พาฝรั่งตะลอนเที่ยวเมืองกาญ
เมื่อหลายอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้มีโอกาสพาฝรั่ง ชาวอังกฤษ ไปเที่ยวเมืองกาญจนบุรีแบบไปเช้ากับเย็น แบบมีเวลาจำกัด กว่าจะออกจากกรุงเทพฯ แถวสีลมก้อประมาณ 8 โมงเช้า โดยงานนี้่ใช้ทีมงานของรถตู้ทราเวลรูทคลับดอทคอม พร้อมด้วยตัวผมเป็นไกด์พาเที่ยว
จุดหมายแล้ว ตอนแรกตั้งใจจะแวะเทียว สุสานพันธมิตรก่อน แต่ด้วยทางลูกค้าต้องการนั่งรถไฟ ก้อเลยต้องมุ่งหน้าตรงสู่สะพานข้ามแม่น้ำแคว เพื่อไปดักขึ้นรถไฟ สาย ธนบุรี-น้ำตกไทรโยค ซึ่งกำหนดการจะมาถึงสะพานข้ามแม่น้ำแคว ประมาณ 10.45 น. แต่ก้อช้าไปกว่ากำหนดอีก 30 นาที ทั้งที่โทรถามก่อนแล้วว่า เที่ยวนี้ดีเลย์มั้ย เจ้าหน้าที่บอกว่าไม่มีแจ้ง ผมก้อเลยต้องรีบต้อนลูกทัวร์มารอรถไฟก่อนเลย
ตอนนี้ค่ารถไฟ สำหรับชาวไทย ก้อขึ้นฟรีนะครับ แต่ต้องขอตั๋วเค้ามาด้วย เพราะจะได้ยืนยันตอนพนักงานตั๋วมาเก็บตั๋ว เนื่องจากผมโดนดุมาแล้ว และก้ออีกหลายๆ คน ก้อเป็นเช่นผม ส่วนชาวต่างชาติ เสียท่านละ 100 บาท สามารถนั่งได้ยัน สถานีน้ำตกไทรโยค แต่ของผมแวะลงที่ สถานีวังโพ
จุดแรกคือ สะพานข้ามแม่น้ำแคว
ประวัติสะพานข้ามแม่น้ำแคว
สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสถานที่ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญยิ่งแห่งหนึ่ง เป็นสะพานที่สำคัญที่สุดของเส้นทางรถไฟสายมรณะ สร้างขึ้นสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยกองทัพญี่ปุ่นได้เกณฑ์เชลยศึกฝ่ายสัมพันธมิตร ได้แก่ ทหารอังกฤษ อเมริกัน ออสเตรเลีย ฮอลันดา และนิวซีแลนด์ประมาณ 61,700 คน และกรรมกรชาวจีน ญวน ชวา มลายู ไทย พม่า อินเดียอีกจำนวนมาก มาก่อสร้างทางรถไฟสายยุทธศาสตร์ เพื่อเป็นเส้นทางผ่านไปสู่ประเทศพม่า
ซึ่งเส้นทางช่วงหนึ่งจะต้องข้ามแม่น้ำแควใหญ่ จึงต้องมีการสร้างสะพานขึ้น การสร้างสะพานและทางรถไฟสายนี้ เต็มไปด้วยความยากลำบาก ความทารุณของสงครามและโรคภัย ตลอดจนการขาดแคลนอาหาร ทำให้เชลยศึกหลายหมื่นคนต้องเสียชีวิตลง ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองสะพานข้ามแม่น้ำแควเดิมได้รับความเสียหาย และรัฐบาลไทยได้ซ่อมแซมใหม่ ภายหลังสงครามสิ้นสุดลง เมื่อปี พ.ศ. 2489 จนสามารถใช้งานได้ดังเดิม ปัจจุบัน มีการยกย่องให้สะพานข้ามแม่น้ำแคว เป็นสัญลักษณ์แห่งสันติภาพ
เดิมที สะพานข้ามแม่น้ำแคว ไม่เคยมีจริงในประวัติศาสตร์ แต่เนื่องจากทางอเมริกาได้ทำเป็นหนัง ดังนั้นทางจังหวัดจึงมีความเห็นให้ตั้งชื่อสะพานที่ท่ามะขามให้เป็นสะพาน ข้ามแม่น้ำแคว เพื่อให้เหมือนในหนัง และได้มีกลุ่มนักท่องเที่ยวมาตามหาจริงๆ สร้างรายได้ให้แก่ท้องถิ่น สะพานเดิมนั้นจะเป็นเหล็กโค้ง ส่วนที่เป็น4เหลี่ยมเป็นการซ่อมแซม สะพานเหล่านี้เดิมทีมีมากมายหลายแห่งในประเทศไทยและลาวพม่าแต่ส่วนใหญ่ทำจาก ไม้ ในไทยมีที่ทำจากเหล็กไม่ถึง 15 สะพาน
ลูกทัวร์ของผม ขอถ่ายภาพเป็นที่ระลึกซะหน่อย
หลังจากที่ได้ขึ้นรถไฟ มาสักประมาณเกือบชั่วโมง ก้อมาถึง ถ้ำกระแซ ที่เส้นทางรถไฟจะต้องวิ่งเลาะไปกับเชิงผาเลียบไปกับแม่น้ำแควน้อย ตลอดการวิ่งรถไฟช่วงนี้ เราก้อจะได้ยินเสียงเหล็กของรางรถไฟ กับล้อรถไฟเสียดสีกัน ชวนให้น่าระทึก ผู้โดยสารในขบวนก้อออกมาด้านขวามือกันหมด เพื่อถ่ายรูป เห็นแล้วก้อรถไฟคว่ำน่าดู คิดไปนั่น
หลังจากนั้นผ่านช่วงที่เป็น High light มาแล้ว ก้อนั่งมาเรื่อยๆ เพื่อมาลงที่สถานีวังโพ ซึ่งจะถึงก่อนสถานีน้ำตกไทรโยค ที่นี่ผมแวะทานอาหารกลางวันแบบง่าย เพื่อทำเวลาไปที่วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน ที่ตั้งอยู่ หลักกม.ที่ 21 จากตัวเมืองกาญจนบุรี
วัดป่าหลวงตาบัว ญาณสัมปันโน หรือ วัดเสือ แหล่งท่องเที่ยว เพื่อการอนุรักษ์เสือใน จังหวัดกาญจนบุรี มีสัตว์ป่าและสัตว์เลี้ยงนานาชนิดอยู่ด้วยกันอย่างอิสระตามธรรมชาติ เช่น เก้ง กวาง หมูป่า ชะนี นกยูง ไก่ป่า ม้า ควายป่า แพะ นักท่องเที่ยว จะพบเห็นการอยู่ร่วมกันของ สัตว์ป่านานาชนิดโดยสันติและเป็นเพื่อนที่ดีต่อพระ และ ผู้คนทั่วไป ณ ปัจจุบัน วัดเสือ กาญจนบุรี มี ชื่อเสียงโด่งดัง ไปทั่วโลก เนื่องจาก ชาวต่างชาติ ทึ่ง กับ สื่อต่าง ๆ ที่ ได้ ออกไป หลาย ๆ ประเทศ ที่ ทำให้เห็นว่า การเป็นอยู่ ระหว่าง เสือ และ พระ สามารถ อยู่อย่าง สันติสุข ฉันท์มิตร , เสือ ได้มาอยู่กับ วัดป่า ได้อย่างไร ? ทำไม เสือ ต้องมาอาศัยอยู่วัด กับ พระ ? เนื่อง จาก หลายปีมาแล้ว ได้มีชาวบ้าน นำ เสือ ที่ รอดชีวิต จากการล่า มาถวาย หลวงพ่อ ซึ่งเป็นหนทางเดียว ที่ เสือ มีทางรอดชีวิต ได้ ต้องอาศัย ร่มโพธิ์ ใบบุญ ของ วัดป่า หลวงตามหาบัว กาญจนบุรี แห่งนี้ นับแต่นั้นมา เสือ ได้ออกลูก และ อยู่ คู่ กับ วัดป่า หลวงตา มหาบัว นี้ ตลอดมา จน ชาวต่างชาติ ได้พบเห็น และ มาทำ สารคดี ต่าง ๆ และ ยกย่องว่า เป็น " The Best of Asia "
ค่าเข้าสำหรับชาวต่างชาติ คนละ 500 บาท สำหรับชาวไทย 300 บาท
ตอนนี้ผมจะพาไปดู เสือที่ Tiger canyon ซึ่งจะมีเสือโคร่งมากมาย ถูกคล้องโซ่ไว้ แล้วให้แขกเดินไปถ่ายรูปกับเสือ โดยมีเจ้าหน้าของวัดจูงมือไป เพื่อความปลอดภัย
หลังจากเดินถ่ายรูปกับเสือ ท่ามกลางอากาศที่ร้อนมากมาย ลูกทัวร์ของผมก้ออยากชม การแสดงของเสือ ซึ่งต้องเสียเงินอีกคนละ 500 บาท เราไปดูกันครับ ว่าเค้าแสดงอะไรกัน
การแสดงก้อใช้เวลาประมาณ 45 นาทีครับ
หากท่านใดสนใจ จะเดินทางไปที่วัด ก้อสามารถเดินทางตามแผนที่ด้านล่างเลยครับ
แผนที่ไปวัดป่าหลวงตาบัว
Create Date : 06 เมษายน 2553 |
|
1 comments |
Last Update : 6 เมษายน 2553 14:40:07 น. |
Counter : 3816 Pageviews. |
|
|
|