เช้าวันต่อมา อากาศแจ่มใสมากค่ะ แต่อากาศยังเย็น อุณหภูมิอยู่ที่ 1 องศาเซลเซียส เราวางแผนกันว่าจะออกไปเดินตลาดเช้าของทาคายาม่ากัน แล้วค่อยเช็คเอาท์

จากโรงแรมไปตลาด เดินไม่ยากเลยค่ะ เราเดินเข้าซอยเดียวกับที่เราไปร้านเนื้อฮิดะนั่นแหละค่ะ (ซอยธนาคารซากุระ)

 เดินไปไปจนเห็นสะพานนะคะ แล้วเลียบไปทางซ้ายก็จะเห็นว่าแม่ค้าพ่อค้าเขาเอาของมาตั้งแผงขายกันเลียบไปตามลำน้ำ

(ย่อรูปยังไงไม่ให้ภาพเบลอก็บล็อกนี้แหละ ขอบคุณ PAEstudio มากค่ะที่ทำบล็อกความรู้ให้ชาวเรา)

ที่ขายก็จะเป็นผัก ของดอง ของใช้จิปาถะค่ะ ด้านที่เป็นตึกก็ขายอย่างเดียวกัน มีร้านขายของฝากด้วย เรากับพี่สาวเริ่มอาหารเช้าเบาๆ 

รองท้องกันก่อนเดินตลาด เห็นป้ายเขียนคำว่ามอร์นิ่งเซ็ตหน้าทางเข้าตึกขนาดหน้าแคบ ขึ้นบันไดไปก็พบร้านกาแฟด้านบนค่ะ

มอร์นิ่งเซ็ทมีสองแบบคือแบบอาหารเช้าญี่ปุ่น กับแบบฝรั่ง พี่สาวเลือกแบบญี่ปุ่น แต่เราเลือกแบบฝรั่ง เพราะชอบความนุ่มหอมของขนมปังแผ่นหนาของญี่ปุ่นมากๆ

ร้านอาหารญี่ปุ่นส่วนมากเขาจะมีเซ็ทเมนูบริการให้แขกค่ะ และแขกส่วนมากก็จะสั่งเป็นเซ็ทด้วย เพราะคำนวณแล้วราคาถูกกว่าแม้จะไม่กี่เยนก็ตาม

(ภาพจากที่นั่งขณะทานอาหารเช้า)

เมื่อจัดการกับอาหารเช้าแล้ว ก็ได้เวลาเดินชมตลาดกันนะคะ ตลาดเช้าที่นี่มาสองที่ค่ะ

ที่แรกคือ Miyakawa Shijo

ที่ที่สองคือ Tayayama Jinja

เราจะเดินที่แรกกันก่อนนะคะ แผนที่การเดินชมก็สามารถขอได้ที่ศูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวหน้าสถานีรถไฟได้เลย 

อ้อตลาดเช้าเริ่มตั้งแต่หกโมงเช้านะคะ แม่ค้าจะทยอยมาตั้งร้านแล้ว ที่แนะนำให้ซื้อคือขิงดองค่ะ อร่อยดี

 เดินไปเรื่อยๆ จะมีร้านขายพุดดิ้ง มีป้ายเขียนด้วยภาษาไทยด้วยนะ แสดงว่าเป็นที่ชื่นชอบของคนไทยเช่นกัน แต่เราไม่ได้ลองชิมของร้านนี้ค่ะ 

ท้องอิ่มแล้วเลยไม่ได้เสียสตางค์กับของกิน นอกจาก กาแฟ... อีกสักถ้วย

ร้านกาแฟร้านนี้ก็ขายกันง่ายๆเลยค่ะ ไม่ใช้เอสเพรสโซบาร์อะไร เป็นกาแฟต้มแล้วเทให้ลูกค้ากินกันตรงที่นั่งหน้าร้านเลย แต่มันได้บรรยากาศมาก อากาศหนาวๆกับกาแฟร้อน (รสชาติกาแฟอ่อนค่ะ สำหรับคนชอบกาแฟรสเข้มแล้วคงยังไม่ทำให้ร่างกายตื่นตัวเท่าไหร่)

เดินเที่ยวเรื่อยๆ นะคะ ตามแผนที่เลย ไม่มีหลงค่ะ บ้านเรือนที่นี่ก็ยังคงสภาพแบบเก่าไว้มาก น่าจะถูกใจคนที่ชอบเที่ยวแบบเรียนรู้วัฒนธรรม 

มาถึงเมืองไหนแล้วอย่าพลาดไปสักการะศาลเจ้าหรือวัดของเมืองนั้นนะคะ เพื่อความเป็นศิริมงคลแก่ชีวิต

เราสองคนเดินชมเมืองกันจนเพลิน พอเริ่มสายหน่อยก็เริ่มมีนักท่องเที่ยวหนาตามากขึ้น ดีใจที่เราเป็นพวกนกตื่นเช้า ออกมาก่อนจึงได้เก็บภาพถนนโล่งๆ ไร้ผู้คนไว้ได้

หากใครเป็นพวกนักชิม ชอบลิ้มลองของหวาน ทาคายาม่ามีร้านขนมหลายร้านให้ลองกันด้วยนะคะ

 อย่างร้านนี้จัดร้านโล่งสะอาดตา 

เมนูขึ้นชื่อก็คือซอฟท์ครีวนมวัวฮิดะ แหมขายได้ทั้งเนื้อและนมเลยนะคะเจ้าวัวฮิดะนี่ แต่บอกว่าไม่ถูกปากเราค่า มันเข้มนม น้ม นม มาก ส่วนพุดดิ้งชาเขียวก็โอเคค่ะ กาแฟลาเต้มาแนวนุ่มนวลแบบญี่ปุ่น ถามว่าแล้วรวมๆ อร่อยไหม ก็โอเค เน้นลองชิมลองกินให้รู้

ส่วนร้านทีสองเป็นร้านขายพุดดิ้งฟักทอง หรือสังขยาฟักทองนั่นเอง ราชาติใช้ได้ค่ะ ร้านไม่มีเก้าอี้นั่งในร้านนะคะ ต้องนั่งนอกร้าน กินไปอาบแดดอุ่นๆ ไป

(ที่นี่เคยเป็นที่ว่าราชการเก่าสมัยเอโดะค่ะ อยู่ตรงตลาดเช้า Takayama Jinja

ภายในถูกรักษาไว้อย่างสมบูรณ์

อุดหนุนแอ๊ปเปิลร้านค้าที่ตลาดหน่อย ให้คุณพี่แม่ค้ปอกและหั่นให้เลยค่ะ กรอบหวานดีมากเลย

 

 

 

ทาคายาม่ายังมีที่ให้เดินเที่ยวอีกมากค่ะ ที่เอามาเล่าให้ฟังนี่ยังไม่หมดสถานที่เที่ยวของเขา แต่เนื่องจากเรามีเวลาจำกัด และจุดหมายต่อไปของเราคือต้องเข้าเช็คอินที่เรียวกัง(โรงแรมที่มีห้องพักและให้บริการแบบญี่ปุ่นแท้)ที่เกโระ จึงต้องลาทาคายาม่ากันแค่นี้

ในบล็อกหน้า จะพาไปชมเรียวกัง และออนเซ็นแบบญี่ปุ่นกันค่ะ