีย์ก็ได้แต่จะหมักนาน ถ้าใช้จุลินทรีย์ไปเอาที่ พงด1 พงด2 ที่กรมพัฒนาที่ดิน ใช้พวกส้มจี๊ด กะทกรก พวกเปรี้ยวๆ โดยเฉพาะฝักคูณฆ่าหญ้าได้และน๊อคหนอน
เลี้ยงหมูคอนโด คือชั้นบนหมูอยู่ ชั้นล่างก็เลี้ยงเป็ด เป็ดจะเก็บกินอาหารหมูที่หล่นลงมา ได้ไข่เป็ดไว้กินไว้ขาย ขายลูกหมูเดือนหนึ่ง 34-100 ตัว/เดือน ราคาตัวละ1,800 บาท = ประมาณ 61,800 บาท/เดือน เป็นรายได้รายเดือน
ใช้ปุ๋ยขี้หมูเป็นบ่อพักไว้ผสมกับน้ำจุลลินทรีย์จะไม่มีกลิ่นเหม็น จะดับกลิ่นและช่วยย่อย
ปุ๋ยที่ได้นำมาใช้ฉีดต้นไม้ที่ปลูกไว้ ปลอดภัยทั้งตัวเอง และผู้บริโภค
ถ้าใช้สารเคมีผลผลิตเจริญเติบโตเร็วแต่อีก 2-3 เดือนข้างหน้า แต่หลังจากนั้นดินจะแข็งเสีย จะปลูกอะไรก็ไม่ดี ปุ๋ยชีวภาพถึงจะช้า แต่ทวีคูณ ดีขึ้นแบบทวีคูณ ต้นไม้จะงามอย่างยั่งยืน บำรุงรักษาดิน ทำให้พื้นดินชุ่มน้ำ ไม่แห้งหรือเสีย ร่วนซุย ช่วยย่อยใบไม้
ลุงนิลจะไปส่งผักตามตลาด และรับผลผลิตของเพื่อนบ้านมาขายสู่ท้องตลาด อาหารส่วนใหญ่ก็มาจากเก็บพืชผักที่ปลูกและสัตว์ที่เลี้ยง
เงินมีมากมายใช่ว่าจะมีความสุข ความสุขของลุงคือลุงมีครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา ตกเย็นก็กินข้าวพร้อมกันพูดคุยกัน เมื่อเรามีสุขแล้ว ก็แบ่งปันคนรอบข้าง ทำให้หมู่บ้านเป็นสุขมีรายได้มีกินพอใช้ ไม่แบ่งพรรคแบ่งพวก ก็จะไม่มีโจรผู้ร้ายก็อยู่สบาย รวมแรงกระจายผลผลิตให้เพื่อนบ้าน หมู่บ้านเกื้อกูลกันแบ่งกัน เมื่อผลผลิตมากรถจะมารับผลผลิตส่งโรงงาน
เมื่อรู้อยากแบ่งปัน ลุงนิลยังเป็นวิทยากรถ่ายทอดความรู้ให้กับคนที่สนใจ
ลุงนิลกล่าวทิ้งท้าย "เศรษฐกิจพอเพียงต้องมีคุณธรรม โอบอ้อมอารี รักเพื่อน ไม่เห็นแก่ตัว คิดแต่จะฉ้อโกง ทำให้เพื่อนเดือดร้อน ไม่ต้องมาคิดทำเศรษฐกิจพอเพียง ไม่มีประโยชน์หรอกคุณทำไม่ได้"
คลิปชมรายการ ลุงนิล"คนของความสุข"
1ปัญหาในอดีตของลุงนิล
2ชีวิตเปลี่ยนเพราะพระราชดำรัสในหลวง
3พืชพรรณลุงนิล
4ปุ๋่ยชีวภาพลุงนิล
5บทสรุปความสุขลุงนิล
ข้อมูลเพิ่มเติม ลุงนิล ชื่อจริง คือ สมบูรณ์ ศรีสุบัติ บ้านทอนอม ต.ช่องไม้แก้ว อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร ปลูกพืช เลียนแบบคอนโดมิเนียม สามารถทำเงินรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือนและรายปี
เมื่อก่อนปลูกพืชเชิงเดี่ยว มีหนี้สินติดตัวอีกหลายแสนบาท บทเรียนครั้งนั้นทำให้ลุงนิลเกิดความท้อแท้ แต่ภายหลังได้รับฟังพระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผ่านทางทีวีเมื่อปี 2540 และมีกำลังใจฮึดสู้อีกครั้ง โดยยึดมั่นอยู่บนพื้นฐานของความพอเพียง เริ่มทำการ เกษตรผสมผสาน โดยการปลูกพืชหลักและพืชแซมพร้อมกับเลี้ยงสัตว์
ไม้ผลและไม้ยืนต้นที่มีต้นสูง ได้แก่ ทุเรียนหมอนทอง จำนวน 8 ไร่ หมาก 100 ต้น ลองกอง 50 ต้น ลางสาด 50 ต้น มังคุด 100 ต้น ส้มโอ สะตอ ชั้นรองลงมาปลูกพริกไทยแซมตามโคนต้นพืชหลัก ประมาณ 500 ต้น
ส่วนชั้น 3 ปลูกพืชแซมตามพื้นที่ว่าง มีกล้วยเล็บมือนาง 1,000 กอ ส้มจี๊ด 9 ไร่ และส้มโชกุน 50 ต้น ขณะที่ชั้น 2 ปลูกพืชสมุนไพรที่มีต้นเตี้ยลงมาอีก ได้แก่ ตะไคร้ และข่า และชั้นล่างสุดเป็นชั้นใต้ดินปลูกขมิ้น กระชาย กลอย และ มันหอม รวมกว่า 2,000 กอ
นอกจากนี้ยังมีการเลี้ยงปลาน้ำจืด เช่น ปลายี่สก ปลาแรด ปลานิลแดงเพื่อบริโภคในครัวเรือน ทั้งยังมีการเพาะขยายพันธุ์สุกรจำหน่ายด้วย ซึ่งขณะนี้มีแม่พันธุ์สุกรอยู่กว่า 100 ตัว มูลสุกร นำมาหมักใช้ปรับปรุงบำรุงดินทดแทนการใช้ปุ๋ยเคมีใบไม้ที่ร่วงหล่นในแปลงจะปล่อยให้ทับถมกันและย่อยสลายไปเอง กลายเป็นปุ๋ยธรรมชาติชีวภาพที่สามารถใช้ไล่แมลงศัตรูพืช และยังขจัดกลิ่นในโรงเรือนสุกรได้ด้วย จำหน่ายส้มจี๊ด พริกไทยสด วันละ ประมาณ 700-1,000 บาท ส่วนรายสัปดาห์จะมีรายได้จากการขายกล้วยเล็บมือนาง สมุนไพร และเครื่องแกง ประมาณ 10,000 บาท/สัปดาห์ รายเดือนจะจำหน่ายลูกสุกรที่เพาะพันธุ์ไว้มีรายได้เดือนละไม่ต่ำกว่า 50,000 บาท และเมื่อพืชหลักให้ผลผลิต ทำให้ลุงนิลมีรายได้รายปี จากการขายทุเรียน ลองกอง มังคุด ลางสาด กลอย มันหอม และพริกไทยแห้ง รวมกว่า 305,000 บาท ซึ่งปีที่ผ่านมา ลุงนิลมีรายได้จากผืนดินพอเพียงรวมกว่า 1,371,000 บาท
ผืนดินพอเพียงผืนนี้ ยินดีต้อนรับทุกท่านที่จะเข้าไปศึกษาเรียนรู้ หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่ 14 หมู่ 6 ต.ช่องไม้แก้ว อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร โทร. 08-4195-2335. ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์ วันที่ 5 มิถุนายน 2550 //www.dailynews.co.th/web/html/popup_news/Default.aspx?Columnid=40687&NewsType=2&Template=1
Create Date : 11 เมษายน 2552 |
Last Update : 27 สิงหาคม 2552 11:48:01 น. |
|
0 comments
|
Counter : 3432 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|