|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
...100 ปีพุทธทาสภิกขุปฏิรูปการเมืองวิถีพุทธ(จบ)--ยุค ศรีอาริยะ...
วันก่อนเพื่อนคนหนึ่งที่อยู่อเมริกา โทร.มาคุยเรื่องโลกาภิวัตน์ ท่านกล่าวว่า เราต้องขอบคุณนายบุช และพวกสายเหยี่ยว เพราะการกระทำของเขาได้ผลักให้พลังประชาชนในประเทศอเมริกา และในลาตินอเมริกา รวมทั้งกระแสต้านโลกาภิวัตน์ ก่อตัวแพร่กระจายขึ้นทั่วโลก ผมก็เลยพูดเสริมว่า นี่คงไม่ต่างจากประเทศไทย คนไทยต้องขอบคุณ ท่านทักษิณ เช่นกัน เพราะความพยายามในการรวบอำนาจและความมั่งคั่งของเขา ได้สร้างความตื่นตัวให้ประชาชนไทย ทำให้คนไทยรวมตัวกัน และส่งผลให้กระแสต้านโลกาภิวัตน์ ก่อตัวได้ในประเทศไทย ถ้าเราใช้หลักท่านพุทธทาส เรื่องดุลยภาพและการเสียดุล เราจะพบว่าระบบโลกาภิวัตน์คือระบบโลกในลักษณะที่ทำลายตัวเอง และเป็นระบบที่นำสู่การเสียดุลยภาพอย่างยิ่ง เนื่องจากระบบนี้จะก่อให้เกิดภาวะรวยกระจุก จนกระจาย เกิดกลุ่มคนรวยจำนวนน้อยเท่านั้นกลายเป็นกลุ่มอภิมหาร่ำรวย อย่างเช่นคุณทักษิณ กลุ่มชินวัตร และในเวลาเดียวกัน ภายใต้ระบบนี้ คนชั้นกลาง และคนจน จะตกเป็นหนี้ และยากจนล้มละลาย นี่คือ ที่มาของพลังประชาชนแบบต้านกระแสทักษิโณมิกส์ ที่มีพันธมิตรหลากหลาย การเกิดขึ้นของพลังพันธมิตร ในตัวเองคือ การเกิดขึ้นของพลังดุลยภาพใหม่ (ทางการเมือง) ในสังคมไทย ดุลยภาพใหม่นี้ คือจุดเริ่มของการปฏิรูปการเมืองไทย ในเวลาเดียวกัน หมายความว่า การปฏิรูปการเมืองไทยครั้งนี้จะสำเร็จหรือไม่ กลับไม่ใช้เรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่กลับมาอยู่ที่การอภิวัฒน์กลุ่มพลังพันธมิตรดังกล่าวให้เข้มแข็งขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถดุลย์กำลังกับฝ่ายโลกาภิวัตน์ หรือทักษิโณมิกส์ได้ การที่คุณทักษิณจะยังอยู่กับระบบการเมืองไทย และยังคงพยายามครอบครองประเทศไทย จึงก่อประโยชน์ในด้านกลับให้แก่ฝ่ายพลังประชาชน เพราะทำให้พลังประชาชนที่ก่อตัวกันอย่างหลวมๆ รวมตัวกันอย่างเหนียวแน่นมากขึ้นเรื่อยๆ ในที่สุด กลุ่มพลังต้านทักษิโณมิกส์ดังกล่าว จะพัฒนาเป็นกลุ่มพลังที่ก้าวหน้า และนำสู่การเปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์ไทย ในเมื่อประวัติศาสตร์โลกจะอภิวัฒน์ครั้งใหญ่ดังที่ผมได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ประวัติศาสตร์ไทยก็จะเกิดการอภิวัฒน์ครั้งใหม่เช่นกัน บนเส้นทางที่คล้ายคลึงกัน ถ้าเราอ่านอนาคตโลกออกว่าโลกจะเคลื่อนตัวไปบนเส้นทางเช่นไร พลังต้านกระแสทักษิโณมิกส์ ก็จะตระหนักรู้ ว่าจะผลักดันกระแสประเทศไทยไปในทิศทางไหน นี่คือ ประโยชน์ของการเข้าใจโลกแบบบูรณาการ เพราะการเห็นภาพกว้างจะทำให้เรารู้ว่า อะไรคืออนาคต และ อะไรคือสิ่งที่ต้องสิ้นไป(อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้) เราจะมีหน้าที่ทางประวัติศาสตร์อนาคตอย่างไร หัวใจของการอภิวัฒน์โลกครั้งใหม่ แนวคิดแบบพุทธ กับแนวคิดแบบตะวันตก จะมองวิถีการอภิวัฒน์ที่ต่างกัน พุทธจะเน้นเรื่องการอภิวัฒน์ทางด้านจิตใจ หรือ จิตวิญญาณ ในขณะที่ชาวตะวันตกมองการอภิวัฒน์ในแง่เศรษฐกิจการเมือง สูตรสำเร็จของแนวตะวันตก จึงคล้ายๆ กัน นั้นคือ การยึดอำนาจรัฐ การแก้รัฐธรรมนูญ และสร้างวิถีเศรษฐกิจใหม่ แต่ชาวพุทธจะย้ำว่า เราต้องคิดให้ถูกเสียก่อน หรือต้องเข้าใจว่า อะไรคือ วิชชา อะไรคือ อวิชชา ถ้าเรายังแยกแยะไม่ถูก เราจะสร้างระบบเศรษฐกิจการเมืองที่งดงามขึ้นมาไม่ได้ พูดในอีกแบบหนึ่งก็คือ ก่อนที่จะการอภิวัฒน์ทางเศรษฐกิจ และการเมือง เราต้องอภิวัฒน์ในด้านจิตใจ (ภายใน) หรือการปฏิวัติภูมิปัญญาก่อน แต่คำว่า อภิวัฒน์จาก ภายใน ไม่ได้หมายความแค่ภายในจิตใจของเราเท่านั้น เพราะสำหรับชาวพุทธ ในก็คือ นอก นอกก็คือ ใน คำว่า อวิชชา ไม่ได้ดำรงอยู่อย่างลอยๆโดยไม่มีฐานรองรับ ความจริงแล้ว อวิชชาที่ครอบโลกอยู่ทุกวันนี้ ถูกผลิตซ้ำ ทุกวัน บนฐานผลิตที่เราเรียกว่า ระบบวัฒนธรรม หากเราย้อนไปมองที่โลกทั้งระบบ ถามว่า อะไรคือ ฐานแห่งอวิชชา คำตอบที่ชัดๆ ก็คือ อารยธรรมตะวันตก หรือสิ่งที่นักวิชาการเรียกว่า Westernization ระบบโลกโดยภาพรวมกำลังก้าวตัวสู่ยุคที่เรียกว่า หลังตะวันตก และกำลังหันกลับสู่ความเป็นตะวันออก ก่อนอื่น เราคงต้องตอบว่า อะไรคือ อารยธรรมตะวันตก ผมขอตอบแบบสั้นๆ อารยธรรมนี้ก่อตัวขึ้นจากชนเผ่าร่อนเร่ในโลกตะวันตก ที่มีชีวิตอยู่กับการปล้นชิง อย่างเช่น ชนเผ่าไวกิ้ง ชาวอารยันในยุโรป พวกมองโกลในเอเชีย ชนเผ่าเหล่านี้มีชีวิตอยู่กับสงคราม มักจะบูชาเทพเจ้า เช่น พระอาทิตย์ นับถือผู้ชายเป็นใหญ่ และสะสมความมั่งคั่งด้วยการปล้นชิง เป็นแบบวัฒนธรรมที่เน้นความเจริญ และเน้นในด้านวัตถุ มองโลกแบบปัจเจกชนเป็นหลัก มักจะยกย่องคนเก่ง อย่างเช่น คนที่เก่งการรบว่าเป็น วีรบุรุษ ) ในช่วงศตวรรษที่ 14 ถึง 16 อารยธรรมของชนเผ่าเหล่านี้ ได้สถาปนาขึ้นเหนือยุโรป ในยุคที่ยุโรปเป็นใหญ่เหนือระบบโลก ต่อมา อารยธรรม หรือวัฒนธรรมชุดนี้ รุ่งเรืองขึ้นด้วยการประสานกับการค้นพบสิ่งที่เราเรียกว่า วิทยาศาสตร์ (พิสูจน์ได้ และจริงแท้แน่นอน) ในทุกวันนี้ โลกที่ผ่านมา (ทั้งแบบทุนนิยม และสังคมนิยม) จึงกลายเป็นระบบโลกที่เชื่อในเรื่องการต่อสู้ และการเอาชนะ รวมทั้งความคิดว่า ต้องเอาชนะธรรมชาติ ใครชนะ(ลัทธิตัวกู ของกู) หรือใครเข้มแข็งกว่า ก็ย่อมมีสิทธิ มีอำนาจ มากกว่าคนที่อ่อนแอกว่า ระบบโลกทางการเมือง จึงถูกแบ่งเป็นประเทศ ที่มีประเทศมหาอำนาจเป็นใหญ่เหนือกว่าประเทศอื่นๆ ระบบสังคมที่เหลื่อมล้ำ และแบ่งแยกเป็นชนชาติ เป็นชนชั้น และชั้นชน มีสูงมีต่ำ จึงมีความเชื่อพื้นฐานว่า ใครมีอำนาจผู้นั้นก็ ชี้ถูก ชี้ผิด ได้ พูดอีกอย่างหนึ่ง อำนาจ ก็คือ ธรรม สำหรับชาวพุทธแล้ว หัวใจของวัฒนธรรมตะวันตกคือ อวิชชา และในที่สุด อวิชชานี้เองจะนำมาซึ่งกลียุค ชุดวัฒนธรรมตะวันตกชุดนี้ แตกต่างตรงกันข้ามกับชุดวัฒนธรรมตะวันออก (พุทธ และเต๋า) ที่วางอยู่บนฐานความเมตตา เกื้อกูลต่อกัน ความจริงแล้ว ชุดวัฒนธรรมตะวันออก มีกำเนิดมานานแล้วเช่นกัน ก่อนกำเนิดพุทธศาสนาเสียอีก โดยก็มีฐานกำเนิดมาจากวัฒนธรรมชุมชนเช่นกัน แต่เป็นชุมชนที่ก่อตัวขึ้นในลุ่มน้ำ หรือสายน้ำขนาดใหญ่ ชุมชนเหล่านี้จะนับถือธรรมชาติ โดยเฉพาะสายน้ำว่าเป็น แม่ อย่างเช่น คนไทยยังมีพิธีบูชาแม่ นั่นคือ ที่มาของวันสงกรานต์ และวันลอยกระทง โดยปกติ วัฒนธรรมชุดนี้จะถือว่า ผู้หญิงเป็นใหญ่ ซึ่งแตกต่างจากชุดวัฒนธรรมตะวันตกที่ถือว่า ผู้ชายเป็นใหญ่ จัดได้ว่าเป็นชุดวัฒนธรรมที่รักธรรมชาติ ไม่ชอบสงคราม และชอบการมีชีวิตอย่างสงบสันติ และเอื้ออาทรต่อกัน ที่ผมกล่าว เรื่อง วัฒนธรรมโลก 2 แบบ เพื่อชี้ว่า ปัจจุบัน การพัฒนาการของระบบโลกในแง่วัฒนธรรมกำลังเกิดการเคลื่อนตัวพลิกผันครั้งใหม่ เช่นกัน ในอดีต โลกทางวัฒนธรรมเคลื่อนจาก ออก ไป ตก มาวันนี้ โลกทางวัฒนธรรมกำลังเคลื่อนจาก ตก กลับมา ออก การเปลี่ยนผ่านทางวัฒนธรรมนี้สำคัญมาก เพราะถ้าฐานวัฒนธรรมถูกอภิวัฒน์ จิตใจของมนุษย์ทั่วโลกเองก็จะก่อเกิดการอภิวัฒน์ครั้งใหญ่ด้วย ปัจจุบัน ขบวนการรื้อถอนความเป็นตะวันตกกำลังเกิดขึ้นทั่วโลก ศูนย์ใหญ่ของการรื้อถอน คือ ปัญญาชน สื่อ และ NGO กล่าวอย่างสรุปก็คือ ขบวนการต้านกระแสโลกาภิวัตน์ รวมทั้งขบวนการต้านทักษิโณมิกส์ ในประเทศไทย ต้องเรียนรู้ และทำความเข้าใจเรื่องการรื้อถอนวัฒนธรรมตะวันตก การปฏิรูปการเมืองไทยจึงไม่ได้มีความหมายจำกัดในกรอบ หรือมิติทางการเมือง และเศรษฐกิจเป็นสำคัญ แต่กลับไปอยู่ที่การปฏิวัติวัฒนธรรม และการเรียนรู้ เป็นสำคัญ ถ้าเราเข้าใจเรื่อง การสร้างวัฒนธรรมระบบโลกใหม่ ซึ่งหันกลับสู่รากวัฒนธรรมตะวันออก เราก็จะรู้ว่า เราจะปฏิรูป หรือสร้างระบบการเมือง และระบบเศรษฐกิจใหม่อย่างไร ผมคิดว่า ท่านพุทธทาสได้นำเสนอไว้ส่วนหนึ่งแล้วในงานเขียนของท่าน นั่นคือ การสร้างระบบการเมือง และเศรษฐกิจใหม่บนฐานที่มีดุลยภาพขึ้นมาใหม่ กล่าวอย่างสรุปก็คือ เราต้องช่วยกันสร้างวัฒนธรรมใหม่ ให้คนรักธรรมชาติ ให้คนเอื้ออาทรต่อกัน เราต้องกล้าสร้างระบบการเมืองใหม่ บนฐานระบบที่มีดุลยภาพและกระจายอำนาจ (ไม่ใช่ทุกอย่างคือ กรุงเทพ และรวมศูนย์ที่กรุงเทพ) เราต้องสร้างระบบเศรษฐกิจใหม่เพื่อคนส่วนใหญ่ (แทนที่เศรษฐกิจโลกาภิวัตน์ ที่รวยกระจุก จนกระจาย) ท่านพุทธทาสเรียกแนวคิดนี้ว่า ธรรมิกสังคมนิยม คำว่า สังคมนิยมของท่าน ไม่ได้เป็นหนึ่งเดียวกับแนวคิดสังคมนิยมที่เกิดขึ้นในโลกตะวันตก แต่เป็นสังคมแบบพุทธในวิถีตะวันออก ท่านพุทธทาสได้ชี้ข้อบกพร่องของสังคมนิยมแบบตะวันตกไว้ว่า ไม่ต่างจากระบบทุนนิยม ที่ยึดถือ ความเจริญในด้านวัตถุเป็นใหญ่ ไม่ตระหนักรู้ว่า การติดหลงความเจริญ คือการทำลายและวิบัติ สังคมนิยมแบบของท่านจึงเป็นสังคมที่เน้นเรื่องความเจริญในแง่จิตใจเป็นหลัก ซึ่งก็คือ การสร้างสังคมแบบพุทธนั่นเอง บทสรุป แม้ท่านพุทธทาสจากไปแล้ว แต่แนวคิดในด้านพุทธของท่านยังอยู่กับเรา ถ้าใจเราเป็นพุทธ เราก็จะพบความเป็นพุทธะ หรือหลักธรรมในทุกหนทุกแห่ง และเราก็จะพบคำสอนของท่านพุทธทาสในทุกที่ เช่นกัน ธรรมก็คือ ธรรมชาติ ผู้พบธรรมก็คือ ผู้พบธรรมชาติ คนที่เข้าใจเรื่องจิตใจก็คือ ผู้พบธรรมในด้านจิตใจ คนที่เข้าใจและเข้าถึงเรื่องสังคมก็คือ ผู้พบธรรมในด้านสังคม เรายิ่งเข้าถึง ธรรม ก็ยิ่งเข้าถึงธรรมชาติ เข้าถึงสภาวะอนัตตา และความเป็นอนิจจัง (พลิกผัน) และในที่สุดเราก็จะเข้าถึง ธรรม ที่ซ่อนอยู่ภายในของเรา การเมืองกับธรรม จึงกลายเป็นเรื่องเดียวกัน ในขณะเดียวกับ การอภิวัฒน์โลก และการอภิวัฒน์ธรรม ก็คือเรื่องเดียวกัน ผู้รักธรรมจึงต้องช่วยอภิวัฒน์โลกสู่โลกแห่งธรรม หรือโลกที่มีดุลยภาพที่งดงาม โลกที่มนุษย์กับธรรมชาติมีชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างเอื้ออาทรต่อกัน โลกที่ไร้สงคราม สังคมที่ไร้ชนชั้น และไร้ความเหลื่อมล้ำ ท่านพุทธทาส ช่วยเราวาดภาพฝัน ถึงสังคมในอนาคต ที่งดงาม เราคนไทยทุกคนต้องช่วยกันสร้างฝันให้เป็นจริง
|
|
|
|
|
|
100 ปีพุทธทาสภิกขุปฏิรูปการเมืองวิถีพุทธ(2) --ยุค ศรีอาริยะ คลิกที่นี่ครับ
Create Date : 07 มิถุนายน 2549 |
|
9 comments |
Last Update : 7 มิถุนายน 2549 13:26:23 น. |
Counter : 1698 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: Malee30 7 มิถุนายน 2549 13:59:36 น. |
|
|
|
| |
โดย: โดม IP: 125.24.73.255 8 มิถุนายน 2549 17:44:25 น. |
|
|
|
| |
โดย: p_tham 10 มิถุนายน 2549 16:07:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: gluhp 12 กรกฎาคม 2551 10:07:58 น. |
|
|
|
| |
โดย: ครูสุริยะ IP: 112.142.171.193 19 ธันวาคม 2552 21:33:04 น. |
|
|
|
| |
โดย: สิงห์คาราวะ IP: 117.47.209.247 16 กุมภาพันธ์ 2553 11:58:23 น. |
|
|
|
|
|
|
|
ขอพักหอบก่อนนะครับ
แต่คงเหนื่อยไม่เท่าประเทศไทยที่ยังคงเป็นสูญญากาศทางการเมืองเป็นเวลานานมาก
ดูแลตัวเองกันให้ดี ๆ ด้วยนะครับ