ผจญภัยในญี่ปุ่นแบบหมาป่าโดดเดี่ยว วันที่13.2 -น้ำแข็งกัด!-
ตอนนั่งรถกลับผมรู้สึกง่วงๆ แต่ก็อดทนไม่หลับจนมาถึงบ้าน
พอเข้าไปเปลี่ยนชุดทำงานในห้องของตัวเองก็เจอแคธีกำลังเรียนเป่าเครื่องดนตรีญี่ปุ่นกับคนญี่ปุ่นอยู่
ภาพที่เห็นทำให้ผมรู้สึกดีใจมาก
เพราะถ้าแคธียังเรียนอยู่แปลว่ายังไม่เริ่มงานและผมจะมีเวลานอน
พอผมเปลี่ยนชุดทำงานเสร็จก็เข้าไปบอกแคธีว่าเรียนเสร็จเมื่อไหร่ช่วยปลุกด้วยนะ จะได้ไปทำงานพร้อมกัน
แต่สิ่งที่แคธีบอกมาทำเอาผมถึงกับจ๋อย
"วันนี้ไอทำงานครึ่งวัน ส่วนยูน่ะไปทำงานต่อซะ"
ยิ่งทำงานไปทำไหร่ผมก็ยิ่งง่วงขึ้นเรื่อยๆเท่านั้น ง่วงง่วงง่วง...
หลังจากปลีกตัวไปล้างหน้าหน้าแต่อีก5นาทีหลังจากนั้นก็ง่วงใหม่
จะหลับคากรรไกรและบันไดก็เกรงจะเสียชื่อเสียงไปถึงประเทศชาติ
มันต้องหาวิธีแก้ง่วงให้ได้!
ผมปีนขึ้นบันไดอลูมิเนียมขนาดสูงที่สุด(ขั้นบนสุดสูงเกือบ4เมตร)
ขึ้นไปยืนบนขั้นสูงที่สุดแล้วกระโดดลงมา...
. . .
ไม่ใช่! ผมขึ้นไปยืนบนนั้นเพื่อแต่งช่อแอปเปิ้ลนั่นแหละ
แค่ต้องการให้ความสูงทำให้ประสาทตื่นตัวเฉยๆ
แล้วผลก็ออกมาว่าการยืนแบบไม่มั่นคงบนความสูงเกือบ4เมตรนั้นแก้อาการง่วงได้เป็นอย่างดี
แล้วพอผมหายง่วงได้ไม่เท่าไหร่เวลาพักทานของว่างก็มาถึงพอดี
...ไหนๆก็ขึ้นมาสูงทั้งที ขอเก็บภาพจากมุมสูงซักหน่อยละกัน
จากไร่แอปเปิ้ลไปเรือนใหญ่จะมีสวนญี่ปุ่นคั่นอยู่
ยอดแอปเปิ้ลสูงเทียมยอดเขา
ซ้ายก็ภูเขา ขวาก็ภูเขา
มองไปข้างล่างสาวๆกำลังจับกลุ่มเมาท์กันอยู่
บ่ายนี้กินโยเกิตกับแอปเปิ้ลเชื่อม
หลังงานเลิกตอนเย็นโอโต้ซังมาในแบบที่ผมไม่เคยเห็นอีกแล้ว
คราวนี้เดินพา3สาวทัวร์รอบๆฟาร์ม (ปฏิบัติกับตรูหยั่งกะฟ้ากะเหว )
...จริงๆไม่ได้ชวนผมด้วยนะครับแต่ผมเดินตามไปด้วยเอง 55
อันนี้เป็นดอกบลูเบอรี่ ...อยากเจอเป็นลูกมากกว่า
แปลงแอปเปิ้ลอีกแปลงที่โอโต้ซังบอกว่าลองปลูกแบบยุโรป (ปลูกชิดกันกว่าแบบญี่ปุ่นมาก)
ถ้าเดินใกล้ผมก็ฟังไปด้วย พออยู่ไกลก็ถ่ายรูปอย่างเดียว
ระบบชลประทานอันทันสมัย!
สตรอเบอรี่ที่ยังหลงเหลือให้เห็น (ถ่ายเสร็จ...เก็บ )
แปลงดอกไม้(คุ้นๆว่าดอกลาเวนเดอร์)อยู่ติดกับแปลงสตรอเบอรี่
โอโต้ซังตั้งใจอธิบายมากกกก 555
แปลงข้าวที่ยูอิจิโร่ซัง(ลูกชาย)ดูแล
จนสุดถนนตรงเสาไฟฟ้าคือฟาร์มของโอโต้ซังครับ
แปลงเพาะต้นอ่อนแอปเปิ้ล
วันนี้ผมจะอยู่ที่นี่เป็นวันสุดท้ายแล้ว เสื้อผ้าทั้งหลายซักไปเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวาน
จะเหลือก็แต่ชุดที่ใส่วันนี้ที่ถึงซักคืนนี้พรุ่งนี้ก็แห้งไม่ทัน
...และก็ถุงเท้าคู่ที่ใส่อยู่
ผมยืนชั่งใจอยู่ในห้องคนเดียวว่าจะซักถุงเท้าหรือไม่ซักดี
ขณะนี้เป็นเวลาประมาณ17.50น. แดดยังพอมี(แบบอ่อนๆ)อีกชั่วโมงกว่าๆ
แถมกว่าจะเช้าก็อีกเป็นสิบชั่วโมงยังไงก็คงจะแห้งล่ะน่า
เมื่อได้เหตุผลข้างต้นเป็นแรงผลักและได้ความเหม็นของถุงเท้าเป็นแรงดันผมก็ตัดใจซักทั้งๆที่กลัวว่ามันจะแห้งไม่ทัน
เมื่อไปที่เรือนใหญ่ก็เห็นโอค่าซังและสาวๆกำลังเตรียมทำมื้อเย็นกันอยู่
ผมเอาสตรอเบอรี่ออกจากกระเป๋าเสื้อวางบนโต๊ะเพื่อถ่ายรูป
ทั้งไร่เจอที่พอจะกินได้แค่2ลูกนี่แหละครับ
พอถ่ายรูปเสร็จก็เอาสตรอเบอรี่ไปล้างเพื่อจะกิน
สตรอเบอรี่ลูกแดงเต่งกะลังจะเข้าปากผมอยู่แล้ว
แต่ปากนั้นก็ต้องอ้าค้างเมื่อแคธีบอกว่าให้เอาไปไหว้แฟนของโอบ้าจังก่อน
...อดกินไปตามระเบียบ
แต่ลาภปากในวันนี้ก็ใช่ว่าจะไม่มีซะทีเดียวเพราะโอค่าซังบอกว่าวันนี้จะทำแฮมเบอเกอร์
เท่านั้นยังไม่พอ ด้วยอานิสงส์ของสามสาวผู้มาใหม่โอโต้ซังถึงกับงัดน้ำแอปเปิ้ลคั้นออกมาเปิดให้ดื่ม โอ้
...นึกแล้วก็น้อยใจโอโต้ซังแทนมากาลีและซิลเวีย 555
ช่วงที่สาวๆเค้าช่วยโอค่าซังทำกับข้าวอยู่ ผมก็ช่วยโอบ้าจังหั่นแอปเปิ้ลไป
ผลที่ยังสดและสภาพดีก็หั่นชิ้นใหญ่กินสดๆ
ผลไหนที่เหี่ยวหน่อยก็เอามาทำแอปเปิ้ลเชื่อม โดยวิธีทำมีดังนี้
1 ปอกเปลือกออก หั่นเป็นชิ้นบางๆแล้วแช่น้ำเกลือ
2 เอาไปต้ม ปรุงรสด้วยน้ำตาล และใส่เกลือนิดหน่อยเพื่อตัดหวาน
3 เคี่ยวต่อให้น้ำเริ่มเหนียวก็เป็นอันเสร็จ ง่ายจริงๆ
พอเสร็จจากงานปอกแอปเปิ้ลโอค่าซังก็ขอแรงให้ช่วยคลุกเนื้อที่จะปั้นแฮมเบอเกอร์ให้
โดยเนื้อที่จะให้ผมคลุกนั้นเย็นน้องๆน้ำแข็งเพราะเพิ่งเอาออกมาจากช่องฟรีซ
หลังคลุกเนื้อเสร็จเป็นอันว่าผมได้ประสบการณ์คลุกเนื้อทำแฮมเบอเกอร์มาพร้อมประสบการณ์น้ำแข็งกัด
(มือที่โดนน้ำแข็งกัดจะเปลี่ยนสีเป็นสีดำคล้ำ ผิวจะแห้ง ไม่มีน้ำมีนวลและปวดแสบปวดร้อน -ลืมถ่ายรูปมาครับ)
เจอไซส์แต่ละคนเข้าไปทำเอาครัวแคบไปเลย
ก้อนสีนวลๆคือแฮมเบอเกอร์มังสวิรัติทำจากเต้าหู้ ...ทำพอดีชาวมังสะซะผมอดลองเลย
มีสลัดมันฝรั่งใส่มักกะโรนีเป็นเครื่องเคียง
คนอื่นได้2แต่โอค่าซังจัดให้ผม3
เซทนี้ประกอบด้วยข้าว แฮมเบอเกอร์ สลัดมันฝรั่ง ซุปครีม ฟุกิดอง น้ำแอปเปิ้ลและขาเขียวร้อน
ตอนนั่งทานข้าวอยู่โอบ้าจังก็ชวนผมคุยด้วยภาษาญี่ปุ่น
โอค่าซังแปลออกมาให้ว่า "กลับไปแล้วเดือนพฤศจิกายนมาอีกสิ ตอนนั้นแอปเปิ้ลออกเยอะแยะเลย"
โอค่าซังก็เสริมมาด้วยว่า "ถ้ามาอีกจะพาไปเล่นสกี"
ซึ้งใจหลายๆครับ
ตัดมาตอนที่ผมอาบน้ำเสร็จแล้วโอค่าซังก็เรียกผมให้ไปช่วยอะไรบางอย่าง
โอค่าซังให้ผมสอนประโยคภาษาไทยง่ายๆแล้วจดลงสมุดครับ
จะได้เอาไว้คุยกับวูฟเฟอร์ชาวไทยที่จะมาในภายภาคหน้า
ที่สำคัญคือโอค่าซังทำอย่างนี้กับวูฟเฟอร์ทุกคนครับ
...ก่อนเข้านอนถุงเท้ายังไม่ค่อยแห้งเท่าไหร่เลย พรุ่งนี้จะแห้งมั้ยเนี่ย
32417/561
Create Date : 22 มีนาคม 2554 |
|
8 comments |
Last Update : 27 มีนาคม 2554 13:07:13 น. |
Counter : 1944 Pageviews. |
|
|
ส่วนสลัดมันฝรั่งใส่มักกะโรนีก็น่าหม่ำสุด ๆ..