Group Blog
 
<<
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
9 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
When we were "เกรียน"

ครั้งแรกที่ผมได้เห็นและได้ยินคำด่าว่า "เกรียน" ในอินเตอร์เนท ผมเข้าใจความหมายนั้นทันที เพราะผมเข้าใจการอุปมาเปรียบเทียบ ไม่มีอะไรมากผมเคยเป็น "เกรียน" มาก่อน

หลายคนถามผมว่าเกรียนแปลว่าอะไร คำด่านี้เป็นการด่าชาวเนตจำพวกอวดฉลาดแต่โชว์โง่ บางจำพวกเถียงคำไม่ตกฟาก บางจำพวกก็ป่วนเวบให้คนอื่นหัวเสียเล่น เปรียบเหมือนเด็กมัธยมที่ "หัวเกรียน" ปิดเทอมมีเวลาว่างมาเล่นเนตแล้วอยากจะโชว์เหนือ (แต่ความจริงโชว์โง่)

ผมเคยหัวเกรียนมาก่อน เลยเข้าใจอุปมานี้ทันที ทั้งที่ตัวจริงไม่เคยไปเกรียนใครในอินเตอร์เนท

เด็กมัธยมต่างจังหวัดส่วนใหญ่เคยผ่านการหัวเกรียนมาแล้วทั้งนั้น ต่างจากเด็กกรุงเทพฯ ที่มักหัวเกรียนต่อเมื่อเรียน รด. ผมทรงนักเรียนเสมือนเป็นหนึ่งในเครื่องแบบที่พวกเราต้องสวมใส่เฉกเช่นเดียวกับกางเกงสีกากี เช้าวันจันทร์หลาย ๆ ครั้งเต็มไปด้วยความเสียวเพราะไม่รู้ว่าจะโดนตรวจผม ซึ่งถ้าผมยาวก็ต้องแลกมาด้วยรอยแง่มพร้อมความเจ็บแสบของไม้เรียวที่ฟาดลงมาที่ก้น

โรงเรียนผมเป็นโรงเรียนชายล้วน แม้ว่าตอน ม.ปลาย จะมีนักเรียนหญิงก็ตาม ทว่าเพื่อนผู้หญิงของผมเหล่านี้ก็กลายเป็นชายเมื่อเวลาผ่านไป การเล่นโหด ๆ แบบผู้ชาย เช่น การกระโดดถีบกัน จับเพื่อนโยนลงสระน้ำ ฯลฯ ทำให้ผู้หญิงต้องปรับตัวเล่นเหมือนผู้ชายให้ได้

แม้โรงเรียนชายล้วนจะแสนแห้งแล้ง วัน ๆ ก็เจอแต่กระดอเดินไปมา ไม่สดใสเหมือนเรียนโรงเรียนสหศึกษา แต่ความแตกต่างที่เด็กโรงเรียนสหฯ ไม่เคยสัมผัสคือความสุดโต่งของพฤติกรรมเพราะไม่ต้องเกรงใจสาวหน้าไหน

ชีวิตของเกรียนมัธยมปลายผ่านไปซ้ำ ๆ เดิม ไม่มีอะไรใหม่ มาเรียนตอนเช้าแปดโมง เลิกเรียนสี่โมงเย็น คาบว่างคือสวรรค์ อินเตอร์เนทอย่าให้พูดถึงเลยเมื่อสมัยนั้นเพราะช้ามาก ๆ

ตอนเราอยู่ ม.6 เป็นปีที่พวกเราแม้จะอยู่ห้องคิง แต่ก็เสื่อมกันที่สุด เนื่องจากตึกเรียนไม่พอ ห้องของผม (เพียงห้องเดียว) จึงถูกย้ายไปเรียนตึก 2 ซึ่งเป็นตึกที่พวกผู้บริหารทำงานกัน เรื่องเฮฮาคือห้องที่เราเรียนอยู่ติดห้องปกครองผนังเดียวกันเลย แต่พฤติกรรมห่าม ๆ และการเล่นแบบไม่รู้จักโตยังคงไม่เปลี่ยนแปลง

วันหนึ่งตอนสาย ๆ เราไม่มีเรียนกัน เพราะ ม.6 จะเรียนกันมาตั้งแต่ปิดเทอมเพื่อรอเตรียมเอนทรานซ์ ด้วยความที่ไม่มีอะไรทำกัน จึงชวนกันเล่น "ซ่อนหา" ในตึก วิ่งกันทั้งตึกซึ่งมีทั้งห้องปกครอง ห้องวิชาการ ห้องสมุด และห้องของผู้อำนวยการ ราวกับเป็นเด็กน้อย ไม่น่าแปลกใจที่รุ่งเช้า ห้องของเราจะถูกประจานหน้าเสาธงว่าเด็กไม่รู้จักโต

เราแยกย้ายกันไปเมื่อสอนเอนทรานซ์ มีน้อยคนที่เรียนแถวบ้าน ส่วนใหญ่ก็เข้ากรุงไม่ก็มาเรียนเชียงใหม่ แต่พอถึงวันหยุดยาว วันปิดเทอม เราต่างรู้ว่าต้องกลับมาพบปะเจอกันที่โรงเรียนเสมอ ทุกเย็นช่วงปิดเทอม คนมากมายมาเฮฮากันที่โรงเรียน เตะบอล วิ่งรอบศาลสมเด็จพระนเรศวรบ้าง เล่นกีฬานู่นนี่บ้าง

ด้วยความเป็นเกรียน ทำให้ตอนเด็ก ทุก ๆ คนจะมีปมด้อยเรื่องผมและอยากไว้ผมยาวกันทั้งนั้น พอพ้นสภาพเด็กเกรียนแล้ว ชีวิตมหาวิทยาลัยที่ไม่มีใครบังคับทำให้ทุกคนต่างพากันไว้ผมยาว ผมเองก็เคยปล่อยให้ยาวโดยไม่ตัดเกือบถึงปาก (ซึ่งรำคาญมาก ต้องใช้ที่คาดผมตอนอ่านหนังสือ) แต่พอเวลาผ่านไป ก็เลิกเห่อผมยาว กลับมาตัดสั้นกันทั้งนั้น

ทุกวันนี้โรงเรียนผมไม่มีแล้ว เพราะมีการขุดเพื่อบูรณะเป็นพระราชวัง โรงเรียนใหม่ย้ายไปไกลมาก ซึ่งผมไม่เคยรู้สึกเลยว่านั้นคือโรงเรียนผม เวลาเข้าไปในพระราชวังจันทน์ ผมจะมองไปที่ต่าง ๆ ซึ่งถูกทุบไปหมดแล้วว่าตรงนั้นเราเคยทำอะไรกันบ้าง

ล่้าสุด หวิน เพืือนคนแรกสมัยมัธยม (ซึ่งต่อมาก็เรียน มช.ด้วยกัน และเคยเป็นเมทกับผมด้วย) แต่งงาน เพื่อนคนหนึ่งที่ถ่ายรูปไว้ได้ส่งรูปงานแต่งมาให้ ผมคลิกดู พบว่านอกจากรูปแต่งงานแล้วยังมีรูปสมัยเราเป็นเด็กซึ่งถ่ายไว้ด้วยกล้องฟิล์ม จำกันไม่เคยได้ว่าถ่ายกันวาระไหน ทำไม อย่างไร รู้แต่ว่าหายากสุด ๆ ที่ใครสักคนจะเอากล้องถ่ายรูปมาถ่ายกัน เพราะสมัยนั้นไม่มีกล้องมือถือหรือกล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่พกพาไปไหนสะดวก ผมได้เห็นรูปเหล่านั้นรู้สึกปีติอย่างบอกไม่ถูก นี่คืออดีตของเรา อดีตที่ยังชัดเจนในความทรงจำ

ความรู้สึกหมุนเวียนย้อนกลับวัยทันพลัน





วัย - Flure



Create Date : 09 ธันวาคม 2551
Last Update : 9 ธันวาคม 2551 11:14:49 น. 13 comments
Counter : 612 Pageviews.

 
Top Album or Artist

1. Asian Dub Foundation

เก่าละ แต่พึ่งรู้จัก เพลงมันส์มาก จังเกิลกันแหล่มมาก

2. Kitsch Cat

อ่านรีวิวได้ที่ https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=djdonk-mc43&month=06-12-2008&group=3&gblog=116

3. Blur : Country House

พึ่งเคยฟังเต็ม ๆ ทั้งอัลบั้ม ชอบมาก โดยเฉพาะ Best Days ตลกตัวเองที่ตอนเด็ก ๆ สงสัยหนักหนาว่าไอ้เพลง country house (ได้ดูเอ็มวีตามช่องเจ็ด ซึ่ง ณ ขณะนั้น ที่บ้านรับได้แบบว่าโคตรไม่ชัด) มันเพราะตรงไหนว่ะ

4. Knock the Knock

เวลาขี่มอเตอร์ไซค์ไปสอนนักศึกษาที่แม่โจ้ (ไกลจากจุดที่ผมอยู่ 17 กิโล) งานของสองหนุ่มนี้ช่วยได้ดียิ่งนัก


โดย: I will see U in the next life. วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:11:24:56 น.  

 
ครับ

ช่วงที่เราเกรียน

จัดได้ว่าเป็นช่วงที่มีความสุขและเมามันส์ช่วงหนึ่งของชีวิตเลยครับ

ทุกวันนี้ผมยังตะหงิดๆอยู่เลยเวลาอ่านบอร์ดเเล้วเจอคำว่าเกรียนที่ถูกเปรียบเทียบในทางไม่ดี


โดย: jonykeano วันที่: 9 ธันวาคม 2551 เวลา:11:56:37 น.  

 
เดี๋ยวนี้เราก็ยังเกรียนอยู่นะ (เกรียนมาตลอด) นี่ก็เพิ่งไปตัดผมมา^^


โดย: คุณม้าม วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:3:05:40 น.  

 
ไม่เคยหัวเกรียน ง่ะ

หัวถักเปียงะ แฮะแฮะ

มาดูภาพกะความารู้สึกดีดีงั๊บบบ เป็นภาพที่ดีมากเลย


โดย: Bernadette วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:8:31:51 น.  

 

คำว่า เกรียน นี่เข้าใจแล้ว แต่ยัง งงๆ คำว่า เมพ อยู่ 55


โดย: merveillesxx วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:10:37:40 น.  

 
รูปสมัยเรียนนี่ ดูยังไงก็ให้ความรู้สึกดีนะคะ เห็นแล้วแอบเสียดายเหมือนกัน ถ้าสมัยตัวเองเป็น นร มีกล้องดิจิตอลแล้ว คงมีภาพความทรงจำเยอะมากแน่ๆ


โดย: Vitamin_C วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:11:19:56 น.  

 
แหม เห็นแล้วเกรียนจริงๆ ครับ

นึกภาพตัวเองก็เคยเกรียนนะเนี่ย

นึกถึงความหลังจังเลย


โดย: หมื่นทิพ (เทพบุตรตบะแตก!! ) วันที่: 11 ธันวาคม 2551 เวลา:16:41:01 น.  

 
ได้ยินคำนี้ ภาพจะเด็กมัธยมต้นป่วนๆผุดขึ้นมาทันที

ภาพหมู่ที่ลงในบล็อกนี้สุดยอดจริงๆ ตั้งกะเรียนมายังไม่เคยถ่ายภาพรวมพลได้เยอะขนาดนี้



โดย: renton_renton วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:10:48:07 น.  

 
คิดถึงสมัยเรียน เอาถุงเท้าเหม็นๆๆ เวลาน้ำท่วม โปรยยยยยรอบๆๆห้อง กลิ่นเน่าสนิทดี อิอิ


โดย: Bernadette วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:20:16:18 น.  

 
ชอบฟลัวเหมือนผมอีกแล้ว


โดย: xfuton วันที่: 12 ธันวาคม 2551 เวลา:23:42:33 น.  

 
แวะมาอ่านชีวิตมันๆ ครับ


โดย: Johann sebastian Bach วันที่: 13 ธันวาคม 2551 เวลา:16:19:26 น.  

 
ฮ่าๆ โลก cyber กลมอีกแล้ว

อ่านแล้วอิจฉามากเลยอยากไปมั่ง

พี่ริคน่าจะจัดที่ กทม มั่งเนอะ


โดย: xfuton (xfuton ) วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:1:08:42 น.  

 
ผมเด็ก กทม.ต้องเกรียนตั้งแต่ประถมเลยครับ
แถมเรียนชายล้วนตลอดจนเข้ามหา'ลัย


โดย: แค่เพียงรู้สึกสุขใจ วันที่: 14 ธันวาคม 2551 เวลา:14:01:22 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

I will see U in the next life.
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




Friends' blogs
[Add I will see U in the next life.'s blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.