|
ปราสาทวัดภู มรดกโลก 3.1
การเดินทางมาวัดภูเชิญคลิก //www.bloggang.com/mainblog.php?id=imaginer&month=08-05-2008&group=4&gblog=72
ต่อไปคณะเราจะไปสัมผัสกับสถานที่พิธีกรรมโบราณที่จัดว่าเป็นมรดกโลก สถานที่คล้ายๆนครวัด ชาวลาวเลื่อมใสที่นี่ในชีวิตหนึ่งต้องมาสักการะวัดภูให้ได้
เดินทางออกจากหมู่บ้านบ้านแบ่ง คือทางแยก

ผ่านท้องนา ผ่านภูเขาภูตอนเก้า ภูเขาศิวลึงค์มีหินที่งอกเองตามธรรมชาติเห็นเด่นชัดเหมือนศิวลึงค์ อาจเพราะเหตุนี้จึงมาตั้งวัดภูที่นี่ เพราะสมัยก่อนจะนับถือศิวลึงค์และโยนีคู่กันศิวลึงค์ตั้งตรงกลางโยยีล้อมรอบเป็นทางน้ำไหล เห็นในพิพิธภัณฑ์คิดว่าโม่ใช้โม่แป้งสมัยก่อนซะอีกแต่ไม่เห็นที่หมุนบดเลยไม่ใช่โม่ เพราะที่นี่มีศิวลึงค์ที่เกิดจากธรรมชาติจึงถือว่าจะศักดิ์สิทธิ์มากกว่าที่มนุษย์ปั้นก่อขึ้นเอง
สังเกตที่วงกลมไว้บนยอดเขานะแระงอกคล้ายศิวลึงค์ไหม แต่ทำไมดิฉันดูคล้ายหน้าอกมากกว่าแฮะ

แวะพิพิธภัณฑ์ก่อน ไกด์ที่ไปด้วยศึกษาเรื่องประวัติศาตร์เยอะเลยอธิบายละเอียดในความเป็นมาแต่เสียดายที่พิพิธภัณฑ์เขาห้ามถ่ายรูป เลยถ่ายศิวลึงและโยนีคล้ายโม่มาให้ดูไม่ได้ อยากเห็นคงต้องไปดูของจริงเอาเองเด้อ เดินทางออกจากพิพิธภัณพ์14.30 น.

ธงชาติลาว มีบางธงเสริมเป็นรูปฆ้อนกับเคียวเหมือนธงคอมมิวนิสต์ด้วย

ที่จอดรถรอ ไม่ใช่จะเห็นวัดภูง่ายๆนะ ต้องวัดใจและวัดกำลังกายขาด้วยแระขอบอก

ไกด์แจกน้ำดื่มให้พกไว้ ข้างบนไม่มีขายนะ วอร์มด้วยการเดินไปวัดภูก่อน

แล้วจะพบกับปราสาท ลานสนามหญ้าตรงกลางเป็นสถานที่เต้นระบำบูชาหันหน้าทางทิศตะวันออก เพราะเชื่อว่าแสงกระทบจะมีพลังจากธรรมชาติ

ปราสาทด้านข้างด้านซ้าย



ปราสาทด้านขวา ประตูที่เปิดเข้าไปจะเป็นห้องเปลี่ยนเครื่องทรงของกษัตริย์ก่อนขึ้นไปทำพิธี

ปราสาทมองไปเห็นบันไดที่จะขึ้นไปสู่วัดภู หลอกตามากไม่ได้มีแค่บันไดเพียงแค่นี้นะจะบอกให้

และแล้วการวัดกำลังกายก็เริ่มขึ้น แดดร้อนไม่เท่าไหร่เพราะลืมความร้อนตื่นตาตื่นใจกับการก่อสร้าง ควรพกหมวกหรือร่มมาด้วย จะพกยาดมยาหม่องมาด้วยก็ดี เพราะอาจลมใส่ก่อนได้ อิอิ เห็นรูปแค่ขั้นนี้อย่าคิดว่าเด็กนะ ไม่ใช่ขึ้นแค่พ้นตรงนี้ก็ถึง

โน่นพ้นไปยังมีขั้นบันไดหลายขั้นและขั้นพักเป็นช่วงๆไป บันไดเหล่านี้ทำมาตั้งแต่โบราณหลายพันปีจากการวางเรียงหิน โดยไม่มีอะไรเชื่อม เป็นความสามารถในการคำนวนอันน่าทึ่งของคนโบราณมากที่วางเรียงลงตัว โดยที่เหยียบขึ้นไปไม่มีหล่น แต่ไม่มีแรงนับว่ามีกี่ขั้นมันเหนื่อยจนตาลาย ฮ่าๆๆ

มีหลอกล่อให้ไม่ลมใส่ก่อนเพราะบางช่วงก็เรียบไม่มีขั้นบันได พอได้ยืนหันหลังไปมองวิวเบื้องล่างได้
พอใกล้ถึงบ้างก็ชาวบ้านสามคนนั่งจัดช่อดอกไม้บูชาและธูปเทียนให้คนมาเที่ยวเอาไปจุดบูชาพระที่อยู่ข้างแนวบันได ไม่ได้ถ่ายรูปมาเพราะดิฉันตาลาย ไหว้แบบหอบๆไปนะแระ

แต่พอมาถึงช่วงนี้แทบถอดใจ ดิฉันบอกแบบไม่อายที่ต้องปีนบันไดขึ้น จะไม่ให้ปีนได้ยังไงก็บันไดขั้นแคบไม่ถึงฝ่าเท้า ที่สำคัญชัดคอดๆๆเลยค่า ชันชนิดแทบจะตั้งฉากเลย แต่มาถึงขั้นนี้จะถอยก็กระไร มาให้ถึงก็ต้องถึงให้ที่สุด คงไม่ตกลงมาเดี้ยงหรอกมั้ง ราวให้เกาะก็ไม่มี มีแต่ลาวจริงๆ
พอถึงมองลงไป โหหหห..... คนกลัวความสูงจะลงกลับไปได้ยังไงเนี้ย ไกด์บอกขึ้นมาได้ก็ต้องลงไปได้ เขามีเทคนิคเวลาลงให้เอียงข้างลง

เฮออออออ ดีหน่อยที่พอพ้นขั้นบันไดตั้งฉากนี้ก็ถึงวัดภูซะที ถ้าให้ไปต่อบันไดแบบนี้จะนั่งดมยาดมมันตรงนี้แระ
ถึงซะทีวัดภูที่อุตส่าห์ปีนมา ก็ไม่ได้ใหญ่โตมากมายหรอก ปราสาทข้างล่างใหญ่กว่าอีก
วัดภูเป็นเทวสถานขอม สร้างก่อนนครวัดของเขมร เป็นสถานที่บูชาเทพเจ้า ของศาสนาฮินดู การแกะลายจะคล้ายของนครวัด มีที่บูชาเทพเจ้าโดยการบูชายันต์มนุษย์ ต่อมากลายมาเป็นสถานที่ทำพิธีทางพุทธศาสนาแทน

ติดตามทัศนียภาพสวยๆบนวัดภูต่อไป //www.bloggang.com/mainblog.php?id=imaginer&month=09-05-2008&group=4&gblog=76
Create Date : 09 พฤษภาคม 2551 |
Last Update : 9 พฤษภาคม 2551 19:13:15 น. |
|
0 comments
|
Counter : 2247 Pageviews. |
 |
|
|
|
|
|
|