+++++++ละครเวทีเล็ก ๆ ที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสุขล้นเหลือ++++++++
สามวันที่ผ่านมาผมไปเที่ยวเชียงใหม่มาครับ จะว่าไปเที่ยวเต็มตัวก็คงไม่ได้ เพราะว่าไปทำงานรู้จักกับแหล่งข้อมูลที่ต้องการศึกษา
หลังจากเที่ยวแหล่งกินกันไปมากแล้ว ก็ถึงเวลาหาความสุขให้กับตัวเอง ด้วยการไปนั่งเม้าท์กับน้อง ๆ พร้อมกับการไปดูละครเวที
ผมชอบดูละครเวทีครับ โดยเฉพาะละครเวทีของนักศึกษาที่เป็นโปรเจคส์เล็ก ๆ เพราะรู้สึกว่าความห่างระหว่างตัวเรากับเวทีไม่ห่างกันเท่าไร บรรยากาศอบอุ่น เพราะคนแสดงกับเราต่างก็รู้จักกัน ดูเสร็จแล้วไม่เสร็จเลย ก็มีการพูดคุยคอมเมนต์กันไป สนุกสนานเฮฮา
ภาควิชาที่ผมจบมา ก็เหมือน ๆ กับคณะนิเทศที่อื่น คือ ต้องมีการประจำคณะ เช่น พวก ละครเวที ฯลฯ เพื่อที่จะได้ฝึกฝนฝีมือการทำงานเป็นทีม ซึ่งเป็นประสบการณ์ที่หาได้ยากจากห้องเรียน
ปกติ ชาวแมสคอม ม.ช. จะมีงานละครเวทีอยู่สองงานในแต่ละปี คือ งาน "ขยับปีก" งานที่เป็นที่ปล่อยของของทุก ๆ ชั้นปี งานของเรา จะมีการแบ่งเป็นโปรดัคชั่นใหญ่เล็กออกไป เพื่อให้น้อง ๆ ได้คิดงานของตนเอง แสดงเอง ครีเอทเองทุกอย่าง
ส่วนอีกงานหนึ่ง เป็นงานตัวเรียนวิชา "ดราม่า" ซึ่งคนที่เรียนก็จะต้องจัดทำละครเวทีขึ้นมาหนึ่งเรื่อง ปีไหนคนเยอะก็โปรดัคชั่นใหญ่หน่อย ปีไหนคนน้อยก็ลดสเกลลงมา
ส่วนงานอื่นในมหาวิทยาลัย ส่วนใหญ่ก็จะมีงานละครเวทีอย่างของคณะวิจิตรศิลป์ที่เป็นตัวเรียนอีกเช่นกัน แต่ก็นาน ๆ ทีมีไม่บ่อยนัก ที่เหลือก็จะเป็นของคณะสถาปัตย์
มาปีนี้ละครเวทีในมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ที่มีไม่บ่อยนัก กลับครึกครื้นเป็นพิเศษ เพียงแค่เทอมแรก ก็แทบเล่นต่อกันทั้งเทอม เรื่องนี้จบ เรื่องนี้ต่อ เป็นปรากฎการณ์ที่หายากแฮะ
นอกจากงานที่มีปกติอยู่แล้วอย่างละครวิชาดราม่า ปีนี้ น้อง ๆ ผมเขาฟิต ด้วยความที่อยากสอนงานน้องปีหนึ่ง ก็เลยจัดโครงการ "ละครสอนน้อง" ขึ้น เพื่อที่ว่าน้อง ๆ จะได้เข้ามาช่วยพี่ ๆ ทำงานตั้งแต่แรก ๆ จะได้รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
ซึ่งผลจากการทำโครงการนี้ขึ้นมา เห็นพวกน้อง ๆ ของผมบอกว่าประสบความสำเร็จทางด้านการทำงานทีเดียว เพราะน้องปีหนึ่งมาช่วยงานเยอะมาก ที่สำคัญยังมีความสามารถมากมายในการแสดง การแต่งเพลง การเขียนบท
เหมือนเป็นดั่งไฟที่จุดประกายขึ้นมากลางความหวังที่มืดมิด เราคงได้เห็นอะไรดี ๆ ในไม่ช้าแน่
เมื่อรุ่นพี่เห็นรุ่นน้องไฟท์งาน ก็ดูเหมือนไฟต่าง ๆ ที่กำลังจะมอดเริ่มกลับมาอีกครั้ง น้อง 46 ของผมเข้ามาคุยถึงเรื่องขยับปีกที่จะเกิดขึ้นตอนเดือนมกราคม ด้วยสายตาที่เปร่งประกายด้วยความฝันและความคิดสร้างสรรค์
ส่วนละครที่ผมได้ไปดูในช่วงที่ไปเชียงใหม่ เป็นละครของวิชาละครเอเชีย ของคณะวิจิตรศิลป์ เรื่อง 'เจ้านางน้อย' คนเรียนก็มีน้อง ๆ ผมอยู่หลายคนทีเดียว
เจ้านางน้อย เป็นเรื่องของ 'สิงห์' ชายหนุ่มผู้หมกมุ่นอยู่ในภาพวาด เขามอบความรักให้กับภาพเขียนจนลืมถึงคนใกล้ตัว จนเมื่อเขาไปเมาอยู่ในพระอุโบสถที่ต้องทำการซ่อมภาพ เทพยดาจึงบันดาลให้เขาหลุดไปยังเรื่องของนางรจนา แล้วเรื่องราวก็ดำเนินไปจนในที่สุดก็ได้รู้ว่าความรักที่ยิ่งใหญ่มิจำเป็นต้องยึดติดไว้กับวัตถุเสมอ
ละครเวทีเรื่องนี้จัดขึ้นที่โรงละครของ หอศิลป์ ม.ช. ที่นี้จุคนได้ไม่เยอะมากนัก ประมาณ 200 กว่าที่ ดังนั้นบรรยากาศจึงรู้สึกเป็นกันเอง
บรรยากาศอบอวลไปด้วยเสหน่ห์ของเมืองเหนือ ดนตรีประกอบคือเสียงซะล้อ ซอ ซึง ประกอบกับเสียง ambience บรรยากาศแบบเหนือ ๆ (เช่นพวกเสียงกระดิ่งที่ถูกลมพัด เสียงระฆังกังวาน เป็นต้น)
ดูเสร็จ น้อง ๆ ผมที่รู้จักมักคุ้นกันก็เดินลง ก็พูดคุยว่าเรารู้สึกยังไงบ้าง เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดแบบพี่ ๆ น้อง ๆ ที่แสนอบอุ่นยิ่งนัก
ตอนนี้ผมก็เฝ้ารอเดือนมกราคมที่พวกน้อง ๆ จะทำงานขยับปีกออกมา เฝ้ารอว่าปีนี้จะเป็นเช่นไร มีความคิดสร้างสรรค์อะไรสนุก ๆ ออกมาอีกบ้าง
แล้วถ้าถึงวันนั้นคงสนุกไม่น้อย
--------------------------------------------------------
ส่วนนี้สำหรับชาวแมสคอม 43 และทุก ๆ ชั้นปีที่ได้แวะเข้ามาอ่านครับ
- หลังจากที่งานแป้กมาหลายงาน ตอนนี้เหมือนพึ่งรู้สึกว่าพีอาร์กันห่วย ที่เราเคยปากเปียกปากแฉะไปก็เริ่มรู้ว่าพี่ ๆ พูดจริงว่ะ ในที่สุดเรื่องพีอาร์ก็ดูเป็นประเด็นสำคัญที่ถูกยกขึ้นมาพูดกันเป็นอันดับต้น ๆ
- น้อง 46 บอกว่าปีนี้ขยับปีกขอเลื่อนไปเป็นมกราคมแทน เพราะปัญหาที่พบในหลาย ๆ ปีที่ผ่านมาคือชนสอบและปีใหม่ ทำให้ไม่มีคนดู ซึ่งกูก็บอกว่าไม่มีปัญหา เอาเลยจ๊ะ
- ปีนี้น้อง 46 อยากทำโปรดัคชั่นเดียว แต่คล้ายกับว่าแบ่งเป็นเรื่องย่อย 5 เรื่อง กูก็บอกว่าเอาเลยตามสบายอีกเช่นกัน ขอเพียงออกมาดี พี่ ๆ ไม่มีใครว่าหรอกจ๊ะ (แต่อย่าพลาดละกัน เฮ้ย! พูดเล่น)
- เพลงประกอบละครเวทีเรื่อง 'เจ้านางน้อย' ที่จามรเขียนบทเลิศมาก เป็นดนตรีเหนือที่เต็มไปด้วยเสียงกระดิ่ง ระฆังกระทบลม เป็น Ambience ที่ฟังแล้วชวนให้คิดถึงเชียงใหม่และลมหนาวของเมืองเหนือมาก ไม่รู้มีอัดเก็บไว้เปล่า เพราะตอนแสดงใช้วงเล่นสด
- เตรียมเก็บเงินเก็บทอง พร้อมเคลียร์เวลาว่าง ไปเชียงใหม่ดูขยับปีกกันน่ะ
Create Date : 24 กันยายน 2548 |
|
26 comments |
Last Update : 25 กันยายน 2548 12:49:57 น. |
Counter : 709 Pageviews. |
|
|
|
ถ้าไม่มีวิชาของครูจิ
เด็กบรรณารักษ์ก็คงไม่มีโอกาสได้สานฝัน ได้ทำละครเวที
อ่านแล้วอยากทำละครเวทีอีกรอบ