ผจญภัยในญี่ปุ่นแบบหมาป่าโดดเดี่ยว วันที่12.3 -มื้อกลางวันอลวน-
ถูกโอค่าซังเอามาปล่อยทิ้งไว้ที่สถานีนี้
อีกนานกว่ารถจะมา นอนซะเลย
ค่าตั๋วรถไฟไปมะสึโมโต้อยู่ที่570เยน ใช้เวลาเดินทาง1ชั่วโมงเศษ
เมื่อมีแคธีที่เคยไปมะสึโมโต้มาหลายครั้งนั่งรถไฟมาด้วยกันผมก็อุ่นใจนิดนึง
ว่าแล้วผมก็นอนหลับเอาแรงเพื่อป้องกันอาการง่วงที่อาจจะมาจู่โจมตอนเที่ยว
12.40น. รถไฟเข้าเทียบชานชลาMatsumoto
...สถานีที่ผมแวะเข้าห้องน้ำแล้วต้องโกยสุดชีวิตมาขึ้นรถไฟนั่นเอง จำได้มั้ยครับ
สถานีรถไฟคือสีเหลืองทางมุมล่างซ้าย ส่วนปราสาทคือสีฟ้าตรงเกือบกลางรูปน่ะครับ
ย่านการค้ารอบปราสาทมะสึโมโต้มีขนาดไม่ใหญ่นัก
(ผมเอาแผนที่ในรูปไปเทียบกับกูเกิ้ลแม็ปคร่าวๆวัดได้ประมาณ 1.4x1.2 กิโลเมตรเองครับ)
แต่สวยงาม เป็นระเบียบและเดินเพลินเป็นอย่างยิ่ง (เพราะอากาศมันไม่ร้อนด้วยแหละครับ 55)
นอกจากนี้มะสึโมโต้ยังเป็นไม่กี่เมืองในญี่ปุ่นที่ยังมีปราสาทหลงเหลืออยู่อีกด้วย
ตัดมาที่ผมและแคธีอีกที เรา(ผม)ตกลงกันว่าจะหาข้าวกินกันก่อนแล้วค่อยเดินเที่ยวต่อ
เนื่องด้วยแคธีเคยมาที่นี่แล้ว+พูดและอ่านภาษาญี่ปุ่นได้บ้าง
ผมเลยให้เกียรติแคธีเป็นคนเลือกร้านได้ตามสบาย
...โดยมีข้อแม้ดังนี้
1 ขอราคาไม่เกิน600เยน
2 ไม่กินอาหารจำพวกก๋วยเตี๋ยว
ร้านอาหารมากมาย2ข้างทางเมื่อเจอข้อจำกัด2ข้อนี้เข้าไปก็เหลืออยู่ประมาณ1ใน3
...ซึ่งมันก็ไม่น้อยเลยนะ แต่แคธีใช้เวลาเลือกเกือบครึ่งชั่วโมง
เดินแล้วเดินอีก เดินวนไปเวียนมาที่เดิมๆประมาณ2รอบถึงเลือกร้านได้
ตอนเดินหาร้านเมื่อผมเห็นแมวกวักผมถึงกับต้องเข้าไปลูบหัวขอพรให้ได้กินข้าวก่อนจะเย็นด้วยเถ้อ
สุดท้ายแคธีก็เลือกมาได้ร้านนึง พอเข้าไปนั่งปุ๊บพนักงานก็เอาน้ำเปล่าใส่น้ำแข็งมาเสิร์ฟก่อนเลย
แล้วจึงหยิบเมนูมาให้ ...ซึ่งพอเข้าไปเห็นเมนูแล้วถึงได้รู้ว่าร้านนี้ขายแต่เกี๊ยวซ่า
ตอนนั้นบอกตรงๆเลยครับว่าอยากเปลี่ยนร้านเพราะผมไม่ชอบเอาซะเล้ยไอ้เกี๊ยวซ่าเนี่ย
แต่นั่งลงกินน้ำเค้าไปแล้ว แถมไม่ได้มาคนเดียวอีก จะทำเป็นเรื่องมากก็คงไม่ดีแน่
...จำใจกินก็ได้(วะ)
อาหารชุดที่ถูกที่สุดคือเกี๊ยวซ่าหมู1แพ+ข้าว+ซุป+สลัดมันฝรั่ง+ผักดอง ราคา600เยน
(ใครอยากสั่งแยกก็มี แต่แน่นอนว่าสั่งเป็นชุดจะถูกกว่า)
เหลือบลงมาดูข้างล่างของเมนูอีกนิดเป็นชุดที่เพิ่มเกี๊ยวซ่ากุ้งเข้ามาอีก1แพราคา790เยน
...เกินงบไปนิดแต่ดูแล้วคุ้มกว่า เอาอันนี้ละกัน
เมื่อผมสั่งเสร็จแล้วต่อไปก็ตาแคธีมั่ง อย่างที่เคยเล่าไว้ว่าแคธีเป็นมังสวิรัติ
แคธีเลยถามพนักงานว่าพอจะทำเกี๊ยวซ่าไส้ผักให้ได้มั้ย
ขอกันแค่นี้จิ๊บจ๊อยครับสำหรับการบริการมาตรฐานญี่ปุ่น จัดให้!
ที่นี่กินเกี๊ยวซ่าเป็นกับข้าวนะครับ
น้ำจิ้มมีให้เลือก2แบบ และมีของหน้าตาตล้ายๆน้ำพริกเผาให้ใส่ด้วย
ความรู้สึกของอาหารชุด790เยนแบบไม่เต็มใจสั่งนั้นช่าง...
...
...
...
สุโก้ยยยยยยยย!!! โอยชี่เด็ดดดดดด!!!
อร่อยสมกับเป็นต้นตำรับ อยู่เมืองไทยไม่เคยกินเกี๊ยวซ่าอร่อยเท่านี้มาก่อน
(...แค่ระดับอร่อยก็ยังไม่เคยเจอเลยครับ)
โดยเฉพาะเกี๊ยวซ่ากุ้งทั้งตัวเนี่ย... โอ้ย พิมพ์ไปก็กลืนน้ำลายไปครับ
อาหารของผมมาก่อน แคธีก็บอกกินได้เลยไม่ต้องรอ
แหม่ ผมคนมีมารยาทนะครับ มาพร้อมกันแต่เรากินก่อนมันจะถูกเหรอ
ผมก็เลยกินให้ช้ากว่าปรกติกะให้ของแคธีมาแล้วกินหมดพร้อมกันล่ะว่างั้น
ละเลียดจนที่สุดของที่สุดจนกินไปได้ครึ่งนึงของแคธีก็ยังไม่มา
บอกให้แคธีไปทวงกับพนักงานแคธีก็ไม่ไป
ผมก็เคารพการตัดสินใจของแคธีจึงไม่ไปทวงให้และนั่งกินต่อไป
อาหารของแคธีกว่าจะมาก็นู่นแหละครับ
...ชาติหน้า
สงสัยจะเกิดการผิดพลาดทางการสื่อสาร
ดังนั้นพอออกจากร้านเกี๊ยวซ่าเราเลยต้องตระเวนอีกร้านให้แคธีได้กินมั่ง
พอเล็งกล้องปุ๊บมือเจ๊เค้าเด้งขึ้นมาทันที 55
จะแดงไปไหนครับพี่!
เคาท์เตอร์คิดเงินอยู่ด้านหน้าร้าน
ด้วยข้อจำกัดของการเป็นมังสวิรัติของแคธีทำให้มื้อนั้นแคธีต้องเข้าร้านอาหารอิตาเลียน
...น่าสงสารจริงๆต้องถ่อมากินอาหารอิตาเลียนถึงญี่ปุ่น 555
ร้านสวย อาหารก็อร่อย(แคธีบอก) ลูกค้า(หญิง)ก็หน้าตาดี อิอิ
แต่65%ของพื้นที่เป็นโซนสูบบุหรี่
คงเป็นจุดขายของร้านเค้ามั้ง
แต่ที่น่าแปลกคือในร้านมีคนสูบบุหรี่3คน และทั้งหมดคือผู้หญิง
สปาเก็ตตี้ผัก
กับชามะนาว(มั้ง)
ฝรั่งก็แอ๊บแบ๊วเป็นนะครับ 55
โซนที่เป็นกระจกนั่นแหละครับเขตปลอดบุหรี่
หลังเคาท์เตอร์จะขายน้ำและเบเกอรี่
เติมพลังกันเรียบร้อยแล้วเราก็มุ่งหน้าไปปราสาทกันอย่างไม่โอ้เอ้
เพราะเมฆนี่ตั้งเค้ามาซะครึ้มเชียว
ตึกนี้เท่ดีนะครับ ชอบ
30313/555
Create Date : 27 กุมภาพันธ์ 2554 |
|
11 comments |
Last Update : 28 กุมภาพันธ์ 2554 22:48:01 น. |
Counter : 1946 Pageviews. |
|
|
ง่า..เกิดไรขึ้น ในเมื่อถามว่าทำเกี๊ยวซ่าผักได้ไหม บอกว่าได้ แล้วทำไมถึงไม่ได้อาหารง่ะ
บรรยายซะอยากโดดไปกินอาหารร้านนี้เลย อิอิ
น้องเหมียวน่ารัก
จขบ.ผอมกว่าที่เราคิดแฮะ