หาดใหญ่-ปัตตานี เป็นครั้งแรกที่ไปเที่ยวใต้ เกือบจะได้ไปหลายครั้งแล้วแต่ไม่ได้ไปสักที ไปกับสายการบินไทย แล้วช่วงนั้นไปไม่มีสายการบินราคาถูกซะด้วยซิ จะได้เซฟค่าเที่ยวลงจั๊กหน่อย แหม...แต่พอเรากลับมาแล้ว สายการบินราคาถูกตรึม ไปยาวเป็นอาทิตย์เลยแระช่วงตรุษจีนปี47ไปถึงมาเลเซียโน่นแนะ วันที่ไปเกิดอาเพทของอากาศ ออกเดินทาง8โมงเช้าถึงเกือบ10โมง แต่ทำไมหมอกมันลงที่กทม.ยังกะ6โมงเช้า (เดือนธค.ปีนั้นต่อมาเกิดสึนามิ รูปที่ดิฉันเอามาลงบางภาพเลยเป็นอดีตของหลายที่ที่โดนสึนามิ) เปลี่ยนเครื่องที่ดอนเมือง บินต่อไปถึงหาดใหญ่12.30.น. ทำไมแดดเปรี้ยงยังกะคนละประเทศ เพื่อนบอกไม่ต้องเอาเสื้อหนาวมา ไม่ค่อยอยากเชื่อเพราะแถวบ้านดิฉันมันหนาวมาก พอมาถึงร้อนจริงๆจนแทบอยากใส่เสื้อสายเดี่ยว เพื่อนเลยพาไปกินข้าวแกงที่ร้านป้าแก้วเพราะเราเห็นในเนตว่าไม่แพง อร่อยและสะอาด ไปต่อที่บิ๊กซีซื้อพวกครีมกันแดด เพื่อนมันห่วงกลัวผิวอันนวลเนียนเราเสีย อากาศร้อนเลยไปนอนเล่นที่บ้านจัดสรรเพื่อนก่อน แล้วช่วงเย็นค่อยไปเที่ยวทะเลสาบสงขลา คนเยอะพอควรแต่คลื่นแรงมากไม่มีคนเล่นน้ำเลย ชอบลมพัดป่าสนพัดเย็นสบาย รูปปั้นสุดฮิตนางเงือกคิวเยอะโดนรุม เลยมาเป็นนางสาวยืนฉายเดี่ยวก็ได้ไม้ง้อนางเงือก เกาะหนูเกาะแมวแทนนางเงือกก็ได้ เกาะของจริงแมวนอนหมอบอยู่โน่น เขียวๆ2ก้อนติดกัน บรรยากาศทะเลสาบสงขลาโดยรวม แล้วเราก็ไปขึ้นแพที่เกาะยอจุรถได้หลายคัน ก็เพลินดีบรรยากาศดียังกะถนนวิ่งได้ ไม่เคยขึ้นแพรถนะ แต่เสียดายถ่ายรูปหมู่บ้านเกาะยอไม่ทัน เพื่อนขับรถเร็ว เพราะชอบบรรยาหมู่บ้านคลาสสิคดี ทีแรกเพื่อนจะพาขึ้นเขาไปดูพระอาทิตย์ตกดินและไหว้เจ้าแม่กวนอิม ที่ร้านบนเขา แต่ค่ำก่อนเลยได้แค่ไปทานอาหารบนร้านบนเขา อยู่บนเนินเขาสมชื่อเป็นร้านไม้ขนาดใหญ่2ชั้น บรรยากาศมากคนเยอะเต็มทุกโต๊ะ อาหารเลยช้าพอควร ดิฉันเลยใช้มุขยกเลิกอาหารที่สั่งบางรายการ แหม...แต่พอยกเลิกสักพักมาทันที คงกลัวไม่ได้ขายเลยลัดคิวให้มั้ง เพื่อนขำใหญ่เอาไปใช้มั่ง มุขนี้ไม่สงวนลิขสิทธิ์นะคะ อาหารขึ้นชื่อของร้านบนเขา ขาหมูทอดกรอบ เห็นสั่งแทบทุกโต๊ะ และอาหารที่นี่ได้เยอะมาก มาทานเป็นกลุ่มได้สบาย เพราะเห็นลูกค้าส่วนใหญ่มาเป็นครอบครัวใหญ่เลย ชอบบรรยากาศร้านนี้มาก โล่งโปร่งสบายและโรแมนติค เพราะมองลงไปเห็นไฟตัวเมืองหาดใหญ่ระยิบระยับยังกะหมู่ดาว วาวววว ชอบบบบ เพื่อนที่หาดใหญ่ที่ดิฉันไปพักพาไปไหว้แม่ที่งานตรุษจีนของที่นั่น แล้วค่อยกลับไปนอนเอาแรงไปลุยต่ออีกหลายวัน ตอนเช้าไปกินติ่มซำร้านออกโบราณดี เหมือนร้านสมัยก่อน โต๊ะหินขึ้นลายงาเลยคิดดูเก่าขนาดไหน ที่ใต้เขานิยมทานติ่มซำตอนเช้ากะกาแฟกัน และที่พิเศษ บักก๋วยแต๋ ไม่คุ้นชื่อมันคืออะไร เลยลองสั่งมาทาน เป็นซี่โครงตุ๋นยาจีนคล้ายพะโล้ รสและกลิ่นจะแรงกว่าพะโล้มาก ออกเดินทางไปจ.ปัตตานี ใจสู้ในการเที่ยวมาก ขนาดวันไปช่วงนั้นมีข่าวก่อการร้ายกำลังดัง ก่อนวันไปก็มีฆ่าตัดคอพระ แต่ยังไม่มีข่าวฆ่านักท่องเที่ยวแฮะๆๆ ถนนทางไปเขาน้ำค้างราดยางดี แต่เงียบมากไม่มีรถวิ่งเลยตลอดเส้นทางที่เราไป ข้างทางมีแต่ป่าต้นยาง และต้นไม้ป่า ต้นเฟริน เข้าไปไกลจากถนนใหญ่มาก ถ้ารถเสียแย่แน่ๆ อุโมงค์เขาน้ำค้าง ที่สมัยคอมมิวนิสต์มาอาศัยอยู่ทำเป็นฐานทัพ เขาใช้แรงงานคนมือเจาะเข้าไปในภูเขาสูงปีนบันได้ไม้ขึ้นไป จะเป็นห้องๆๆยังกะตึก3ชั้นเลยมั้ง แล้วในนั้นก็จะมีห้องส่งวิทยุ ห้องประชุม และอีกหลายห้อง แต่ไม่กล้าขึ้นไปดูเพราะอับถึงจะมีไฟเปิดตลอดทาง บันไดไม้ขึ้นไปเล็กและชันมาก เลยนั่งรอเพื่อนที่ข้างนอกดีกว่าแต่พะอืดพะอมเหมือนจะเป็นลม คงเพราะอากาศรึเปล่าไม่รู้ นอกนั้นก็แสดงนิทรรศการการใช้ชีวิตอยู่แบบคอมมิวนิสต์ มีคนบรรยายและภาพแต่เนื้อหาทั้งคนบรรยายพูดภาษาจีนหมดเลย ต๊ายยยย ถ้าไม่บอกดิฉันคิดว่ามาเที่ยวเมืองจีน เพราะคณะทัวร์ที่มาก็มีแต่คนจีน มีก๊กดิฉันนี่แระไทยโผล่มา3คน ขากลับถนนยังเงียบไม่มีรถคันอื่นเหมือนเดิม แล้วก็ไปต่อ....วัดช้างให้ หลวงพ่อทวด เหยีบน้ำทะเลจืด เป็นวัดธรรมดาไม่หรูหรา เพราะเขาอนุรักษ์ให้เหมือนสมัยท่านยังมีชีวิตอยู่ แต่เสียงประทัดดังสนั่นตลอด เพราะคนมาแก้บนที่ขอ จะมีเด็กพาลอดรูปปั้นช้าง2ตัว ลอดขาโน้นลอดไปขานี้จนมึน แฮะๆๆเพราะลอดกะเขามั่ง แล้วเพื่อนก็จ่ายค่าขนมเด็กที่บอกแล้วแต่จะให้ เขาบอกท่านจะช่วยคนทำมาค้าขายดี ยกเว้นพวกผิดกฏหมายเช่นการพนันท่านจะไม่ช่วย ก่อนกลับแวะไปไหว้ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเนียว ที่แรกเพื่อนไม่รู้เคยไปผิดไปไหว้ที่หลุมฝัง แต่ที่เราอยากไปคือศาลซึ่งจะอยู่ในเมืองปัตตานีไม่ใช่ทางผ่านถนนใหญ่ เพื่อนอยากบนขอท่านมากเรื่องเงิน แต่เราอยากได้ซองเงินมาเป็นขวัญถุง เพราะเขาว่าเงินจะไม่ขาดกระเป๋า จะมีซองแดงให้แลกเราต้องแลกเท่าตัว เช่นซอง50บาท เราต้องจ่ายแลก100บาท บางคนไม่มีเงินจะยืมไปลงทุนก่อนก็ได้แต่พอมีเงินแล้วก็เอามาคืนเท่าตัวเหมือนกัน ที่นี่ไหว้ธูปเป็นกำควันขโมงเลย เพราะมีเจ้าที่หลายองค์ มีเจ้าหน้าที่แอบบอกบอกเคล็ด หลังจากไหว้ขอเจ้าแม่แล้ว ให้เคาะที่แท่นท่านด้วยประมาณให้ท่านรับรู้ รอบนอกบริเวณก็จะเต็มไปด้วยร้านค้าขายขนม พวกของฝากเพียบ ถัดศาลไปก็จะเป็นแม่น้ำ วันที่มีพิธีใหญ่คนจะเต็มไปหมด ช่วงเย็นก็เดินทางกลับหาดใหญ่ มื้อเย็นยังประทับใจวิวแสงไฟตัวเมืองหาดใหญ่ เพื่อนก็เลยไปทานบุฟเฟ่ที่โรงแรมลีมาการ์เด้นท์ชั้นบนสุด วิวไฟเมืองระยิบระยับก็สวยเหมือนกัน แต่สู้"ร้านบนเขา"ไม่ได้เพราะที่นี่มีกระจกกั้นเหมือนใบหยก และบรรยากาศไม่ธรรมชาติด้วย กดคลิกชมทริปต่อไป ภูเก็ต ไข่มุกอันดามัน //www.bloggang.com/mainblog.php?id=imaginer&month=02-11-2005&group=4&gblog=1   Create Date : 01 พฤศจิกายน 2548 8 comments Last Update : 12 พฤษภาคม 2558 20:54:02 น. Counter : 6840 Pageviews. Share Tweet

เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ มาเป็นคนแรกเร๊ยยยย ช่วงนี้เรายุ่งจังที่รัก มะค่อยได้มาเล่นร่วยเน้อ ซักพักจาเอาหัวมาให้เห็น ตอนนี้ขอหายหัวไปก่อง แล้วเจอกางงงงง   โดย: สาวเชียงใหม่ควรใคร่ถวิลลลลลลล (when-u-believe ) 1 พฤศจิกายน 2548 15:34:33 น.

ภาพสวยจังเลยอะนะ   โดย: อินทรีทองคำ 1 พฤศจิกายน 2548 17:22:06 น.

แวะมาเที่ยวสงขลาด้วยคน ตี๋น้อยเคยเรียนที่หาดใหญ่สี่ปีครับ   โดย: ตี๋น้อย (Zantha ) 1 พฤศจิกายน 2548 18:22:52 น.

ตามไปเที่ยวด้วยค่ะ   โดย: Batgirl 2001 1 พฤศจิกายน 2548 22:34:28 น.

ฟ้าสวยจังค่า รูปแรกก้อถ่ายเองรึคะ สวยมากค่ะ ฟ้าจ๋าฟ้า   โดย: p_tham 2 พฤศจิกายน 2548 6:04:00 น.

ขาหมูทอดร้านบนเขาอร่อยเหาะเลยค๊าา ส่วนบักกุดแต๋ อาหารขึ้นชื่อมาเลเค้า กินกันร้อนๆตอนเช้า เริ่ดคะ ^ ^   โดย: YaWeN 9 สิงหาคม 2552 23:20:15 น.

กลุ่มเพื่อน 5.63 โรงเรียนอุตรดิตถ์ ขอแสดงความยินดีกับชาวบึงกาฬ ที่อำเภอบึงกาฬได้รับการยกฐานะเป็นจังหวัดบึงกาฬ จังหวัดที่ 77 ของไทย จังหวัดบึงกาฬ 8 อำเภอ คือ อ.บึงกาฬ อ.เซกา อ.โซ่พิสัย อ.พรเจริญ อ.ปากคาด อ.บึงโขงหลง อ.ศรีวิไล และ อ.บุ่งคล้า   โดย: กลุ่มเพื่อน 5.63 อ.ต. IP: 210.246.186.9 6 สิงหาคม 2553 20:47:39 น.

Well done article that. I'll make sure to use it wsiley.   โดย: Juliana IP: 119.188.6.225 18 มีนาคม 2555 18:15:45 น.