บ้านที่มีความรักและความอบอุ่นคือจินตนาการของคนไทยยามนี้ !
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2548
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
20 ธันวาคม 2548
 
All Blogs
 
หลังยุคทักษิโณมิกส์ปฏิรูปการเมืองครั้งใหม่(3)--ยุค ศรีอารยะ






หลังยุคทักษิโณมิกส์ ปฏิรูปการเมืองครั้งใหม่ (3)

โดย ยุค ศรีอาริยะ 19 ธันวาคม 2548 18:02 น.


ถ้าย้อนกลับไปในช่วงนั้นอีก หลังฟองสบู่แตกปี 2540 การวิเคราะห์อนาคตไทยก็แบ่งออกเป็น 2 สาย

สายแรกคือ สายทักษิโณมิกส์ ที่เสนอว่าจะเกิดปรากฏการณ์ตัว V เนื่องจากว่าพอฟองสบู่แตก ก็หมายความว่า เศรษฐกิจไทยดิ่งจมลงถึงที่สุดแล้ว ก็จะเกิดกระแสตีกลับขึ้นเอง

ในขณะที่ ฝ่ายต้านโลกาภิวัตน์ เตือนว่าไม่จำเป็นต้องเป็นเช่นนั้น เนื่องจากหลังฟองสบู่แตกปี 2540 ได้ก่อกระแสวิกฤตไปทั่วเอเชีย และแพร่ไปทั่วโลก ระบบเศรษฐกิจโลกโดยภาพรวมยังคงผันผวนอยู่ อย่างเช่นปี 2543 ถึง 2544 ฟองสบู่ได้แตกอีกครั้งที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องเกิดปรากฏการณ์ตัว V

เมื่อทักษิโณมิกส์เชื่อมั่นในกระแสโลกาภิวัตน์ และเชื่อในปรากฏการณ์ตัว V แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจไทยทั้งระบบ (อย่างแรง) จึงเกิดขึ้นหลังรัฐบาลทักษิณขึ้นมามีอำนาจ

ยุทธวิธีหลักคือระดมเงินทั้งในและนอกระบบ รวมทั้งการระดมทุน หรือการใช้เงินของอนาคตเข้ามาช่วยปั่นเศรษฐกิจ

เมืองไทยจึงก้าวเข้าสู่ช่วงปั่นใหญ่ทางเศรษฐกิจ ผลที่ตามมาจึงดูราวว่าเศรษฐกิจไทยกำลังพุ่งขึ้น แต่เศรษฐกิจโลกก็ผันผวนเกินกว่าที่ทักษิโณมิกส์คาด พอเกิดวิกฤตน้ำมันและวิกฤตสิ่งแวดล้อม กระแสการปั่นเศรษฐกิจก็ล้มเหลวอย่างไม่เป็นท่า

นี่คือที่มาของความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ ความล้มเหลวนี้ก่อผลสะเทือนในวงกว้างมาก โดยเฉพาะกลุ่มชนชั้นกลางในเมืองที่เคยศรัทธา หรือเคยเชื่อมั่นว่า รัฐบาลทักษิโณมิกส์จะแก้วิกฤตของบ้านเมืองได้

ภาพความล้มเหลวทางเศรษฐกิจก่อตัวขึ้นพร้อมๆ กับความล้มเหลวทางการเมือง ในการเผชิญวิกฤต 3 จังหวัดภาคใต้

วิกฤต 3 จังหวัดภาคใต้ กล่าวได้ว่า "ยิ่งแก้ ยิ่งวิกฤต" ทำให้ความศรัทธาต่อรัฐบาลและคุณทักษิณเสื่อมทรุดลงไปอีก โดยเฉพาะอย่างยิ่งบรรดาปัญญาชนไทยที่ติดตามศึกษาและวิจัยเรื่องนี้โดยตรง

งานวิจัยจำนวนมากได้นำเสนอว่า รากที่มาของปัญหา คือนโยบายการอุ้มฆ่า และแนวคิดสร้างรัฐตำรวจขึ้นคุม 3 จังหวัดภาคใต้

มีงานชิ้นหนึ่งที่น่าสนใจมากคือ งานของ ดร. ภูวดล ทรงประเสริฐ ได้นำเสนอผลงานเรื่อง เพลิงทักษิณ

ผมคิดว่าจากการตั้งชื่อเรื่อง ผู้อ่านก็พอจะบอกได้ว่า อะไรคือต้นตอของปัญหา ผมขอยกข้อความบางช่วงที่ท่านได้นำเสนอไว้อย่างตรงไปตรงมาและชัดเจน

ท่านกล่าวถึงนายกฯ ว่า มีอัตตานิยมสูงมาก มีการใช้ดุลพินิจส่วนตัวมากกว่าหลักนิติธรรมตามกระบวนการยุติธรรมของประชาสังคมที่มีอารยะ จนทำให้นายตำรวจจำนวนหนึ่งถือเป็นแนวปฏิบัติ จนกระทั่งคำว่า "การอุ้มฆ่า" ได้กลายเป็นยุทธวิธีหลักในการปราบปราม

ในกรณีตากใบ ท่านนายกฯ ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า

"การสลายม็อบที่ตากใบเป็นไปตามหลักวิชาการทุกอย่าง" แต่หลังจากนั้นกลับปรากฏว่า มีคนตายไป 84 ศพ ภายใต้การควบคุมดูแล (อย่างเป็นวิชาการ) ของเจ้าหน้าที่

จนทำให้บรรดาผู้นำศาสนาอิสลาม และประเทศมุสลิม ถึงกับกล่าวประณามเหตุการณ์ครั้งนี้ว่า เป็นการก่ออาชญากรรมโดยรัฐไทย

ถ้าถามผมว่า "วิกฤตใต้" ใครคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบทั้งโดยตรงและโดยอ้อม

คำตอบแบบตรงๆ คือ เพลิงทักษิณ

นี่คือเส้นแบ่งที่ใหญ่และไม่อาจจะเชื่อมกันได้ระหว่างนักวิชาการที่รักความเป็นธรรม และกลุ่มที่รักสันติวิธี กับทักษิโณมิกส์แบบอำนาจนิยมภายใต้การนำของคุณทักษิณ

หลังจากนั้น กระแสปฏิเสธทักษิณ จึงเริ่มแพร่ระบาดไปทั่วในหมู่ปัญญาชนไทย

เพื่อนสวนขึ้นว่า

"ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมรัฐบาลต้องใช้ความรุนแรงจนเกินเหตุด้วย"

ผมตอบว่า

"น่าจะเกี่ยวกับแนวคิด หรือวัฒนธรรมแบบอเมริกันคาวบอย"

ผมคิดว่าคนที่เรียนมาจากสหรัฐอเมริกา โดยเฉพาะจากรัฐเทกซัส ซึ่งถือว่าเป็นเมืองคาวบอย หนีไม่พ้นที่จะรับวัฒนธรรมแบบนี้

ถ้าเราดูหนังคาวบอย เราจะพบวิถีการจัดการปัญหาแบบคาวบอย นั่นคือวิธีที่พระเอกใช้ปืนยิงผู้ร้ายทิ้งให้หมดทั้งเมือง และทุกอย่างก็จบลงด้วยพระเอกคาวบอยได้รับชัยชนะ

เรียกว่า "คิดง่าย" และ "ป่าเถื่อน"

ผมคิดว่าท่านประธานาธิบดี บุช ก็คิดเช่นนี้ ไม่ต่างกัน เพราะท่านก็จบจากรัฐเทกซัสเหมือนกัน ท่านจึงนำประเทศของท่านติดกับสงครามที่ยากจะสิ้นสุดที่ อิรัก และตะวันออกกลาง เพราะท่านคิดว่ายึดอิรักง่ายนิดเดียว แค่จับซัดดัม และฆ่าทุกคนที่เป็นพวกซัดดัมทิ้ง ทุกอย่างก็คงเรียบร้อย

วิกฤต 3 จังหวัดภาคใต้ สร้างความสูญเสียในเชิงเศรษฐกิจมหาศาลมาก เรียกว่าเศรษฐกิจแถบ 3 จังหวัด ทั้งหมด รวมถึงศูนย์เศรษฐกิจสำคัญของภาคใต้คือ สงขลา พังยับเยิน

มูลค่าความเสียหายนับแสนๆ ล้าน ใครเล่ารับผิดชอบ!!!

ถ้าวิกฤตนี้แพร่ระบาดออกไป หรือหากมีการโจมตีแหล่งท่องเที่ยว หรือกรุงเทพฯ ความเสียหายจะขยายเป็นทวีคูณ ใครเล่าคือผู้รับผิดชอบ!!!

และที่สำคัญความล้มเหลวทั้งทางเศรษฐกิจและการเมือง ถูกทำให้แย่ลงด้วยข่าวการแพร่ระบาดของคอร์รัปชันที่เรียกว่า "คอร์รัปชันในเชิงนโยบาย"

ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่บางคนเล่าว่า

เดี๋ยวนี้ การโกงกิน จะกินกันอย่างละเอียด กินทุกจุด ทุกที่ที่มีงบประมาณเข้าไปเกี่ยวข้อง

วันก่อนผมฟัง นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ พูดที่ธรรมศาสตร์ ท่านกล่าวถึงการเกิดขึ้นของวงจรอุบาทว์ 7 ประการ คือ

1. การผูกขาดอำนาจเบ็ดเสร็จ ทั้งในรัฐบาล รัฐสภา และสื่อมวลชน

2. ผูกขาดระบบเศรษฐกิจอย่างไม่เคยมีมาก่อน

3. มีธุรกิจการเมืองที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน เพื่อพวกพ้องและวงศาคณาญาติ

4. ผูกขาดการออกนโยบาย และกฎหมาย

5. มีการทุจริตในเชิงนโยบาย

6. นโยบายประชาชนนิยม ที่ทำลายความเป็นคนของคนชนบท

7. การมีความพยายามซื้อสื่อ และขบวนการครอบงำสื่อ

ผมขอสรุปว่า วงจรอุบาทว์นี้เกิดจากการประกอบประสานกัน และพัฒนาไปด้วยกันระหว่างการขยายการผูกขาดอำนาจการเมือง เศรษฐกิจ และสื่อ และการขยายตัวของการโกงกินบ้านเมือง

ยิ่งอำนาจถูกผูกขาดมากขึ้น การโกงกินบ้านเมืองก็จะขยายตัวไปด้วยกัน

วันนี้ ไม่มีใครเชื่อว่า "รวยแล้วไม่โกง"

เราพบว่า "ยิ่งรวย ยิ่งโกง ยิ่งกิน"

ก่อนจบ ผมกล่าวอย่างสรุปว่า การพังพาบของทักษิโณมิกส์ มีเหตุปัจจัยหลายอย่าง ประกอบประสานกัน จนวันนี้ ผู้คนจำนวนมากหลั่งไหลมาร่วมชุมนุมกัน จนก่อกระแสต้านทักษิโณมิกส์ขึ้น

รายการเมืองไทยรายสัปดาห์ จึงกลายเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างอนาคตแก่ประวัติศาสตร์การเมืองไทยไปแล้วในมิติหนึ่ง และในเวลาเดียวกัน ทักษิโณมิกส์ เองก็กลายเป็นประวัติศาสตร์ไปด้วยในอีกมิติหนึ่ง

นี่คือ อนาคตที่กำลังไล่ล่าเรา

ทางออกไทย

พอผมจะจบ เพื่อนๆ ก็ขอให้พูดถึงเรื่อง ทางออก

ผมจึงเริ่มว่า

"ความจริงแล้วในช่วงทักษิโณมิกส์ เราได้เรียนรู้สิ่งที่มีค่ามากมายหลายเรื่องหลายประเด็น โดยเฉพาะเรื่องความล้มเหลวของทักษิโณมิกส์

แต่ถึงอย่างไร ผมคิดว่าคุณทักษิณมีข้อดีหลายอย่าง เช่น เป็นคนขยันอย่างยิ่ง ชอบศึกษา และสนใจติดตามเทคโนโลยีใหม่ๆ จนถูกขนานนามว่าเป็น อัศวินแห่งคลื่นลูกที่สาม นี่ก็เป็นเรื่องที่ต้องกล่าวถึงเช่นกัน

นอกจากนี้ ท่านเข้าใจความสำคัญของสื่อและใช้สื่อมาก มากกว่าทุกรัฐบาลที่ผ่านมา

นี่คือแง่บวกที่ท่านนำเสนอต่อสังคมไทย

แต่ผมสงสัยว่าอัศวินคลื่นลูกที่สามคนนี้ไม่เข้าใจจริงๆ ว่า อะไร คือคลื่นลูกที่สาม"

คลื่นลูกที่สามคือ คลื่นของการเปลี่ยนผ่านประวัติศาสตร์ ที่ทำให้ยุคเศรษฐกิจทุนนิยมแบบเก่า รวมทั้งทุนนิยมฟองสบู่ และยุคการเมืองประชาธิปไตย (ตัวแทน) แบบเก่าสิ้นสภาพ

บางทีเราเรียกยุคแห่งการเปลี่ยนผ่านนี้ว่า "ยุคแห่งข้อมูลและข่าวสารซึ่งไร้พรมแดน" หรือพูดอีกอย่างหนึ่งว่า ข้อมูลข่าวสารที่ไร้พรมแดนนี้จะกลายเป็นพลังในการผลักดันประวัติศาสตร์ให้เคลื่อนไปข้างหน้า

พลังข่าวสารนี้ จะแสดงบทบาทผ่านการสร้างชุมชนแห่งความรู้ หรือ Knowledge Communities และการสร้างขยายเครือข่ายดังกล่าว

เหตุที่ต้องสร้างชุมชนแห่งความรู้ขึ้น เนื่องจากโลกจะเต็มไปด้วยขยะแห่งข่าวสารจำนวนมหาศาล ดังนั้นที่สำคัญ ชุมชนต่างๆต้องมีความสามารถแยกแยะ วิเคราะห์ วิจัยข่าวสาร และส่งต่อข่าวสารได้

ชุมชนแห่งปัญญานี้ จะเป็นพลังใหม่ในการนำการเปลี่ยนและสร้างประวัติศาสตร์

ที่สำคัญไม่น้อยกว่ากัน เมื่อระบบโลกก้าวสู่ยุคที่พลิกผันอย่างยิ่ง เราต้องตระหนักรู้ว่าในช่วงนี้ สิ่งเก่ากำลังจะตาย สิ่งใหม่เริ่มเกิด

ดังนั้นเราต้องกล้า "คิดใหม่ ทำใหม่" เพราะอนาคตข้างหน้ากำลังไล่ล่าเราทุกคน

การเมืองก็ต้องสร้าง "การเมืองยุคใหม่"

เศรษฐกิจก็ต้องสร้าง "เศรษฐกิจยุคใหม่"

และวัฒนธรรม รวมทั้งการศึกษาก็ต้องรื้อถอนใหม่

นี่คือ การคิดใหม่ ทำใหม่ อย่างแท้จริง

แต่น่าเสียดาย อัศวินยุคคลื่นลูกที่สามคนนี้ ไม่ได้ "คิดใหม่-ทำใหม่" แต่ที่แท้กลับ "คิดเก่า-ทำเก่า" ซึ่งคือรากฐานแห่งการพังพาบของทักษิโณมิกส์ (ยังมีต่อ)

===============================

พบกับคำเทศนาของท่านพุทธทาสในหัวข้อ "มายากับของจริง" ได้ที่นี่ครับ--->

คลิกที่นี่







Create Date : 20 ธันวาคม 2548
Last Update : 20 ธันวาคม 2548 6:41:30 น. 14 comments
Counter : 479 Pageviews.

 
สวัสดีครับคุณคนเดินดิน แวะมาทักทายก่อนไปทำงาน สบายดีนะครับ


โดย: me2you วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:6:08:07 น.  

 
วันนี้ลงบทความของอาจารย์เทียนชัย วงศ์ชัยสุวรรณ อย่างต่อเนื่อง ส่วนบทเทศนาของท่านพุทธทาสจะทยอยลงต่อไป ช่วงนี้เวลาแน่นมาก เพราะต้องออกข้างนอกช่วงเช้าอีกเมื่อวานขาดเอกสารเลยต้องกลับมาใหม่

ตอนนี้กลายเป็นคนบ้านนอกเข้ากรุงไปเรียบร้อยแล้ว เบื่อรถติดมาก ๆ โดยเฉพาะแถวพระราม 9 สุดยอดจริง ๆ กว่าจะไปแถวแยกอโศกได้แทบตายเลย
บ่นมาตามสายอีกแล้ว ประเทศไทย...อีกกี่ปีจะหายติด


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:6:17:03 น.  

 
3395
เขียนเพิ่มอีกนิดหน่อยแล้วค่ะ


โดย: rebel วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:6:24:10 น.  

 
เพลงประกอบบล็อก "ความฝัน-ความจริง" คาราบาวในอัลบั้มชุด ซึม-เศร้า-เหงา-แฮงค์
ไม่เคยฟังเหมือนกัน แต่ก็เพราะดีครับ หวังว่าคงชอบนะครับท่านผู้ชมทุกท่าน


โดย: คนเดินดินฯ วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:6:45:29 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ คนเดินดินฯ

รูปสวยค่ะ


โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:7:03:34 น.  

 
สวัสดีตอนเช้าค่ะ ^^



...


โดย: ขอบคุณที่รักกัน (blueberry_cpie ) วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:7:25:31 น.  

 
หวัดดีเช้าวันอังคารที่มีอากศหนาวเย็นนะคะ

สดชื่นยามเช้าค่ะ


โดย: Batgirl 2001 วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:8:11:31 น.  

 
มาแอบมองว่ามีรางวัลอยู่แถวนี้ป่าว


โดย: rebel วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:8:27:31 น.  

 
หวัดดีค่ะ
อากาศเย็นๆ ระวังจะไม่สบายนะคะ


โดย: Black Tulip วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:8:32:07 น.  

 
เฮ้ออ....เรื่องนี้พูดได้ไม่มีวันจบอ่ะครับ

ก็ว่ากันไปตามแนวทาง Modern - Post-Modern

วันก่อนอ่านบทความวิจารณ์รัฐบาล โดยอาจารย์หมอประเวศ วะสี กับ อาจารย์เสน่ห์ จามริก .. ชอบคำนี้ครับ "ธนกิจการเมือง"
มันตรงประเด็นดีจัง

รัฐบาลพยายามกำจัดยาเสพติด จากสังคม..แต่กำลังบ่มเพาะนิสัย "เสพติดเงิน"...ให้กับสังคมส่วนใหญ่ของประเทศ

อ่านแล้วก็ เฮ้อออออออออออออออออ...

หวัดดีตอนเช้าครับผม...


โดย: กุมภีน วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:8:51:49 น.  

 
สวัสดีครับแวะมาเยี่ยมครับ ก่อนทำงาน


โดย: คนเติมฝัน วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:8:57:53 น.  

 
เห็นเค้าว่าเมืองไทยอากาศเย็น คุณคนเดินดินไปเยี่ยมน้องดาวบ้างหรือเปล่าอะ ฝากทักทายด้วยจะ หมายถึงไปเจอตัวอะ


โดย: อินทรีทองคำ วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:9:01:03 น.  

 
เข้ามาทักทายเห็นเรื่องน่าอ่านดีค่ะ แต่ง่วงนอนเหลือเกิน
พรุ่งนี้ต้องเดินทางอีก เอาไว้ตอนกลับมาจะเข้ามาอ่านใหม่นะคะ


โดย: เสียงซึง วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:12:22:42 น.  

 
ขอบคุณค่ะ


โดย: rebel วันที่: 20 ธันวาคม 2548 เวลา:12:58:44 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

คนเดินดินฯ
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]








ปณิธาน

การเดินทางของชีวิตของทุกผู้คน
ทุกคนต่างต้องการประสบความสำเร็จในชีวิต
แต่จะมีสักกี่คนที่จะก้าวไปถึง
เมื่อเราก้าวถึงจุดนั้น
ขออย่าลืมการแบ่งปันและเจือจาน
แก่ผู้ด้อยโอกาสในสังคม

เราจะเติบโตและก้าวไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน
เพื่อสร้างสรรค์สังคมใหม่ที่ดีงาม

เพื่อให้อนุชนคนรุ่นหลัง
ได้ใช้ชีวิตของเขา
ตามศักยภาพและความตั้งใจของเขา
ตราบเท่าที่เขาต้องการ







เดินไปสู่ความใฝ่ฝัน


ชีวิตหนึ่งร่วงหล่นไปตามกาลเวลา
คลื่นลูกใหม่ไล่หลังคลื่นลูกเก่า
นั่นคือวัฏจักรของชีวิตที่ดำเนินไป

เยาว์เธอรู้บ้างไหม
ว่าประชาราษฎรนั้นทุกข์ยากเพียงใด
เสี้ยวหนึ่งของชีวิตที่เหลืออยู่
เธอเคยมีความใฝ่ฝันที่แสนงามบ้างไหม

สักวันฉันหวังว่าเธอจะเดินไปตามทางสายนี้
ที่อาจดูเงียบเหงาและโดดเดี่ยว
แต่ภายใต้ฟ้าเดียวกัน
ฉันก็ยังมีความหวัง
ว่าผู้คนในประเทศนี้
จะตื่นขึ้นมา
เพื่อทวงสิทธิ์ของพวกเขา
ที่ถูกย่ำยีมาช้านาน
และฉันหวังว่าเธอจะเดินเคียงคู่ไปกับพวกเขา

เพื่อสานความใฝ่ฝันนั้นให้เป็นความจริง
สัญญาได้ไหม
สัญญาได้ไหม
เยาว์ที่รักของฉัน


***********



ขอมีเพียงเธอเป็นกำลังใจ




ทอดสายตามองออกไปยังทิวทัศน์ข้างหน้า
แลเห็นต้นหญ้าโบกไสว
เห็นดอกซากุระบานอยู่เต็มดอย
ความงามที่อยู่ข้างหน้า
เป็นสิ่งที่ฉันจะเก็บมันไว้
ยามที่จิตใจอ่อนล้า...

ชีวิตยามนี้แม้ผ่านมาหลายโมงยาม
แต่จิตใจข้างในยังคงดูหงอยเหงา
หลายครั้งอยากมีเพื่อนคุย
หลายครั้งอยากมีคนปรับทุกข์
และหลายครั้งต้องนั่งร้องไห้คนเดียว

รางวัลสำหรับชีวิตที่ผ่านมา
มันคืออะไรเคยถามตัวเองบ่อย ๆ
ความสำเร็จ...เงินตรา...เกียรติยศชื่อเสียง
มันใช่สิ่งที่เราต้องการหรือเปล่า
ถึงจุดหนึ่งชีวิตต้องการอะไรอีกมากไปกว่านี้

หลายชีวิตยังคงดิ้นรนต่อสู้
เพื่อปากท้องและครอบครัว
มันเป็นความจริงของชีวิตมนุษย์
ที่ต้องดำรงชีพเพื่อความอยู่รอด
มีทั้งพ่ายแพ้ มีทั้งชนะ
แต่ชีวิตต่างต้องดำเนินไป
ตามวิถีทางของแต่ละคน

ลืมความทุกข์ ลืมความหลังที่เจ็บปวด
มองออกไปข้างหน้า
ค้นให้พบตัวตนของตนเองอีกครั้ง
แล้วกลับไปสู้ใหม่
การเริ่มต้นของชีวิตจะต้องดำเนินต่อไป
จะต้องดำเนินต่อไป

ตราบจนลมหายใจสุดท้ายของชีวิต....




@@@@@@@@@@@




การเดินทางของความรัก

...ฉันเดินไปด้วยหัวใจที่ว่างเปล่า
สมองได้คิดใคร่ครวญ
ความรักในหลายครั้งที่ผ่านมา
ทำไมจึงจบลงอย่างรวดเร็ว

ฉันเดินไปด้วยสมองอันปลอดโปร่ง
ความรักทำให้ฉันเข้าใจโลก
และมนุษย์มากขึ้น
และรู้ว่าความแตกต่าง
ระหว่างความรักกับความหลงเป็นอย่างไร?

ฉันเดินไปด้วยดวงตาที่มุ่งมั่น
บทเรียนของรักในครั้งที่ผ่าน ๆ มา
มันย้ำเตือนอยู่เสมอว่า
อย่ารีบร้อนที่จะรัก
แต่จงปล่อยให้ความสัมพันธ์
ค่อย ๆ พัฒนาอย่างค่อยเป็นค่อยไป
เรียนรู้และทำเข้าใจกันให้มากที่สุด

ก่อนที่จะเริ่มบทต่อไปของความรัก...




*******************



จุดไฟแห่งศรัทธาและความมุ่งมั่น

เข้มแข็งกับอ่อนแอ
สับสนหรือมุ่งมั่น
จะยอมแพ้หรือลุกขึ้นท้าทาย
กับชีวตที่เหลืออยู่
ทุกสิ่งล้วนอยู่ที่ใจเราจะกำหนด

ไม่ใช่เพราะอิสระเสรี
ที่เราต้องการหรอกหรือ?
ที่มันจะนำทางชีวิต
ในห้วงเวลาต่อไป
ให้เราก้าวทะยานไป
สู่วันพรุ่งที่สดใส

มีแต่เพียงคนที่รู้จักตนเองอย่างดีพอเท่านั้น
จะสามารถทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่ได้
เมื่อผ่านการสรุปบทเรียน
จากปัญหาต่าง ๆ ที่ประสบ
เราก็จะมีความจัดเจนกับชีวิตมากขึ้น
และการเผชิญกับอุปสรรคต่าง ๆ
ในอนาคตก็จะเป็นเพียงปัญหาที่เล็กน้อยสำหรับเรา
ในการที่จะก้าวผ่านไป



ด้วยศรัทธาและความมุ่งมั่นที่มีอยู่ในใจ
ที่จะต้องย้ำเตือนตัวเองอยู่เสมอ
หนทางในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ
ย่อมอยู่ไม่ไกลห่างอย่างแน่นอน

*********************



ก้าวย่างที่มั่นคง

บนทางเดินแคบ ๆ ที่เหลืออยู่
หากขาดความมั่นใจที่จะก้าวเดินต่อไป
ชีวิตก็คงหยุดนิ่งและรอวันตาย
แม้ทางข้างหน้าจะดูพร่ามัว
และไม่รู้ซึ่งอนาคต
แต่สิ่งที่ดีที่สุดในปัจจุบัน
คือก้าวย่างไปอย่างมั่นคง
และมองไปข้างหน้าอย่าเหลียวหลัง
เก็บรับบทเรียนในอดีต
เพื่อจะได้ระมัดระวังไม่ให้ผิดพลาดอีกในอนาคต

"""""""""""""""""""""""""""""""""



ใช้สามัญสำนึกทำงาน

ไม่มีแผนงานที่สวยหรู
ไม่มีปฏิบัติการใดที่สมบูรณ์แบบ
ในยามนี้มีเพียงการทำงานด้วยการทุ่มเท
ลงลึกในรายละเอียดเท่านั้น
จึงจะสามารถคลี่คลายปัญหาของงานลงได้
บางครั้งโจทย์ที่เจออาจยากและซับซ้อน
แต่เมื่อลงไปคลุกคลีอย่างแท้จริง
โจทย์เหล่านี้ก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป

""""""""""""""""""""""""""""""""



เรียบ ๆ ง่าย ๆ


อย่ามองสิ่งต่าง ๆ ด้วยแว่นสีที่ซับซ้อน
เพราะในโลกนี้มีเพียงสิ่งสามัญที่เรียบง่าย
สำหรับคนที่สงบนิ่งเพียงพอเท่านั้น
จึงจะแก้โจทย์และปัญหาต่าง ๆ
ด้วยกลวิธีที่เรียบ ๆ ง่าย ๆ
ไม่ซับซ้อนและตรงจุดได้อย่างเพียงพอ

""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""

ใจถึงใจ

บนหนทางไปสู่ความสำเร็จ
บนหนทางของการสร้างสรรค์สิ่งใหม่
มีเพียงคนที่เข้าใจในสภาพจิตใจของคนทำงานเท่านั้น
จึงจะสามารถนำทีมงานไปสู่เป้าหมายได้
อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน








Friends' blogs
[Add คนเดินดินฯ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.