นักฝันผู้ชอบเขียนเล่าเรื่อง
Group Blog
 
<<
เมษายน 2559
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
16 เมษายน 2559
 
All Blogs
 

จุดหมายปลายทาง HOKKAIDO ตอนที่ 1













จุดหมายปลายทาง HOKKAIDO        


ได้เวลาอัพบล็อกหลังทริปก็ปาเข้าไปคืนวันที่สองหลังจากกลับพรุ่งนี้ยังมีเวลาอีกหนึ่งวันก่อนกลับไปใช้ชีวิตมนุษย์เงินเดือนอีกครั้ง เอาน่ะเพราะมีเงินเดือนจึงได้ไปเที่ยวมาไม่ใช่หรือ บอกตัวเองให้คิดใหม่แล้วตั้งใจทำบล็อก

ทริปนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลยถ้าไม่มีคุณสามี ผู้สนับสนุนรายการ (กราบแนบตัก) และผู้ร่วมทริปที่ทำให้ครอบครัวของเราโดยเฉพาะเด็กๆ สนุกสนานระหว่างทริป กับไกด์สาวน่ารักอัธยาศัยดี ความรู้แน่นปึกที่มอบความสะดวก และความรู้ให้พวกเรา


เข้าเรื่อง... วันหยุดสงกรานต์ปีนี้เราได้วันหยุดยาวมากกว่าทุกปี เป็นประวัติการเลยก็ว่าได้นะคะ ตั้ง 9วัน โห หยุดนานขนาดนี้แล้วจะรออะไรใช่ไหมเราวางแผนไปฮอกไกโดกับสามีล่วงหน้าถึงสองเดือนค่ะคิดๆแล้วจะไปเองก็กลัวจะลำบากเวลาเดินทางเรื่องการขนย้ายกระเป๋าจึงตัดสินใจไปกับทัวร์ นอกจากจะเดินทางสบายกว่าด้วยรถคันเดียวกันตลอดทริปแล้วยังมีไกด์ให้ความรู้อีกด้วย

เราเดินทางกันในคืนวันที่ 9เมษายน ไฟลท์กลางคืนค่ะ เด็กๆ ก็อึดมากทีเดียว ไม่ง่วงนอนเลยแต่พอขึ้นเครื่องปุ๊บ หลับปั๊บ


ส่วนเรา ไม่เคยหลับบนเครื่องบินเลยค่ะโดยเฉพาะไฟลท์กลางคืน เอาเถอะ ทนไปจนถึงเช้าอาจจะไปงีบบนรถบัสระหว่างเดินทางเอาก็ได้


หลับๆตื่นๆ ตลอดค่ะได้ที่นั่งข้างหน้าต่างนี่ถูกใจคนชอบมองวิว ยังได้มองอะไรแก้เบื่อ พอใกล้ถึงแสดงว่ามันคือเวลารุ่งเช้า มองลอดช่องหน้าต่างออกไปแล้วเห็นความสวยงามของโลกใบนี้(ใครที่ได้ที่นั่งริมหน้าต่าง ส่วนมากจะเป็นคนชอบดูวิวนะคะ)


 เสียงแอร์โฮสเตสประกาศว่าใกล้ถึงแล้วก็ตื่นเต้นๆ ฮอกไกโดนี่ไม่เคยมาเลย และไม่คิดว่าจะได้มาด้วยค่ะแต่ที่เลือกที่นี่เพราะเด็กๆ อยากเห็นหิมะ ซึ่งเราก็บอกเขาไปว่าเดือนเมษายนหิมะเริ่มละลายแล้วนะ อาจจะเห็นแค่น้ำแข็งละลายตามพื้น

พอเครื่องล่อนลงที่สนามบินชินจิโตเสะผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมือง และไปหยิบกระเป๋าที่สายพาน เราพบไกด์อีกครั้งแล้วรวมตัวกันไปขึ้นรถบัส คันที่จะเป็นยานพาหนะนำเที่ยวของเราตลอดการเดินทาง


ขณะที่เราเดินออกจากสนามบินเพื่อไปขึ้นรถก็ถูกความหนาวเย็นจู่โจมทันที เด็กๆ หนาวกันมากค่ะ ไม่เคยเจอความหนาวแบบนี้มาก่อนวันนั้นน่าจะประมาณ 5 องศาได้มั้งคะ ถ้าจำไม่ผิด

เป็นห่วงว่า เสื้อที่ซื้อมาให้เขาจะกันหนาวไม่พอ แต่เด็กๆ นี่ลูกพระพาย หนาวแค่ไหนพวกเขาก็ยังดูสนุกกับมัน

และเราก็ไม่ได้งีบหลับตามที่คิดเมื่อตอนอยู่บนเครื่องเพราะกลัวพลาดทิวทัศน์แปลกตาของที่นี่ ในเมื่อได้มีโอกาสมาแล้วจะหลับก็ค่อยไปหลับคืนนี้ ตอนนี้ขอชมความงามของสองเส้นทางดีกว่า


สุดบรรยายเมื่อเห็นภาพภูเขาสูงมีน้ำแข็งปกคลุม เป็นอะไรที่อลังการมากนะคะ สววยงามและน่าเคารพ มองลงไปตามถนน ยังเห็นหิมะปกคลุมอยู่เลย เรียกให้เด็กๆ ได้ดูด้วยตาไปก่อน

ไม่รู้ว่าจะได้เอามือน้อยๆ แตะสัมผัสหิมะหรือไม่


การมาครั้งนี้ เราลงทุนถอยกล้องตัวใหม่ เป็นแบบที่เบา บางและเหมาะกับการไปเที่ยวโดยไม่ต้องแบก แต่ถอยก่อนมาได้แค่อาทิตย์เดียว และไม่เคยได้ลองใช้

จนมาใช้จริงในวันจริง ดูสิว่าในเวลาสี่วันจะคุ้นมือมากน้อยแค่ไหน






ทีนี้ ก่อนจะทำอะไร ท้องก็ต้องอิ่ม ถ้าหิวก็เที่ยวไม่สนุกนะคะ คุณไกด์เราจึงนำมาทานมื้อกลางวันกันที่ "หมู่บ้านราเมง" ที่อยู่ในเมืองอาซาฮิคาวะ

ที่หมู่บ้านราเมง ก็ไม่เชิงเป็นร้านราเมงทั้งหมู่บ้านค่ะ แต่เขารวบรวมเอาบะหมี่หลากหลายชนิดจากทุกภูมิภาคมมารวมกันใน "หมู่บ้าน" 

หรือจะเรียกให้ตรงกับที่ตาเห็นก็คือเป็นห้องแถวชั้นดียวสร้างติดกันในรูปบล็อกสี่เหลี่ยม ต้องมีการซื้อคูปองด้วยนะคะ แล้วเรารับคูปองไปใช้ทานตามร้านที่เราเลือก

ของบ้านเราเลือกร้านที่มีชือว่า "อาโอนะ" 

คุณไกด์บอกว่าชาวฮอกไกโดนิยมทาน "มิโสะราเมง" เราก็เลยสั่ง จริงๆแล้วชอบน้ำซุปที่เรียกว่า "ทงโค็ทสึ" มากกว่า แต่มาถึงถิ่น ก็ต้องลองสิ่งที่คนท้องถิ่นทาน


รสชาติอร่อยค่ะ ซดน้ำซุปเกือบหมดเลยทีเดียวนะ ทานกันเกือบหมดชามทุกคน (คิดถึงวันกลับเลย... น้ำหนักขึ้นแน่เรา)

อ้อ... เขามีเมนูภาษาไทยด้วยค่ะ แสดงว่ามีโครงการต้อนรับนักท่องเที่ยวชาวไทยกันเต็มที่ 


พออิ่มกันแล้ว ได้ของร้อนเข้าร่าง ก็รู้สึกอบอุ่นมีพลังพร้อมลุยกันแล้วค่ะ เรานั่นรถเดินทางไปยังจุดหมายหนึ่งที่เด็กๆ ชอบมาก นั่นคือ ICE WORLD PAVILION หรือเมืองน้ำแข็ง 

เป็นสถานที่ ที่เขาสร้างเป็นเมืองน้ำแข็งด้านใน และมีบริเวณที่ให้ได้ทดลองสัมผัสอาการนาวที่ -41 องศาด้วยค่ะ เขาเล่ากันว่า ฮอกไกโดเคยมีอากาศหนาวติดลบขนาดนั้นมาแล้ว และอาซาฮีคาว่า ก็เป็นเมืองที่

หนาวที่สุดของฮอกไกโดด้วยค่ะ



ผ้าที่ลูกชายถืออยู่เป็นผ้าเปียกค่ะ เขาให้ถือเดินเข้าไป พอออกจากสถานที่มันก็แข็งแบบตั้งได้เลยล่ะ อ้อเขาท้าให้ลองถอดเสื้อแล้วทดลองสัมผัสอากาศหนาวติดลบด้วยการกดปุ่มที่เห็นในรูปค่ะ แต่เราไม่กล้าขนาดนั้น ขอลองในขณะใส่เสื้อโค้ทเถอะ เด็กๆ ไม่ได้ลองค่ะ เราลองคนเดียว


ไม่บอกนะคะว่าเป็นยังไง อยากให้มาลองเองถ้ามีโอกาสเอง (ใบ้ให้ว่า ถ้ามาเขียนบล็อกเล่าได้แบบนี้ แสดงว่ารอดชีวิตค่ะ)  


แต่พอรอดชีวิตออกมาได้ ก็วิ่งตามเด็กๆ ใช้คำว่าวิ่ง ก็ลูกพระพายเหล่านี้เห็นวัตถุสีขาวล่อตาอยู่นอกอาคาร จึงออกตัวอย่างอัตโนมัติ




สมใจเขาละ ได้จับได้ปั้นตามที่ฝันไว้ ดูสิบอกให้ตั้งท่าถ่ายรูปยังไม่ค่อยยอมทำ สนใจแต่ปุยน้ำแข็ง ตากล้องเองก็ตั้งกล้องผิดๆ ถูกๆ ยังไม่ชินมือกับกล้องใหม่ (จริงๆ ก็กับกล้องทุกตัวนั่นแหละ)


อ้อ ลืมบอก ที่นี่เขามี  "Sea Angel" ตัวเป็นๆ ให้เราชมด้วยนะคะ เป็นสิ่งมีชีวิตคล้ายนางฟ้า อาศัยในทะเล น่ารักมาก ขออภัยที่จับภาพมาได้ไม่ดี



จากนั้นคุณไกด์ก็พาเราเที่ยวต่อค่ะ เราไปเที่ยวน้ำตกกัน น้ำตกมีชื่อว่า "กิงกะ" แปลว่าทางช้างเผือก กับน้ำตก "ริวเซย์" แปลว่าดาวตก น้ำตกสองที่นี่อยู่ติดๆ กัน เขาว่าเป็นน้ำตกคู่รักนะคะ แต่เนื่องจากว่า

อากาศหนาวของหน้าหนาวแปรสภาพน้ำตกของเรากลายเป็นน้ำแข็งไปเสียแล้ว ถ้ามาหน้าร้อนคงสวยมากค่ะ แต่น้ำตกน้ำแข็งก็เป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่สวยงามนะคะ น้ำตกสองที่นี้อยู่ในอุยานแห่งชาติ

"ไดเซ็ทสึซัน" ค่ะ เป็นลักษณะภูเขาหินแบบในรูป




ภาพล่างคือน้ำตก "ริวเซย์" เห็นไหมคะ ตรงร่องเขาน่ะ ริวเซย์ยังเป็นน้ำไหลอยู่นะ 





หน้าหนาวนี่ฟ้ามืดเร็ว คุณไกด์จึงรีบพาเรากลับโรงแรมค่ะ เพราะถนนหนทางก็เป็นเขา แล้วยังมีความชื้นของน้ำแข็งละลายบนถนน เข้าโรงแรมเร็วหน่อย ให้พักผ่อนจากการเดินทางวันแรก 

โรงแรมคืนแรกของเราที่ฮอกไกโด เราได้ห้องเป็นแบบญี่ปุ่นค่ะ เป็นประสบการณ์การนอนเสื่อของเด็กๆ เลย ห้องกว้างดีเหมาะกับครอบครัวใหญ่ 



ขนมกับชาถูกเตรียมไว้ให้แขกได้ดื่มและทานกัน เป็นแบบที่พักแบบญี่ปุ่นนะคะ และที่นี่มีบ่อน้ำแร่ให้เราได้แช่กันด้วย

โรงแรมของเราชื่อ "โซอุนคะคุ" So Un Kaku อยู่ในเมืองโซอุนเคียว อันเป็นสถานตากอากาศแช่น้ำแร่ของชาวญี่ปุ่นที่ได้รับความนิยมมาก

ในหน้าหนาว ที่นี่จะนำเอาหิมะก่อเป็นปราสาท คล้ายกับงานแสดงประติมากรรมหิมะในเมืองซัปโปโรค่ะ แต่เป็นแบบมินิๆ



ในโรงแรมจะมีชุยูกาตะให้แขกใส่ระหว่างพักในโรงแรมค่ะ ของเด็กก็มีนะคะ

คุณไกด์ขอให้เราใส่ยูกาตะมาทานอาหารเย็นกัน เพื่อให้เข้าถึงบรรยากาศ เราชอบอยู่แล้วค่ะ ชุดยูกาตะใส่สบาย แถมยังใช้เป็นชุดนอนได้ด้วยค่ะ

อาหารเย็นที่ทางทัวร์จัดให้เป็นบุฟเฟต์ค่ะ มีให้เลือกหลากหลาย เราเลือกเมนูอาหารญี่ปุ่นค่ะ มาถึงถิ่นก็ต้องกินของท้องถิ่น ขอเมินขนมปังไปก่อน

 อ้อ ปูสุไวกานิก็มีให้ทานนะคะ 


เมื่ออิ่มท้องแล้ว ก็แช่น้ำแร่กันเถอะ (ไม่มีรูปถ่ายนะ)

และเป็นการแช่น้ำแร่ครั้งแรกของลูกสาว ที่เป็นแบบญี่ปุ่นจริงๆนะคะ นั่นคือห้ามใส่เสื้อผ้าเลยนะเวลาลงบ่อ ไม่ต้องอายค่ะ มันเป็นวัฒนธรรม แล้วก็แยกชายแยกหญิง

ตอนที่พาลูกสาวไปแช่ ก็ได้พูดคุยกับคุณป้าชาวญี่ปุ่นท่านหนึ่งด้วยค่ะ เขาว่ากันว่าการที่เราไม่มีเสื้อผ้า คือเราแสดงความจริงใจ ไม่มีชนชั้น ทุกคนมีร่างกายเหมือนกัน 

ฉะนั้น วัฒนธรรมความคิดนี้จึงถูกรักษามาตลอดในประเทศญีปุ่น ไม่ว่าเทคโนโลยีเขาจะไปไกลแค่ไหน แต่เขายังคงไม่เปลี่ยนขนบธรรมเนียมการแช่น้ำแร่ที่ๆเป็นบ่อรวมค่ะ

คุณลูกสาว แรกๆก็ไม่กล้าลงนะคะ หย่อนขาไปแล้วร้อน ลังเล เราก็กล่อมๆ บอกว่าให้ค่อยๆลงมา ร่างกายจะปรับไปเอง

แต่พอได้ลงแช่แล้ว ไม่ค่อยยอมขึ้นกันเลย เพราะมันสบายจริงๆ หลังแช่ ผิวพรรณก็ผุดผ่องดีขึ้นด้วย



คืนนี้คงหลับสบาย แต่ก่อนนอนเราขอเขียนทริปไดอารี่ และถ่ายรูปดาวสักหน่อย วันนี้ฟ้าเปิดซะด้วย เห็นดาวชัดเจนและดวงโตมาก 

แต่... ปรากฎว่า ลืมเอาตัวต่อขาตั้งกับกล้องไป 

ชวดค่ะชวด งานถ่ายดาวนี่ นอกจากฝีมือ(ของเราที่มีน้อยนิด) กับดวงนี่ต้องมาด้วยกัน

แล้วมากไปกว่านั้น ยังทำตัวปิดจุดต่อแฟลชนอกหายที่นี่ค่ะ แหม... สงสัยเป็นลางว่าจะได้มาอีก...ปลอบใจตัวเอง


เอาเป็นว่า ไม่ได้ภาพดาว แต่ก็ได้ความสุขของการมาฮอกไกโดครั้งแรกในชีวิตของทุกคนในครอบครัว

เก็บภาพดาวไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เก็บภาพความสุขในทุกวันของทริปแทนละกัน




...........................................


เจอกันบล็อกหน้า ตอนที่สองนะคะ 














 

Create Date : 16 เมษายน 2559
5 comments
Last Update : 17 เมษายน 2559 17:57:30 น.
Counter : 1295 Pageviews.

 

ตามมาเที่ยวด้วยค่ะ
รอติดตามตอนต่อไปนะคะ

 

โดย: เนินน้ำ 17 เมษายน 2559 12:22:51 น.  

 

โหวตให้ Travel Blog ค่ะ

เรากำลังจะไปผจญภัยที่ญี่ปุ่นกับแม่และน้องสาวสิ้นเดือนนี้ค่ะ

แต่ไม่ได้ไปฮอกไกโด ดังนั้นขอเกาะกระทู้นี้เที่ยวไปก่อนแล้วกันค่ะ

 

โดย: เรียวรุ้ง 17 เมษายน 2559 15:29:34 น.  

 

โหวต Travel Blog ครับ

ผมก็เพิ่งไปฮอกไกโดมาครับ
ยังจำบรรยากาศต่างๆได้เลย
เป็นทริปแรกของผมที่นี่เช่นกัน
ผมกลับมาวันที่ 6 เมษายนน่ะครับ

ชอบมากๆ เป็นเมืองที่หนาวเย็น
แต่สวยและเป็นระเบียบจริงๆ

ผมยังไม่ได้อัพบล็อกเลยครับ
ลงไว้ที่เฟสเท่านั้นเอง
กำลังจะหาเวลาเขียนเรื่องราวอยู่ครับ

ปล. เหมือนจะพักที่โรงแรมเดียวกันเลยครับ
ผมจำชื่อไม่ได้แล้ว แต่ที่นี่มีออนเซนด้วย
ซึ่งผมก็ไม่ได้แช่ครับ 5555


 

โดย: กะว่าก๋า 17 เมษายน 2559 16:25:07 น.  

 

อ่านเพลินเลย...เด็ก ๆ น่ารักมากครับ

ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
ปลาแห้งนอกกรอบ Travel Blog ดู Blog
ชลบุรีมามี่คลับ Travel Blog ดู Blog
ระบบจะบันทึกคะแนนโหวต เฉพาะการโหวต 10 ครั้งล่าสุดในแต่ละวันเท่านั้น

 

โดย: ไวน์กับสายน้ำ 17 เมษายน 2559 18:40:02 น.  

 

thx u crab

 

โดย: Kavanich96 20 เมษายน 2559 3:22:20 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ชลบุรีมามี่คลับ
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




เป็นนัก(หัด)เขียนนิยายพาร์ทไทม์ เป็นคุณแม่ทำงานที่ชอบฝันกลางวันแบบฟูลไทม์ด้วย

บล็อกนี้มีเรื่องเล่ามากมาย เข้ามาค้นหาสิ่งที่อยากรู้ได้ตามสบาย


ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมชมนะคะ
สำหรับนักอ่านที่ติดตามนิยายของ จขบ
สามารถอานได้ทั้งทางเวบ

Hongsamut : https://hongsamut.com/writerdetail.php?writerid=3992

และทางเว็บ Dek D ค่ะ
https://my.dek-d.com/redapplels/


เนื้อหา ภาพถ่าย ในบล็อกนี้
ได้รับความคุ้มครอง
ตามกฏหมายพ.ร.บ.
สิขสิทธิ์พ.ศ. 2537 ห้าม
นำไปใช้ คัดลอก ดัดแปลง
แก้ไขส่วนหนึ่งส่วนใดโดย
เด็ดขาดนะจ๊ะ

คนดี...


New Comments
Friends' blogs
[Add ชลบุรีมามี่คลับ's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friends


 
 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.