อานาปานสติ สมาธิภาวนา


ธรรมศาลา


เนื้อหากระทู้นี้เหมาะ
กับผู้ที่กำลังจะเริ่มต้นฝึกด้วยอุบายวิธีอานาปานสติภาวนา
และท่านผู้ที่ปฏิบัติเป็นกิจวัตรด้วยวิธีนี้
.........โดยมีการนำเสนอหัวข้อกรณีศึกษาที่น่าสนใจ
เปิดโอกาสแสดงความเห็นสอบถาม แลกเปลี่ยนกันและกันตามอัธยาศัย ...

อา
นาปาน เป็นคำสมาส ระหว่างคำว่า "อานะ" และ "อปานะ"
ที่หมายถึง"ลมหายใจ
เข้า" และ"ลมหายใจออก" ที่มีอยู่แล้วตามธรรมชาติ

.........ความที่มีสติ สัมปชัญญะ
การระลึกรู้สภาพธรรมที่เป็นปัจจุบัน ความรู้สึกสัมผัส(นาม)
ที่เกี่ยวข้องกับลมหายใจ(รูป) นั้นมีมานานคู่กับมนุษย์ชาติ
เพราะ
มนุษย์มีชีวิตอยู่ได้เนื่องด้วยลมหายใจเข้า-ออก
ตั้งแต่เกิดจนตราบจนสิ้นชีวิต

.........หาก
ผู้ปฏิบัติศึกษาพระไตรปิฏกควบคู่กันก็จักทราบว่าอานาปานสติเป็นหมวดกรรมฐาน
ที่พระพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงตรัสรู้
เป็นกรรมฐานของพระอรหันต์หลายองค์ในอดีต ปัจจุบัน และสืบเนื่องไปยังอนาคต
ดำเนินสู่มรรค ผล นิพพาน
.........อา
นาปานสติมีการแนบเนื่องเกื้อหนุนกันระหว่างสมถะและวิปัสสนา
ที่มีความแน่วแน่เป็นหนึ่ง การพิจารณาสภาพธรรมสู่ความชัดเแจ้งไตรลักษณ์
อนิจจัง
ทุกขัง อนัตตา ไปโดยลำดับ





Free TextEditor







































































































 

Create Date : 04 มิถุนายน 2553    
Last Update : 4 มิถุนายน 2553 16:08:02 น.
Counter : 338 Pageviews.  

ข้อแตกต่างระหว่าง ผู้ชนะ กับ ผู้แพ้



































 1) ผู้ชนะ : เมื่อพบว่ามีข้อผิดพลาด จะพูดว่า ฉันทำผิดเอง

ผู้แพ้  : เมื่อพบข้อผิดพลาด
จะพูดว่า ไม่ใช่ความผิดของฉัน



 2)
ผู้ชนะ : จะทำงานหนักกว่าปกติ และมีเวลามากกว่าผู้แพ้

ผู้แพ้  : จะทำงานแบบยุ่งทั้งวัน
โดยที่ไม่คิดว่า งานไหนควรทำก่อน ทำหลัง


 3) ผู้ชนะ : จะเผชิญหน้ากับปัญหาและลงมือแก้ไขปัญหานั้น

     ผู้แพ้  : จะทำในทางตรงข้าม
คือหลีกเลี่ยงปัญหา



 4) ผู้ชนะ :
จะลงมือทำงานให้ปรากฏผลงานขึ้น

ผู้แพ้  : จะให้แต่คำสัญญา คือมีแต่ลมปาก แต่ไม่ลงมือ


 5) ผู้ชนะ : จะพูดว่า “ ฉันทำได้ดี
แต่ยังไม่ดีเท่ากับที่ฉันต้องการ “

  ผู้แพ้  : จะพูดว่า “
ยังมีคนอื่นอีกหลายคนที่มีผลงานแย่กว่าตัวเขา “



 6) ผู้ชนะ : จะตั้งใจฟัง แล้วทำความเข้าใจ และ
สามารถตอบสนองได้

    
ผู้แพ้  : จะรออย่างเดียว โดยไม่ฟัง ไม่ทำความเข้าใจสิ่งที่คนอื่นพูด
รอจนกว่าจะถึงคิวที่จะได้พูดเรื่องของตัวเอง



 7) ผู้ชนะ : จะยอมรับ นับถือคนที่มีความสามารถเหนือกว่า
และจะเรียนรู้จากคนเหล่านั้น

  ผู้แพ้  : จะทำในทางตรงข้ามและจะพยายาม
หาข้อผิดพลาดของคนที่เหนือกว่าเขา


 8)
ผู้ชนะ : จะมีความรับผิดชอบ ไม่เพียงแต่งานที่ได้รับมอบหมายเท่านั้น 
จะช่วยคิดให้องค์กรประสบความสำเร็จ( ไม่ใช่ไปก้าวก่าย งานคนอื่นนะ )

    ผู้แพ้  :
จะไม่กล้าที่จะช่วยเหลือคนอื่น และ มักจะพูดว่า ฉันไม่ว่าง
กำลังทำงานของฉันอยู่



 9) ผู้ชนะ :
ต้องมีวิธีที่จะทำให้ดีขึ้นได้เสมอ

     ผู้แพ้  : จะพูดว่า “ นี่คือหนทางเดียวที่ทำได้ “


10) ผู้ชนะ : จะแบ่งปันบทความนี้ไปยังเพื่อนๆของเขา

  ผู้แพ้  :
จะเก็บบทความนี้เอาไว้ เพราะว่าเขาไม่มีเวลาที่จะแบ่งปันไปให้คนอื่น












ขอบคุณบทความจาก
ชุมชนการเรียนรู้









Free TextEditor







































































































 

Create Date : 04 มิถุนายน 2553    
Last Update : 4 มิถุนายน 2553 15:58:48 น.
Counter : 339 Pageviews.  

ชีวิตยังมีทิศตะวันออก






























บ่อยครั้งที่ชีวิตผิดพลาด..ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่
เรา
มักจะเอาสมาธิไปจดจ่ออยู่กับความผิดพลาดนั้น
ซ้ำเติมตัวเองให้ทุกข์…ให้
เสียใจ…


และพยายามจะสร้างคำถามเพื่อค้นหาคำตอบให้ตัวเองอยู่
เสมอ


ทั้งๆ
ที่เราก็รู้ว่าคำตอบที่สร้างขึ้นมานั้น มัน
” ไม่ใช่ความจริง”…
ที่จะทำให้เราหลุด
พ้นจากความเสียใจนั้นได้เลย…


เราจึงยอมติดกับ
ดักความเสียใจอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
และกลายเป็นทาสของมันอย่างรู้ตัว…


รู้ว่าเสียใจแต่ก็
ไม่ทำให้อะไรมันดีขึ้นมา
และเราก็ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอดีตได้


แต่
ทำไมเรายังเป็นทุกข์กับการเลือกที่จะเสียใจ
และทำชีวิตให้มันแย่ลงกว่า
เดิมทุกวันๆ…


ทั้งๆ
ที่ก็รู้ว่ารสชาติของมันสุดแสนจะขมขื่นมากมายเพียงใด


เพราะ
เราเริ่มต้นใหม่ไม่เป็น”…
เราเลยยังทุกข์ระทมไปกับความ
ผิดพลาดของชีวิต


สิ้นสุดแล้วแต่ก็เริ่มต้น
ใหม่ไม่ได้…
ไปไม่เป็น…เหมือนจะมองเห็นทาง…


แต่ก็เลือกที่จะปิดหู ปิดตา
และไม่พยายามจะเปิดใจ
เราจึงต้องอยู่กับความเศร้าเสียใจอยู่ทุกคืนทุกวัน

ตอก
ย้ำความผิดพลาดให้ตัวเองอยู่อย่างนั้น…



ลองมองดูวิถีดอกทานตะวันบ้างสิ..ชีวิตมีแต่ความเบิกบาน
เพราะ
รู้จักที่จะใช้ชีวิตไปพร้อมๆ กับแสงตะวัน
แสงสว่างที่ส่องนำทางให้ชีวิต
ทุกชีวิต…” ยังคงมีชีวิต”…



แม้ยามที่ดอกทานตะวันร่วงโรย…
ก็ยังคง
ทิ้งเมล็ดพันธุ์ให้เจริญเติบโต…
งอกงามและรับแสงตะวันได้ใหม่อีกครั้ง



เพราะฉะนั้นเราต้องไม่ปิดตัวเอง…
แล้ว
จมอยู่กับความคิดที่ว่าชีวิตต้องเริ่มต้นใหม่ไม่ได้


อย่าทำร้ายตัวเองด้วยการเศร้าเสียใจ…
แล้วปล่อยให้ชีวิตมันไหล
ไปเรื่อยๆ อย่างไม่มีคุณค่าและไร้จุดมุ่งหมาย…


จงใช้ชีวิตให้เป็นดั่งเช่นดอกทานตะวัน…
แม้ยามผิดพลาด เสียใจ
ก็จะมีทางออกของชีวิตเสมอ


อับจนหนทางอย่างไร
แสงสว่างจากดวงตะวัน
ก็จะคอยส่องทางให้เราได้พบเจอทางออก


“ชีวิตเราจึงมีทางออก
ตราบใดที่บนโลกใบนี้ยังมีทิศตะวันออก”…


แม้ว่าชีวิตจะยังมืดมน จะยังคงจมอยู่กับความผิดพลาด เศร้าใจ
ก็
จงเศร้าให้ถึงที่ สุด เสียใจ ก็จงเสียใจเสียให้พอ


หากยังร้องไห้ ขอให้ระบายน้ำตาออกมา อย่ากักเก็บมันไว้ …
เมื่อ
เราเสียใจอย่างถึงที่สุดแล้ว เราต้องกล้าลุกขึ้นมาปฏิวัติตัวเอง
และ
พร้อมที่จะเป็นคนใหม่ ที่ใช้บทเรียนจากอดีต…
เป็นเหมือนเข็มทิศคอยช่วย
บอกทางแก่ชีวิต เพราะ…



” ความเศร้านั้นมีข้อดีข้อเสียในตัวมันเอง
ข้อเสียคือ
ทำให้เราโศกาอาดูร
แต่ข้อดีของมันคือ…
สอนให้เรารู้ว่าเราจะไม่ผิด
พลาดตรงนี้อีก
เราจะต้องไม่ร้องไห้ให้กับมันอีก…”



ใครบางคนเคยบอกเอาไว้ตอนที่เสียใจกับความผิดพลาดของชีวิต…
เพราะ
ฉะนั้นแล้วเกิดเป็นคน มีความรู้สึกรู้สาเหมือนกันหมด
สามารถเศร้าเสียใจ
กับอดีตที่ผิดพลาดได้เหมือนกันหมด
และก็เริ่มต้นใหม่เหมือนกันหมดเช่น
เดียวกัน…


ขอเพียงกล้าที่จะเป็นนกปีกหักที่
พร้อมจะรักษาตัวเอง
และออกเดินทางได้โดยไม่กลัวว่าหนทางข้างหน้า…
จะ
ผิด พลาดซ้ำสอง อย่าลืมนะว่า …


” เรามีโอกาสผิดพลาดได้บ่อยครั้งเท่าไหร่
เราก็เดินถูกทางมากขึ้นเท่านั้น…”





















Free TextEditor

















































































 

Create Date : 04 มิถุนายน 2553    
Last Update : 4 มิถุนายน 2553 15:37:34 น.
Counter : 340 Pageviews.  

♣ 16 นิสัยไม่ไหวจะเคลียร์ ที่ต้องแก้ไขด่วน !! ♣






























1. ใจร้อน
เป็นไฟ วีนได้ไม่เว้นวันหยุดราชการ
นิสัยแบบ
ไม่ไหวจะเคลียร์ข้อแรกก็คือ นิสัยใจร้อนเป็นไฟ ขี้วีนแบบสุดขีด ประมาณว่า
เจออะไรไม่ถูกใจเข้าหน่อยก็แผลงฤทธิ์โวยวายจะเอาเรื่องให้ได้ นิสัยอย่างนี้นอกจากจะหาเรื่องเจ็บตัวง่ายๆแล้ว ยัง
สร้างศัตรูแถมเพื่อน ๆ อาจพากันหายหน้าเพราะเซ็งกับ
การมีเพื่อนขี้วีน จนเธอต้องนั่งสะกดคำว่าเหงา
อยู่คนเดียว





2. เอาแต่ใจตัวเอง จนชาวบ้านเซ็ง



แม้ว่าเรา
จะถูกเลี้ยงดูแบบสปอยสุดขีดขนาดไหน แต่ถ้าติด
นิสัยเอาแต่ใจแล้วเอาไปใช้กับเพื่อน รับรองได้เลย
ว่า เพื่อนต้องพากันจนลีหนีหน้าไปหมดแน่ ๆ เพราะคนที่เอาแต่ใจเป็นอะไรที่น่าเบื่อมาก ๆ
หัดเอาใจคนอื่นให้มากขึ้น แล้วเธอจะพบว่าตัวเอง
น่ารักได้อีก
!





3. แล้งน้ำใจตลอด ขอแค่ฉันเอาตัวรอดเป็นพอ



ไม่ว่ายัง
ไง น้ำใจก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้า
เราแล้งน้ำใจ เพื่อนขอให้ช่วยอะไรก็ไม่ช่วย หรือบางทีอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่
แบ่งปันให้คนอื่นได้ก็หวงไว้ทำหอกอะไรไม่รู้ รู้
แต่ไม่ชอบแบ่งปันใคร เธอจะเป็นคนประเภทที่ไม่น่า
เข้าใกล้อันดับต้น ๆ เลยล่ะ





4. งี่เง่า ไร้
เหตุผล จนผู้คนรอบข้างปวดกบาล



ประเภทที่
งี่เง่า ไม่เคยฟังเหตุผลอะไร คิด
แต่อยากได้ยังไงก็ต้องได้ ย้ำเลยว่าถ้าเธอไม่แก้
นิสัยนี้ ผู้คนจรลีออกไปจากชีวิตเธอชัวร์ ไม่มีใครอยากอยู่กับคนที่ไม่มีเหตุผลหรอกนะ พยายามใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ให้มาก ๆ ทุกอย่างจะเวิร์ก





5. ในโลกนี้ไม่มีใครดีเท่าตัวฉัน เลยดูถูกคนอื่นซะงั้นเลย



ประเภทที่
ชอบดูถูกคนอื่นไปซะหมด มองคนอื่นว่าด้อย ไม่เก่ง ไม่สวยไม่หล่อ สู้เราไม่ได้ ไม่อยากอยู่
ใกล้เพราะขยะแขยง ขอบอกไว้เลยว่า เธอนั่นแหละที่น่าขยะแขยงในสายตาคนทั้งโลก เพราะพฤติกรรมแบบนี้ มัน
บ่งบอกว่าจิตใจเธออยู่ในเกณฑ์ต่ำกว่าน้ำทะเลอะดิ





6. หนังสือสอบเป็นยังไงไม่เคยเห็น เข้าห้องสอบแปลงกายเป็นยีราฟคอยาว



ประเภทที่
ชอบเอาเปรียบเพื่อน ไม่ยอมอ่านหนังสือสอบ สักแต่ว่าจะลอกอย่างเดียว ขอ
บอได้เลยว่า เธอจะไม่เวิร์ก ทั้ง
ในเรื่องสมอง และมิตรภาพ เพราะ
เพื่อน ๆ จะเริ่มเอือมระอาในความเห็นแก่ตัวของเธอ
น่ะสิ ที่เธอได้คะแนนดี ๆ เพราะ
เป็นปลิงเกาะ ( สมอง ) เพื่อน แต่เพื่อนอดตาหลับขับตานอนอ่านหนังสือแทบตาย





7. เรื่องส่วนตัวยังไม่สันทัด แต่ถนัดจุ้นจ้านเรื่องชาวบ้าน



คนที่ชอบ
จุ้นเรื่องของคนอื่นไปซะหมด รู้ชัดยิ่งกว่าตำรา
เรียนว่าใคร ทำอะไร ที่
ไหน อยากรู้อยากเห็น ขอ
เจ๋อเสมอต้นเสมอปลาย เธอจะได้รับฉายาบุคคลไม่น่า
คบไปโดยปริยาย ทางที่ดี หัน
มาอัพเกรดเรื่องของตัวเองให้ดีขึ้นดีกว่า อย่า
เจ๋อเรื่องคนอื่นให้เสียเวลาอยู่เลย





8. โกหกไปวัน ๆ เพราะ
ฉันคือนางเอกเรื่องสาวน้อยสตรอว์เบอร์รี่



ความจริง
คืออะไรไม่รู้จักแค่ลื่นไหลไปวัน ๆ เพราะอยากได้
สิ่งที่ตัวเองปรารถนา คนแบบนี้รับรองได้เลยว่าจะ
ต้องถูกเฉดออกจากสังคมแน่ ๆ เพราะคงไม่มีใครอยาก
อยู่กับคนที่เชี่ยวชาญเรื่องสตรอว์เบอร์รี่ตลอดเวลา คน
เราต้องการความซื่อสัตย์ด้วยกันทั้งนั้นแหละ และ
เธอก็ควรจะเป็นอย่างนั้นไม่ใช่หรอ ?





9. ทำตัวเป็นนักวิจารณ์ ใครเดินผ่านเป็นนินทา



พวกที่ชอบ
นินทาชาวบ้านก็เป็นอีกพวกที่จัดอยู่ในกลุ่มน่ารังเกียจอันดับต้น ๆ ยิ่งคนที่ชอบใส่ร้ายป้ายสีให้คนอื่นเสียหาย เพียงเพราะอยากได้เพื่อน อยาก
ให้เพื่อนเกลียดคนอื่นเพื่อมาเลิฟตัวเองน่ะ นอก
จากจะเป็นการกระทำที่โง่มาก ๆ แล้ว ยังเป็นการ
กระทำที่เข้าข่ายน่าเกลียดอีกด้วยนะจ๊ะ





10. กร่างเป็นจิ๊กกี๋ รังแกผู้ที่อ่อนแอกว่า



แม้ว่า
แก๊งเราจะมีพวกเยอะ อิทธิพลแยะ ก็ไม่ใช่เหตุผลที่เธอจะไปรังแกคนที่ไม่มีทางสู้ หรือ
คนที่อ่อนแอกว่า ยิ่งเพียงเพราะความสะใจของตัวเอง
แล้วละก็ ยิ่งไม่ควรเข้าไปใหญ่ เพราะคนที่รังแกคนที่อ่อนแอกว่าไม่ได้เรียกว่าเก่งเลย ออกจะขี้ขลาดมาก ๆ ซะด้วยซ้ำ





11. ใครจะมองยังไงไม่เห็นแคร์ แหมก็แค่เลิฟซีนกันแค่นั้นเอง



ทนไม่ได้
จริง ๆ กับภาพผู้หญิงปล่อยตัวให้ผู้ชายจับนั่นแตะ
นี่อย่างไม่หวงเนื้อหวงตัวกลางสาธารณะชน นี่ยัง
ไม่รวมประเภทกอดจูบลูบคลำโชว์ชาวบ้านเพราะคิดผิด ๆ ว่า
เป็นเรื่องธรรมชาติ แน่ละผู้ชายควรให้เกียรติเรา แต่ถ้าอยากให้เค้าใหเกียรติเรา ก็
ควรเซฟตัวเองให้เป็นผู้หญิงที่ไม่ง่ายด้วย ถึงจะ
ถูก





12. ขี้ขโมย ฉก
ทุกอย่างที่ไม่ใช่ของตัวเอง



แม้บางที
จะรู้สึกว่าเป็นอะไรที่เล็ก ๆ น้อย ๆ แต่ก็ไม่ควร
ที่เธอจะไปหยิบฉกมาใช้โดยไม่ขออนุญาต เพราะมัน
เป็นการกระทำที่แสดงว่าเธอไม่มีมารยาทเอาซะเลย และ
ของบางอย่างมันก็มีคุณค่าทางใจของเจ้าของ การที่
เธอไปฉวยเอามา อาจทำให้เค้าเสียใจมากกว่าที่เธอ
คิด





13. แต่งตัวเอ็กซ์เซ็กส์ไม่ว่าที่
ไหน ไม่เคยเกรงใจคำว่า
กาลเทศะ



อนุโลมให้
ได้ถ้าเป็นการเปรี้ยวแบบมีระดับ ( ไม่โป๊เกินไป ) ในงานปาร์ตี้ และมีคนไว้ใจ
ได้มารับมาส่ง แต่ถ้าเป็นสถานศึกษา งานที่ต้องจริงจังสำรวม เธอยังโชว์โป๊ไป
อวดใครไม่รู้ เธอจะกลายเป็นพวกที่ไม่มีสมองขึ้นมา
ทันที นอกจากจะอันตรายแล้ว ยัง
โชว์โง่อีกต่างหาก





14. หยาบคายวาจาซา เหมือนเลี้ยงหมาไว้ในปาก



พูดจาแต่
ละทีสัตว์เลื้อยคลานเต็มถนน แบบนี้นอกจากจะไม่น่า
รักแล้ว คนอาจจะมองว่าเธอขาดการอบรมบ่มสอนจากพ่อ
แม่ได้ และขอบอกว่า แค่
คำพูดก็สามารถเป็นตัวกำหนดได้ว่า เธอจะดึงดูดคนดี
มีระดับ หรือคนโหล่ยโท่ยโซ้ยไม่ลงมาในชีวิต





15. นิยามฉันคือสวยเลือกได้ ไม่ว่าใครผ่านเข้ามาฉันกิ๊กกั๊กไว้หมด



เจ้าชู้ไป
เรื่อย ปล่อยตัวไม่เลือกหน้า แบบ
นี้ก็ไม่เวิร์กนะจะบอกให้ เธออาจเคยชินกับการ
บริหารเสน่ห์ตัวเอง และรู้สึกว่าการกั๊กผู้ชายไว้
ในฐานะกิ๊กมาก ๆ คือแปลว่าเธอป๊อบปูลาร์ ขอบอกเลยว่าเธอคิดผิด เพราะ
แทนที่เธอจะดูป๊อป เธอกลับดูเหมือนพวกใจง่าย ขาดความรัก เพราะกลัวว่าคน
ที่รักเธอจะจรลีไป เลยกั๊กไว้ซะงั้น





16. คิดว่าเป็นเรื่องเท่ ที่ทำตัวเกเรมั่วอบายมุข



สุดท้าย
ที่ถ้าใครทำอยู่ควรเปลี่ยนด่วนก็คือ การมั่ว
อบายมุข สุรา ยาเสพติด
ทั้งหลาย ถ้าเธอหลงไปมัวเมากับมันเมื่อไหร่ มีแต่อนาคตดับวูบก็เท่านั้น เชื่อ
เหอะ .. ของพวกนี้น่ะไม่เคยทำให้ชีวิตใครดีขึ้น มี
แต่ตกต่ำลงจนกระทั่งไม่เหลืออะไรเลย



เครดิต ... พี่วาริน คอลัมน์ How To
Teen 








Free TextEditor







































































































 

Create Date : 04 มิถุนายน 2553    
Last Update : 4 มิถุนายน 2553 15:35:40 น.
Counter : 312 Pageviews.  

♣ ข้อคิดดีๆ ของคนที่ไม่เหลือใคร ♣





































หากคุณโดนทิ้ง และเสียใจ . . .
จงคิดไว้ว่า . . .
คุณไม่ใช่คนเดียวในโลกที่อกหัก
ไม่มีใครไม่เคยเสียใจ . . .
ทุกคนเจ็บช้ำมาแล้วทั้งนั้น


ความเหงา . . . อาจทำให้รู้สึกอ้างว้าง
. . .
แต่ไม่เคยทำให้ใครเจ็บปวด จงรักในขอบเขตที่จะรักได้ . . .
เพราะคนบางคน
เกิดมาเพื่อ . . . จะให้เรารัก
แต่ไม่ได้เกิดมาเพื่อ . . . เป็นของเรา

คิดไว้ซะว่า . . . เมื่อก่อนเราไม่มีเค้า
เรา
ก็อยู่ได้ . . . ตอนนี้ไม่มีเค้า จะต้องไปแคร์อะไร

อย่าคิดว่าเค้าคือคนที่ดีที่สุด . . .
ถ้า
เค้าคือ คนที่ดีที่สุดจริงๆ เค้าคงไม่ทำให้คุณเสียใจขนาดนี้
ลองเปิดใจ
หาคนใหม่ . . .

เคยได้ยินคำนี้มั๊ย "เหนือ ฟ้า ยัง มี ฟ้า"
. . .
ยังมีคนที่ดีที่สุดสำหรับคุณ
ยืนรออยู่ข้างหน้า . . . ก้าวเดินต่อไป
อย่าย่ำอยู่กับที่
อย่าเดินถอยหลังไปหาอดีตที่ทำให้คุณเสียใจ


วันนี้อาจเป็น
วันที่ฝนตก ฟ้าครึ้ม . . .
จงนึกไว้เสมอว่า . . .
ต้องมีซักวันที่อากาศสดใส
. . . พรุ่งนี้ต้องเป็นของเรา . . .






















Free TextEditor







































































































 

Create Date : 04 มิถุนายน 2553    
Last Update : 4 มิถุนายน 2553 15:29:05 น.
Counter : 309 Pageviews.  

1  2  3  4  5  6  7  8  9  10  11  12  13  14  15  16  17  18  19  20  21  22  23  24  25  26  27  28  29  30  31  32  33  

tongsehow
Location :


[Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add tongsehow's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.