Group Blog
 
<<
พฤศจิกายน 2552
 
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
2930 
 
25 พฤศจิกายน 2552
 
All Blogs
 
ประสบการณ์ความหนาวแบบประจำวันที่เชียงใหม่ โรแมนติคบ้าง ไม่โรแมนติคบ้าง




ไหน ๆ กรุงเทพฯ ก็มีลมหนาวมาให้สัมผัสสี่ห้าวันแล้ว แม้วันนี้จะพออุ่น ๆ แล้วก็ตาม แต่เอาเป็นว่าขอเกาะกระแสเล่าเรื่องความหนาวจากประสบการณ์ตรงหน่อยละกัน

ช่วงนี้ของปีที่แล้วผมใช้ชีวิตอยู่เชียงใหม่ สภาพอากาศปีที่แล้วถือว่าหนาวใช้ได้เมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ หลังจากฝนหลงฤดูในเดือนตุลาคมเราก็สันนิษฐานกันว่า นี่แหละหลักไมล์สุดท้ายเดี๋ยวก็หนาว แล้วมันก็เป็นจริง

ชีวิตการงานของผมบังคับให้ผมต้องเดินทางด้วยมอเตอร์ไซค์ไปตามเขตรอบอำเภอต่าง ๆ งานประจำที่ทำตอนนั้นคือสอนหนังสือสองที่ (5 เซคชั่น รวมทั้งสิ้น 4 วัน สอนมากกว่าอาจารย์ประจำเสียอีก) คือที่ราชภัฏเชียงใหม่และมหาวิทยาลัยแม่โจ้ ของราชภัฎเอง ตัวคณะที่สอนก็ไปตั้งอยู่วิทยาเขตแม่สา ใช้เส้นทางไปแม่ริม ห่างจากวงแหวนรอบนอกสองสามโล ส่วนแม่โจ้นั้น ปกติผมไปทางหลักคือเส้น เชียงใหม่ - พร้าว ก็ห่างจากตัวเืมือง 17 กิโล

แรก ๆ ไปก็เหนื่อยเหมือนกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันที่อากาศร้อน แต่ไปบ่อย ๆ เข้าก็เริ่มชิน ใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง วันไหนครึ้มอกครึ้มใจก็เปลี่ยนทางกลับไปทางวงแหวนรอบกลาง แม้อ้อมบ้างแต่ก็ได้เห็นทิวทัศน์ภูเขาสวย ๆ ตอบแทน

การไปสอนในฤดูเช่นนี้ ความหนาวเป็นสิ่งที่ไม่มีวันหนีพ้น อุปกรณ์ติดตัวที่ต้องมีประกอบการเดินทางนอกจากของประจำอย่างหมวกกันน๊อคแล้ว คือ MP3 ที่เอาไว้ฟังระหว่างเดินทาง ช่วยทำให้การเดินทางเร็วขึ้นมากเพราะใจเราไม่ร้อนตาม อีกอย่างที่ขาดไม่ได้คือแว่นกันแดด หน้าหนาวแดดยิ่งจ้า บางวันแทบไม่มีเมฆบนฟ้า แสงที่สาดลงมาทำเอาตาพร่าไปได้ง่าย ๆ ที่สำคัญที่สุดคือ เืสื้อกันหนาว ผ้าพันคอ และถุงมือ ขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง การขี่มอเตอร์ไซค์ผ่าลมหนาวจะกลายเป็นเรื่องทรมานมาก

การเดินทางไปสอนตอนเช้าหรือตอนบ่ายไม่ใช่เรื่องน่ากลัวอะไร ยิ่งตอนเช้าด้วยแล้ว ต้องบอกคำเดียวเลยว่า สุดยอด อากาศดี ๆ เย็น ๆ ยามเช้า บวกกับแสงแดดสักแปดโมง สร้างความอุ่นและโรแมนติคไปพร้อม ๆ กัน ส่วนยามบ่าย ลมเย็นช่วยทำให้เราไม่เหนื่อยนักกับการฝ่าแดดร้อน ทว่าขากลับซึ่งเป็นช่วงเย็น หลายครั้งผมสอนเลิกดึก ราว ๆ ทุ่มถึงสองทุ่ม สิ่งที่ต้องเจอล้วนแล้วแต่สยองนัก

ตลอดเส้นทางจากซุปเปอร์ไฮเวย์ถึงแม่โจ้ยังเต็มไปด้วยดงป่าหญ้า บ้านคนขึ้นประปราย ยามขี่ผ่านบ้านคนความเย็นจะแค่ระดับหนึ่ง แต่ยามผ่านดงหญ้าคาสูง อุณหภูมิจะปรับลดทันทีอย่างน้อย 3 องศา เอาเป็นว่าแค่ผ่านก็วูบแล้ว เย็นไปทั่วสันหลัง เสื้อกันหนาว ผ้าพันคอและถุงมือที่มี แทบไม่ได้ช่วยอะไรแม้แต่น้อย

ไอ้ที่โรแมนติคในตอนเช้ากลายเป็นของแสลงยามค่ำคืน

ขากลับหอตอนกลางคืนนี่ยิ่งกว่า ผมจะกลับหอประมาณสี่ทุ่มครึ่ง คือต้องไปนั่งร้านกาแฟโสดก่อน สี่ทุ่มเขาปิดร้านก็ช่วยเก็บโต๊ะทำความสะอาดอะไรกันไป ต่อจากนั้นอาจจะไปกินข้าว ขากลับนี่แหละโหดมาก

หอผมอยู่ในชุมชนโป่งน้อย อีกไม่กี่กิโลก็เป็นแ่ม่เหียะ ห่างจากหลัง มช. ประมาณ 3 กิโล มีทางไปได้สองทาง คือ เส้นคลองชลประทาน และเส้นทางหลังวัดอุโมงค์ ซึ่งผมมักใช้เส้นทางหลังเป็นหลัก

หลังวัดอุโมงค์ยังเป็นป่าหญ้ายาวเหยียด ครั้งหนึ่งมีคนเคยตัดหญ้าโซนนั้นเสียเตียน ไม่น่าเชื่อว่าดงหญ้าที่เห็นนี้จะยาวเหยียดไปถึงเชิงดอยสุเทพเลยทีเดียว นาน ๆ ทีถึงมีคนมาตัด ป่าหญ้านี้ก็สูงท่วมหัวเราเป็นภาพชินตา

ทุกครั้งที่ผมจะผ่านจุดนี้ ซึ่งยาวประมาณ 50 เมตร ผมต้องทำใจก่อนเสมอ เพราะอากาศจุดนั้นจะเย็นเวอร์กว่าจุดอื่นมาก ๆ เรียกได้ว่ากรีดร้องได้คงทำไปแล้ว เพื่อนผมนี่ยิ่งแล้ว ขี่ไปตะโกนไปว่า "ร้อนโว้ย ร้อนฉิบหาย" ดังลั่นตลอดทาง โชคดีมันไ่ม่มีบ้านคนเยอะนัก เขาเลยไม่ออกมาด่า

นี่ก็เป็นเรื่องคร่าว ๆ ที่โรแมนติคบ้าง ไม่โรแมนติคบ้าง เกี่ยวกับความหนาวที่ผมประสบตอนปีที่แล้วนะครับ


Create Date : 25 พฤศจิกายน 2552
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2552 13:46:09 น. 10 comments
Counter : 935 Pageviews.

 
ชอบประโยคนี้

ไอ้ที่โรแมนติคในตอนเช้ากลายเป็นของแสลงยามค่ำคืน

ของบางอย่างมันก็ดีสำหรับบางเวลา ไม่ดีสำหรับบางเวลาน่ะนะ


อยากขับมอไซค์กินลมอย่างนี้บ้างจัง ไม่ได้ทำมานานแค่ไหนแล้วน่อ

เอาไว้ถ้าไปอยู่เชียงใหม่ คงได้ทำบ้างหละมั้งนะ แหะๆ





ไปตะรุเตา แต่แวะตรังด้วยเหรอ? ดีจัง ท่าทางจะได้เที่ยวยาวเลยสิ

หมูย่างเมืองตรัง ไปรอบนี้พี่ไม่ได้กินง่ะ กะว่ารอบนี้จะลองกินกับกาแฟเหมือนชาวตรังเค้าบ้างก็อด เสียดายเหมือนกัน แต่ก็ถือว่า เอาน่า เคยกินมาแล้ว


โดย: สาวไกด์ใจซื่อ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:15:37 น.  

 
เข้าใจแล้วว่าทำไมดองรำลึกถึงเชียงใหม่อยู่เสมอ

พี่ว่าอ่านแล้วโรแมนติกดีนะ


โดย: grappa วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:14:30:16 น.  

 
สวัสดีค่ะ..

เพิ่งกลับจากงานยี่เป็งที่เชียงใหม่มาเหมือนกันค่ะ

อากาศไม่เย็นเหมือนตอนนี้..

บรรยากาศพาให้โรแมนติกมั๊ง?

เสาร์ที่ผ่านมา ไปเที่ยวทุ่งทานตะวันมาค่ะ

ที่เชียงใหม่ดูได้ที่ไร่ของคณะเกษตร มช.

เลยแวะเอาความสุขมาฝากด้วยค่ะ


ขอให้มีคนให้โรแมนติกตลอดหนาวนี้นะค่ะ


โดย: คนผ่านทางมาเจอ วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:58:45 น.  

 
ู^
^
^

โอ้ว เขาปลูกผักชีกันแล้วหรือนี่


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:18:02:58 น.  

 


โดย: บ้านผ่อดอยใน วันที่: 25 พฤศจิกายน 2552 เวลา:23:28:29 น.  

 
แค่หนาวในกรุงเทพ เราก็สะท้านแล้วอ่า


โดย: pick (strawberry machine gun ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2552 เวลา:15:09:07 น.  

 
สวัสดีอีกรอบ

กันตัง พี่เองก็เพิ่งเคยไปครั้งนี้ครั้งแรกนี่แหละ โดยที่เที่ยว ถ้าไม่ใช่คนสนใจเชิงประวัติศาสตร์ก็ไม่ค่อยได้ไปกันหรอกค่ะ แหะๆ


โดย: สาวไกด์ IP: 202.28.12.82 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2552 เวลา:9:51:04 น.  

 
ถ้าเป็นหนังคงประมาณ Romatic Thriller เลยนะเนี่ย

ขอบคุณที่แวะไปอ่านบล็อกนะครับ


โดย: Ploffy วันที่: 7 ธันวาคม 2552 เวลา:21:49:24 น.  

 
หนาวนี้ที่เชียงใหม่
ก็ไม่แพ้หนาวไหน ๆ เหมือนกันค่ะ

เวลาไปไหนมาไหนด้วยมอเตอร์ไซด์
ก็อยากจะ "กรีดร้อง" อย่างที่คุณว่าไว้

มีความสุขมาก ๆ ในทุก ๆ หนาวนะคะ



โดย: Nilz วันที่: 8 ธันวาคม 2552 เวลา:0:54:20 น.  

 
ขี่มอเตอร์ไซด์ท้าลมหนาวนี่ไม่สนุกเลยนะคุณ ถ้าได้ขี่แล้วจะกลายเป็นอิจฉาคนกรุงเทพฯไปเลย ฮะๆ กรุณาเช็คหลังไมค์ด้วยครับ


โดย: Johann sebastian Bach วันที่: 10 ธันวาคม 2552 เวลา:7:20:48 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

I will see U in the next life.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add I will see U in the next life.'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.