ตอนที่ 4 GERO ON-SEN,YUNOSHIMAKAN
ต่อจากตอนที่แล้วนะคะเรากลับโรงแรมเพื่อเช็คเอาท์ แต่ไปเลทกว่าเวลาที่เขากำหนดเพราะไม่ได้เช็คว่าโรงแรมที่นี่เขาเช็คเอาท์ก่อนเที่ยงค่ะ(เข้าใจว่าเที่ยงเหมือนบ้านเรา ดีที่เขาไม่ได้ว่าอะไร)
เหมือนเดิมนะคะ ถ้าใครไม่ได้ซื้อตั๋วแบบกำหนดที่นั่งต้องไปเข้าแถวรอ มิฉะนั้นคุณต้องยืนบริหารขากันค่ะแต่เราอยากนั่งเพราะขามาทาคายาม่า เรายืนมา อยากนั่งสาย HidaWide กับเขาบ้าง เลยซื้อแบบกำหนดที่ค่ะ เราซื้อไปลงที่ GERO เป็นแบบรถด่วน
(ซึ่งจริงๆ นั่งแบบธรรมดาก็ได้ถ้าไม่ต้องการความเร็วแบบธรรมดาจะจอดทุกป้ายค่ะราคาถูกกว่ามาก อ้อ สาย HIDA WIDE ไม่ใช่รถไฟของบริษัท JR นะคะ ฉะนั้นเราใช้ PASSของ JR ไม่ได้ และ PASS JR ที่เราซื้อที่สนามบินก็ไม่ได้ครอบคลุมเส้นทางสายนี้ค่ะ ฉะนั้นอย่างที่บอกในตอนแรกว่าการซื้อ JR PASS นั้น ต้องรู้ว่าเราจะไปเที่ยวที่ไหนสายรถไฟไหนและวันไหนชัแจนแล้วถึงค่อยเลือกซื้อตามแผนการเที่ยวอ้อ แล้วเวลาที่จะใช้เที่ยวด้วย ถ้าใครชอบเที่ยวโดยการใช้เวลาแต่ละที่ให้เต็มอิ่มคหสต แนะนำว่าให้คิดคำนวณดีๆค่ะ)
รอบสองข้างทางรถไฟสาย HIDAWIDE สวยตามธรรมชาติ เป็นเส้นทางเลียบเขื่อนและแหล่งหินผาและลำน้ำธรรมชาติที่สมบูรณ์และเป็นอุทยานแห่งชาติของญี่ปุ่นด้วยนะคะ
เมื่อขบวนรถไฟจอดที่ GEROเราก็มองหาคนของทางเรียวกัง เราพักที่ Yunoshimakan เพราะไดดูดูจากรีวิวของชาวไทยท่านหนึ่งรีวิวทางเวบพันทิพไว้ค่ะทางเรียวกังจะมีบริการรถรับส่งจากเรียวกังมาสถานีรถไฟเป็นรอบๆ ค่ะ สะดวกมากเมื่อเห็นคนลุงท่านหนึ่งถือป้านสีม่วงบอกชื่อเรียวกังที่เราพักก็เดินตรงไปหาเขาเลย
นั่งรถบัสจากสถานีไปเรียวกังไม่ไกลนะคะเดินเอาก็ได้ แต่เมื่อยขาหน่อยเพราะ Yunoshima Kan อยู่บนเชิงเขาค่ะ
เมื่อมาถึง เขาจะบริการยกกระเป๋าเราไปเก็บให้เตรียมรองเท้าแตะให้เรา แล้วเอารองเท้าของเราไปเก็บบนชั้นให้(เวลาที่เราต้องการใส่รองเท้าของเราให้บอกเลขห้อง อย่าไปหยิบเองนะคะเพราะเขาถือว่าเขาต้องบริการแขก ไม่บริการถือว่าผิดธรรมเนียมเขานะ)
แต่ว่าเราไปถึงเร็วกว่าเวลา จึงเข้าห้องยังไม่ได้ก็เลยเดินเตร็ดเตร่แถวเรียวกัง และก็เป็นป่าเขา มีทางขึ้นยอดเขาด้วยอยากจะขึ้นไปด้านบนตามนิสัยของคนชอบดูธรรมชาติแต่พี่สาวเธอเมื่อยเท้าแล้วก็เลยไปนั่งรอกันที่ล็อบบี้
ล็อบบี้เรียวกังแต่งแบบโบร่ำโบราณนะคะ ภายในมีร้านขายของฝากด้วย (ทริปนี้เป็นผู้หญิงหน้าเตามากค่ะ เห็นเตาแล้วต้องรีบเ้าไปเช็คอิน)
เมื่อได้เวลาจะมีพนักงานหญิงของเรียวกังในชุดกิโมโนผู้รับหน้าที่เป็นคนพาเราไปที่ห้องพักและจะแนะนำเกี่ยวกับYunoshimaKan ให้เรา แต่ก่อนที่เธอจะพาเราไปเธอจะให้เราเลือกยูกาตะหนึ่งชุดสำหรับให้เราใส่ในเรียวกังค่ะ
จากนั้นเธอจะนำทางเราไปยังห้องพักห้องพักของที่นี่แต่งในแบบญี่ปุ่น แบบออกเป็นสามส่วน ส่วนแรกคือส่วนหน้าห้องส่วนที่สองคือส่วนกลางห้อง และส่วนที่สามคือส่วนห้องนอนค่ะห้องนอนจะมีระเบียงเล็กๆ และห้องสุขาที่มีเอาไว้ถ่ายเท่านั้นค่ะ ไม่มีฝักบัวอาบนะถ้อยากอาบน้ำก็ต้องไปแช่ออนเซ็นค่ะ
เมื่อเรามาถึงห้องพัก เขาก็มีบริการขนมหวานแบบญี่ปุ่นต้อนรับทานคู่กับชาเขียวร้อนนะคะ แหม... ฟิน ชอบอารมรมร์แบบนี้นะคะ
หลังจากนั้นเขาก็จะให้แผนที่ชี้จุดต่างในเรียวกังออนเซ็นอยู่ชั้นไหน มีแบบไหนบ้าง ที่นี่มีออนเซ็นสองแบบ แบบแรกคือแบบครอบครัวเข้ากับเป็นครอบครัวค่ะ แบบที่สองคือแบบรวม แต่แยกชายหญิงซึ่งจะมีเวลาสลับเปลี่ยนกัน เช่นช่วงเช้าถึงเที่ยงคืนหญิงอยู่ซ้ายชายอยู่ขวาแต่พอเลยเที่ยงคืน ก็สลับข้างกันค่ะ ป้ายทางเข้าก็จะเปลี่ยนด้วยเพื่อให้แขกได้แช่ออนเซ็นสองวิวไงล่ะคะ
แล้วคุณเขาก็จะถามเวลาที่เราต้องการให้เสริฟอาหารอหารเย็นค่ะเราให้เขาเสริฟเวลาห้าโมงเย็นเลยเพราะหลังจากทานเสร็จก็จะแช่ออนเซ็นให้คุ้มแล้วก็ใช้เวลาพักผ่อนกับวางแผนเที่ยววันต่อไปให้เต็มที่วันนี้จะเป็นวันชิลอยู่กับที่พักแบบญี่ปุ่นกัน
และนี่คือ... อาหารเย็นของเราทั้งหมดค่ะอย่างละนิดแต่อิ่มนะคะ รสชาติของแต่ละอย่างก็แตกต่างกันไป ครบทุกหมวดหมู่ ผัก ปลาเนื้อสัตว์ น้ำซุป ที่เราชอบก็จะเป็นข้าวห่อสาหร่ายย่างบนใบไม้ค่ะอร่อยหอมกลิ่นใบไม้ย่าง ไม่ทราบเหมือนกันว่าใบอะไร ลืมถามมา อ้อที่นี่เสริฟเนื้อฮิดะด้วยค่ะ
ของหวานก็อร่อยนะ เป็นเยลลี่น้ำตาลทรายดำ ผลไม้ และเชอร์เบทส้มเช้ง(ชอบกินขนมหวานอยู่แล้ว) อาหารทั้งหมดจะถูกทยอยนำมาเสริฟจนครบเซ็ทของเขาโดยพนักงานที่ถูกฝึกฝนมาอย่างดีเขาจะอธิบายวิธีการทานให้เราด้วยค่ะส่วนน้ำจะเป็นชาหรือากต้องการให้เสริฟน้ำเย็นก็บอกได้เขาจะนำมาเสริฟให้เราเลยหากเราต้องการ (โดยที่ถูกต้องคือ เขาจะเสริฟชาทีหลังค่ะ)
เมื่ออิ่มกันเป็นที่เรียบร้อยเขาจะถามเราว่าจะให้เขามาจัดที่นอนให้เวลาใด ก็บอกเวลาเขาไป เมื่อถึงเวลาจัดที่นอนเก็จะมาจัดตามเวลาตรงเป๊ะตามวิถีชาวญี่ปุ่น
จากนั้นเราไปแช่ออนเซ็นกันเถอะค่ะ
ธรรมเนียมการแช่ออนเซ็นนั้นคุณต้องถอดออกให้หมดนะคะ อย่าอาย อย่าใส่เสื้อผ้าเข้าไปแม้แต่ชิ้นเดียวนะคะเมื่อถอดเสื้อแล้วก็เข้าไปอาบน้ำชำระคราบไคลก่อนแล้วถึงลงแช่น้ำร้อนค่ะที่เคยทราบมา อย่าแช่เกินสิบห้านาทีนะคะ เดี๋ยวหน้าจะมืด แล้วก็ขึ้นมาอาบน้ำถูสบู่ สระผม ทีนี้การแช่รอบสอง เราจะไปแช่ที่บ่อนอกหลังคากัน(บ่อนอกหลังคามีทั้งห้องชายและหญิง แต่คนละวิว)
สูดอากาศเย็นเข้าปอด แต่หัวใจอุ่นๆแหงนหน้ามองดาวบนฟ้ายามค่ำ คืนนี้เดือนดับ ไร้แสงจันทร์แข่งแสงดาว มีแต่ฉันและเธอท่ามกลางลมหนาว ชื่นชมฟ้าพร่างพราว สุขใจ
กลับเข้าห้องพักด้วยร่างกายผ่อนคลายและสบายอุราคืนนี้นอนใต้ผ้าห่มหนาหลับตาสบายฤทัย
แต่งกลอนซะงั้น แต่ฟ้าสวยจริงๆใครชอบดูดาวยกมือขึ้น ฟินอีกแล้วค่ะท่าน
แต่เนื่องจากเราเป็นนกตื่นเช้าเราตื่นกันเร็วค่ะ ตื่นแต่ตีห้าเลยนะเออ เพื่ออะไรใครรู้บ้าง....
ถูกต้อง ไปแช่ออนเซ็นอีกห้องไงคะอากาศตอนเช้ามืดเย็นกว่าตอนค่ำมากทีเดียวแต่พอเอาตัวลงน้ำร้อนแล้วก็หายเย็นแล้วค่ะ แช่กันให้พอใจแล้วก็กลับห้องไปเก็บของเพื่อไปทานอาหารเช้ากันนะคะ
อาหารเช้าแบบญี่ปุ่นถูกจัดเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วค่ะอร่อยทุกอย่างเลย ระหว่างทานอาหารก็มีแลกบทสนทนากับชาวญี่ปุ่นคู่สามีภรรยาที่พูดภาษาอังกฤษได้เขามีเส้นทางการเที่ยวเดียวกับเราคือ จากเกโระแล้ว เขาจะไปเกียวโตและนารา
เราออกจากที่พักไปสถานีรถไฟเกโระเห็นว่าพอมีเวลา ก็เลยถามสูนย์ข้อมูลนักท่องเที่ยวตรงสถานีรถไฟทราบว่าใกล้ๆนั้นก็มีหมู่บ้านกัสโช (เดินทางด้วยรถบัสจากป้ายตรงข้ามสถานีรถไฟใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีก็ถึง)
หมู่บ้านกัสโชเป็นหมู่บ้านที่สร้างจำลองค่ะไม่ได้เป็นของแท้เหมือนชิราคาว่า ที่นี่จะเป็นเหมือนพิพิธภัณฑ์เสียมากกว่าก็ทำให้เราศึกษาเรียนรู้เกี่ยวกับบ้านกัสโชได้มากขึ้นค่ะ
ไม่เคยดูแม่คะนิ้งที่เมืองไทยแต่ได้มาดูที่ญี่ปุ่น
เจอเตาอีกแล้ว
เราออกจากเกโระด้วยรถด่วนนั่งย้อนไปทาคายาม่าเพื่อขึ้นรถด่วนตรงไปนาโงย่าแล้วต่อชินกังเซ็นไปเกียวโต(จริงๆ ไม่ต้องย้อนไปทาคายาม่าก็ขึ้นรถด่วนไปนาโงย่าได้ค่ะ แต่แบบว่า... งงตอนซื้อ
อ้อ JR KANSAI WIDE PASS ใช้กับชินกังเซ็นไม่ได้นะคะ
ในตอนหน้า เราจะไปเที่ยวเกียวโตกันค่ะ